สวัสดีค่ะทุกคน คือ พอดีว่า ตอนสอบปฏิบัติขับรถนั้น หมุนๆพวงมาลัยอยู่ รอสอบท่าเทียบฟุตบาท (ท่าตกยอดนิยม)
ก็ได้พูดกับตัวเองไว้ว่า ถ้าผ่านนะ จะเข้าไปรีวิวในพันทิพให้เล้ยยยย !!!!!
ปรากฏว่า ผ่านแล้ว !!!!! ซ่อมไป1ครั้งค่ะ 5555555555
เลยเป็นเหตุทำให้เกิดกระทู้นี้ขึ้น แก้บนนั่นเอง
ง่ายๆอย่างงี้เลย =,.=
กว่าจะได้ใบขับขี่นั้น มี 3 เสตป ง่ายๆค่ะ
คือ 1.อบรม 4 ชั่วโมง
2.ทดสอบสมรรถภาพ+สอบข้อเขียน 50 ข้อ
3. สอบปฏิบัติ 3 ท่า
ก่อนจะมาสอบนั้น เราไปเรียนขับรถกับโรงเรียนสอนขับรถแห่งหนึ่งค่ะ
1. เรียน1 คอร์ส 10 ชั่วโมง เรียนครั้งละ 2 ชั่วโมง
2.เราเลือกเรียนเฉพาะเสาร์,อาทิตย์
3.เรียนพื้นฐานท่าสอบ เทคนิค ออกถนนใหญ่บ้างนิดหน่อย และลองขึ้นห้างฯ
4. เรียนวนไปค่ะ ตั้งใจวนไป
5. เลือกอบรมกับทางโรงเรียนก็ได้ค่ะ แต่มีเฉพาะวันเสาร์ เราไม่อยากลางาน เลยไปหาที่อบรมเอง
6. โรงเรียนจะพาเข้าไปสอบปฏิบัติทุกวันพฤหัสค่ะ
สอบที่ขนส่งบางจากนะคะ เพราะใกล้ที่พักที่สุด
เริ่ม!!!
- เป้าหมาย
ตั้งใจว่าต้องได้ใบขับขี่ภายในเดือน พ.ค. !!! และจะขอลาแค่ 2 วันเท่านั้น !!!
(จะเอาวันลาพักร้อนไปทำอย่างอื่นน่ะ5555555)
- หาข้อมูล
คิดว่าถ้ารอเรียนจบคอร์สคงไม่ทันสิ้นเดือนพ.ค.แน่ๆ แล้วอีกอย่างถ้าอบรมที่ขนส่ง เสียเวลาเราค่ะ ต้องหยุดงานเพิ่มแน่ๆ แล้วอีกอย่างที่ขนส่งนั้น walk in เข้าไปก็เต็มแล้วค่ะ จองทาง net เหลือไม่กี่วันและล่าสุดคือ ว่างเดือนกันยายนค่ะ บายยยยยย อบรมข้างนอกดีกว่า แล้วก็มาเจอกระทู้นี้ค่ะ
http://pantip.com/topic/33403931
อบรมที่มหาลัยสวนดุสิตค่ะ รายละเอียดครบถ้วน แต่ตอนนี้ต่างจากตอนนั้นหน่อยคือสะดวกสบายมากขึ้นค่ะ จองง่ายขึ้น เราจองทางไลน์ค่ะ ทักไปสอบถาม เขาจะให้บอกรายละเอียด ชื่อ นามสกุล วันที่จะอบรม
http://www.hcdsuandusit.com/ContentDetail.aspx?contentID=141
เข้าไปดูตามนี้เลย เราอบรมวันอาทิตย์ ไม่ต้องลางานค่ะ ^^
อ่อ มีที่อบรมที่อื่นอีกนะคะ ลองหาดูค่ะ แต่ที่เราเลือกที่นี่เพราะสะดวกเราค่ะ นั่งรถไฟฟ้าลงอนุฯ แล้วก็รถเมล์สายที่เขียนว่าไปม.สวนดุสิต ตึกอบรมอยู่ฝั่งตรงข้าม เดินทางง่ายค่ะ
- วันอบรม
ไปที่ตึกที่อบรมค่ะ เขาจะติดรายชื่อคนที่จองไว้ และก็ขึ้นไปห้องที่อบรม จ่ายค่าอบรม
500 บาท ได้หนังสือและคู่มือสอบมาค่ะ ฟังไปเพลินๆค่ะ มีทริกให้จำบ้างว่าข้อไหนจะออก เราก็กึ่งจำกึ่งหลับ 55555555555 ตอนนั้นฝนจะตกด้วย บรรยากาศมันได้ง่ะ
เมื่ออบรมเสร็จจะได้ใบผ่านการอบรมมา 3 ใบค่ะ มีอายุ 6 เดือน
- เตรียมตัวไปสอบข้อเขียน
