มาเที่ยวกันต่อดีกว่าค่ะ ความเดิมตอนที่แล้วตือเราขับรถไปเที่ยวที่ อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มาค่ะขากลับเลยขอแวะค้างที่อำเภอคลองโคนเสียหน่อยไหนๆ ก็ขับผ่านมาแล้ว ขอขอบคุณแผนที่จาก : Chillpainai.com

เราโชคดีมากเลยค่ะ ที่มีห้องว่างที่บ้านไม้ชายเลนพอดี เพราะก่อนหน้าที่เราติดต่อมาล่วงหน้าที่พักที่ดังๆ แถบคลองโคนเต็มหมดค่ะ

การเดินทางมาไม่ยากค่ะ จากถนนใหญ่ให้เรามองป้าย "วัดคลองโคน" ไว้ พอเขาซอยมาก็จะมีป้ายรีสอร์ทบอกตลอดทางค่ะ รับรองไม่มีหลง

มาติดต่อรับกุญแจและจ่ายเงินค่าห้องกันก่อน ห้องที่ได้พักไม่ติดริมน้ำ และเหลือห้องเดียวค่ะ ราคา 1,000 จาก 1,200



หน้าห้องเราสามารถเอารถเข้ามาจอดได้เลย






แอบติเรื่องห้องหน่อยวันที่ไปพักฝนตก พอตกกลางคืนยุ่งชุมมาก ไม่ควรเปิดประตูห้องไว้เด็ดขาด ยุ่งลายเพียบ ส่วนเรื่องผนังห้อง คือ พอห้องข้างๆ กลับมาพี่แกส่งเสียงคุยกันดังมาก คงเป็นเพราะผนังห้องบาง // สภาพห้องโดยรวมโอเคค่ะ สะอาดดี

เราพักซีกซ้าย



ทางรีสอร์ทมีที่จอดรถกว้างขวางพอควรเลย






หลังนี้ก็น่าจะเป็นห้องพักเช่นกัน




ห้องอาหาร


อาหารเช้าเป็นแบบบุบเฟ่ต์ จัดบริเวณนี้ค่ะ ก็มีพวกข้าวต้ม ผัดซีอิ้ว ชา กาแฟ ขนมปัง ปาท่องโก๋

ฝั่งตรงข้ามห้องอาหารก็จะเป็นห้องพักริมน้ำ

ตอนเย็นวันที่เราไปถึง (20 พฤษภาคม 2559) ฝนตกกระหน่ำเราเลยต้องฝากท้องไว้ที่นี้


" หมึกผัดกะปิ " จานนี้เราไม่ค่อยปลื้มเพราะรสชาติออกหวานนำ แต่คุณแฟนชอบมาก

จานนี้อยากลอง ต้องได้ลอง "น้ำพริกกะปิกับใบชะครามราดกะทิ"

ใบชะครามรสชาติออกเค็ม ก่อนนำมาปรุงอาหารต้องต้มน้ำทิ้งครึ่งชั่วโมง แต่ก็ยังออกเค็มอยู่ดี

หม้อนี้ "แกงคั่วเนื้อปูใบชะคราม" รสชาติออกหวานนำอีกแล้ว T T


ที่นี้ให้กับข้าวเยอะมากทานกันไม่หมด ทานชะครามไปเยอะเหมือนกินน้ำทะเลเข้าไปเต็มท้อง

คุณแฟนแอบเข้าไปดูส่วนผสมในครัว หน้าตาใบชะครามลวกค่ะ

และนี้คือต้นชะครามที่ขึ้นอยู่บริเวณทางเข้าหน้ารีสอร์ท เขาจะชอบขึ้นที่มีน้ำเค็มๆ


ปลาทูทอดเมนูขึ้นชื่อของคลองโคนเขาละ แต่เราไม่ได้สั่งมาชิม

เหมือนปลาทูให้แมวกิน ตัวเล็กนิดเดียว


ปูดินที่นี้โลละ 1,000 เขาจับน้องปูมาวางไว้ในถาด แล้วจับมาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ น่าจะไม่สดถึงจะยังเป็นๆก็เถอะ

เช้าวันรุ่งขึ้นเห็นว่าแดดออก ฝนไม่ตกเราเลยเหมาเรืออกไปเที่ยวปากอ่าวแม่น้ำแม่กลองกัน ค่าเช่าเรือลำละ 1,500 รวมกิจกรรมทุกอย่าง เช่น ปลูกป่า ดูลิง ชมฟาร์มหอย ถีบกระดานเลน เล่นสกี ไม่รวมค่าอาหารกลางวันค่ะ


