...ส่องกล้องมองดู ธัมมชโย กับ ธีรธัมโม ไผเป็นไผ ???...

กระทู้คำถาม
อ่านประวัติของพระไชยบูลย์ ธัมมชโย กับ พระสุวิทย์ ธีรธัมโม เพื่อเปรียบเทียบอะไรบางอย่างสำหรับ 2 ฝ่ายที่เรียกได้เต็มปากว่าเป็น “คู่กรณี” จะได้รู้ที่มาที่ไป และอาจทำให้เราสามารถรู้แนวคิดพื้นฐานของแต่ละคนได้บ้าง..ไม่มากก็น้อย

ประวัติพระไชยบูลย์ สุทธิผล
พระเทพญาณมหามุนี มีนามเดิมว่า ไชยบูลย์ สุทธิผล เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2487 ณ คุ้งน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี บิดาชื่อจรรยงค์ สุทธิผล มารดาชื่อจุรี สุทธิผล[1]

ในวัยเด็กมักค้นคว้าหาความรู้ด้านธรรมะ และคำถามที่ติดอยู่ในใจเสมอคือ "เราเกิดมาทำไม และอะไรคือเป้าหมายชีวิต" จึงได้แสวงหาคำตอบเรื่อยมา ขณะที่เรียนอยู่ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยหลังจากได้ฟังการบรรยายธรรมจากวิทยากรท่านต่าง ๆ ร่วมกับเพื่อนตั้งชุมนุมยุวพุทธ

พ.ศ. 2506 เมื่อขณะศึกษาอยู่ชั้น ม. 8 (เทียบเท่า ม. 6 ปัจจุบัน) กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ได้อ่านพบหนังสือชื่อ "วิปัสสนาบันเทิงสาร" ลงเรื่องแม่ชีจันทร์ ขนนกยูง ซึ่งได้ศึกษาวิชชาธรรมกายมาจากพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ จึงได้ไปขอเรียนการปฏิบัติธรรมจากแม่ชีท่านนี้[ต้องการอ้างอิง]

เมื่อเรียนจบปริญญาตรีสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์เกษตร จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้ว ได้บรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2512 ณ พัทธสีมาวัดปากน้ำภาษีเจริญ โดยมีพระเทพวรเวที (ปัจจุบันคือสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ) เป็นพระอุปัชฌาย์[2] พระครูพิพัฒน์ธรรมคณี เป็น พระกรรมวาจาจารย์ พระวิเชียรกวี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ธมฺมชโย" แปลว่า "ผู้ชนะโดยธรรม"

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ประวัติพระสุวิทย์ ธีรธัมโม

หลวงปู่พุทธะอิสระ หรือ พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม(ฉายาปัจจุบัน) ท่านเป็นชาวกรุงเทพฯ โดยกำเนิด แต่บรรพบุรุษตั้งรกรากอยู่ที่จังหวัดนครปฐม โยมพ่อชื่อนายชมภู โยมแม่ชื่อนางอัมพร นามสกุล ทองประเสริฐ เกิดเมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๔๙๙ การศึกษาเล่าเรียนทางโลก ไม่จบชั้นประถมปีที่ ๔ ส่วนการศึกษาเล่าเรียนทางธรรมนั้นจบนักธรรมเอก

ท่านเริ่มบวชเรียน ครั้งแรกเมื่ออายุ ๒๐ ปี โดยบวชที่วัดคลองเตยใน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ โดยมีพระครูธีราภินันท์ เจ้าอาวาสวัดคลองเตยใน เป็นพระอุปัชฌาย์

บวชได้เพียงพรรษาเดียว ก็สึกออกไปเป็นทหาร ๒ ปี หลังเสร็จภารกิจทางทหาร ก็กลับมาบวชใหม่ที่วัดเดิม คือวัดคลองเตยใน เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๒๖ โดยมีพระครูธีราภินันท์ เจ้าอาวาสวัดคลองเตยใน เป็นพระอุปัชฌาย์เช่นเดิม และพระครูวรกิจวิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดภาษี เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูวินัยธรสมพงษ์ วัดคลองเตยใน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ธมฺมธีโร" แปลว่า "ปราชญ์ทางธรรม

