ปัญหาการศึกษาที่ผมเห็น แต่ผู้ใหญ่ไม่เห็น

ผมเป็นนักเรียน ม.6 คนนึงครับ ที่เพิ่งผ่านการคัดเลือกในระบบในแอดมิชชั่น เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2559. เวลาผมมองย้อนกลับไปในตอนผมอยู่ ม.6 ผมรู้สึกตลกกับการศึกษาของไทยมากเลยครับ ปัญหาที่ผมมองเห็นแต่ทำไมผู้ใหญ่ไม่เห็น (หรือเห็นแล้วแต่ไม่แก้ไข)

ผมขออธิบายการเข้าเรียนต่อในมหาลัยคร่าวๆ ก่อนนะครับ
การสอบ 1.gat/pat มีสองรอบ รอบแรกปลายเดือน ตุลาคม รอบสองต้นเดือน มีนาคม (สทศ ออกข้อสอบ)
               2. เก้าวิชาสามัญ สอบช่วงปลายเดือนธันวาคม (สทศ ออกข้อสอบ )
              3.ข้อสอบวิชาเฉพาะแพทย์ (กสพท.เป็นคนออก), ข้อสอบเฉพาะมหาลัยที่ มหาลัยออกเอง
การเข้า 1.เข้าโดยวิธีรับตรงปกติ วิธีนี้จะมีตลอดทั้งปี แต่ส่วนใหญ่ ม.รัฐ จะมีช่วงธันวามคม มกรา กุมภา มีนา
               เป็นการยื่นคะแนน gat/pat รอบแรก เเละ 9 วิชาสามัญ สัดส่วนต่างกันแล้วแต่คณะ
             2.เข้าโดยรับตรงแบบพิเศษ คือโควต้าต่างๆ นักกีฬา เด็กพื้นที่
             3.แอดมิชชั่น เลือก 4 อันดับ ยื่นคะแนน gat/pat รอบที่ดีที่สุด ใช้โอเน็ต และเกรดเฉลี่ย ม.ปลายด้วย

ผมจะขอเเบ่งปัญหาที่พบเป็นข้อๆเลยนะครับ  (ถ้าผมเข้าใจผิดประกา็ขออภัยด้วยนะครับ)

1.สอบเร็วไปรึเปล่า ?

ปัญหานี้ผมว่าเป็นปัญหาหลักๆของการศึกษาเลยนะครับ เพราะว่าสอบ Gatpat รอบแรกเป็นช่วง ปลายเดือนตุลา ซึ่งเป็นช่วงเปิดเทอม 2 ของโรงเรียนพอดี พอเปิดปุ๊บสอบปั๊บ ยังไม่ทันได้เรียนอะไรเลย อย่างโรงเรียนผมนะครับ (โรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่ง) สอนเนื้อหาเรื่อง "อนุกรม" ในภาคเรียนที่ 2 แต่ย้งไม่ทันได้เรียนก็ต้องไปสอบซะเเล้ว นี้ยังไม่รวมถึงฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ที่ข้อสอบมันก็ออกเนื้อหาของม.6 เทอม2 ที่ยังไม่ได้เรียนเหมือนกันนะ ทำไงได้อะครับ ผมก็ต้องเรียน
พิเศษ(แต่บางคนใช้วิธีการอ่านเนื้อหาล่วงหน้า) เรื่องค่าเรียนที่บ้านผมก็พอมีเงินส่งเรียน แต่ผมสงสารเด็กที่ไม่มีเงินเรียนอะครับ เขาจะทำยังไง (ก็มีนะครับเด็กที่ไม่เรียนอ่านเอง แล้วคะแนนดี แต่มีน้อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆครับ) และหลังจากสอบ gatpat รอบสอง จะให้อยู่บ้านนานถึง 6 เดือนเลยหรอครับ (มหาลัยเปิดเทอมสิงหา) คือว่างมากๆ คืองงว่าทำไมไม่เลื่อนมาสอบ รอบแรก มีนา (เด็กม.6ทุกคนเรียนเนื้อหาจบเเล้ว) รอบสอง เมษา หรือพฤษภา เเลเวก็ประกาศผลมิถุนา สองเดือนให้เด็กพัก สิงหาเปิดเทอม คุณรู้มั้ยช่วงของการสอบแกทแพทตอนเปิดเทอม มันแย่เเค่ไหน  กิจกรรมก็ต้องทำ กีฬาสีก็มี (โรงเรียนผมไม่มีนะครับ จะเป็นเตะบอลจตุรมิตร) จะโดดอ่านหนังสืออยู่บ้าน ครูที่โรงเรียนก็ตัดแต้มอีก พูดง่ายๆคือ นรกมากครับ

2.ทำไมข้อสอบเก่าไม่เปิดเผย ?

