ตอนพิเศษ รอบรั้วหัวใจ
งานมงคลสมรสถูกกำหนดขึ้นในอีกสามเดือนต่อมา บ้านทวีกิจไพศาลถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีไทยในช่วงเช้า หลังจากนั้นจะมีงานเลี้ยงรับรองที่ธาราเพื่อให้พนักงานจากสองฝ่ายและแขกบางส่วนที่ไม่สามารถไปร่วมงานฉลองสมรสที่เขาค้อในอีกสามวันถัดไป ช่วงสองสามวันนี้ เจ้าบ่าวเจ้าสาวต่างวุ่นวายกับกิจของตนจนไม่ได้พบปะกันเลย ครั้งสุดท้ายที่พบกันคือเมื่อวานซืนที่ฝ่ายชายมาช่วยแทนดาวขนข้าวของชุดท้ายไปไว้ที่เรือนหอ
บ้านทวีกิจไพศาลเอิกเกริกครื้นเครงอีกครั้งเพราะเป็นการรวมตัวอีกครั้งของญาติมิตรและเพื่อน ๆ เจ้าสาวที่มาช่วยเตรียมงาน งานนี้จัดเป็นพิธีไทยแท้ตามความประสงค์ของคุณลำเภา เน้นความประณีตของศิลปะไทยและฝีมือเชิงช่างล้วน ๆ โดยไม่ได้ว่าจ้างออแกไนเซอร์ ทุกอย่างล้วนมาจากแรงกายแรงใจของเพื่อนฝูงญาติพี่น้องกับกลุ่มอาจารย์และนักศึกษาคห กรรมที่เคยเป็นลูกศิษย์ลูกหาของคุณลำเภามาช่วยด้วย
บริเวณงานประดับดอกไม้สดและงานเจียนใบตองทั้งหมด บรรดาดอกไม้ใบไม้ล้วนมีชื่อมงคลตามตำราโบราณ ตรงทางเดินปูนจากประตู้รั้วมาจนถึงหน้ามุขมีตัวหงส์ประดิษฐ์จากใบตองเรียงกันจำนวนหกคู่ สนามหญ้าตัดเตียนเขียวขจีตั้งโต๊ะและเก้าอี้กลางแจ้งโดยอาศัยร่มเงาจากไม้ใหญ่ไม่ต้องตั้งเต็นท์ขัดขวางทัศนียภาพ ฟากหนึ่งตั้งซุ้มอาหารที่คุณลำเภาประกอบเองทั้งหมด รายการของคาวหวานล้วนมีความหมายมงคล ไม่ไกลกันกันเป็นเวทียกพื้นจัดไว้สำหรับวงดนตรีไทยและการแสดง ข้างเวทีมีจอขนาดใหญ่ถ่ายทอดสดพิธีการข้างใน
หน้ามุขกับชายคาบ้านตลอดจนหน้าต่างประตูทุกบ้านติดม่านดอกรักสลับบานไม่รู้โรยถักลายตาข่ายอันมีความหมายเป็นมงคลว่า ‘รักไม่รู้โรย’ ตามจุดต่าง ๆ ตั้งพุ่มแจกันดอกไม้ปักแซมด้วยผลไม้มงคลแกะสลักลวดลายวิจิตรบรรจง ทุกอย่างล้วนรังสรรค์อย่างละเอียดประณีตอาบมนตร์ขลังแห่งวัฒนธรรมการกินอยู่อย่างไทยที่ใครได้มาสัมผัสก็จะต้องประทับใจ
ห้องโถงใหญ่ถูกกำหนดให้เป็นส่วนพิธีการทั้งสู่ขอและรดน้ำ ภายในห้องตกแต่งพานพุ่มดอกบัวสีชมพูกับใบตองปะดิษฐ์ บนเพดานสูงห้อยเครื่องแขวนทรงกลมหุ้มตาข่ายมะลิปล่อยชายอุบะระย้า แต่ละพวงแขวนไล่ระดับสูงต่ำอย่างลงตัว สุดโถงตั้งโต๊ะรดน้ำสองชุด ด้านหน้าห้อยปิดด้วยตาข่ายดอกรักร้อยเป็นม่านผืนใหญ่ชายยาวจรดพื้น มีอ่างเคลือบลอยดอกบัวตั้งพานทองแต่งด้วยมาลัยกรองเก้าชายรองรับน้ำสังข์ ฉากหลังตั่งรดน้ำประดิดประดอยจากดอกบานไม่รู้โรย ดอกพุดและบัวเป็นลวดลายไทยสุดอลังการ มีสายมะลิร้อยสลับกลีบกุหลาบดัดคดโค้งเป็นตัวอักษรชื่อย่อของคู่บ่าวสาว ข้างโต๊ะรดน้ำคือพานขนาดใหญ่ใส่ของชำร่วยเป็นผอบเบญจรงค์ห้าสีบรรจุในกล่องผ้าไหมสวยหรู มีบุหงาแห้งห่อผ้าตาข่ายใส่ในผอบที่วาดลวดลายไทยอ่อนช้อยล้อมรอบอักษรย่อชื่อบ่าวสาว ของชำร่วยนี้คุณลำเภาสั่งทำจากศูนย์ศิลปาชีพ นอกจากจะสวยงามน่าใช้แล้ว ยังทรงคุณค่าของอัตลักษณ์ไทย
