ทำตัวให้เป็นเหมือนคนปกติ และการปรับตัวเข้ากับสังคม สำหรับคนเป็นออทิสติก มันทำอย่างไร

เราเคยเป็นเด็กออทิสติกมาก่อนค่ะ สองปีที่ผ่านมานี้ อาการออเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่เรามีปัญหาเรื่องการปรับตัวและการเข้าหาผู้อื่นค่ะ เรากระตือรือร้นที่จะมีเพื่อนมากเกินไป อ่านหนังสือวิธีการเข้าหาผู้อื่น สรุปได้ว่า เราต้องทำตัวร่าเริง ใครอยู่ด้วยก็อารมณ์ดี มีความสุข เมื่อขึ้นม.สี่เราจึงเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนบ้า เอาปากกามาห้อยคอ ตะโกนเรียกชื่อเพื่อนข้ามตึก เล่นมุขตลอดเวลา แน่นอนค่ะ ผลออกมาคือ เราโดนมองว่าอีนี่มันบ้า โดนมองว่าเป็นตัวตลก ถูกแกล้ง ถูกล้อเลียน ถูกแอบถ่ายคลิปไปลงเฟส(ตอนนั้นยังไม่รู้จักพรบ.คอม จะกลับไปฟ้องคงไม่ทันแล้วค่ะ เพราะมันผ่านมาได้สามปีแล้ว) จากนั้นเราจึงตัดสินใจเก็บตัว เก็บตัวเองและปิดกั้นจากทุกสิ่งทุกอย่าง เรากลายเป็นโรคซึมเศร้า เราเข้าสังคมไม่ได้ วันๆนอนเล่นเกมส์อยู่ในห้อง เกลียดโรงเรียน เกลียดสังคม เราเริ่มโดดเรียนค่ะ จากเกรด 3.20 ในช่วงม.สี่ถึงม.ห้าเทอมหนึ่ง ตกลงมาเหลือเกรด 1 กว่าๆ ไม่ผ่านจิตพิสัย เวลาเรียนไม่ครบ แม่ก็ด่าค่ะ ด่าขึ้นกูแบบที่แม่ไม่เคยด่า เพราะปกติแม่เป็นคนสุภาพ แม่ร้องไห้ค่ะ วันนั้นต่อหน้าแม่เราไม่ร้องไห้ เราก็กลับเข้าห้องนอนไปเล่นเกมส์ พอตื่นเช้ามาไปรร. เราถูกครูตำหนิเรื่องอะไรจำไม่ได้ค่ะ แล้วเราก็กรี้ด กรี้ดเหมือนผีเข้า ลงไปนอนชักดิ้นชักงอกับพื้น ใครๆก็ไม่เข้าใจว่าเราเป็นอะไร เราเองก็ไม่เข้าใจตัวเองค่ะ

หลังจากนั้น เราเริ่มกรี้ดค่ะ เราหงุดหงิดง่าย กรี้ดบ่อยขึ้นไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ เราควบคุมตัวเองไม่ได้ เราร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่เวลาที่มีเรื่องขัดใจ เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เราทะเลาะกับแม่แรงมากตอนกลางคืน เรื่องโดดเรียนจนเกือบหมดสิทธิ์สอบเนี่ยล่ะค่ะ พอตอนเช้าวันสอบ มีคนไม่มาเข้าแถว ทำให้ทั้งชั้นรวมทั้งเราถูกสั่งลุกนั่งทั้งๆที่เรากับคนที่โดดแถวไม่ได้รู้จักกันเลย เรามีคำถามที่อัดอั้นว่า ถ้าอย่างนั้น ครูมาสาย 1 คน ก็ต้องหักเงินเดือนครูทั้งระดับชั้นให้เท่าเทียมกัน และตอนก่อนเข้าห้องสอบ1นาที เราก็ปวดท้องเข้าห้องน้ำ เราวางของและรองเท้าไว้หน้าห้องและวิ่งไปห้องน้ำ เรากลับมาของและรองเท้าหาย เราตะโกนถามเพื่อนในห้องค่ะว่า รองเท้ากูอยู่ไหน ตะโกนด้วยน้ำเสียงโมโห เพื่อนบอกว่าครูเอาไป เราเลยไปเอาคืนจากห้องครู ครูเอารองเท้าและของๆเราใส่ถุงดำไว้ เรารื้อถุงดำออกและเดินปึงปังเข้าห้องอย่างอารมณ์เสีย ควบคุมตัวเองไม่ได้ พอเข้าห้องเราก็ร้องไห้ค่ะ ร้องแบบหยุดไม่ได้ และกรี้ดอีกครั้ง วันนั้นเราถูกหามมานอนที่ห้องพยาบาลและไม่ได้สอบ เราทนไม่ไหวและอยากจะตายให้ได้ เราทนอาการของตัวเองไม่ไหวแล้ว วันนั้นเราจึงไม่ได้สอบค่ะ เราไลน์ไปบอกแม่ แม่ก็โทรมาด่าค่ะ เราไม่ไหวแล้ว เราฟังคำด่าของแม่ผ่านโทรศัพท์ เราจุกมากแต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมา เราเดินเข้าห้างแถวโรงเรียนแล้วไปซื้อมีดค่ะ วันนั้นเราตั้งใจว่าเราจะกรีดข้อมือตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ทำค่ะ ตอนนี้มีดถูกทิ้งไปแล้ว

