ท่านที่เคารพรักครับ ในบรรยากาศมาคุ ที่ ความเป็น “ คนดี “ คุกรุ่นนี้ บ้านเมืองเต็มไปด้วยการชี้นำจากพระ สมกับความเป็นเมืองพุทธ
เมืองที่ข่าวความดีเป็นกรอบเล็กๆ แต่ข่าวความเลวร้ายขึ้นเต็มหน้าหนึ่ง ไม่รวมวันหยุดที่มีภาพนุ่งน้อยห่มน้อย เต็มหน้าหนังสือพิมพ์
ตื่นเช้ามา เราเห็นข่าวพระชี้นำให้ยึดทรัพย์พระ
ตื่นเช้ามาเราเห็นข่าวพระออกความคิด ให้ตัดน้ำตัดไฟพระ
ตื่นเช้ามา เราเห็นข่าว พระวางไส้ศึกพระ
ยังไม่รวมกับตื่นเช้ามาพบกับข่าวการชี้นำจาก สุริยะใส อภิสิทธิ์ โหร และขาประจำอีกหลายคน ซึ่งต่างเล็ง ต่างชี้ ต่างคาดการณ์
ต่างฟันธงไปต่างๆนานา จนธงหัก แต่บ้านเมืองก็ไม่ได้ดีขึ้นตามการชี้นำของสุริยะใสเลย หอกหัก
สำหรับกับพระนั้น หากย้อนกลับไปหลายสิบปีที่ผ่านมา เราจะพบกับคำว่า “ นารีพิฆาต “
ซึ่งพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่สามารถที่จะผ่านด่านนางงาม ไปได้เลย ไม่ว่าจะ พระนิกร พระยันตระ พระอิสระมุนี พระภาวนาพุทโธ
ซึ่งหากเราถามกับตัวเองว่า
เราเคยลุ่มหลงบูชาพระเหล่านี้หรือไม่ ?
ก็ต้องย้อนกลับมาสู่การเมือง ว่าเราเคยชื่นชอบคนเหล่านี้หรือไม่ ?
นายชวน หลีกภัย สุเทพ เทือกสุบรรณ อาทิตย์ อุไรรัตน์ จำลอง ศรีเมือง
แต่ก่อนอื่น ในบรรยากาศคนดีนี้ อันประกอบด้วยคนดี คนดี คนดี
ผู้น้อยได้แต่เรียนว่า เป็นคนดี นั้นเป็นได้ แต่อย่าดีมากนัก เพราะคนเราไม่ชอบคนดี โดยเฉพาะผู้หญิง
ซึ่งผู้หญิงก็ตอบกลับมาทันควันว่า ผู้หญิงไม่ได้ชอบคนเลวหรอกนะ ใหม่ๆที่คบกันมันก็ดี แต่พอคบนานไป นานไป มันก็เลวลง เลวลง ( ไม่ฮา )
ผู้น้อยเคยเรียนท่านไว้บ้างแล้วว่า เห็นขาวๆอาจเป็นกระดูกไม่ใช่งา เห็นเขียวๆอาจเป็นตะไคร้น้ำจับก้อนหินไม่ใช่หยก
เห็นลายๆไกลๆอ้วนๆ อาจเป็นแมวไม่ใช่เสือ เห็นเหลืองๆมาแต่ไกล อาจไม่ใช่พระ นั่นเพราะ สิ่งใดที่เราเห็น เราคิด อาจจะไม่ใช่ก็ได้
ยกตัวอย่างเช่น นานเท่าไหร่ เราจึงเปลี่ยนแปลงความรู้สึก ที่มีต่อ คุณอาทิตย์ อุไรรัตน์ ซึ่งเราเคยรู้สึกชื่นชมที่เปลี่ยนชื่อนายกฯ
นานเท่าไหร่ ที่เราจึงเปลี่ยนแปลงความรู้สึก ที่มีต่อ มหาห้าขัน จำลอง ศรีเมือง ในยุค อดอาหารประท้วงในช่วง พฤษภา
แต่เราก็เปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อคนเหล่านี้ไปแล้ว นี่คือพิษสงของคำว่าการเมือง