อย่างที่บอกไปตอนแรกค่ะ ว่ารถของโรงเรียนจะเข้าไปสอบขับวันพฤหัส เพราะฉะนั้นเราเลือกไปสอบข้อเขียนวันพุธ เผื่อผ่าน จะได้นัดสอบขับวันถัดไปพอดี ไม่ต้องเช่ารถของขนส่ง
เอกสารที่ต้องเตรียม คือ ใบรับรองแพทย์ค่ะ บัตรประชาชนตัวจริงและสำเนาบัตรประชาชน ใบผ่านการฝึกอบรมทั้ง3ใบ (นำมาให้หมดนะคะ)
- สอบข้อเขียน
1.ตื่นแต่เช้าค่ะ ไปรอหน้าตึกขนส่งค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีใครนะ มีเพื่อนรอเป็นเพื่อนแน่นอนค่ะ บีทีเอสบางจากค่ะ มีป้ายบอกทางลง เดินมาหน่อย (ถ้าหันหน้าไปทางสถานีต่อไปปุณณวิถี ขนส่งจะอยู่ซ้ายมือค่ะ) พี่วิน 15 บาทจากตีนบันไดบีทีเอส แต่ถ้าเดินมาหน้าขนส่ง แล้วขึ้นพี่วิน 10 บาทค่ะ งงใจ ห่างกัน20 เมตรได้ แต่ถ้าคนจะเดิน ก็เดินเลยค่ะ แปบเดียว ไม่ไกล เดินชิวๆค่ะ
2.เมื่อประตูเปิด 8 โมง วิ่งค่ะ วิ่งขึ้นไปชั้น 2 บันได้อยู่ซ้ายมือค่ะ ไม่ต้องสนใจใครทั้งนั้น รอกันเป็นสิบ บางคนก็มาอบรม บางคนก็ทำเรื่องอื่น แต่เราอบรมมาแล้ว ไปค่ะ ไปชั้น2 แล้วเลี้ยวขวาค่ะ ไปช่องที่ 20 ค่ะ ยื่นเอกสารที่บอกให้เตรียมมานั่นแหละ ที่สำคัญที่สุดของขั้นตอนนี้คือ วิ่งให้เร็วที่สุดค่ะ เราอ่านรีวิวอันนี้ก่อนมาค่ะ
http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=199118
ของเขาไม่ต้องวิ่ง แต่เราไปวิ่งค่ะ ไม่งั้นไม่ทัน (สงสัยดูมารีวิวเดียวกันแน่ๆ55555) เราได้คิวที่ 28 ค่ะ ตัดคิวที่ 50 ค่ะ วันนี้คนเยอะจริงๆ แนะนำถ้าไป ให้ไปจันทร์ ไม่ก็อังคารค่ะ พอมีลุ้น ไม่ต้องเหนื่อย (ถ้าเป็นวันฝนตกแล้วนั้น คนจะน้อย และประตูจะเปิดเร็วหน่อยค่ะ) ยื่นเอกสารเสร็จ ก็รอเขาเรียกชื่อเรา แล้วก็นำเอกสารลงไปบันทึกลงคีย์การ์ด ถ่ายรูปเราค่ะ (ไม่ต้องเสริมสวยนะ เขาถ่ายเพื่อให้รู้ว่าคนนี้นะ เฉยๆ 55555555) เป็นช่อง 9 ด้านล่าง จะเรียกเราตามสีของบัตรคิวค่ะ ประมาณ9 โมง
บอกแล้วว่า วันๆนึงมีคนมาทำหลายเรื่องมาก สีของบัตรคิวคือสิ่งสำคัญค่ะ มาทำใบขับขี่ใหม่ จะได้บัตรคิวสีขาวค่ะ
3.สอบสมรรถภาพ รอที่หน้าห้องหมายเลข 13 เขาจะเรียกให้เข้าไปทีละ 20-30 คน เราได้เข้ากลุ่มแรกค่ะ ฟังเขาอธิบายและทำตามค่ะ ไม่มีอะไรกดดันค่ะ สบายๆ พี่ๆเขาดุเพื่อให้เราตั้งใจฟังค่ะ แต่ตอนสอบจริงๆ พี่ๆเขาใจดีค่ะ มีทดสอบสายตาทางกว้าง ทางลึก แล้วก็เหยียบเบรก ไม่ยาก ไม่ต้องกังวล ถ้าปกติดี สุขภาพดี ผ่านหมดค่ะ
4.สอบข้อเขียนหรือสอบทฤษฎี
และแล้วก็ถึงเวลาค่ะ เสร็จจากสอบสมรรถภาพ ก็ขึ้นไปชั้น 3 ค่ะ วางเอกสารไว้หน้าห้อง แล้วเขาจะเรียกตามชื่อค่ะ เราได้สอบประมาณ 11 โมงนะ สแกนคีย์การ์ด ละก็เริ่มทำข้อสอบค่ะ เราใช้เวลาประมาณ 15 นาทีค่ะ ข้อสอบก็มีแนวข้อสอบมากมายค่ะ แต่เราอ่านจากเว็บนี้ค่ะ
