เปิดเรื่องจริงชีวิตฮิคิโคโมริ ชายผู้เก็บตัวไม่ออกไปไหน 27 ปี เพราะปมถูกกลั่นแกล้ง


ชีวิตของชายชาวญี่ปุ่นผู้เป็นฮิคิโคโมริ เก็บตัวสันโดษอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหนมา 27 ปี ตั้งแต่วัยมัธยมต้น หลังเจอปมเพื่อนกลั่นแกล้ง โชคดียังมีแม่ดูแลให้ไม่อดตาย จนสุดท้ายยอมออกมาเจอโลกภายนอกอีกครั้งในวัย 43

          ฮิคิโคโมริ เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่ใช้เรียกบุคคลที่มีอาการสันโดษสุดโต่ง เก็บตัวในบ้านไม่ออกไปไหน ไม่พบหน้าคบค้าสมาคมกับใคร ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมีคนกลุ่มนี้อยู่จำนวนหนึ่งและนับเป็นปัญหาสังคมสำคัญในญี่ปุ่น และนี่ก็เป็นเรื่องราวของอีกหนึ่งชาวฮิคิโคโมริจากญี่ปุ่น เขามีชื่อว่า มาซากิ

          ตามข้อมูลจาก tvmatome เรื่องราวของมาซากิถูกเปิดเผยในรายการ The Non-fiction ทางช่องฟูจิทีวีเมื่อเดือนกรกฎาคม 2558 เขาเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านแบบนี้มาตั้งแต่อายุ 16 ปี หลังเจอปมตกเป็นที่กลั่นแกล้งจากเพื่อนที่โรงเรียน หนำซ้ำยังประสบอาการบาดเจ็บจนไม่สามารถเล่นฟุตบอลที่เขารักได้อีกต่อไป ต้องละทิ้งความฝันเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพไปอย่างน่าเสียดาย นั่นยิ่งทำให้มาซากิหดหู่ และพาตัวเองหลีกหนีจากผู้คน

          สภาพภายในบ้านขนาด 3 ห้องนอนที่เปิดให้มีคนเข้าไปเยี่ยมเป็นครั้งแรกในรอบ 27 ปี ห้องที่มาซากิอยู่มีแต่กองนิตยสารปะปนกับเศษขยะกองสุมพะเนิน จนแทบไม่มีทางแหวกให้เดินได้ มาซากิใช้เวลาวัน ๆ หนึ่งกับการอ่านนิตยสารและดูโทรทัศน์ ไม่ต้องพูดถึงอินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ หรือเกมคอนโซล เมื่อเขาขังตัวเองไว้แบบนี้ตั้งแต่ปี 2529 ซึ่งตอนนั้นเครื่องให้ความบันเทิงเหล่านี้ยังไม่เกิดหรือถ้ามีก็ราคาแพงเกินกว่าเด็กวัยรุ่นจะครอบครองได้ ซึ่งหากมองจากมุมมองคนยุคใหม่ การใช้ชีวิตโดดเดี่ยวในห้องสี่เหลี่ยมโดยไร้ซึ่งคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต คงจะเป็นเรื่องที่เลวร้ายน่าดู

          ทว่าในชีวิตปิดตาย มาซากิก็ไม่ได้อาศัยอยู่ตัวคนเดียว อย่างน้อยเขายังมีมารดาคอยดูแลหาน้ำหาข้าว นางโยชิโกะ ซึ่งอายุ 69 ปีแล้ว คอยดูแลลูกชายมาตลอด มองมุมหนึ่งเธอก็ช่างเป็นแม่ที่แสนดี แต่มองจากอีกมุม หลายคนก็อดว่ากล่าวไม่ได้ว่าเธอปกป้องดูแลลูกชายมากเกินไป ทั้ง ๆ ที่เขาอยู่ในวัยต้องเป็นฝ่ายดูแลเธอแล้วด้วยซ้ำ

          อย่างไรก็ตาม ในที่สุดความพยายามดึงมาซากิกลับมายืนในโลกแห่งความจริงก็ประสบผล ซึ่งก็ต้องชื่นชมตัวเขาเองไม่น้อย ที่ได้รวบรวมความกล้าออกมาเผชิญโลกภายนอกที่ห่างหายไปนานหลายสิบปีอีกครั้ง และเขาก็ฉลองความพยายามกลับมาใช้ชีวิตเยี่ยงคนปกติได้อย่างยิ่งใหญ่ไม่เบา ด้วยการลงแข่งขันวิ่งมาราธอน 10 กิโลเมตร และก็เข้าถึงเส้นชัยเสียด้วย อย่างน้อยเลือดนักกีฬาคงยังไม่ได้ตายจากเด็กหนุ่มผู้ผิดหวังในวันนั้นไปเสียทีเดียว

          หลังจากนั้นมาซากิก็ได้งานทำที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แม้ไม่รู้ว่าฮิคิโคโมริหนุ่มใหญ่รายนี้จะต้องใช้เวลาปรับตัวอีกนานเท่าไร หรือจะอยู่กับมันได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ แต่อย่างน้อยเขาก็ได้ออกเดินเพื่อสร้างจุดเริ่มต้นใหม่ของชีวิตแล้ว












ภาพจาก toutiao, ทวิตเตอร์ @rc42sf, ทวิตเตอร์ @sono0528
ข่าวจาก : กระปุกดอทคอม
http://hilight.kapook.com/view/137808
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่