จะโทษว่าคนเหล่านี้ ไม่ดีก็ไม่ใช่ จะโทษว่า เราไม่รู้ลึกซึ้งถึงการเมือง ตอนนั้นเรายังเป็นวัยรุ่น ก็ไม่เชิง
แต่มีปรากฏการณ์หนึ่ง ซึ่งนอกเหนือความเปลี่ยนแปลง นั่นคือ ท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ ที่เดินสายทำบุญ แต่เปี่ยมด้วยพลังซึ่งเห็นชัดเจน
เพราะมีความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ในสุภาพสตรีท่านนี้
เริ่มจากอดีต ที่ไปไหนมาไหน ทีมงานท่านยิ่งลักษณ์ จะประกอบด้วยทีมดูแล คือ เฉลิม และ เสนาะ
ส่วนคนที่โดนวางตัวให้พูดหลังท่านยิ่งลักษณ์ และไม่ให้เน้นตลก คือ เต้น ณัฐวุฒิ ซึ่งเต้นก็หนักใจมาก
เพราะพูดอย่างไร ไม่ให้ตลกนั้น เต้นพูดไม่เป็น ไปๆมาๆ ทุกครั้งที่ปราศรัยหาเสียง เต้นพูดว่า ผมก็ไม่ได้พูดตลกนะครับ
แต่ประชาชนหัวเราะทุกที ที่ผมพูด ก็ไม่รู้จะทำยังไง
ส่วนมือประสานพรรคต่างๆคือ คุณหญิงสุดารัตน์ และ พงษ์ศักดิ์
มือวางด้านกฎหมายคือ พงศ์เทพ ชูศักดิ์ และทีมทนายนำโดย พิชิต
นิวัฒน์ธำรง ดูแลงานด้านสื่อมวลชนให้กับยิ่งลักษณ์อย่างครบวงจร
ภูมิธรรม และ นพ.พรหมมินท์ เป็นผู้ที่วางยุทธศาสตร์ทางการเมือง
ยังไม่รวมทีมเศรษฐกิจ อีกหลายคน เช่นมิ่งขวัญ พิชัย
แต่นั่นคืออดีต เพราะเวลานี้ ท่านยิ่งลักษณ์ เดินเดี่ยว เป็นวิถีชีวิตที่เด็ดเดี่ยว แต่ไม่โดดเดี่ยว
เป็นวิถีชีวิตที่เด็ดเดี่ยว แต่ไม่โดดเดี่ยว
เพราะเวลานี้ไม่ว่าท่านยิ่งลักษณ์จะไปที่ไหน จะเรียบง่าย ไปคนเดียว ไม่มีทีม แต่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น
ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา
หากพูดตามภาษากำลังภายในของท่านโกวเล้ง ก็ต้องพูดว่า นี่คือการค้นพบพลังในตัวเองอย่างแท้จริง
สุภาพสตรีท่านนี้ ใช้ความมีจิตใจดีงาม ผสมผสานเข้ากับวิถีแห่งธรรมชาติและธรรมะ กอปรเกิดขึ้นมาเป็นสภาวะใสสะอาดบริสุทธิ์
ความเปลี่ยนแปลงตรงนี้ เหมือนคือพลังมหาศาลที่ใช้ออก รั้งเข้า ได้ตามจิตใจ
ในวันที่ท่านยิ่งลักษณ์ ไม่ต้องมีทีมงาน ไม่ต้องมีผู้ห้อมล้อม
แต่ทุกก้าวย่างของท่าน หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับสายตาประชาชนที่ชื่นชม ยามปรากฏตัวสู่สาธารณะชน
นี่คือพลังมหาศาล ที่ไม่เกี่ยวกับการเมืองใดๆเลย ซึ่งวันข้างหน้า แม้ท่านจะไม่เล่นการเมือง
ไม่ว่าท่านจะทำอะไร ก็จะอยู่ในหัวใจประชาชนตลอดกาลครับ
.....................................