https://knowledgeth.blogspot.com/2013/11/2556-2557.html
มีข้อมูลแน่นๆ แบ่งให้อ่านชัดเจนดี เราโดนถามแบบมีรูปการจอดรถต้องจอดยังไง คันนี้จอดผิดมั้ย ซึ่งถ้าเราเห็นรูปไม่ชัด เขาให้กดขยายรูปได้นะ ตอนสอบอ่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องตื่นเต้น มีเวลาค่ะ ชม.นึง ทำไปเถอะ ไม่ยาก ถ้าคุณอ่านนะ และก็ทำแบบฝึกหัดบ่อยๆ เราแนะนำแอพนี้ค่ะ เอาไว้ทำเล่นๆตอนทำงาน 555555
หน้าตาแอพ
อ่านจากในแอพได้นะ คล้ายกันเลย พวกตัวเลือกต่างๆ เหมือนเลยเด๊ะๆ ว่างๆเอาขึ้นมาทำ ทำบ่อยๆ เจอข้อสอบหลายๆแบบ พอไปทำจริงๆ จะได้ไม่ตื่นเต้น เพราะมันเหมือนกันที่เราเคยซ้อมามาเล้ยยย แต่ๆๆๆ อย่าประมาทเพราะเห็นบางคนบอกง่าย ได้ 44/50 ก็ต้องมาซ่อมนะ เราได้ 47/50 ผ่านค่ะ
5.จองคิวสอบปฏิบัติ
คือหลังจากที่เราสอบข้อเขียนเสร็จ ถ้าผ่านเขาจะถามว่า จะสอบขับต่อมั้ยพรุ่งนี้ เราก็ตกลงค่ะ เข้าทางเราพอดี จองได้คิวที่ 39 ค่ะ รับแค่ 50-60 คิว น่าจะแล้วแต่วันด้วยนะคะ
เสร็จสิ้นการสอบข้อเขียน ใช้เวลาไปครึ่งวัน ลางานแค่ครึ่งวันค่ะ
กลับไปทำงานรอบบ่ายทันพอดีค่ะ
_____________________________________
- สอบปฏิบัติ
เขานัด 8.30 น. ค่ะ เรามารอแต่เช้า เพราะต้องรอรถจากโรงเรียนด้วยค่ะ ก็มีการนัดเทคนิคอีกนิดหน่อยเพราะคนละครูที่สอนค่ะ แล้วเราก็เข้าไปที่สนามสอบค่ะ สำหรับคนที่มาสอบใหม่นั้น เขาจะเปิดให้สอบแค่รอบเช้าค่ะ (แล้วตอนบ่ายเป็นคนที่ต้องการสอบซ่อมค่ะ) แล้วในการสอบจะให้จักรยานยนต์สอบก่อนค่ะ กรรมการให้เอกสารเรามาเขียนเลขทะเบียนรถค่ะ แล้วกรรมการก็จะอธิบายท่าสอบต่างๆค่ะ ตั้งใจฟังหน่อยค่ะ บางอย่างมีทริกนะคะ เมื่อฟังกรรมการอธิบายเสร็จ เขาจะเรียกรับป้ายหมายเลข ไปวางที่กระจกหน้ารถฝั่งซ้ายค่ะ ขับรถเรามาเข้าสนามสอบค่ะ โดยการเข้านั้น เขาจะให้รถส่วนตัวเข้าสลับกับรถเช่าค่ะ รถเช่าที่นี่เป็น honda city นะคะ ใหม่อยู่นะ ตอนนี้เหลืออยู่2คัน จาก3คัน มีคนเช่าขับชนค่ะ =,.=
เมื่อเข้ามาจุดแรก ต้องจอดให้กรรมการเห็นหน้าก่อนนะคะ กรรมการจะหาเอกสารเรา และบอกให้เราสอบได้ค่ะ
*ท่าแรก ท่าเดินหน้า ถอยหลังตรง
เดินหน้าไปและให้ตัวรถเลยเสาสุดท้ายไป และถอยหลังกลับมาโดยให้หน้ารถเราพ้นเสาแรก
ตอนเราสอบนะ กรรมการไม่ให้ช้าค่ะ มาเร่งๆๆๆๆๆ ให้เร็วๆ ช้าแบบนี้ผมไม่ให้ผ่าน !!!
ตอนเรียนครูบอกช้าได้เขาไม่จำกัดเวลา พอมาสอบไรแว้ แต่ก็ผ่านมาได้ค่ะ ในใจนี่แบบ อยากให้เร็วนักใช่มั้ย จัดให้ค่ะ !!