“พวกเราไปนอนก่อนนะยัยพลูด่าง อ้อ...แล้วก็อย่านอนดึกนัก เดี๋ยวตาคล้ำ...มากส์หน้าหน่อยก็ดีนะ”
หนึ่งในเพื่อนเจ้าสาวที่มาปักหลักช่วยงานกันล่วงหน้าสามวันสามคืนบอกทิ้งท้ายแล้วก็พากันไปนอนเอาแรง คงเหลือเพียงว่าที่เจ้าสาวที่เพิ่งจะวางมือจากการกรองมาลัย หญิงสาวขยับตัวจากความเมื่อยขบเพราะนั่งหลังขดหลังแข็งตั้งแต่ตอนเย็นเพื่อร้อยมาลัยกลมชายเดียวสามพวง สองพวงแรกตั้งใจเอาไปกราบบิดามารดาและคุณย่าเพื่อเป็นการขอบพระคุณที่เลี้ยงดูมาจนถึงเวลาออกเหย้าออกเรือน ส่วนอีกพวกหนึ่งตั้งใจจะมอบให้พี่ชาย
ภายในห้องหนังสือ เทียมภพนั่งเปิดอัลบั้มภาพถ่ายเก่า ๆ ที่รื้อมากองไว้บนโต๊ะด้วยอารมณ์ผ่อนคลายและออกจะใจ
หายนิด ๆ ที่เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน เผลอหน่อยเดียววันพรุ่งนี้ก็มาถึง น้องสาวคนเล็กจะได้ออกเหย้าออกเรือนเป็นฝั่งฝา แทบไม่น่าเชื่อว่าสาวน้อยขี้แงและเอาแต่ใจในวันวานกำลังจะมีครอบครัวเป็นของตัวเอง มือขาวสะอาดดึงภาพถ่ายใบหนึ่งออกมา ใบถ่ายใบนั้นคือตัวเขาเมื่อครั้งยังเด็กโอบอุ้มหนูน้อยตัวแดง ๆ เมื่อแรกเกิด
“พี่หมากขา...” เสียงออดอ้อนมาพร้อมกับลำแขนกลมกลึงที่ตวัดโอบรอบคอแผ่วเบา เทียมภพวางรูปในมือลงแล้วโอบ
ตัวคนเกิดทีหลังเอาไว้แนบอกพร้อมกับกดจมูกลงบนขมับนวลอย่างอ่อนโยน
“ทำไมยังไม่ไปนอนอีก เดี๋ยวเจ้าสาวก็กลายเป็นหมีแพนด้านะ”
“น้องพลูเพิ่งเอาพวงมาลัยไปไหว้พ่อกับแม่แล้วก็คุณย่า เอ...ดูอะไรอยู่คะเนี่ย” หญิงสาวเปิดอัลบั้มภาพถ่ายแล้วก็ยิ้มออกมา เป็นรูปของหล่อนทุกวัยไล่ตั้งแต่ตอนเป็นทารกจนถึงตอนจบปริญญาตรี สาวน้อยนั่งอิงอกพี่ชายแล้วดูรูปพวกนั้นด้วยกันพลางผลัดกันเล่าเรื่องอดีตอย่างเพลิดเพลิน
“ดูสิ...เมื่อวานยังร้องงอแงจะเอาตุ๊กตาอยู่เลย พรุ่งนี้ก็ต้องจากอกพี่ไปเป็นของคนอื่นแล้ว”
“น้องพลูยังเป็นน้องของพี่หมากอยู่วันยันค่ำ...” แทนดาวเลื่อนตัวลงไปนั่งกับพื้นแล้วจับมืออุ่นของพี่ชายมาแนบแก้ม
“ตลอดชีวิตนี้...น้องพลูสำนึกเสมอว่า สองมือนี้เองที่อุ้มชูดูแลมา หล่อหลอมให้น้องพลูเติบโตขึ้น มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีจนประสบความสำเร็จได้เพราะพี่ชายที่ชื่อเทียมภพ ชาตินี้ไม่วันทดแทนบุญคุณหมด” หญิงสาวปล่อยให้น้ำตาไหลรินเป็นสาย ความใจหายบังเกิดขึ้นเมื่อตระหนักว่านับแต่พรุ่งนี้จะต้องโบยบินจากอ้อมอกที่คอยปกป้องดูแลมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกไปอยู่ ณ บ้านหลังใหม่
“พี่ก็ดีใจที่มีน้องสาวคนนี้ หนูคือของขวัญจากสวรรค์ คือดวงดาวที่พาความสดใสมาสู่ครอบครัวของเรา พี่มีความสุขที่ได้เฝ้าดูหนูค่อย ๆ เติบโต ได้อาบน้ำ ป้อนข้าว หัดพูด หัดเดิน ได้อบรมสั่งสอนจนถึงวันที่หนูมีครอบครัว...ถึงวันนี้พี่ก็หมดห่วง” ปลายนิ้วอุ่นค่อย ๆ ปาดเช็ดน้ำตาให้เฉกเช่นที่เคยทำมาเสมอตั้งแต่เมื่อครั้งเยาว์วัย