อันนี้ก็เป็นอีกปัญหาที่ตอนผมอ่านหนังสือนี้ปวดหัวมากๆครับ คือไม่รู้ว่า2-3 ปีที่ผ่านมาข้อสอบออกยังไง อ่านไปเรื่อยๆโดยไม่มีเป้าหมายเเล้วมันจะทำได้มั้ย ?
ผมแก้ปัญหานี้โดยการไปเรียนพิเศษครับ ที่ติวเตอร์เขามีพร้อมมาก ข้อสอบเก่าย้อนหลัง(เขาน่าจะได้มาจากการเข้าสอบเองหรือไม่ก็ถามจากลูกศิษย์ที่เข้าสอบ)  แล้วคือเด็กที่ไม่มีเงินเรียนอะครับ ? คอร์สเอนทรานส์คอร์สนึงก็หลายพัน คือเขาจะไม่มีโอกาสที่จะเห็นข้อสอบเก่าพวกนี้เลยหรือไง เขาจะอ่านหนังสือโดยที่ไม่มีจุดหมาย ไม่รู้ข้อสอบจะออกจุดไหน ควรเน้นการอ่านตรงไหน บทไหน เด็กที่เรียนพิเศษก็จะได้เปรียบมาก ที่เรียนพิเศษจึงบูมอย่างที่เห็นทุกวันนี้ ผมเคยถามครูผมนะครับว่า ทำไมเขาไม่เปิดเผยข้อสอบออกมา ครูผมบอกว่า "ที่ผ่านมาเขาก็เผยเเพร่นะ เเต่พักหลังๆ มีคนชอบมาด่าเขาว่าออกข้อสอบผิด เฉลยผิด ก็เลยเเก้ปัญหาว่าไม่ต้องเผยเเพร่ยิ้มเลย" ผมฟังนี้เเบบ เศร้าเลยอะ ทำไมผู้ใหญ่เขาไม่มามองมุมมองเด็กๆบ้าง ทำไมแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ทำไมไม่ออกข้อสอบที่มีมาตรฐาน บอกคนออกข้อสอบเลยว่า ถ้าพบข้อสอบผิดจะลาออก ถ้าไม่มีสปิริตพอจะลาออก(เหมือนที่ประเทศอื่นเขาทำกัน) ก็เเค่ออกมาขอโทษ ออกมาแสดงความรับผิดชอบบ้าง คือมันผิดทุกปี มีปัญหาทุกปี ดราม่าทุกปี อย่างปีผม gatpat รอบสองก็มีคะแนนฟรี บางคนเพิ่ม 3,6,9 ไม่เท่ากันอีก แล้วแต่ว่าข้อที่ฟรีคุณตอบถูกอยู่เเล้วรึเปล่า ล่าสุด onet ก็มาเพิ่มคะเเนนฟรีก่อนประกาศแอด 1 วันอีก (เห้ออออออออออออ...)

3.ข้อสอบยากเกินไปรึเปล่า

นอกจากจะมีเนื้อหาที่ยังไม่ได้เรียนในข้อสอบเเล้ว เนื้อหาที่เรียนแล้วยิ้มก็ออกยากอีก ผมจะยกตัวอย่างข้อสอบ pat1นะครับ คนที่ได้เกิน 150 จาก 300 มี
ไม่ถึง 1% (1500 คนจาก 250000 คน pat1 ตค58) หรือ pat2 คนที่ได้คะแนนเกิน 150 มีแค่ 700คน จากผู้เข้าสอบ 190000 คน คิดเป็น 0.4% pat2 ตค 58)  ผู้ใหญ่เขาก็พูดได้ครับว่า อ่าวเเล้วทำไมไม่เตรียมตัวล่ะ  ผมอยากถามเขาว่า อ่าวเเล้วทำมาสอบตอนนี้ ตอนนี้ผมมีทั้งเรียนที่โรงเรียน กีฬาสี อื่นๆ อีกมากมาย  ทำไมเอาเนื้อหาที่ยังไม่ได้เรียนมาออกล่ะ ผมว่ามันไม่แฟร์เลยครับ ข้อสอบถือว่าไม่ได้มาตรฐานมากๆ ข้อสอบเเบ่งได้แค่ เด็กเก่งมาก เเค่นั้น เป็นข้อสอบที่เด็กที่อ่านมา(แต่ไม่ไม่มาพอ) กับเด็กมั่ว ได้คะเเนนพอๆกัน ไม่สามารถเเยกเด็กปานกลางกับเด็กอ่อนได้  คือผมไม่รู้ว่าเขาจะออกทำไมให้ยากขนาดนั้นมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย วัดอะไรไม่ได้ ข้อสอบมันต้องแยกได้ว่า เด็กคนนีเก่งมาก เก่ง ปานกลาง อ่อน อ่อนมาก

