[CR] Autumn in Kyushu - Ep.1 - Huis Ten Bosch บินไปคิวชู แต่ไปโผล่ฮอลแลนด์

Ep.1 - Huis Ten Bosch บินไปคิวชู แต่ไปโผล่ฮอลแลนด์: http://pantip.com/topic/35236051
Ep.2 - ตามหาใบไม้แดงที่ Yutoku Inari: http://pantip.com/topic/35263498
Ep.3 - ตามหาหัวใจที่ Nagasaki: http://pantip.com/topic/35294708
Ep.4 - ตามหาคุมะมงที่ Kumamoto: http://pantip.com/topic/35340828
Ep.5 - พาแฟนไปทัวร์นรก ที่ Beppu: http://pantip.com/topic/35416017
Ep. 6 - ใครว่า Yufuin แค่ครึ่งวันก็พอ: http://pantip.com/topic/35894794
Ep. 7 - แช่ออนเซ็นท่ามกลางใบไม้แดงที่ Kurokawa: http://pantip.com/topic/35951771
Ep.8 - กินเพลินๆ ที่ Fukuoka: https://pantip.com/topic/36053342/
Ep 9 - ล่องเรือในชุดกิโมโน ที่ Dazaifu & Yanagawa: https://pantip.com/topic/36289772

เขาว่าญี่ปุ่นไปฤดูไหน เมืองไหน ก็สวย .... เม่าบัลเล่ต์

           ครั้งที่แล้วเราได้มีโอกาสไปเที่ยวแถบคันไซในช่วงฤดูหนาวมาแล้ว  ประทับใจมาก ครั้งนี้เลยขอไปเยือนแถบคิวชูในช่วงใบไม้ร่วงดูสักหน่อย
           การเดินทางในครั้งนี้ เรายังโชคดีที่ได้โอกาสเดินทางบินตรงด้วยสายการบิน Jet Star ไปลงยังเมืองฟุกูโอกะ  เม่าโศก
ถ้าไปตอนนี้ต้องพึ่ง Thai airways / Cathay Pacific ค่ะ

พาสปอร์ต ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วรถไฟ wifi พร้อม!

          
ออกเดินทางกันเลย!!! เม่ากิจกรรม

ภายในสถามบินฟุกุโอกะ


          ถึงสนามบินเราก็มุ่งหน้าหารถไฟ เพื่อเดินทางไปยังสวนสนุก Huis Ten Bosch ซึ่งจุดหมายแรกของเราในทริปนี้
Credit: http://www.japan-expert.com/

           แต่สถานีรถไฟไม่ได้อยู่ใน Arrival Terminal หากใครจะไปต่อรถไฟเข้าเมืองฟุกุโอกะ หรือ ต่อรถไฟเพื่อไปเที่ยวยังมืองอื่นๆ จะต้องใช้บริการเจ้ารถ Shuttle Bus สีน้ำเงินคันนี้  ที่จะพาเราไปส่งยังสถานีรถไฟ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที (เพราะฉะนั้นเวลาจะจองตั๋วรถไฟ ควรเผื่อเวลาในการนั่งเจ้า Shuttle Bus คันนี้ไว้ด้วยนะ  เพราะวิ่งช้าซะเหลือเกิน อมยิ้ม15)

          มาถึงขั้นตอนการซื้อตั๋วรถไฟ  แน่นอนสิ่งแรกที่เราต้องคิดคือจะซื้อ Pass อะไรดี  และเหมือนทุกที่ในญี่ปุ่น Pass มีให้เลือกมากมายหลายแบบ  ควรศึกษาไปก่อน ว่าแบบไหนที่เหมาะกับการใช้งานของเรา  สำหรับเราที่จะเที่ยวในภูมิภาคคิวชูเฉพาะทางตอนเหนือเท่านั้น เราจึงเลือ Pass ที่ชื่อว่า Northern JR Kyushu Rail Pass ที่ครอบคลุมเมืองทุกเมืองที่เราจะไปดังต่อไปนี้

Huis Ten Bosch
Saga
Nagasaki
Kumamoto
Beppu
Yufuin
Fukuoka

          Pass นี้เป็นแบบ 5 วัน ราคา 10,000 เยน เราซึ่งอยู่ที่นี่ทั้งหมด 9 วัน จึงไม่ครอบคลุมทั้งหมด แต่เนื่องจากวันหลังๆ เราใช้รถไฟ JR น้อยมาก เราจึงตัดสินใจซื้อแค่ 5 วันพอ และวันที่เหลือซื้อตั๋วเป็นเที่ยว ตามการใช้งานจริง ที่คำนวณดูแล้วถูกกว่ามาก  อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Pass นี้ได้ที่ลิ้งนี้เลยค่ะ (Kyushu Pass - https://www.jrkyushu.co.jp/english/railpass/railpass.jsp )

