[CR] ตะลอนเที่ยวยุโรป ตามฝันไปดู FC Bayern Munich [ฝรั่งเศส – เบลเยี่ยม – เยอรมัน – ออสเตรีย]

เดินทางคนเดียวไม่ได้ยากและไม่น่ากลัวอย่างที่หลาย ๆ คนคิด และเที่ยวคนเดียวก็ไม่ได้เหงา กระทู้นี้ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ผู้ที่อยากท่องเที่ยวทุกคนค่ะ ไม่มีอะไรยากเกินกว่าความตั้งใจของคนอีกแล้ว
หากมีอะไรผิดพลาด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
เริ่มกันเลยดีกว่า....


นี่คือจุดเริ่มต้นของทริปนี้

เพราะกัปตันจะแขวนสตั๊ดหลังหมดสัญญากับ FC Bayern ในปี 2018 ชั้นต้องไปดูกัปตันให้ได้!!!


ตอนเด็ก ๆ เราเคยฝันว่าอยากจะไปดู FC Bayern Munich แข่งในสนามสักครั้ง มันคงจะฟินมากแน่ ๆ และเราอยากดูกัปตัน Philipp Lahm เล่นในสนามด้วย ซึ่งโอกาสเดียวที่จะได้ดูเค้าเล่น ก็ต้องเป็นฟุตบอลสโมสรเท่านั้น (เพราะเค้าประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปแล้ว)
ทริปนี้มีความขี้เกียจติดตัวสูงมาก ทั้งงานยุ่ง วุ่นวาย มีทริปแทรกระหว่างทางเข้ามาทุกวีค เลยไม่ค่อยมีเวลาหาข้อมูลมากมายนัก เราเตรียมข้อมูลไปแบบคร่าว ๆ หลวม ๆ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ตามอารมณ์ทั้งนั้น เพราะเป้าหมายหลักของเราคือการไปดูฟุตบอล (คือถ้าฟุตบอลแพ้ขึ้นมา คงช้ำหนักค่ะ) ส่วนที่อื่นที่ได้ไปถือว่าเป็นกำไร ครั้งแรกเลย เราตั้งใจจะไปเยอรมันประเทศเดียว (ก็ชั้นจะไปดูฟุตบอลนี่นา) แต่พอเริ่มหาข้อมูลอย่างจริงจังทั้งตั๋วเครื่องบินและตั๋วรถไฟ รถบัสระหว่างประเทศแล้ว ทริปนี้ของเราเลยออกมาเป็นแบบนี้

France (Paris)
Belgium (Brussels & Brugge)
Germany (Cologne, Wurzburg, Rothenburg ob der Tauber, Berchtesgaden, Fussen, Munich)
Austria (Salzburg)

ก่อนออกเดินทาง ทริปนี้อุปสรรคมากมาย จนทำให้กลัวว่าจะไมได้ไปแล้ว เพราะเราไม่ได้ทำงานในไทย (แต่แพลนไปเที่ยวช่วง สงกรานต์ เพราะคิดว่าช่วงนั้นคงได้ย้ายกลับไปทำงานที่ไทยแล้ว) ช่วงนั้นงานวุ่นวายมาก จะได้ไปรึป่าวนะ ลุ้นมาก ๆ (การลงทุนมีความเสี่ยง การจองตั๋วเครื่องล่วงหน้าก็เช่นกัน) แต่สุดท้ายก็ได้กลับมา (ขอบคุณลูกพี่ใจดี ที่เห็นใจหนูค่ะ) ทริปนี้จึงเป็นจริงขึ้นมาได้
คราวซวยยังไม่จบแค่นั้น ก่อนเดินทางเพียง 1 วันคอมก็เสียขึ้นมากระทันหัน พัง ดับ ตายคาที่ไปเลย ทุกอย่างที่เตรียมไว้ (ถึงแม้จะไม่มีอะไรมาก แต่มันก็มีและจำเป็นมาก) อยู่ในคอมนั้นทั้งหมด ไม่ได้เก็บ back up ไว้ข้างนอกด้วย สิ่งที่ทำได้ตอนนั้นคือ ดาวน์โหลดตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ประกันการเดินทางและตั๋วต่าง ๆ ที่จองล่วงหน้ามาแล้ว (รถไฟ พิพิธภัณฑ์) จากเมล์แล้วปริ้นออกมาก่อน ส่วนอย่างอื่นค่อยไปว่ากันข้างหน้า feeling ล้วน ๆ (เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่ารอทำอะไรจนวินาทีสุดท้าย)