“แทนดาว...ต่อไปหนูจะเป็น แทนดาว ธาราพิศุทธิ์ จะเป็นภรรยาของสามีที่จะรักและดูแลหนูต่อจากพี่ วันหนึ่งหนูจะต้องเป็นแม่คน ในฐานะพี่ชาย...ก็จะให้โอวาท...” แทนดาวมองหน้าพี่ชายแล้วตั้งใจฟังด้วยท่าทีสงบนิ่ง
“การเป็นภรรยาที่ดีไม่ใช่แค่ทำงานบ้านเป็น ปรนนิบัติเก่งเพียงเท่านี้ แต่หนูต้องเป็นได้ทั้งคู่คิด เป็นเพื่อน บางครั้งก็ต้องเป็นแม่ อย่าเอาแต่ใจ อย่าใช้อารมณ์ คิดทุกครั้งก่อนพูดหรือทำอะไร การเป็นสามีภรรยามันไม่ได้ราบรื่นเหมือนตอนเป็นแฟน ต้องรู้จักการประนีประนอม เอาใจเขามาใส่ใจเรา หนูจงปฏิบัติต่อสามีเหมือนกับที่ปฏิบัติกับพ่อแม่ กับพี่ จงรักและซื่อสัตย์ ไว้ใจและให้เกียรติซึ่งกันและกัน น้องพลู...พี่เชื่อว่าหนูจะต้องเป็นภรรยาที่ดีและเป็นแม่ซึ่งจะเป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูก”
น้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนสั่งสอนน้องสาวคนเดียวด้วยความปรารถนาดีจากก้นบึ้งของหัวใจ เทียมภพให้ข้อคิดในการครองเรือนที่ได้ประสบการณ์ตรงจากการใช้ชีวิตคู่มาถ่ายทอดให้น้องฟัง แทนดาวซึมซับทุกคำพูดไว้ในหัวใจ สองมือน้อยประนมขึ้นจรดหว่างอก ใบหน้างดงามแฉล้มปนทั้งรอยสุขและรอยอาลัย
“น้องพลูจะจดจำคำสั่งสอนของพี่หมากและจะปฏิบัติให้เกิดผลแต่ในทางที่ดี พี่หมากขา...ไม่มีสักวินาทีเดียวหรือแม้สักลมหายใจที่น้องพลูไม่รักพี่ พี่หมากเป็นยิ่งกว่าพี่ชาย คือพ่อ คือแม่ คือทุก ๆ อย่างที่ผู้ชายทั้งโลกนี้เป็นไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยทำให้น้องพลูมาตั้งแต่เกิดจวบจนวินาทีนี้ น้องพลูขอกราบขอบพระคุณด้วยหัวใจ สองมือ และพวงมาลัยนี้ค่ะ”
แทนดาวก้มลงกราบกรานแทบเท้าของคนเป็นพี่ด้วยความสำนึกในบุญคุณและรักในสายเลือดเปี่ยมล้น เทียมภพรับพวงมาลัยน้อยที่กรองจากใจของน้องแล้วลูบศีรษะเล็กอย่างอาทร จากนั้นก็ช้อนร่างเล็กที่สะอึกสะอื้นมากอดไว้แนบตัว ชายหนุ่มสุดกลั้นกับอารมณ์ลึกซึ้งที่น้องสาวแสดงกตเวทิตาต่อตนเสมอบิดาบังเกิดเกล้าก็เก็บกลั้นอาการไว้ไม่อยู่ ปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาด้วยความตื้นตันเช่นกัน
เป็นเวลาดึกมากแล้วที่เทียมภพเดินกลับเข้าห้องหลังจากไปส่งน้องสาวเข้านอน ชายหนุ่มวางพวงมาลัยชายเดียวไว้บนโต๊ะหัวเตียงแล้วเดินเข้าไปดูลูกในห้องเด็กที่เปิดประตูเชื่อมถึงกันได้ รมย์นลินเห็นสามีเดินเข้ามาก็วางมือจากการพับผ้าอ้อม หล่อนเข้าอกเข้าใจว่าเขารู้สึกอย่างไร เมื่อครู่ก็แทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ตอนที่เห็นภาพความรักความผูกพันของสองพี่น้อง “เจ้าปูนหลับสนิทเลยนะ...ซนมาทั้งวัน แล้ววันนี้เจ้าฉุนกวนคุณมากหรือเปล่า” เทียมภพก้มลงหอมแก้มบุตรชายคนโตแล้วก็จูบกระหม่อมบุตรชายคนที่สองที่เพิ่งคลอดได้เพียงเดือนเศษ เด็กชายผ่านภพ ทวีกิจไพศาล หรือน้องยาฉุน
“ก็พอดูค่ะ กลางวันก็ไม่ค่อยจะนอน ก็ตาปูนน่ะสิคะ...ชวนน้องเล่นทั้งวัน เดี๋ยวก็แอบเข้ามาดู ขนาดให้แป๋มพาไปเล่นไกล ๆ ยังร้องจะมาหาน้อง ไม่ต้องหลับต้องนอนกัน นี่กินนมเสร็จก็เพิ่งจะหลับไปเมื่อกี้เองค่ะ”