ช่วงที่อยู่วัดคลองเตยในมีผู้คนมากมายมาฟังท่านแสดงธรรม ท่านอยู่วัดคลองเตยในได้ประมาณ ๖ ปี ก็มาสร้างวัดอ้อน้อย ที่ตำบลห้วยขวาง อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ในปี ๒๕๓๒ โดยอุบาสิกาทองห่อ วิสุทธิผล เป็นผู้บริจาคที่ดินผืนนี้ให้ สร้างวัดเสร็จเป็นรูปเป็นร่างภายใน ๓ ปี ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ยกฐานะขึ้นเป็นวัด ชื่อว่า "วัดอ้อน้อย" (เดิมได้ทำเรื่องขอใช้ชื่อวัดว่า "วัดธรรมอิสระ" แต่ก็มีเหตุขัดข้องบางประการ) เมื่อสร้างวัดเรียบร้อยท่านก็ให้พระลูกศิษย์ดูแลวัด ส่วนท่านก็ออกธุดงค์เพื่อฝึกฝนปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังเป็นเวลากว่า ๕ ปี

หลวงปู่พุทธะอิสระกลับ มาปกครองดูแลวัดอ้อน้อยอีกครั้ง เมื่อได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสเมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๓๘ ท่านได้ทำนุบำรุงวัดจนเจริญเรื่อยมา และเมื่อพระอุโบสถสร้างเสร็จเรียบร้อย จึงได้จัดพิธีผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิตในวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๒ โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย ในพิธีผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิตของพระอุโบสถ

ต่อมาในวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๒ ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลห้วยขวาง แทนเจ้าคณะเก่าที่มรณภาพไป หลังจากนั้นเมื่อในวันที่ ๑๖ ก.ย.๒๕๔๔ หลวงปู่ได้ยื่นหนังสือลาออกจากทุกตำแหน่งอย่างเป็นทางการ กับเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม โดยหลวงปู่กล่าวว่า "ที่ผ่านมามันก็เป็นความรู้สึกค้างคาในใจว่า เราทำงานไม่ได้หวังที่จะได้อะไร แต่เราทำงานเพื่อเป็นพุทธบูชา ด้วยความศรัทธาในพระธรรมวินัย และอุดมการณ์ของศาสนา" ในปัจจุบันนี้หลวงปู่พุทธะอิสระ ไม่มีตำแหน่งใด ๆ ในคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
……………………………………………………………………………………………………..


อย่าคิดว่า การที่เอาทั้ง 2 มาเปรียบเทียบนั้น เพื่อหวังจะเหยียบย่ำฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่กำลังจะบอกว่า การที่เรารู้ประวัติความเป็นมาของใครๆก็ตาม มันทำให้เรามองรู้ ดูออกในบางอย่างได้ โดยที่ไม่ถูกเรียกว่า “พวกเถรส่องบาตร” งมงายโดยไม่พินิจพิเคราะห์..ไร้เหตุผล

พระไชยบูลย์ ธัมมชโย หรือที่ได้รับพระราชทินนามในพุทธศาสนา เป็นพระราชคณะชั้นเทพว่า “พระเทพญาณมหามุนี” นั้น จบการศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  แต่สนใจฝักใฝ่พระพุทธศาสนามาตั้งแต่ยังเด็ก ถึงกับรวมตัวกันจัดตั้ง “ชมรมยุวพุทธ”ขี้นทีเดียว ที่สำคัญ เมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว แทนที่จะเลือกชีวิตสบายๆแบบฆราวาส แต่ตรงกันข้าม กลับผกผันชีวิตตนเอง เข้ามาบวชในบวรพุทธศาสนา..ทำไมอย่างนั้น

ส่วนพระสุวิทย์ ธีรธัมโม หรือที่เรียกตัวเองว่า “หลวงปู่พุทธอิสระ” ประวัติเกิดแถวคลองเคย การศึกษาไม่จบประถมศึกษาภาคบังคับ(ป.4)ในสมัยนั้น  เมื่ออายุครบ 20 ปีก็มาบวช แล้วสึกไปเป็นทหารเกณฑ์ จากนั้นก็เข้ามาบวชใหม่ จนศึกษาทางธรรมได้นักธรรมชั้นเอก เมื่อมาอยู่วัดอ้อน้อยก็สึกอีกครั้ง(มีคนกล่าวโทษว่าโกงพรรษาเป็นเจ้าคณะตำบล) จากนั้นก็บวชใหม่ที่วัดอ้อน้อย..ก็ตามนั้น

เหตุใดพระไชยบูลย์ต้องบวช ทั้งๆที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเป็นการศึกษาระดับสูงพอสมควรสำหรับเมืองไทย หากอยู่เป็นฆราวาส ก็สามารถดำรงชีวิตได้อย่างสง่างาม แต่จากประวัติ พระไชยบูลย์มีความสนใจในพระพุทธศาสนา..บวชด้วยศรัทธา ???