4.เห็นบอกว่าจะมีการเลื่อนสอบ gatpat รอบแรก เเต่สุดท้ายเป็นการเลื่อนประกาศผลรับตรงเเทน

ผมว่าการเลื่อนประกาศผลรับตรง มันอาจจะช่วยให้เด็กตั้งใจเรียนในห้องมากขึ้น (เพราะปกติบางมหาลัยจะประกาศก่อนปิดเทอม 2 ทำให้เด็ก ไม่ตั้งใจเรียน ไม่ตั้งใจสอบโอเน็ต) เเต่มันไม่ได้ช่วยเเก้ปัญหาข้อ 1 เลย สุดท้ายเด็กก็กดดัน เรียนพิเศษ ติวๆๆๆๆๆๆๆๆ วนลูปเหมือนเดิม การประกาศช้า ทำให้เด็กต้องยื่นไปทุกที่ ต้องจ่ายเงินทุกที่ที่มีรับตรงเพราะว่าเราก็ไม่รู้ว่าเราจะติดที่ไหน ก็เป็นการกั๊กที่คนที่อยากเรียนอีก ถ้ารับตรงประกาศเร็ว ก็จะไม่มีการกั๊กที่เพราะถ้าเราติดคณะที่เราอยากเรียนเเล้ว ก็คงไม่ต้องเสียตังสมัครรับตรงที่อื่นอีก

5.ทำไมเเนวคิดจะที่จะกำจัดที่เรียนพิเศษเป็นการเพิ่มภาษี ?
อันนี้ผมไม่รู้ว่าที่เพิ่มภาษีที่เรียนพิเศษเพราะเป็นการอยากจะกำจัดที่เรียนพิเศษรึเปล่า หรือว่าเห็นติวเตอร์มีรายได้เยอะเลยเก็บเยอะขึ้น เเต่ผมว่าถ้าเป็นเหตุผลเเรกมันจะไม่ช่วยอะไรเลยเพราะ คุณเเก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เด็กเรียนพิเศษเยอะใช่มั้ย เพิ่มภาษียิ้มเลย ทำไมไม่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุว่า "ทำไมเด็กจึงต้องไปเรียนพิเศษ"

6.ให้ความสำคัญกับสิ่งอื่นมากกว่าเรื่องเรียน

อันนี้ผมว่าสำคัญเลยครับ ให้ความสำคัญกับทรงผม เครื่องเเต่งกาย ต้องเป๊ะๆๆๆๆๆๆๆ เข้าแถวรอตรวจจนไม่ได้เรียน ให้ความสำคัญกับคะแนนวัดระดับของโรงเรียนจนครูต้องมีโครงงานส่งจนไม่มีเวลามาเตรียมการสอนให้เด็ก ( อันนี้ผมเคยไปอ่านในพันทิปซักกระทู้นึง ประมาณว่ามีครูคนนึงเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้)


7.ออกข้อสอบผิดบ่อยไปมั้ย ?