“เหนื่อยแย่เลย พักผ่อนบ้างนะครับ ปล่อยให้เด็กดูบ้างก็ได้” เทียมภพจูบแก้มภรรยาอย่างแสนรัก
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เหนื่อย...แต่ก็มีความสุขที่ได้ดูแลลูก ๆ ได้ดูแลคุณ แฟงบอกแล้วไงคะ...ว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด สมกับความรักที่คุณและครอบครัวมอบให้”
“ผมโชคดีเหลือเกินที่มีภรรยาเเสนดีอย่างคุณ และที่สำคัญ...มีลูก ๆ ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสเป็นพ่อคน ขอบคุณนะครับแฟง...ที่มีลูกชายน่ารักให้ผม ขอบคุณที่ดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี”
รมย์นลินมองสามีอย่างเทิดทูนแล้วมองบุตรชายทั้งสองด้วยความรักอันมากประมาณสุดประเมินได้ ตั้งแต่แต่งเข้ามาในบ้านหลังนี้ ไม่มีวินาทีเดียวที่จะรู้สึกเสียใจ หล่อนได้รับความรักและเมตตา ได้รับเกียรติเชิดชู เทียมภพเป็นสามีที่ประเสริฐ หญิงสาวตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าจะฟูมฟักเลี้ยงดูสายเลือดของทวีกิจให้ดีที่สุด ให้เติบโตสง่างามเฉกเช่นเดียวกับบิดาของพวกเขา
“เดี๋ยวพอเจ้าฉุนครบขวบ...เรามีคนที่สามกันนะ”
“สองคนยังป่วนไม่พออีกหรือคะ” เสียงออดอ้อนพูดชิดริมหูเล่นเอาคนฟังต้องอุทานอย่างตกอกตกใจ
“น่านะ...เจ้าสองตัวนี้แต่งเมียทีก็เสียเงินหลายอยู่นะ ผมอยากได้ลูกสาวสักคนเอาไว้ดูแลพ่อแม่ เวลาที่แกประจบฉอเลาะน่ะนะ...มันชื่นใจมีความสุขอย่าบอกใคร เหมือนน้องพลูน่ะ...ตอนเล็ก ๆ ขี้อ้อนอย่างกับอะไร ไปอยู่ไหนได้ไม่นานต้องรีบกลับบ้านเพราะคิดถึง อีกอย่าง...พอออกเรือนก็จะได้เรียกสินสอดเอาเงินเข้าบ้านมั่ง”
“แล้วถ้าได้ผู้ชายอีกล่ะคะ”
“ผมไม่ถอดใจง่าย ๆ หรอก ก็ทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ลูกสาวนั่นล่ะ” คำตอบมาพร้อมกับประกายตาแพรวพราว รมย์นลินเลยรีบเปลี่ยนเรื่อง ดึงตัวสามีกลับมาคุยกันต่อในห้องเพราะกลัวลูกตื่น
“เมื่อพักใหญ่พี่ชลโทรมาหาแฟงแล้วก็อยากคุยกับน้องพลู แฟงลงไปที่ห้องหนังสือยังเห็นว่าคุณคุยกับเธออยู่”
“ชะ...อดรนทนไม่ไหวหรือไง พรุ่งนี้ก็จะได้เข้าหออยู่แล้ว” ชายหนุ่มอดค่อนแคะว่าที่น้องเขยไม่ได้
“นี่...พี่ชลแค่จะถามน้องพลูว่าจะให้ขนเปียโนของเธอไปที่บ้านวันไหน จะได้ว่าจ้างรถ”
“บอกมันว่าไม่ต้อง ผมจะจัดการเอง”
“ว่าแต่...คุณวางใจได้เลยนะคะ แฟงรับรองเลยว่าน้องพลูจะไม่มีวันเสียใจที่ได้แต่งงานกับพี่ชายของแฟง พี่ชลรักน้องพลูมากและพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเธอให้ดีที่สุดเท่า ๆ กับที่คุณเคยทำ คุณหมากเชื่อแฟงไหมคะ” รมย์นลินมองหน้าสามีพร้อมกับบีบมืออย่างต้องการยืนยันคำพูดของตัวเอง เทียมภพยิ้มให้อย่างอ่อนโยนแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจเช่นเดียวกัน
“ครับ...ผมเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์”