เหตุใดพระสุวิทย์ต้องบวช  จากประวัติการศึกษาไม่จบ ป.4 ฉะนั้น หนทางการดำรงชีวิตแบบฆราวาสน่าจะลำบากมาก เมื่อบวช ก็บวชตามประเพณีเมื่อคราวมีอายุครบ 20 ปี แต่การกลับมาบวชครั้งที่2 หลังจากพ้นทหารเกณฑ์แล้ว เพราะอาจเห็นช่องทางที่จะทำให้โอกาสในชีวิตดีขึ้นได้กว่าการอยู่เป็นฆราวาส จึงกลับมาบวชอีก..บวชเพื่อชีวิต ???


ด้านคุณงามความดีที่ได้กระทำในฐานะที่เป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยกันแล้ว พระธัมมชโย กับพระธีรธัมโม ต่างก็ถือว่ามีความดีด้วยกันพอสมควร มากบ้างน้อยบ้าง..ตามฐานานุรูป

ถ้ากล่าวเฉพาะด้านตัวบุคคล พระธัมมชโยมีความรู้ ความสามารถ และการศึกษาเหนือกว่าพระธีรธัมโม ทั้งความรู้ในทางโลก และความรู้ในทางธรรม

ถ้ากล่าวถึงด้านการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ต้องบอกว่าพระธัมมชโยเหนือกว่าพระธีรธัมโม เพราะสามารถเผยแพร่พระพุทธศาสนาได้มากมายมหาศาล ทั้งในประเทศและในต่างประเทศกว่า 40 ประเทศ มีสานุศิษย์ทั่วโลก

ถ้ากล่าวถึงด้านสานุศิษย์ที่นับถือเลื่อมใสแล้ว พระธัมมชโยมีจำนวนสานุศิษย์มากกว่าพระธีรธัมโมมากนัก ชนิดเทียบกันไม่ได้ พระธัมมชโยมีสานุศิษย์นับจำนวนหลายล้านคน

ถ้ากล่าวถึงด้านการยอมรับและรางวัลที่ได้ พระธัมมชโยเหนือกว่าพระธีรธัมโมมาก เพราะพระธัมมชโยมีองค์กรระดับโลกให้การยอมรับ ไม่ว่าจะองค์การอนามัยโลก มหาวิทยาลัยระดับโลก หรือพระสงฆ์ทั่วโลก

ถ้ากล่าวถึงด้านความสำเร็จของวัดในฐานะเจ้าอาวาสวัด พระธัมมชโยเจ้าอาวาสพระธรรมกายมีศักยภาพเหนือกว่าพระธีรธัมโมเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย เพราะมีศาสนาสถานมากกว่า มีพระภิกษุ-สามเณรในวัดที่จบการศึกษาทั้งสายนักธรรมและสายบาลีมากกว่า(มากกว่าทุกวัดในประเทศไทย) ในขณะที่วัดอ้อน้อยแทบจะไม่มี

ถ้ากล่าวถึงด้านการเมือง พระธีรธัมโมมีประวัติเหนือกว่าพระธัมมชโย เพราะพระสุวิทย์มีประวัติตั้งเวทีทางการเมืองขับไล่รัฐบาล เป็นแกนนำม๊อบ ปิดหน่วยเลือกตั้ง ปิดสถานที่ราชการ ปิดถนน ฯลฯ

ถ้ากล่าวถึงด้านคดีและหมายจับ พระธีรธัมโม มีคดีและหมายจับมากกว่าพระธัมมชโยมาก ทั้งข้อหากบฏ ข้อหาทำร้ายร่างกายประชาชน ข้อหาปิดสถานที่ราชการ ในขณะที่พระธัมมชโยมีข้อหาเดียวคือรับของโจร

ถ้ากล่าวถึงด้านการอวดอุตริมนุษยธรรม(อวดสิ่งที่ตนไม่มีจริง) พระธีรธัมโมอวดตนเองร้ายแรงกว่ามาก โดยอวดตนว่าเป็นพระโพธิสัตว์มาเกิด และจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 10  ขณะที่พระธัมมชโยอวดรู้ว่า สตีฟ จ๊อบส์ตายแล้วไปไหน

เมื่อรู้ที่มาที่ไปอย่างนี้ เราก็พอจะวิเคราะห์ความคิด สังเคราะห์การกระทำของแต่ละฝ่ายได้ง่ายขึ้น  สำหรับเป็นพื้นฐานด้านการตัดสินใจได้ระดับหนึ่ง ดีกว่าการเชื่อถือตามคำพูดของบางคน หรือตัดสินใจไปตามอคติของตนเอง..หรือไงญาติโยม ???
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่