ทริปนี้มีทั้งเรื่องช๊อค เรื่องน่าตกใจ น่ายินดี เศร้าและฮา เยอะแยะไปหมดเลย ตอนนั้นหลาย ๆ เรื่องมันรู้สึกแย่มาก แต่พอมาเล่าตอนนี้แล้วมันฮามากแบบว่าชั้นผ่านจุด ๆ นั้นมาได้ยังไง

++++++++++++++++++++

การเตรียมตัว [Preparation]
1. ตั๋วเครื่องบิน

อยากได้ของถูกต้องเลือกตั๋วโปรโมชั่นเท่านั้น เพราะฉะนั้น เราจึงทำการจองตั๋วเครื่องก่อนตามโปรที่จัดกันออกมา (วิธีนี้มีความเสี่ยง คือตั๋วโปรโมชั่นส่วนใหญ่จะไม่สามารถ refund คืนเงินได้ หากผลการขอ visa ไม่ผ่าน) ทริปนี้เราใช้บริการของ Etihad Airways สายการบินสัญชาติ UAE ซึ่งมี Hub ใหญ่อยู่ที่ Abu Dhabi
ขาไป - Kuala Lampur, Malaysia - Abu Dhabi - CDG, Paris
ขากลับ –Munich - Abu Dhabi - BKK  

2.แผนการท่องเที่ยว [Trip Planning]
อันนี้จำเป็นมาก เพราะมันจะช่วยเราได้เยอะเลย ยิ่งทำละเอียดเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งสบายขึ้น Trip planning อันนี้ สามารถเอาไปใช้ประกอบขอวีซ่าได้ด้วยค่ะ แต่อย่าเอาเยี่ยงอย่างของเรานะคะ เพราะเราทำ plan ไว้หลวมมาก เรียกว่าเอาไว้ขอวีซ่าอย่างเดียวเลย คิดว่าจะค่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ แต่สุดท้ายขี้เกียจและงานยุ่ง แล้วยังเอาเวลาว่างไปเที่ยวที่อื่นก่อน ก็เลยไม่ได้ทำละเอียด ๆ สักที
ลองหาข้อมูลตามเว็บไซต์ต่าง ๆ แต่เราใช้ 2 เว็บนี้
    http://www.rome2rio.com/      
    https://www.routeperfect.com/     

อันนี้ใช้ขอวีซ่า



ของจริง เพิ่ง brush up หลังจบทริป


3. ที่พัก
เว็บไซต์หลัก ๆ ที่เราใช้จองที่พักมีอยู่ 3 เจ้า
www.booking.com
www.hostelworld.com
www.airbnb.com
หรือบางครั้งก็จองกับ website ของโรงแรมโดยตรง อาจจะได้ราคาที่ถูกกว่าค่ะ
เราจองเป็น Hostel ที่อยู่รวมกันหลาย ๆ คน มีทั้งแบบ 4, 6, 8 เตียงค่ะ ห้องหญิงล้วนบ้าง ห้องรวมบ้างแล้วแต่สะดวกค่ะ โดยสามารถหารีวิวของผู้เข้าพักคนอื่น ๆ ประกอบการตัดสินใจได้จาก www.tripadvisor.com  
การพัก Hostel ห้องรวม ยังไงก็ต้องระวังตัวให้มาก บางที่มีล๊อกเกอร์ให้ แต่ไม่มีแม่กุญแจให้ล๊อก ต้องเตรียมไปเอง
กรณีของเรามีการเปลี่ยนที่พักหลังจากได้วีซ่าแล้วด้วย เพราะเราเพิ่งจองที่พักก่อนขอวีซ่าไม่นานเลยไม่ได้หารีวิวมากมาย แต่ก็มีแค่ที่ปารีส (ที่เดิมอยู่ในโซน 18 เป็นย่านคนผิวดำ เราคิดว่ามันค่อนข้างอันตราย เลยเปลี่ยนที่ใหม่ ราคาแพงขึ้นมาหน่อย แต่ก็ปลอดภัยและสบายใจกว่า) และมิวนิค (Host Airbnb ขอ Cancel เพราะติดธุระด่วน เพื่อนเลยชวนไปอยู่ด้วยกัน)  
ปล. Confirmation จาก Airbnb สามารถใช้ขอ visa ได้ ไม่มีปัญหา