ปลูกรักในรั้วใจ โดย อิสวารายา (ตอนพิเศษสุดริมรั้ว) รอบรั้วหัวใจ
งานมงคลสมรสถูกกำหนดขึ้นในอีกสามเดือนต่อมา บ้านทวีกิจไพศาลถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีไทยในช่วงเช้า หลังจากนั้นจะมีงานเลี้ยงรับรองที่ธาราเพื่อให้พนักงานจากสองฝ่ายและแขกบางส่วนที่ไม่สามารถไปร่วมงานฉลองสมรสที่เขาค้อในอีกสามวันถัดไป ช่วงสองสามวันนี้ เจ้าบ่าวเจ้าสาวต่างวุ่นวายกับกิจของตนจนไม่ได้พบปะกันเลย ครั้งสุดท้ายที่พบกันคือเมื่อวานซืนที่ฝ่ายชายมาช่วยแทนดาวขนข้าวของชุดท้ายไปไว้ที่เรือนหอ
บ้านทวีกิจไพศาลเอิกเกริกครื้นเครงอีกครั้งเพราะเป็นการรวมตัวอีกครั้งของญาติมิตรและเพื่อน ๆ เจ้าสาวที่มาช่วยเตรียมงาน งานนี้จัดเป็นพิธีไทยแท้ตามความประสงค์ของคุณลำเภา เน้นความประณีตของศิลปะไทยและฝีมือเชิงช่างล้วน ๆ โดยไม่ได้ว่าจ้างออแกไนเซอร์ ทุกอย่างล้วนมาจากแรงกายแรงใจของเพื่อนฝูงญาติพี่น้องกับกลุ่มอาจารย์และนักศึกษาคห กรรมที่เคยเป็นลูกศิษย์ลูกหาของคุณลำเภามาช่วยด้วย
บริเวณงานประดับดอกไม้สดและงานเจียนใบตองทั้งหมด บรรดาดอกไม้ใบไม้ล้วนมีชื่อมงคลตามตำราโบราณ ตรงทางเดินปูนจากประตู้รั้วมาจนถึงหน้ามุขมีตัวหงส์ประดิษฐ์จากใบตองเรียงกันจำนวนหกคู่ สนามหญ้าตัดเตียนเขียวขจีตั้งโต๊ะและเก้าอี้กลางแจ้งโดยอาศัยร่มเงาจากไม้ใหญ่ไม่ต้องตั้งเต็นท์ขัดขวางทัศนียภาพ ฟากหนึ่งตั้งซุ้มอาหารที่คุณลำเภาประกอบเองทั้งหมด รายการของคาวหวานล้วนมีความหมายมงคล ไม่ไกลกันกันเป็นเวทียกพื้นจัดไว้สำหรับวงดนตรีไทยและการแสดง ข้างเวทีมีจอขนาดใหญ่ถ่ายทอดสดพิธีการข้างใน
หน้ามุขกับชายคาบ้านตลอดจนหน้าต่างประตูทุกบ้านติดม่านดอกรักสลับบานไม่รู้โรยถักลายตาข่ายอันมีความหมายเป็นมงคลว่า ‘รักไม่รู้โรย’ ตามจุดต่าง ๆ ตั้งพุ่มแจกันดอกไม้ปักแซมด้วยผลไม้มงคลแกะสลักลวดลายวิจิตรบรรจง ทุกอย่างล้วนรังสรรค์อย่างละเอียดประณีตอาบมนตร์ขลังแห่งวัฒนธรรมการกินอยู่อย่างไทยที่ใครได้มาสัมผัสก็จะต้องประทับใจ
ห้องโถงใหญ่ถูกกำหนดให้เป็นส่วนพิธีการทั้งสู่ขอและรดน้ำ ภายในห้องตกแต่งพานพุ่มดอกบัวสีชมพูกับใบตองปะดิษฐ์ บนเพดานสูงห้อยเครื่องแขวนทรงกลมหุ้มตาข่ายมะลิปล่อยชายอุบะระย้า แต่ละพวงแขวนไล่ระดับสูงต่ำอย่างลงตัว สุดโถงตั้งโต๊ะรดน้ำสองชุด ด้านหน้าห้อยปิดด้วยตาข่ายดอกรักร้อยเป็นม่านผืนใหญ่ชายยาวจรดพื้น มีอ่างเคลือบลอยดอกบัวตั้งพานทองแต่งด้วยมาลัยกรองเก้าชายรองรับน้ำสังข์ ฉากหลังตั่งรดน้ำประดิดประดอยจากดอกบานไม่รู้โรย ดอกพุดและบัวเป็นลวดลายไทยสุดอลังการ มีสายมะลิร้อยสลับกลีบกุหลาบดัดคดโค้งเป็นตัวอักษรชื่อย่อของคู่บ่าวสาว ข้างโต๊ะรดน้ำคือพานขนาดใหญ่ใส่ของชำร่วยเป็นผอบเบญจรงค์ห้าสีบรรจุในกล่องผ้าไหมสวยหรู มีบุหงาแห้งห่อผ้าตาข่ายใส่ในผอบที่วาดลวดลายไทยอ่อนช้อยล้อมรอบอักษรย่อชื่อบ่าวสาว ของชำร่วยนี้คุณลำเภาสั่งทำจากศูนย์ศิลปาชีพ นอกจากจะสวยงามน่าใช้แล้ว ยังทรงคุณค่าของอัตลักษณ์ไทย