ขอน้อมคารวะ พี่ๆทุกๆท่านที่ระลึกถึงเสมอมา และขอขอบคุณพี่เวบมาสเตอร์ด้วยครับ
ตอนที่ 1 ครับ
http://pantip.com/topic/35234795
จากเหมยถึงกาสะลอง จากท่านโกวเล้งถึงท่านยิ่งลักษณ์ ( ความอ่อนโยน คือดาบเล่มหนึ่ง )
เมืองที่ข่าวความดีเป็นกรอบเล็กๆ แต่ข่าวความเลวร้ายขึ้นเต็มหน้าหนึ่ง ไม่รวมวันหยุดที่มีภาพนุ่งน้อยห่มน้อย เต็มหน้าหนังสือพิมพ์
ตื่นเช้ามา เราเห็นข่าวพระชี้นำให้ยึดทรัพย์พระ
ตื่นเช้ามาเราเห็นข่าวพระออกความคิด ให้ตัดน้ำตัดไฟพระ
ตื่นเช้ามา เราเห็นข่าว พระวางไส้ศึกพระ
ยังไม่รวมกับตื่นเช้ามาพบกับข่าวการชี้นำจาก สุริยะใส อภิสิทธิ์ โหร และขาประจำอีกหลายคน ซึ่งต่างเล็ง ต่างชี้ ต่างคาดการณ์
ต่างฟันธงไปต่างๆนานา จนธงหัก แต่บ้านเมืองก็ไม่ได้ดีขึ้นตามการชี้นำของสุริยะใสเลย หอกหัก
สำหรับกับพระนั้น หากย้อนกลับไปหลายสิบปีที่ผ่านมา เราจะพบกับคำว่า “ นารีพิฆาต “
ซึ่งพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่สามารถที่จะผ่านด่านนางงาม ไปได้เลย ไม่ว่าจะ พระนิกร พระยันตระ พระอิสระมุนี พระภาวนาพุทโธ
ซึ่งหากเราถามกับตัวเองว่า
เราเคยลุ่มหลงบูชาพระเหล่านี้หรือไม่ ?
ก็ต้องย้อนกลับมาสู่การเมือง ว่าเราเคยชื่นชอบคนเหล่านี้หรือไม่ ?
นายชวน หลีกภัย สุเทพ เทือกสุบรรณ อาทิตย์ อุไรรัตน์ จำลอง ศรีเมือง
แต่ก่อนอื่น ในบรรยากาศคนดีนี้ อันประกอบด้วยคนดี คนดี คนดี
ผู้น้อยได้แต่เรียนว่า เป็นคนดี นั้นเป็นได้ แต่อย่าดีมากนัก เพราะคนเราไม่ชอบคนดี โดยเฉพาะผู้หญิง
ซึ่งผู้หญิงก็ตอบกลับมาทันควันว่า ผู้หญิงไม่ได้ชอบคนเลวหรอกนะ ใหม่ๆที่คบกันมันก็ดี แต่พอคบนานไป นานไป มันก็เลวลง เลวลง ( ไม่ฮา )
ผู้น้อยเคยเรียนท่านไว้บ้างแล้วว่า เห็นขาวๆอาจเป็นกระดูกไม่ใช่งา เห็นเขียวๆอาจเป็นตะไคร้น้ำจับก้อนหินไม่ใช่หยก
เห็นลายๆไกลๆอ้วนๆ อาจเป็นแมวไม่ใช่เสือ เห็นเหลืองๆมาแต่ไกล อาจไม่ใช่พระ นั่นเพราะ สิ่งใดที่เราเห็น เราคิด อาจจะไม่ใช่ก็ได้
ยกตัวอย่างเช่น นานเท่าไหร่ เราจึงเปลี่ยนแปลงความรู้สึก ที่มีต่อ คุณอาทิตย์ อุไรรัตน์ ซึ่งเราเคยรู้สึกชื่นชมที่เปลี่ยนชื่อนายกฯ
นานเท่าไหร่ ที่เราจึงเปลี่ยนแปลงความรู้สึก ที่มีต่อ มหาห้าขัน จำลอง ศรีเมือง ในยุค อดอาหารประท้วงในช่วง พฤษภา
แต่เราก็เปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อคนเหล่านี้ไปแล้ว นี่คือพิษสงของคำว่าการเมือง