***เทคนิคสำหรับเราคือ เวลาถอยหลัง ดูกระจกข้างค่ะ ข้างรถ ข้างประตู ดูให้หมด พอจะชนซ้ายหักพวงมาลัยขวา พอจะชนขวาหักพวงมาลัยซ้าย หักเสร็จ รีบหักกลับด้วยนะคะ
*ท่าที่สอง เลี้ยวซ้ายจอดริมทางเท้าห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร ละหยุดในจุดที่กำหนด
(ท่าตกยอดนิยม)
เราก็ตกค่ะ 5555555555555 ไม่ได้ซ้อมเลยค่ะ ตื่นเต้นมาก เราก็คิดว่าเราชิดแล้วนะ ทำไมมันห่างฟะ แต่เราหยุดในเส้นที่เขากำหนดพอดีค่ะ พอหยุดรถแล้วถ้าเราไม่ผ่านกรรมการจะให้เราลงมาดูค่ะ ว่ามันห่างนะ แล้วให้ไปท่าต่อไปเลย
***เทคนิคสำหรับเราคือ ตอนไปสอบยังไม่มีค่ะ ความรู้สึกล้วนๆ รอดูตอนซ่อมนะคะ 555555
*ท่าที่สาม จอดเข้าซองด้านซ้าย ไม่เกิน 7 เกียร์
มีเสากั้นหน้าหั้นหลัง สามเสาค่ะ
เราดูคลิปนี้ประกอบค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=BttQ6EVn6ac
คล้ายสนามจริงค่ะ และสูตรที่ใช้สอบก็ตามนี้เลยค่ะ แต่ถ้ารถใครยาว เกียร์เดียวไม่พอค่ะ ตอนหักขวาเข้าจอดท้ายจะชนเสาค่ะ ต้องหักซ้ายละเดินหน้าหน่อยค่ะ ละค่อยหมุนพวงมาลัยขวาสุด จนหน้ารถตรงละหยุดค่ะ ด้านขวารถไม่เกินเส้นเหลือง ให้อยู่ในซองที่กำหนดเนอะ ยกมือบอกกรรมการค่ะ กรรมการจะบอกให้ออกค่ะ เราก็ถอยหลังมานิดนึง เวลาออกด้านหน้าจะได้ไม่ชนเสาค่ะ เข้ามาจอดได้ ก็ต้องออกได้นะคะ เขานับเกียร์ตลอดนะคะ จนกว่าเราจะออกเสร็จ
***เทคนิคบอกไปแล้วเนอะตามคลิป แต่จะมีทริกตอนสอบอยู่ คือตอนเราดูคนอื่นสอบอ่ะ กรรมการจะพูดบอกประมาณว่าให้ฟังคำพูดดีๆ กรรมการจะพูดแนวส่งซิกให้ทำแบบนี้นะ แล้วคุณจะผ่าน เช่น “คุณจะใช้เกียร์ต่อเนื่องมั้ย หรือคุณจะออกเลย” ถ้าได้ยินประมาณนี้ก็ออกเลยค่ะ คุณผ่านแล้ว เพราะบางคนออกเลยก็ได้ค่ะ เกียร์จะครบพอดี บางคนถ้าเดินหน้ามาแล้วถอยหลังอีกเกียร์จะเกินค่ะ (ประมาณนี้นะ เราก็จำคำพูดไม่ได้แม่นเท่าไหร่ 555555555 )
เอาเป็นว่ากรรมการเขาจะรู้ค่ะ ว่าเราใช่เกียร์เกินหรือเปล่า แล้วก็ฟังที่กรรมการพูดดีๆค่ะ
- รับใบนัดซ่อม
พอเราสอบเสร็จครบสามท่า ก็เอาป้ายมาคืนค่ะ แล้วเขาก็จะให้ใบนัดเรามาค่ะ รายละเอียดจะบอกท่าที่เราตกค่ะ และให้มาสอบซ่อมสามวันทำการถัดไป ซึ่งของเราเป็นวันอังคารค่ะ เป็นวันสุดท้ายของการใช้ระบบมนุษย์100%ค่ะ (มีจิตใจ) ง่ายๆคือ 1 มิ.ย. เป็นต้นไป จะใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการสอบแล้วค่ะ เป็นเซนเซอร์ทั้งหมด (เป๊ะทุกอย่าง) ยังไงๆ เราก็ต้องมาสอบวันอังคารให้ได้ ไม่อยากเจอระบบใหม่ TT
(ในใบนัดจะกำหนดวันก็จริง แต่เราก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องมาวันนั้นก็ได้ค่ะ แต่ขอให้มากกว่า 3 วัน ที่พึ่งสอบไป มาซ่อมได้เรื่อยๆค่ะ 3 วันซ่อมทีก็ได้ค่ะ แต่ไม่เกิน 90 วันค่ะ ไม่อย่างนั้นจะเริ่มสอบใหม่หมด) ประมาณ 11 โมงกว่า ก็เสร็จแล้วค่ะ (แต่ถ้าใครผ่านหมด ต้องไปยื่นทำบัตรต่อค่ะ)
หมดไปอีกครึ่งวันค่ะวันนี้ ตอนบ่ายก็กลับไปทำงาน
หัวหน้าให้ถือว่าเราลา 1 วันค่ะ ครึ่งวันบวกครึ่งวันนั่นเอง
จริงๆถ้าผ่านหมด ก็ต้องเสียเวลาวันนี้ไป 1 วันเต็มค่ะ แต่เรากะไว้แล้วว่าเราต้องตกแน่ๆ แล้วก็ตกจริงๆ เราเลยเผื่อเวลามาสอบซ่อมอีกหนึ่งวันนั่นเอง
___________________________
[CR] REVIEW สอบใบขับขี่(ชั่วคราว)ที่ขนส่งบางจาก กับเวลา 2 วัน รวมวันสอบซ่อม (แก้บน)
ก็ได้พูดกับตัวเองไว้ว่า ถ้าผ่านนะ จะเข้าไปรีวิวในพันทิพให้เล้ยยยย !!!!!