“พวกเราไปนอนก่อนนะยัยพลูด่าง อ้อ...แล้วก็อย่านอนดึกนัก เดี๋ยวตาคล้ำ...มากส์หน้าหน่อยก็ดีนะ”
หนึ่งในเพื่อนเจ้าสาวที่มาปักหลักช่วยงานกันล่วงหน้าสามวันสามคืนบอกทิ้งท้ายแล้วก็พากันไปนอนเอาแรง คงเหลือเพียงว่าที่เจ้าสาวที่เพิ่งจะวางมือจากการกรองมาลัย หญิงสาวขยับตัวจากความเมื่อยขบเพราะนั่งหลังขดหลังแข็งตั้งแต่ตอนเย็นเพื่อร้อยมาลัยกลมชายเดียวสามพวง สองพวงแรกตั้งใจเอาไปกราบบิดามารดาและคุณย่าเพื่อเป็นการขอบพระคุณที่เลี้ยงดูมาจนถึงเวลาออกเหย้าออกเรือน ส่วนอีกพวกหนึ่งตั้งใจจะมอบให้พี่ชาย
ภายในห้องหนังสือ เทียมภพนั่งเปิดอัลบั้มภาพถ่ายเก่า ๆ ที่รื้อมากองไว้บนโต๊ะด้วยอารมณ์ผ่อนคลายและออกจะใจ
หายนิด ๆ ที่เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน เผลอหน่อยเดียววันพรุ่งนี้ก็มาถึง น้องสาวคนเล็กจะได้ออกเหย้าออกเรือนเป็นฝั่งฝา แทบไม่น่าเชื่อว่าสาวน้อยขี้แงและเอาแต่ใจในวันวานกำลังจะมีครอบครัวเป็นของตัวเอง มือขาวสะอาดดึงภาพถ่ายใบหนึ่งออกมา ใบถ่ายใบนั้นคือตัวเขาเมื่อครั้งยังเด็กโอบอุ้มหนูน้อยตัวแดง ๆ เมื่อแรกเกิด
“พี่หมากขา...” เสียงออดอ้อนมาพร้อมกับลำแขนกลมกลึงที่ตวัดโอบรอบคอแผ่วเบา เทียมภพวางรูปในมือลงแล้วโอบ
ตัวคนเกิดทีหลังเอาไว้แนบอกพร้อมกับกดจมูกลงบนขมับนวลอย่างอ่อนโยน
“ทำไมยังไม่ไปนอนอีก เดี๋ยวเจ้าสาวก็กลายเป็นหมีแพนด้านะ”
“น้องพลูเพิ่งเอาพวงมาลัยไปไหว้พ่อกับแม่แล้วก็คุณย่า เอ...ดูอะไรอยู่คะเนี่ย” หญิงสาวเปิดอัลบั้มภาพถ่ายแล้วก็ยิ้มออกมา เป็นรูปของหล่อนทุกวัยไล่ตั้งแต่ตอนเป็นทารกจนถึงตอนจบปริญญาตรี สาวน้อยนั่งอิงอกพี่ชายแล้วดูรูปพวกนั้นด้วยกันพลางผลัดกันเล่าเรื่องอดีตอย่างเพลิดเพลิน
“ดูสิ...เมื่อวานยังร้องงอแงจะเอาตุ๊กตาอยู่เลย พรุ่งนี้ก็ต้องจากอกพี่ไปเป็นของคนอื่นแล้ว”
“น้องพลูยังเป็นน้องของพี่หมากอยู่วันยันค่ำ...” แทนดาวเลื่อนตัวลงไปนั่งกับพื้นแล้วจับมืออุ่นของพี่ชายมาแนบแก้ม
“ตลอดชีวิตนี้...น้องพลูสำนึกเสมอว่า สองมือนี้เองที่อุ้มชูดูแลมา หล่อหลอมให้น้องพลูเติบโตขึ้น มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีจนประสบความสำเร็จได้เพราะพี่ชายที่ชื่อเทียมภพ ชาตินี้ไม่วันทดแทนบุญคุณหมด” หญิงสาวปล่อยให้น้ำตาไหลรินเป็นสาย ความใจหายบังเกิดขึ้นเมื่อตระหนักว่านับแต่พรุ่งนี้จะต้องโบยบินจากอ้อมอกที่คอยปกป้องดูแลมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกไปอยู่ ณ บ้านหลังใหม่
“พี่ก็ดีใจที่มีน้องสาวคนนี้ หนูคือของขวัญจากสวรรค์ คือดวงดาวที่พาความสดใสมาสู่ครอบครัวของเรา พี่มีความสุขที่ได้เฝ้าดูหนูค่อย ๆ เติบโต ได้อาบน้ำ ป้อนข้าว หัดพูด หัดเดิน ได้อบรมสั่งสอนจนถึงวันที่หนูมีครอบครัว...ถึงวันนี้พี่ก็หมดห่วง” ปลายนิ้วอุ่นค่อย ๆ ปาดเช็ดน้ำตาให้เฉกเช่นที่เคยทำมาเสมอตั้งแต่เมื่อครั้งเยาว์วัย