4. Schengen Visa
เนื่องจากประเทศที่เราจะไปเป็นเขตเชงเก้น เราเลยต้องทำ “Schengen Visa” ซึ่งมีเงื่อนไขว่า “ต้องยื่นขอวีซ่าที่สถานฑูตของประเทศที่เราเข้าไปอาศัยอยู่นานที่สุด หรือ หากอาศัยอยู่เป็นเวลาเท่ากัน ให้ยื่นขอจากประเทศที่จะเดินทางเข้าไปเป็นประเทศแรก” อันนี้สำคัญนะคะ ศึกษาให้ดี มีโอกาสเสี่ยงที่จะถูก reject ได้ อย่าใช้ประสบการณ์ว่าขอจากที่นั่นง่ายกว่า ก็เลยยื่นขอที่นั่นแทน
Schengen Visa สามารถขอได้ล่วงหน้า 90 วันก่อนเดินทางเข้าเขต Schengen
เนื่องจากเราอยู่ในประเทศเยอรมันนานที่สุด (8 วัน) เลยขอวีซ่าที่สถานฑูตเยอรมันประจำประเทศไทย ที่สาธร
ก่อนจะไปยื่นขอวีซ่า ต้องทำการนัดผ่านทางเว็บไซต์ของสถานฑูตก่อน
ค่าวีซ่า 2300 บาท (60 EUR)
เอกสารประการการขอวีซ่า (ท่องเที่ยว)
-    หนังสือเดินทาง (ตัวจริงและสำเนา)
-    จดหมายนัดทำวีซ่า (E-mail จากสถานฑูต)
-    ใบคำร้องขอวีซ่า (กรอกในเว็บไซต์และปริ้นท์ออกมาเลย)
-    จดหมายขอร้องขอวีซ่า
-    ตารางแผนการท่องเที่ยว
-    รูปถ่าย 2x2 นิ้ว พื้นหลังขาว 2 รูป
-    ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ (ต้องเลือกใช้ตามบริษัทที่สถานฑูตรับรองเท่านั้น)
-     ตั๋วเครื่องบิน หรือใบจองเที่ยวบิน
-    ใบจองโรงแรม
-    หลักฐานการเงิน (Bank statement 3  เดือนย้อนหลัง, สลิปเงินเดือน 3 เดือนย้อนหลัง)
-    หนังสือรับรองการทำงาน/ การเป็นพนักงาน
-    ใบลาที่ได้รับอนุญาตแล้ว
รายละเอียดเพิ่มเติมศึกษาจาก http://www.bangkok.diplo.de/Vertretung/bangkok/th/08/00-Visa.html
(ขั้นตอนการขอวีซ่าและสัมภาษณ์ไม่ยาก สบายมาก แต่อย่าไปกวนโอ้ยคนสัมภาษณ์ก็พอ)

5. ตั๋วรถไฟและแผนการเดินทางระหว่างประเทศ/ เมือง
เราใช้รถไฟในการเดินทางเกือบตลอดทั้งทริปนี้ แต่ก็ไม่ได้ใช้ pass อะไรพิเศษ เพราะราคาค่อนข้างแพงและไม่ค่อยคุ้ม เราเลยใช้วิธีการจองเร็วให้หน่อยจะได้ราคาถูก และเราใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในเยอรมัน ซึ่งมีตั๋วโปรโมชั่นที่ดีงามมาก ๆ อยู่แล้ว
เราเลือกใช้บริการรถไฟแค่ 2 เว็บนี้ค่ะ
-    รถไฟเยอรมัน (DB)      https://www.bahn.de/p_en/view/index.shtml
-    European Rail     http://en.voyages-sncf.com/en/
ทั้ง 2 เว็บไซต์นี้สามารถจองตั๋วล่วงหน้าได้ก่อนถึง 3 เดือนก่อนวันเดินทาง ยิ่งจองเร็ว ราคาจะยิ่งถูก  
แต่ในเคสของเรา plan ในเยอรมันของเรายังไม่ลงตัวจะถึงวีคสุดท้ายก่อนเดินทาง เราเลยไม่ได้ซื้อตั๋วของเยอรมันล่วงหน้า
แต่เราใช้วิธีการซื้อ Probe Bahn 25 แทน