ปรากฏว่า ผ่านแล้ว !!!!! ซ่อมไป1ครั้งค่ะ 5555555555
เลยเป็นเหตุทำให้เกิดกระทู้นี้ขึ้น แก้บนนั่นเอง
ง่ายๆอย่างงี้เลย =,.=
กว่าจะได้ใบขับขี่นั้น มี 3 เสตป ง่ายๆค่ะ
คือ 1.อบรม 4 ชั่วโมง
2.ทดสอบสมรรถภาพ+สอบข้อเขียน 50 ข้อ
3. สอบปฏิบัติ 3 ท่า
ก่อนจะมาสอบนั้น เราไปเรียนขับรถกับโรงเรียนสอนขับรถแห่งหนึ่งค่ะ
1. เรียน1 คอร์ส 10 ชั่วโมง เรียนครั้งละ 2 ชั่วโมง
2.เราเลือกเรียนเฉพาะเสาร์,อาทิตย์
3.เรียนพื้นฐานท่าสอบ เทคนิค ออกถนนใหญ่บ้างนิดหน่อย และลองขึ้นห้างฯ
4. เรียนวนไปค่ะ ตั้งใจวนไป
5. เลือกอบรมกับทางโรงเรียนก็ได้ค่ะ แต่มีเฉพาะวันเสาร์ เราไม่อยากลางาน เลยไปหาที่อบรมเอง
6. โรงเรียนจะพาเข้าไปสอบปฏิบัติทุกวันพฤหัสค่ะ
สอบที่ขนส่งบางจากนะคะ เพราะใกล้ที่พักที่สุด
เริ่ม!!!
- เป้าหมาย
ตั้งใจว่าต้องได้ใบขับขี่ภายในเดือน พ.ค. !!! และจะขอลาแค่ 2 วันเท่านั้น !!!
(จะเอาวันลาพักร้อนไปทำอย่างอื่นน่ะ5555555)
- หาข้อมูล
คิดว่าถ้ารอเรียนจบคอร์สคงไม่ทันสิ้นเดือนพ.ค.แน่ๆ แล้วอีกอย่างถ้าอบรมที่ขนส่ง เสียเวลาเราค่ะ ต้องหยุดงานเพิ่มแน่ๆ แล้วอีกอย่างที่ขนส่งนั้น walk in เข้าไปก็เต็มแล้วค่ะ จองทาง net เหลือไม่กี่วันและล่าสุดคือ ว่างเดือนกันยายนค่ะ บายยยยยย อบรมข้างนอกดีกว่า แล้วก็มาเจอกระทู้นี้ค่ะ
http://pantip.com/topic/33403931
อบรมที่มหาลัยสวนดุสิตค่ะ รายละเอียดครบถ้วน แต่ตอนนี้ต่างจากตอนนั้นหน่อยคือสะดวกสบายมากขึ้นค่ะ จองง่ายขึ้น เราจองทางไลน์ค่ะ ทักไปสอบถาม เขาจะให้บอกรายละเอียด ชื่อ นามสกุล วันที่จะอบรม
http://www.hcdsuandusit.com/ContentDetail.aspx?contentID=141
เข้าไปดูตามนี้เลย เราอบรมวันอาทิตย์ ไม่ต้องลางานค่ะ ^^
อ่อ มีที่อบรมที่อื่นอีกนะคะ ลองหาดูค่ะ แต่ที่เราเลือกที่นี่เพราะสะดวกเราค่ะ นั่งรถไฟฟ้าลงอนุฯ แล้วก็รถเมล์สายที่เขียนว่าไปม.สวนดุสิต ตึกอบรมอยู่ฝั่งตรงข้าม เดินทางง่ายค่ะ
- วันอบรม
ไปที่ตึกที่อบรมค่ะ เขาจะติดรายชื่อคนที่จองไว้ และก็ขึ้นไปห้องที่อบรม จ่ายค่าอบรม
500 บาท ได้หนังสือและคู่มือสอบมาค่ะ ฟังไปเพลินๆค่ะ มีทริกให้จำบ้างว่าข้อไหนจะออก เราก็กึ่งจำกึ่งหลับ 55555555555 ตอนนั้นฝนจะตกด้วย บรรยากาศมันได้ง่ะ
เมื่ออบรมเสร็จจะได้ใบผ่านการอบรมมา 3 ใบค่ะ มีอายุ 6 เดือน
- เตรียมตัวไปสอบข้อเขียน
อย่างที่บอกไปตอนแรกค่ะ ว่ารถของโรงเรียนจะเข้าไปสอบขับวันพฤหัส เพราะฉะนั้นเราเลือกไปสอบข้อเขียนวันพุธ เผื่อผ่าน จะได้นัดสอบขับวันถัดไปพอดี ไม่ต้องเช่ารถของขนส่ง