“แทนดาว...ต่อไปหนูจะเป็น แทนดาว ธาราพิศุทธิ์ จะเป็นภรรยาของสามีที่จะรักและดูแลหนูต่อจากพี่ วันหนึ่งหนูจะต้องเป็นแม่คน ในฐานะพี่ชาย...ก็จะให้โอวาท...” แทนดาวมองหน้าพี่ชายแล้วตั้งใจฟังด้วยท่าทีสงบนิ่ง
“การเป็นภรรยาที่ดีไม่ใช่แค่ทำงานบ้านเป็น ปรนนิบัติเก่งเพียงเท่านี้ แต่หนูต้องเป็นได้ทั้งคู่คิด เป็นเพื่อน บางครั้งก็ต้องเป็นแม่ อย่าเอาแต่ใจ อย่าใช้อารมณ์ คิดทุกครั้งก่อนพูดหรือทำอะไร การเป็นสามีภรรยามันไม่ได้ราบรื่นเหมือนตอนเป็นแฟน ต้องรู้จักการประนีประนอม เอาใจเขามาใส่ใจเรา หนูจงปฏิบัติต่อสามีเหมือนกับที่ปฏิบัติกับพ่อแม่ กับพี่ จงรักและซื่อสัตย์ ไว้ใจและให้เกียรติซึ่งกันและกัน น้องพลู...พี่เชื่อว่าหนูจะต้องเป็นภรรยาที่ดีและเป็นแม่ซึ่งจะเป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูก”
น้ำเสียงอบอุ่นอ่อนโยนสั่งสอนน้องสาวคนเดียวด้วยความปรารถนาดีจากก้นบึ้งของหัวใจ เทียมภพให้ข้อคิดในการครองเรือนที่ได้ประสบการณ์ตรงจากการใช้ชีวิตคู่มาถ่ายทอดให้น้องฟัง แทนดาวซึมซับทุกคำพูดไว้ในหัวใจ สองมือน้อยประนมขึ้นจรดหว่างอก ใบหน้างดงามแฉล้มปนทั้งรอยสุขและรอยอาลัย
“น้องพลูจะจดจำคำสั่งสอนของพี่หมากและจะปฏิบัติให้เกิดผลแต่ในทางที่ดี พี่หมากขา...ไม่มีสักวินาทีเดียวหรือแม้สักลมหายใจที่น้องพลูไม่รักพี่ พี่หมากเป็นยิ่งกว่าพี่ชาย คือพ่อ คือแม่ คือทุก ๆ อย่างที่ผู้ชายทั้งโลกนี้เป็นไม่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยทำให้น้องพลูมาตั้งแต่เกิดจวบจนวินาทีนี้ น้องพลูขอกราบขอบพระคุณด้วยหัวใจ สองมือ และพวงมาลัยนี้ค่ะ”
แทนดาวก้มลงกราบกรานแทบเท้าของคนเป็นพี่ด้วยความสำนึกในบุญคุณและรักในสายเลือดเปี่ยมล้น เทียมภพรับพวงมาลัยน้อยที่กรองจากใจของน้องแล้วลูบศีรษะเล็กอย่างอาทร จากนั้นก็ช้อนร่างเล็กที่สะอึกสะอื้นมากอดไว้แนบตัว ชายหนุ่มสุดกลั้นกับอารมณ์ลึกซึ้งที่น้องสาวแสดงกตเวทิตาต่อตนเสมอบิดาบังเกิดเกล้าก็เก็บกลั้นอาการไว้ไม่อยู่ ปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาด้วยความตื้นตันเช่นกัน
เป็นเวลาดึกมากแล้วที่เทียมภพเดินกลับเข้าห้องหลังจากไปส่งน้องสาวเข้านอน ชายหนุ่มวางพวงมาลัยชายเดียวไว้บนโต๊ะหัวเตียงแล้วเดินเข้าไปดูลูกในห้องเด็กที่เปิดประตูเชื่อมถึงกันได้ รมย์นลินเห็นสามีเดินเข้ามาก็วางมือจากการพับผ้าอ้อม หล่อนเข้าอกเข้าใจว่าเขารู้สึกอย่างไร เมื่อครู่ก็แทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ตอนที่เห็นภาพความรักความผูกพันของสองพี่น้อง “เจ้าปูนหลับสนิทเลยนะ...ซนมาทั้งวัน แล้ววันนี้เจ้าฉุนกวนคุณมากหรือเปล่า” เทียมภพก้มลงหอมแก้มบุตรชายคนโตแล้วก็จูบกระหม่อมบุตรชายคนที่สองที่เพิ่งคลอดได้เพียงเดือนเศษ เด็กชายผ่านภพ ทวีกิจไพศาล หรือน้องยาฉุน
“ก็พอดูค่ะ กลางวันก็ไม่ค่อยจะนอน ก็ตาปูนน่ะสิคะ...ชวนน้องเล่นทั้งวัน เดี๋ยวก็แอบเข้ามาดู ขนาดให้แป๋มพาไปเล่นไกล ๆ ยังร้องจะมาหาน้อง ไม่ต้องหลับต้องนอนกัน นี่กินนมเสร็จก็เพิ่งจะหลับไปเมื่อกี้เองค่ะ”