[Probe Bahn 25]
เป็นบัตรส่วนลดค่าตั๋วรถไฟ 25% ราคา 19 EUR สามารถใช้ได้ 3 เดือนนับจากวันเริ่มใช้งาน แต่บัตรจะต่ออายุอัตโนมัติ หากไม่มีการแจ้งยกเลิกภายใน 6 สัปดาห์ก่อนจะครบกำหนด 3 เดือน
ควรซื้อบัตรนี้หรือไม่ ?? เป็นคำถามที่เราพยายามหาคำตอบอยู่นานมาก (สุดท้าย เพื่อนบอกว่าซื้อ ๆ ไปเถอะ 19 EUR เอง อย่าเรื่องมาก  )
หากเดินทางด้วยกันหลายคน หรือแม้กระทั่งคนเดียวก็ตาม ทาง DB จะมีตั๋วโปรโมชั่นอยู่ค่ะ เป็นตั๋ววัน มีทั้งแบบใช้เดินทางได้ทั้งประเทศ (เดินทางคนเดียว 40 EUR) และเดินทางได้เฉพาะ area (เดินทางคนเดียว 23 EUR) หากเดินทางหลายคน ราคาตั๋วจะลดลงถูกมาก ๆ แต่ใช้ได้เฉพาะกับ local train (RE, RB, S-Bahn, U-Bahn and etc) ใช้ไม่ได้กับ ICE, IC, EC ค่ะ เหมาะสำหรับคนไม่รีบร้อนค่ะและเดินทางระยะทางไม่ไกล
สำหรับเรา การเดินทางคนเดียวและข้ามเมืองไกล ๆ บางครั้งตั๋วโปรโมชั่นพวกนี้ก็ไม่ค่อยตอบโจทย์
สรุปคือ ถ้าไม่ต้องการใช้ รถไฟความเร็วสูง ICE, IC, EC ก็ไม่ต้องซื้อค่ะ
ถ้าสามารถแพลนล่วงหน้านาน ๆ ได้ก็ไม่ต้องซื้อ เพราะซื้อตั๋วล่วงหน้าทางอินเตอร์เน็ตก็จะได้ราคาถูกอยู่แล้ว
หรือหากคำนวณแล้วว่าเราจะได้ส่วนลดเกิน 19 EUR ก็ซื้อได้ค่ะ
บัตรนี้สามารถซื้อได้ทาง DB website โดยหักเงินผ่านบัตรเครดิต เราแค่ปริ้นใน confirmation ที่เค้าส่งอีเมล์ไปแสดงกับเจ้าหน้าที่บนรถ


Bahn 25 Confirmation จาก DB


6. โทรศัพท์ / อินเตอร์เน็ต
ส่วนนี้สำคัญมาก !!! เพราะเราเดินทางคนเดียว เอาไว้บอกทางบ้านและเพื่อน ๆ ว่าเราอยู่ที่ไหน ทำอะไร เค้าจะได้ไม่เป็นห่วงมาก และเราไม่ได้เตรียมตัวมาละเอียด เราคิดว่า google map ช่วยเราได้แน่ ๆ เราซื้อ Cross Sim จากในอินเตอร์เน็ตนี่แหละค่ะ (เป็นเบอร์ของเยอรมัน แต่ใช้ในประเทศที่เราไปได้ทั้งหมด) เราเลือกซื้อไปจากไทยเลย ยอมจ่ายแพงกว่านิดหน่อยเพื่อความสะดวก

7. Transportation Application
Application ที่ใช้ตลอดการเดินทาง มีไว้ก็อุ่นใจดีนะ search ได้ทั้ง IOS & Android
Euro Rail
Paris Metro
MVV (Munich)
DB Navigator (Bahn)

8. Online Ticket
พวกตั๋วออนไลน์ ถ้าซื้อไปก่อนได้ก็สะดวกดีนะ ไม่ต้องไปต่อแถวเข้าคิว (ชอบตรงนี้แหละ)
แต่เราซื้อแค่ตั๋ว Musee de Louvre ล่วงหน้าแค่อย่างเดียว อย่างอื่นเราไปซื้อหน้างานตลอด
ส่วนตั๋วฟุตบอล FC Bayern Munich เพื่อนที่เยอรมันอาสาเป็นคนหาให้  
หากใครจะไปดูฟุตบอล ควรหาซื้อตั๋วล่วงหน้า ของ FCB นี่ตั๋วเต็มตลอดเลย

ข้อมูลพร้อม (เหรอ?) เริ่มต้นการเดินทางกันเลย...
Let my journey begin...

Next Stop... Paris
ชื่อสินค้า:   เที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่