โดยปกติแล้วทุกปีจะไม่เผยแพร่ข้อสอบนะครับ แต่พอนักเรียนสอบเสร้จเเล้วจำโจทย์มาถามอาจารย์ปรากฎว่ามันผิดแทบทุกปี แต่อาจารย์บางคนก็ไม่มีพาวเวอร์พอที่จะทำให้ สทศ สนใจได้ ที่ผมเห็นเมื่อปีก่อนมีครูท่านนึงที่เรียกร้องคะแนนฟรีได้ก็คือวิชาเคมี 7 วิชาสามัญ(ปีที่แล้วใช้ชื่อนี้ ปีนี้เปลี่ยนเป็น 9 วิชา)ปีนี้ครูเค้าก็ไปร้องเรียนอีกเเต่ว่า ร้องเรียนหลังประกาศผล แพทย์ไปแล้วทำให้แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ครูเค้าก็ได้เเต่ขอแค่อยากให้ปีต่อๆไปอยากให้ออกข้อสอบให้ถูก  ในส่วนของ Pat2 ครูเค้าก็ร้องเรียน จนเด็กได้คะแนนฟรี 3,6,9 คะแนน (แล้วแต่คน) ผิด 4 ข้อ จาก 25 ข้อ (ผมว่ามันเยอะไปนะครับ 555) โอเน็ตก็ผิดเยอะมาก มาแก้คะแนนกันให้วุ่นในวันสุดท้ายก่อนประกาศแอดมิชชั่น ตอนนี้ก็มีติวเตอร์ท่านนึงมาบอกว่าจริงๆผิดเยอะกว่านี้พร้อมเปิดหนังสือที่ได้รับการตรวจสอบจากกระทรวงแล้ว เฉลยแบบข้อต่อข้อ ยืนยันว่าข้อสอบเฉลยผิด แต่ทำไมสทศ ยังบอกเฉลยถูก อันนี้ผมว่าเขาพูดว่าถูกเพราะประกาศแอดมิชชั่นไปแล้ว เดี่ยวจะวุ่นวาย.   ผมขอเสนอทางแก้ไขนะครับ คือ การให้นักวิชาการซัก 2 คน (ที่ไม่ใช่คนออกข้อสอบ) ลองทำข้อสอบแบบเติมคำตอบ ทำพร้อมกัน เสร้จพร้อมกัน แล้วนำมาตรวจคำตอบเลยอะครับ อันไหนไม่ตรงก็ดูโจทย์ แก้โจทย์กันใหม่ อันไหนตรงแล้ว ก็มานั่งคิดช่อยที่คิดว่าเด็กๆน่าจะผิด  คุณรู้มั้ยข้อสอบผิด 1 ข้อ มันไม่ใช่แค่ 1 คะแนนนะ คุณไม่ได้เข้าสอบ คุณไม่รู้หรอกว่าเด็กอึดอัดแค่ไหน เด็กทำโจทย์มาเยอะ มีขั้นตอนในการทำ เห็นโจทย์ปุ๊บกระบวนการคิดมันขึ้นมาเป็นสเต็ปๆ แล้ว แล้วอยู่ดีๆทำออกมาเเล้วไม่เจอคำตอบในช่อยก็ต้องนั่งคิดใหม่ คิดหลายรอบมาก เพราะว่าเป็นข้อที่เราทำได้ เราเคยเจอมา สุดท้ายเราก็ต้องข้ามไป เเล้วเวลาที่เสียไปแหละครับ ? ข้อสอบที่เหลือที่ทำไม่ทันแหละครับ ?   มันไม่ใช่แค่ 1 คะแนนนะครับ คุณลองทำเอง จับเวลา แล้วคุณจะรู้ครับ

อันนี้เป็นปัญหาคร่าวๆ ที่ผมเจอ เเละนึกออกตอนนี้นะครับ ปัญหาไหนทำให้ใครไม่พอใจผมก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ ผมพูดในมุมมองของเด็ก ม.6 ปีการศึกษา 2558  

ปล.เมื่อวานประกาศแอดผมได้คณะที่ต้องการมหาลัยชื่อดังย่านปทุมวันครับ ที่ออกมาพูดเพราะอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง รุ่นน้องของผมจะได้ไม่ต้องเจออะไรแบบนี้
ปล.2 ที่ตั้งกระทู้เพราะ ผมอยากให้ผู้ใหญ่เขาเห็นปัญหาในมุมมองเด็ก
ปล.3 ผมรู้ว่าการออกข้อสอบมันยาก มีปัญหาเยอะ คนออกต้องเก็บตัว แต่เพิ่มนักวิชาการแบบที่ผมบอก เพื่อให้มีข้อสอบที่ถูกต้อง ไม่ต้องโดนตำหนิเหมือตอนนี้ ผมว่ามันก็คุ้มนะครับ
ปล.4 ผมรู้ว่าผุ้ใหญ่ทุกคนหวังดี ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น อยากให้การศึกษาไทยก้าวหน้า แต่คนเราผิดพลาดกันได้ครับ
ปล.5ขอบคุณที่อ่านจบครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่