“เหนื่อยแย่เลย พักผ่อนบ้างนะครับ ปล่อยให้เด็กดูบ้างก็ได้” เทียมภพจูบแก้มภรรยาอย่างแสนรัก
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เหนื่อย...แต่ก็มีความสุขที่ได้ดูแลลูก ๆ ได้ดูแลคุณ แฟงบอกแล้วไงคะ...ว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด สมกับความรักที่คุณและครอบครัวมอบให้”
“ผมโชคดีเหลือเกินที่มีภรรยาเเสนดีอย่างคุณ และที่สำคัญ...มีลูก ๆ ที่ทำให้ผมได้มีโอกาสเป็นพ่อคน ขอบคุณนะครับแฟง...ที่มีลูกชายน่ารักให้ผม ขอบคุณที่ดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี”
รมย์นลินมองสามีอย่างเทิดทูนแล้วมองบุตรชายทั้งสองด้วยความรักอันมากประมาณสุดประเมินได้ ตั้งแต่แต่งเข้ามาในบ้านหลังนี้ ไม่มีวินาทีเดียวที่จะรู้สึกเสียใจ หล่อนได้รับความรักและเมตตา ได้รับเกียรติเชิดชู เทียมภพเป็นสามีที่ประเสริฐ หญิงสาวตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าจะฟูมฟักเลี้ยงดูสายเลือดของทวีกิจให้ดีที่สุด ให้เติบโตสง่างามเฉกเช่นเดียวกับบิดาของพวกเขา
“เดี๋ยวพอเจ้าฉุนครบขวบ...เรามีคนที่สามกันนะ”
“สองคนยังป่วนไม่พออีกหรือคะ” เสียงออดอ้อนพูดชิดริมหูเล่นเอาคนฟังต้องอุทานอย่างตกอกตกใจ
“น่านะ...เจ้าสองตัวนี้แต่งเมียทีก็เสียเงินหลายอยู่นะ ผมอยากได้ลูกสาวสักคนเอาไว้ดูแลพ่อแม่ เวลาที่แกประจบฉอเลาะน่ะนะ...มันชื่นใจมีความสุขอย่าบอกใคร เหมือนน้องพลูน่ะ...ตอนเล็ก ๆ ขี้อ้อนอย่างกับอะไร ไปอยู่ไหนได้ไม่นานต้องรีบกลับบ้านเพราะคิดถึง อีกอย่าง...พอออกเรือนก็จะได้เรียกสินสอดเอาเงินเข้าบ้านมั่ง”
“แล้วถ้าได้ผู้ชายอีกล่ะคะ”
“ผมไม่ถอดใจง่าย ๆ หรอก ก็ทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ลูกสาวนั่นล่ะ” คำตอบมาพร้อมกับประกายตาแพรวพราว รมย์นลินเลยรีบเปลี่ยนเรื่อง ดึงตัวสามีกลับมาคุยกันต่อในห้องเพราะกลัวลูกตื่น
“เมื่อพักใหญ่พี่ชลโทรมาหาแฟงแล้วก็อยากคุยกับน้องพลู แฟงลงไปที่ห้องหนังสือยังเห็นว่าคุณคุยกับเธออยู่”
“ชะ...อดรนทนไม่ไหวหรือไง พรุ่งนี้ก็จะได้เข้าหออยู่แล้ว” ชายหนุ่มอดค่อนแคะว่าที่น้องเขยไม่ได้
“นี่...พี่ชลแค่จะถามน้องพลูว่าจะให้ขนเปียโนของเธอไปที่บ้านวันไหน จะได้ว่าจ้างรถ”
“บอกมันว่าไม่ต้อง ผมจะจัดการเอง”
“ว่าแต่...คุณวางใจได้เลยนะคะ แฟงรับรองเลยว่าน้องพลูจะไม่มีวันเสียใจที่ได้แต่งงานกับพี่ชายของแฟง พี่ชลรักน้องพลูมากและพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเธอให้ดีที่สุดเท่า ๆ กับที่คุณเคยทำ คุณหมากเชื่อแฟงไหมคะ” รมย์นลินมองหน้าสามีพร้อมกับบีบมืออย่างต้องการยืนยันคำพูดของตัวเอง เทียมภพยิ้มให้อย่างอ่อนโยนแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจเช่นเดียวกัน
“ครับ...ผมเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์”