ห้องสุขา ห้องอาบน้ำที่รีสอร์ทนี้มีหลายจุดมาก

ต้นไม้ที่เราจะไปปลูกป่าชายเลนกัน



เรือแล่นผ่านฟาร์มหอยแครงก่อนเลยค่ะ มีชาวบ้านกำลังหาหอยแครงในฟาร์มตัวเอง (ซูมมือถือสุดฤทธิ์ได้แค่นี้ละ )

บ้านหลังน้อยที่เห็นเรียกว่า "กระเตง" สำหรับเฝ้าฟาร์มหอย สอดส่องดูคนที่จะมาขโมยของค่ะ

ตามไปดูลิงแสมและปลาตีนในป่าโกงกางกัน

บริเวณนี้จะเป็นที่อยู่อาศัยของลิงแสมและฝูงปลาตีนตัวใหญ่ๆ


มาปลูกต้นไม้กัน เราเสียสละให้คุณแฟนไปปลูก เพราะไม่อยากเละโคลน


ไปเที่ยวกันต่อ เจอชาวบ้านกำลังดักตัวเคย ที่เอาไปทำกะปิ

พี่คนนี้กำลังปักไม้ไผ่ ซ่อมฟาร์มหอย เพื่อไม่ให้หอยแครงเดินหนีออกนอกฟาร์ม

เรือลำนี้พี่คนขับเรือบอกว่าเขากำลังปักไม้ล่อปลาดุกทะเลกัน

ไม้ปักดักหอยแมลงภู่

มาชมฟาร์มหอยนางรมและหอยแมลงภู่กัน

เขาจะเลี้ยงหอยไว้แบบนี้ ห้อยเป็นพวง ตัวไหนรอดชีวิตก็จะตัวใหญ่


แกะชิมกันสดๆ หลักฐานคาปาก หอม หวาน อร่อย ไม่คาวเลย


หอยที่มีเชือกสีๆ แขวนอยู่คือเชื้อหอยนางรมที่เจ้าของฟาร์มซื้อมาเพาะพันธุ์ค่ะ เขาว่าต้องไปหาซื้อเชื้อหอยนางรมไกลถึงจังหวัดชลบุรี

แล่นเรือมาเจอคนกำลังเล่นกระดานสกี ของเราไม่ได้ทำกิจกรรมนี้เพราะคุณแฟนว่ายน้ำไม่เป็น (แต่น้ำตื้นนะเห็นเขาหล่นลงไปโผล่ขึ้นมาน้ำแค่เอว)

นั่นคือกระเตงทานอาหารกลางวันของบ้านไม้ชายเลน เดี๋ยวเราขึ้นไปชมกัน

สำหรับผู้ที่จะทานอาหารกลางวันที่นี้ก็จะขึ้นมาแวะพักทานอาหารที่กระเตงหลังนี้ค่ะ บริเวณด้านล่างจะเป็นฟาร์มหอยแครงของบ้านไม้ชายเลนรีสอร์ท

นี้คือเรือที่เราเหมามาค่ะ ลำใหญ่นั่งได้หลายคนอยู่ บริเวณที่มีไม้ปักอยู่คือฟาร์มหอยแครงของชาวบ้านคนอื่น

ตัวอย่างอาหารบนกระเตง ใครอยากสั่งอะไรก็สั่งได้กับทางรีสอร์ม และรีสอร์ทจะเอาใส่เรือมารอไว้บนกระเตง (ส่วนเราไม่ทานบนกระเตงค่ะ เดี๋ยวพาไปทานร้านอาหารอร่อยๆ แถวคลองโคนกัน)



กิจกรรมต่อมาคือถีบกระดานเลนหาหอยแครงกัน

พี่คนขับเรืออุตส่าห์ถีบไปหาหอยมาให้ดู

กิจกรรมตัวเลอะ สกปรกลุยโคลนแบบนี้ เราเสียสละให้คุณแฟนไปลองเล่นอีกเช่นเคย


ผลจากการถีบกระดานเลนไม่เป็นคือกระดานจมเลนไปทั้งลำ

ท้ายสุดต้องให้พี่คนขับเรือมาเข็นให้ และไถเรือไปด้วยกัน

ขากลับก็เจอชาวบ้านกำลังล้อมไม้เก็บปลาดุกทะเล

ที่อาศัยของปลาดุกทะเลจะเป็นไม้ปักสุ่มๆ กันอยู่แบบนี้ค่ะ

พี่คนนี้กำลังเดินงมหาหอยแครง




เป็นอีกหนึ่งทริปที่สนุกและประทับใจมากค่ะ