เอกสารที่ต้องเตรียม คือ ใบรับรองแพทย์ค่ะ บัตรประชาชนตัวจริงและสำเนาบัตรประชาชน ใบผ่านการฝึกอบรมทั้ง3ใบ (นำมาให้หมดนะคะ)
- สอบข้อเขียน
1.ตื่นแต่เช้าค่ะ ไปรอหน้าตึกขนส่งค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีใครนะ มีเพื่อนรอเป็นเพื่อนแน่นอนค่ะ บีทีเอสบางจากค่ะ มีป้ายบอกทางลง เดินมาหน่อย (ถ้าหันหน้าไปทางสถานีต่อไปปุณณวิถี ขนส่งจะอยู่ซ้ายมือค่ะ) พี่วิน 15 บาทจากตีนบันไดบีทีเอส แต่ถ้าเดินมาหน้าขนส่ง แล้วขึ้นพี่วิน 10 บาทค่ะ งงใจ ห่างกัน20 เมตรได้ แต่ถ้าคนจะเดิน ก็เดินเลยค่ะ แปบเดียว ไม่ไกล เดินชิวๆค่ะ
2.เมื่อประตูเปิด 8 โมง วิ่งค่ะ วิ่งขึ้นไปชั้น 2 บันได้อยู่ซ้ายมือค่ะ ไม่ต้องสนใจใครทั้งนั้น รอกันเป็นสิบ บางคนก็มาอบรม บางคนก็ทำเรื่องอื่น แต่เราอบรมมาแล้ว ไปค่ะ ไปชั้น2 แล้วเลี้ยวขวาค่ะ ไปช่องที่ 20 ค่ะ ยื่นเอกสารที่บอกให้เตรียมมานั่นแหละ ที่สำคัญที่สุดของขั้นตอนนี้คือ วิ่งให้เร็วที่สุดค่ะ เราอ่านรีวิวอันนี้ก่อนมาค่ะ
http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=199118
ของเขาไม่ต้องวิ่ง แต่เราไปวิ่งค่ะ ไม่งั้นไม่ทัน (สงสัยดูมารีวิวเดียวกันแน่ๆ55555) เราได้คิวที่ 28 ค่ะ ตัดคิวที่ 50 ค่ะ วันนี้คนเยอะจริงๆ แนะนำถ้าไป ให้ไปจันทร์ ไม่ก็อังคารค่ะ พอมีลุ้น ไม่ต้องเหนื่อย (ถ้าเป็นวันฝนตกแล้วนั้น คนจะน้อย และประตูจะเปิดเร็วหน่อยค่ะ) ยื่นเอกสารเสร็จ ก็รอเขาเรียกชื่อเรา แล้วก็นำเอกสารลงไปบันทึกลงคีย์การ์ด ถ่ายรูปเราค่ะ (ไม่ต้องเสริมสวยนะ เขาถ่ายเพื่อให้รู้ว่าคนนี้นะ เฉยๆ 55555555) เป็นช่อง 9 ด้านล่าง จะเรียกเราตามสีของบัตรคิวค่ะ ประมาณ9 โมง
บอกแล้วว่า วันๆนึงมีคนมาทำหลายเรื่องมาก สีของบัตรคิวคือสิ่งสำคัญค่ะ มาทำใบขับขี่ใหม่ จะได้บัตรคิวสีขาวค่ะ
3.สอบสมรรถภาพ รอที่หน้าห้องหมายเลข 13 เขาจะเรียกให้เข้าไปทีละ 20-30 คน เราได้เข้ากลุ่มแรกค่ะ ฟังเขาอธิบายและทำตามค่ะ ไม่มีอะไรกดดันค่ะ สบายๆ พี่ๆเขาดุเพื่อให้เราตั้งใจฟังค่ะ แต่ตอนสอบจริงๆ พี่ๆเขาใจดีค่ะ มีทดสอบสายตาทางกว้าง ทางลึก แล้วก็เหยียบเบรก ไม่ยาก ไม่ต้องกังวล ถ้าปกติดี สุขภาพดี ผ่านหมดค่ะ
4.สอบข้อเขียนหรือสอบทฤษฎี
และแล้วก็ถึงเวลาค่ะ เสร็จจากสอบสมรรถภาพ ก็ขึ้นไปชั้น 3 ค่ะ วางเอกสารไว้หน้าห้อง แล้วเขาจะเรียกตามชื่อค่ะ เราได้สอบประมาณ 11 โมงนะ สแกนคีย์การ์ด ละก็เริ่มทำข้อสอบค่ะ เราใช้เวลาประมาณ 15 นาทีค่ะ ข้อสอบก็มีแนวข้อสอบมากมายค่ะ แต่เราอ่านจากเว็บนี้ค่ะ
