[Movie Review]Now You See Me 2 - มายากลที่ไม่ตื่นตา by ตั๋วหนังมันแพง


[หนังโรงเรื่องที่ 139] Now You See Me 2 - มายากลที่ไม่ตื่นตา ; (Jon M. Chu,2016) by ตั๋วหนังมันแพง

คะแนนความชอบ : C  (จากสเกล D-A)

**ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ

เรื่องย่อ : เนื้อเรื่องต่อจากภาคแรกหลังจากเหล่าจตุรราชาได้เข้าร่วมกับภาคีลับแห่งดวงตาแล้วนั้น ก็ต้องอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆเป็นเวลาเกือบปีในฐานะอาชญากรที่ถูกต้องการตัว แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่บีบบังคับให้พวกเขามาร่วมการจารกรรมที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยมีคู่ต่อสู้เป็นผู้ชิงชังมายากลเหนือธรรมชาติอย่าง 'วอลเตอร์' (Daniel Radcliffe) สมทบด้วยคู่แค้นตลอดกาลที่เสียท่าถูกจับขังคุกไปในภาคก่อนอย่าง 'แธดเดียส' (Morgan Freeman) ที่ประกาศกร้าวจะเอาคืนให้ได้ งานมายากลลวงโลกจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง!

โอเค คือตามธรรมเนียมจะต้องเริ่มต้นจากการชื่นชมข้อดีของหนังก่อนนั่นแหละ แต่กับเรื่องนี้จะขอข้ามมาที่การตำหนิข้อเสียก่อนแล้วกัน เนื่องจากถ้าเทียบเป็นกราฟกับภาคแรกแล้วหนังถือว่ามีพัฒนาการที่ดิ่งเหวประดุจตลาดหุ้นไทยในปี 40 ยังไงยังงั้น, ข้อเสียอย่างแรกเลยที่สัมผัสได้ตอนหนังเริ่มเรื่องนั้นคือ 'เราจำชื่อตัวละครหลักไม่ได้ซักตัว!' ซึ่งถือว่าผิดวิสัยปกติของผู้เขียนมาก วิเคราะห์ดูแล้วอาจถือว่าเป็นข้อบกพร่องที่ภาคแรกทิ้งไว้โดยไม่ได้ตั้งใจ คือด้วยพล็อตของหนังที่มันขายความอลังการของแสง-สี-เสียงเป็นหลัก ทำให้ตัวละครถูกถ่ายทอดออกมาในลักษณะที่ 'ไม่น่าจดจำ' เท่าไรนัก (ขอท้าคนอ่านรีวิวนี้เลย ว่าใครจำชื่อตัวละครพวกนี้ได้บ้าง)

ข้อเสียที่สองคือคาดว่าตัวหนังนั้นได้ทุนร่วมจากจีนมา เลยถูกบีบให้ตัวหนังไปดำเนินเนื้อเรื่องอยู่ในมาเก๊ากันเกือบทั้งเรื่องพ่วงด้วยนักแสดงจากทางฝั่งจีนอย่างเจย์-โชวด้วย(ดั่งที่เคยปรากฏขึ้นใน Transformer ภาคล่าสุดที่ต้องมีคนจีนเข้ามาเล่นหนังเยอะๆ) ซึ่งไอ้การที่เกิดกรอบตรงนี้ขึ้นมาทำให้หนังมันเกิดอาการ 'หลงทาง' ชนิดขอบอกเลยว่าเนื้อเรื่องของภาคนี้มันเละเทะอีรุงตุงนังมาก เหมือนพยายามจะยัดอะไรหลายๆอย่างเข้าไปในหนังเรื่องเดียวจนมันไม่รุ่งซักทาง