จะโทษว่าคนเหล่านี้ ไม่ดีก็ไม่ใช่ จะโทษว่า เราไม่รู้ลึกซึ้งถึงการเมือง ตอนนั้นเรายังเป็นวัยรุ่น ก็ไม่เชิง
แต่มีปรากฏการณ์หนึ่ง ซึ่งนอกเหนือความเปลี่ยนแปลง นั่นคือ ท่านนายกฯยิ่งลักษณ์ ที่เดินสายทำบุญ แต่เปี่ยมด้วยพลังซึ่งเห็นชัดเจน
เพราะมีความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ในสุภาพสตรีท่านนี้
เริ่มจากอดีต ที่ไปไหนมาไหน ทีมงานท่านยิ่งลักษณ์ จะประกอบด้วยทีมดูแล คือ เฉลิม และ เสนาะ
ส่วนคนที่โดนวางตัวให้พูดหลังท่านยิ่งลักษณ์ และไม่ให้เน้นตลก คือ เต้น ณัฐวุฒิ ซึ่งเต้นก็หนักใจมาก
เพราะพูดอย่างไร ไม่ให้ตลกนั้น เต้นพูดไม่เป็น ไปๆมาๆ ทุกครั้งที่ปราศรัยหาเสียง เต้นพูดว่า ผมก็ไม่ได้พูดตลกนะครับ
แต่ประชาชนหัวเราะทุกที ที่ผมพูด ก็ไม่รู้จะทำยังไง
ส่วนมือประสานพรรคต่างๆคือ คุณหญิงสุดารัตน์ และ พงษ์ศักดิ์
มือวางด้านกฎหมายคือ พงศ์เทพ ชูศักดิ์ และทีมทนายนำโดย พิชิต
นิวัฒน์ธำรง ดูแลงานด้านสื่อมวลชนให้กับยิ่งลักษณ์อย่างครบวงจร
ภูมิธรรม และ นพ.พรหมมินท์ เป็นผู้ที่วางยุทธศาสตร์ทางการเมือง
ยังไม่รวมทีมเศรษฐกิจ อีกหลายคน เช่นมิ่งขวัญ พิชัย
แต่นั่นคืออดีต เพราะเวลานี้ ท่านยิ่งลักษณ์ เดินเดี่ยว เป็นวิถีชีวิตที่เด็ดเดี่ยว แต่ไม่โดดเดี่ยว
เป็นวิถีชีวิตที่เด็ดเดี่ยว แต่ไม่โดดเดี่ยว
เพราะเวลานี้ไม่ว่าท่านยิ่งลักษณ์จะไปที่ไหน จะเรียบง่าย ไปคนเดียว ไม่มีทีม แต่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น
ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา
หากพูดตามภาษากำลังภายในของท่านโกวเล้ง ก็ต้องพูดว่า นี่คือการค้นพบพลังในตัวเองอย่างแท้จริง
สุภาพสตรีท่านนี้ ใช้ความมีจิตใจดีงาม ผสมผสานเข้ากับวิถีแห่งธรรมชาติและธรรมะ กอปรเกิดขึ้นมาเป็นสภาวะใสสะอาดบริสุทธิ์
ความเปลี่ยนแปลงตรงนี้ เหมือนคือพลังมหาศาลที่ใช้ออก รั้งเข้า ได้ตามจิตใจ
ในวันที่ท่านยิ่งลักษณ์ ไม่ต้องมีทีมงาน ไม่ต้องมีผู้ห้อมล้อม
แต่ทุกก้าวย่างของท่าน หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับสายตาประชาชนที่ชื่นชม ยามปรากฏตัวสู่สาธารณะชน
นี่คือพลังมหาศาล ที่ไม่เกี่ยวกับการเมืองใดๆเลย ซึ่งวันข้างหน้า แม้ท่านจะไม่เล่นการเมือง
ไม่ว่าท่านจะทำอะไร ก็จะอยู่ในหัวใจประชาชนตลอดกาลครับ
.....................................
ขอน้อมคารวะ พี่ๆทุกๆท่านที่ระลึกถึงเสมอมา และขอขอบคุณพี่เวบมาสเตอร์ด้วยครับ
ตอนที่ 1 ครับ
http://pantip.com/topic/35234795