เราจบม.หกมาอย่างลำบากมาก เพราะต้องไปไล่ตามซ่อมของม.ห้าและม.หก เราเข้าเรียนเอกชนค่ะ พูดตรงๆเลยว่า คะแนนแอดมิดชั่นของเราเน่ามากจนแอดยังไงก็ไม่ติดชัวร์ๆ พอขึ้นมหาลัยแล้ว ต้องมาอยู่หอ ซึ่งแยกกันอยู่กับแม่ สภาพจิตใจเราก็ดีขึ้น แต่วกกลับมาที่เดิม คือเราหาเพื่อนไม่ได้ ทั้งๆที่เปิดเทอมมาสองอาทิตย์ และเรียนซัมเมอร์ไป 1 เดือน ตอนรับน้องเราเห็นเพื่อนๆคุยกันสนุกสนาน ส่วนเรานั่งเล่นคุกกี้รัน เราอิจฉาพวกเขา เราหงุดหงิดตัวเอง เราไม่กล้าเข้าหาใครเลยเพราะกลัวจะไปเผลอทำอะไรที่จะทำให้โดนมองว่าบ้าแบบตอนม.ปลาย เราเลยไม่เข้ารับน้อง เรากลับหอมาเล่นเกมส์ บางครั้งก็นอนร้องไห้คนเดียว เราอยากจะมีเพื่อน มีความสุข อยากยิ้ม อยากหัวเราะกับเพื่อนๆแบบคนอื่นๆ แต่เราทำไม่ได้ เราไม่รู้จะทำอย่างไร

และเมื่อไม่นานมานี้ เราค้นพบปณิธานสูงสุดของตัวเองแล้ว เราอยากมีครอบครัวค่ะ อยากมีแฟนที่ดี มีลูกที่น่ารัก อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น มีคนที่รักเราและเราก็รักเขา สาเหตุมาจากที่พ่อกับแม่หย่ากันตั้งแต่งเด็ก ถูกส่งไปอยู่บ้านน้าก็ไม่มีความสุข กลับมาอยู่กับแม่ก็ทะเลาะกัน เรารู้สึกว่าเราไม่เคยได้รับความรักจากสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวเลย เราจึงอยากจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นขึ้นมาค่ะ แต่ย้อนกลับมาดูที่ตัวเอง อย่าว่าแต่หาแฟนเลยค่ะ เพื่อนในคณะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเราอยู่ และเราก็ไม่รู้ด้วยว่าเราจะทำอย่างไรให้มีตัวตน มีเพื่อน และไม่ถูกมองว่าบ้าแบบตอนม.ปลาย มันเป็นอะไรที่ทรมาณมากๆกับการที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไรแต่กลับมองไม่เห็นหนทางที่จะไขว่คว้ามันมาได้ เราควรจะเก็บอดีตไว้ข้างหลังและเดินก้าวต่อไป ก้าวออกมาจากหน้าคอมในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆได้แล้ว แต่เราไม่รู้เลยว่าเราจะก้าวไปทางไหน เราถามเพื่อนที่รร.เก่า ถามแม่ ถามนักจิตวิทยา พวกเขาบอกว่า เราแค่ทำตัวปกติ แบบที่คนอื่นเขาทำกันก็พอ แล้วการเป็นคนปกติ มันต้องทำยังไง มีแต่คนบอกให้เราทำตัวปกติ แต่ไม่มีใครบอกเลย ว่าการเป็นคนปกติ การปรับตัวเข้ากับสังคม มันทำได้ยังไงกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่