อย่างเรื่องชิปคอมพิวเตอร์ที่บรรดาจตุรราชาจะต้องไปขโมยหรือว่า 'สติ๊ก' นั้นก็ถูกปูพื้นมาแบบลวกๆมาก เล่นเอาคนดูอย่างเรางงเป็นไก่ตาแตก แล้วก็ไม่รู้ว่าตัวละครในเรื่องจะรีบแย่งกันพูดไปไหน ขนาดเจสซี-ไอเซนเบิร์ก นี่ขึ้นชื่อเรื่องพูดเร็วพูดห้วนแล้วยังเทียบนักแสดงคนอื่นไม่ได้เลย คือไม่รู้ว่าผกก.เสียดายกระดาษสมุดบทหรืออะไร ถึงได้ยัดไดอะล็อกเข้ามาขนาดนั้น

ข้อเสียสุดท้ายที่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดคือส่วนของ "มายากล" ซึ่งเป็นจุดขายใหญ่ของหนัง ซึ่งก็ออกมาในลักษณะเฉยๆ so-so มากอาจจะอยู่ในเกณฑ์แย่ลงด้วยมั้ง หนังได้เสียความรู้สึก 'Showtime' ที่ตัวมันเองเคยสร้างไว้ในภาคแรกไปอย่างน่าเสียดาย ส่วนตัวผู้เขียนนั้นยอมรับว่ารู้สึกเอ็นจอยทุกๆครั้งที่เหล่าตัวเอกออกมาโชว์บนเทวีในภาคแรกเสมอ แต่ในภาคนี้การใช้มายากลที่น่าสนุกมีน้อยฉากมากกกก แถมดันไปเน้นฉากแอคชั่นต่อยตีแทนซะอย่างงั้น ไอ้ครั้นจะโชว์เทคนิคผสมผสานมายากลในการวิวาท การตัดต่อก็ดันไม่เฉียบคมพอที่จะทำให้เราเสพเทคนิคเหล่านั้นได้มากพออีก

ซึ่งในส่วนที่ผู้สร้างออกมาพูดว่า 'หนังจะพยายามใช้CGให้น้อยที่สุดและใช้มายากลจริงๆเข้ามาเล่นแทน' ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นแค่คำพูดคำโตเท่านั้น กลส่วนใหญ่ในเรื่องก็ยังหนีไม่พ้น CG อยู่ดีนั่นแหละ ในส่วนกลจริงๆนั้นก็ดันเป็นแค่กลย่อมๆที่เป็นแค่สร้อยประกอบฉาก ... แต่ที่น่าเสียดายที่สุดก็คือกลใหญ่อันสุดท้ายที่ไม่น่าสนุกเอาซะเลย คือมีความรู้สึกเท้าคางมากตอนที่ดูหนังจบ คือในโรงไม่มีเสียงว้าว-โอ้โห อะไรทั้งนั้น บางทีมันก็เป็นตัวชี้วัดย่อมๆได้ดีเหมือนกัน

สิ่งที่โอเคที่สุดในเรื่องคือฉาก 'บัญชาฟ้าฝน' (ดังที่ปรากฏในตัวอย่างนั่นแหละ) คือผู้เขียนมีความรู้สึกว่ามีเพียงฉากนั้นที่หนังมันซื่อสัตย์กับสิ่งที่ตัวเองเป็นจริงๆจนสื่ออารมณ์ออกมาได้ดี (ขนลุกเลย) ส่วนที่เหลือกลอื่นๆก็ไม่มีอะไรน่าจดจำมาพูดต่อเลย ... อีกนิดนึงคือถ้าหนังสามารถเอาแดเนียล-เรดคลิฟฟ์กับน้องชายของเมอร์ริตจอมสะกดจิตออกไปจากเรื่องได้จะขอบคุณมาก เป็นการแสดงที่สื่อตัวละครได้น่ารำคาญเหลือเกิน

อย่าเสียตังไปจ่ายโรงแพงๆมากนะ ยุคนี้ตั๋วหนังมันแพง.

ป.ล. ขอบคุณเพื่อนปอนด์สำหรับตั๋วรอบสื่อครับ หัวเราะ

หากชื่นชอบรีวิวสามารถติดตามเพจได้ที่ https://www.facebook.com/expensivemovie หรือค้นหาคำว่า "ตั๋วหนังมันแพง" ได้ที่หน้า Facebook ครับ ..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่