https://knowledgeth.blogspot.com/2013/11/2556-2557.html
มีข้อมูลแน่นๆ แบ่งให้อ่านชัดเจนดี เราโดนถามแบบมีรูปการจอดรถต้องจอดยังไง คันนี้จอดผิดมั้ย ซึ่งถ้าเราเห็นรูปไม่ชัด เขาให้กดขยายรูปได้นะ ตอนสอบอ่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องตื่นเต้น มีเวลาค่ะ ชม.นึง ทำไปเถอะ ไม่ยาก ถ้าคุณอ่านนะ และก็ทำแบบฝึกหัดบ่อยๆ เราแนะนำแอพนี้ค่ะ เอาไว้ทำเล่นๆตอนทำงาน 555555
หน้าตาแอพ
อ่านจากในแอพได้นะ คล้ายกันเลย พวกตัวเลือกต่างๆ เหมือนเลยเด๊ะๆ ว่างๆเอาขึ้นมาทำ ทำบ่อยๆ เจอข้อสอบหลายๆแบบ พอไปทำจริงๆ จะได้ไม่ตื่นเต้น เพราะมันเหมือนกันที่เราเคยซ้อมามาเล้ยยย แต่ๆๆๆ อย่าประมาทเพราะเห็นบางคนบอกง่าย ได้ 44/50 ก็ต้องมาซ่อมนะ เราได้ 47/50 ผ่านค่ะ
5.จองคิวสอบปฏิบัติ
คือหลังจากที่เราสอบข้อเขียนเสร็จ ถ้าผ่านเขาจะถามว่า จะสอบขับต่อมั้ยพรุ่งนี้ เราก็ตกลงค่ะ เข้าทางเราพอดี จองได้คิวที่ 39 ค่ะ รับแค่ 50-60 คิว น่าจะแล้วแต่วันด้วยนะคะ
เสร็จสิ้นการสอบข้อเขียน ใช้เวลาไปครึ่งวัน ลางานแค่ครึ่งวันค่ะ
กลับไปทำงานรอบบ่ายทันพอดีค่ะ
_____________________________________
- สอบปฏิบัติ
เขานัด 8.30 น. ค่ะ เรามารอแต่เช้า เพราะต้องรอรถจากโรงเรียนด้วยค่ะ ก็มีการนัดเทคนิคอีกนิดหน่อยเพราะคนละครูที่สอนค่ะ แล้วเราก็เข้าไปที่สนามสอบค่ะ สำหรับคนที่มาสอบใหม่นั้น เขาจะเปิดให้สอบแค่รอบเช้าค่ะ (แล้วตอนบ่ายเป็นคนที่ต้องการสอบซ่อมค่ะ) แล้วในการสอบจะให้จักรยานยนต์สอบก่อนค่ะ กรรมการให้เอกสารเรามาเขียนเลขทะเบียนรถค่ะ แล้วกรรมการก็จะอธิบายท่าสอบต่างๆค่ะ ตั้งใจฟังหน่อยค่ะ บางอย่างมีทริกนะคะ เมื่อฟังกรรมการอธิบายเสร็จ เขาจะเรียกรับป้ายหมายเลข ไปวางที่กระจกหน้ารถฝั่งซ้ายค่ะ ขับรถเรามาเข้าสนามสอบค่ะ โดยการเข้านั้น เขาจะให้รถส่วนตัวเข้าสลับกับรถเช่าค่ะ รถเช่าที่นี่เป็น honda city นะคะ ใหม่อยู่นะ ตอนนี้เหลืออยู่2คัน จาก3คัน มีคนเช่าขับชนค่ะ =,.=
เมื่อเข้ามาจุดแรก ต้องจอดให้กรรมการเห็นหน้าก่อนนะคะ กรรมการจะหาเอกสารเรา และบอกให้เราสอบได้ค่ะ
*ท่าแรก ท่าเดินหน้า ถอยหลังตรง
เดินหน้าไปและให้ตัวรถเลยเสาสุดท้ายไป และถอยหลังกลับมาโดยให้หน้ารถเราพ้นเสาแรก
ตอนเราสอบนะ กรรมการไม่ให้ช้าค่ะ มาเร่งๆๆๆๆๆ ให้เร็วๆ ช้าแบบนี้ผมไม่ให้ผ่าน !!!
ตอนเรียนครูบอกช้าได้เขาไม่จำกัดเวลา พอมาสอบไรแว้ แต่ก็ผ่านมาได้ค่ะ ในใจนี่แบบ อยากให้เร็วนักใช่มั้ย จัดให้ค่ะ !!
***เทคนิคสำหรับเราคือ เวลาถอยหลัง ดูกระจกข้างค่ะ ข้างรถ ข้างประตู ดูให้หมด พอจะชนซ้ายหักพวงมาลัยขวา พอจะชนขวาหักพวงมาลัยซ้าย หักเสร็จ รีบหักกลับด้วยนะคะ
*ท่าที่สอง เลี้ยวซ้ายจอดริมทางเท้าห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร ละหยุดในจุดที่กำหนด
(ท่าตกยอดนิยม)
เราก็ตกค่ะ 5555555555555 ไม่ได้ซ้อมเลยค่ะ ตื่นเต้นมาก เราก็คิดว่าเราชิดแล้วนะ ทำไมมันห่างฟะ แต่เราหยุดในเส้นที่เขากำหนดพอดีค่ะ พอหยุดรถแล้วถ้าเราไม่ผ่านกรรมการจะให้เราลงมาดูค่ะ ว่ามันห่างนะ แล้วให้ไปท่าต่อไปเลย
***เทคนิคสำหรับเราคือ ตอนไปสอบยังไม่มีค่ะ ความรู้สึกล้วนๆ รอดูตอนซ่อมนะคะ 555555
*ท่าที่สาม จอดเข้าซองด้านซ้าย ไม่เกิน 7 เกียร์
มีเสากั้นหน้าหั้นหลัง สามเสาค่ะ
เราดูคลิปนี้ประกอบค่ะ
https://www.youtube.com/watch?v=BttQ6EVn6ac
คล้ายสนามจริงค่ะ และสูตรที่ใช้สอบก็ตามนี้เลยค่ะ แต่ถ้ารถใครยาว เกียร์เดียวไม่พอค่ะ ตอนหักขวาเข้าจอดท้ายจะชนเสาค่ะ ต้องหักซ้ายละเดินหน้าหน่อยค่ะ ละค่อยหมุนพวงมาลัยขวาสุด จนหน้ารถตรงละหยุดค่ะ ด้านขวารถไม่เกินเส้นเหลือง ให้อยู่ในซองที่กำหนดเนอะ ยกมือบอกกรรมการค่ะ กรรมการจะบอกให้ออกค่ะ เราก็ถอยหลังมานิดนึง เวลาออกด้านหน้าจะได้ไม่ชนเสาค่ะ เข้ามาจอดได้ ก็ต้องออกได้นะคะ เขานับเกียร์ตลอดนะคะ จนกว่าเราจะออกเสร็จ
***เทคนิคบอกไปแล้วเนอะตามคลิป แต่จะมีทริกตอนสอบอยู่ คือตอนเราดูคนอื่นสอบอ่ะ กรรมการจะพูดบอกประมาณว่าให้ฟังคำพูดดีๆ กรรมการจะพูดแนวส่งซิกให้ทำแบบนี้นะ แล้วคุณจะผ่าน เช่น “คุณจะใช้เกียร์ต่อเนื่องมั้ย หรือคุณจะออกเลย” ถ้าได้ยินประมาณนี้ก็ออกเลยค่ะ คุณผ่านแล้ว เพราะบางคนออกเลยก็ได้ค่ะ เกียร์จะครบพอดี บางคนถ้าเดินหน้ามาแล้วถอยหลังอีกเกียร์จะเกินค่ะ (ประมาณนี้นะ เราก็จำคำพูดไม่ได้แม่นเท่าไหร่ 555555555 )
เอาเป็นว่ากรรมการเขาจะรู้ค่ะ ว่าเราใช่เกียร์เกินหรือเปล่า แล้วก็ฟังที่กรรมการพูดดีๆค่ะ
- รับใบนัดซ่อม
พอเราสอบเสร็จครบสามท่า ก็เอาป้ายมาคืนค่ะ แล้วเขาก็จะให้ใบนัดเรามาค่ะ รายละเอียดจะบอกท่าที่เราตกค่ะ และให้มาสอบซ่อมสามวันทำการถัดไป ซึ่งของเราเป็นวันอังคารค่ะ เป็นวันสุดท้ายของการใช้ระบบมนุษย์100%ค่ะ (มีจิตใจ) ง่ายๆคือ 1 มิ.ย. เป็นต้นไป จะใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการสอบแล้วค่ะ เป็นเซนเซอร์ทั้งหมด (เป๊ะทุกอย่าง) ยังไงๆ เราก็ต้องมาสอบวันอังคารให้ได้ ไม่อยากเจอระบบใหม่ TT
(ในใบนัดจะกำหนดวันก็จริง แต่เราก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องมาวันนั้นก็ได้ค่ะ แต่ขอให้มากกว่า 3 วัน ที่พึ่งสอบไป มาซ่อมได้เรื่อยๆค่ะ 3 วันซ่อมทีก็ได้ค่ะ แต่ไม่เกิน 90 วันค่ะ ไม่อย่างนั้นจะเริ่มสอบใหม่หมด) ประมาณ 11 โมงกว่า ก็เสร็จแล้วค่ะ (แต่ถ้าใครผ่านหมด ต้องไปยื่นทำบัตรต่อค่ะ)
หมดไปอีกครึ่งวันค่ะวันนี้ ตอนบ่ายก็กลับไปทำงาน
หัวหน้าให้ถือว่าเราลา 1 วันค่ะ ครึ่งวันบวกครึ่งวันนั่นเอง
จริงๆถ้าผ่านหมด ก็ต้องเสียเวลาวันนี้ไป 1 วันเต็มค่ะ แต่เรากะไว้แล้วว่าเราต้องตกแน่ๆ แล้วก็ตกจริงๆ เราเลยเผื่อเวลามาสอบซ่อมอีกหนึ่งวันนั่นเอง
___________________________