Pass นี้เราสามารถซื้อในเมืองไทยได้ ที่ H.I.S ทุกสาขา เราจะได้ตั๋วชั่วคราว สีม่วงๆตามรูปด้านบนมาก่อน เเล้วค่อยไปแลกตั๋วจริงที่สถานี Hakata สถานีหลักของเมืองคิวชูค่ะ

          ก่อนจะนั่งรถไฟไป Huis Ten Bosch เราต้องนั่งเข้าเมืองไปยังสถานี Hakata อยู่เเล้ว เพื่อไปเปลี่ยนรถไฟก่อน การเช็คเวลารอบรถไฟ และเช็คสถานี เราใช้เว็บ Hyperdia อย่างเดียว เว็บเดียวเที่ยวได้ทั่วญี่ปุ่น  หากใครยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับเว็บนี้ ลองอ่านจากลิ้งนี้ได้เลยจ้า เรา 2 คนเคยเขียนวิธีการใช้ไว้แล้วอย่างละเอียด (เดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่นต้อง Hyperdia! - http://www.2roamwithlove.com/2015/09/how-to-use-hyperdia-japan.html )

          ระหว่างยืนรอรถไฟ สายตาเหลือบไปเห็นเจ้า Yufuin no Mori อันโด่งดัง เลยขอถ่ายรูปเก็บไว้สักหน่อย

Yufuin No Mori


          มาแล้ว ! รถไฟของเรา เม่าดี๊ด๊า

Huis Ten Bosch Express


          รถไฟมุ่งตรงไปยัง Huis Ten Bosch จากสถานี Hakata ใช้เวลาประมาณเกือบๆ 2 ชั่วโมง นั่งดูวิว กินขนมไปไม่นานก็ถึง


          และนี่คือวิวที่เราเห็นจากสถานีรถไฟ .... งดงามอลังการ ประหลาดใจ

Huis Ten Bosch


          Huis Ten Bosch เป็น Theme Park ขนาดใหญ่ที่สร้างจำลองให้เหมือนบ้านเมืองในประเทศฮอลแลนด์ ภายในแบ่งเป็นหลายๆโซน มีทั้งเครื่องเล่น พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร ร้านขนม โรงแรม สวนดอกไม้  เรียกว่าถ้าอยากจะเที่ยวให้ทั่วคงต้องใช้เวลาทั้งวันเลยทีเดียว

Link: http://english.huistenbosch.co.jp/pdf/map_english.pdf

          แล้วเราก็เริ่มเดินทางไปยังสวนสนุก  โดยจะต้องข้ามสะพานไปก่อน  หากใครมีกระเป๋าเดินทางมาด้วย ที่นี่จะมีล็อกเกอร์หยอดเหรียญให้บริการก่อนจะข้ามไปอีกฝั่งให้ฝากกระเป๋าได้ แต่หากเป็นกระเป๋าใบใหญ่จะต้องนำไปฝากที่ Tourist Information ด้านใน  อย่างเรานี่เป็นแบบหลัง ใบใหญ่มาก ! ไม่สามารถจะยัดเข้าไปในล็อกเกอร์ได้ เราจึงต้องลำบากตรากตรำลากกระเป๋าข้ามสะพานเพื่อไปฝากยัง Tourist Information Center ที่อยู่หน้าที่ซื้อตั๋วด้านใน เม่าเป็นลม

          เหนื่อยจากการลากกระเป๋า จึงขอเพิ่มพลังด้วยไอติมสักหน่อย (อ้างไปเรื่อย จริงๆแค่อยากกินไอติมนี่แหละ) ร้านไอติมร้านนี้เป็นร้านดังในแถบคิวชู ชื่อว่า Vito เป็นไอติมเจลาโต้สไตล์อิตาเลี่ยน

           เขมือบไอติมเสร็จ ก็ได้เวลาเดินเข้าไปซื้อตั๋วกันสักที  เราซื้อเป็นแบบ One Day Pass ราคา 6400 เยน


          เข้ามาด้านใน เหมือนหลุดไปอีกโลกหนึ่ง เราได้แต่พูดว่า
"ว้าวววว เหมือนอยู่เมืองนอกเลย"
คุณสามีเราเลยท้วงมาว่า "ญี่ปุ่นมันก็คือเมืองนอกไม่ใช่หรอ" เค้าล้อเล่น


          เอ่อออ นั่นสินะ  ถ้าจะพูดให้ถูกคงต้องบอกว่า "เหมือนอยู่ฮอลแลนด์เลย" คือบรรยากาศ และทุกๆอย่างของที่นี่มันทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ในประเทศแถบยุโรป มากกว่าญี่ปุ่น เพราะที่นี่เขาไม่ได้แค่ใส่ใจการตกแต่งสถานที่ แต่ยังมีการแต่งกาย อาหาร และเสียงดนตรี เข้ามาประกอบ ทำให้มีความเหมือนจริงมากขึ้น


          เนื่องจากเรามาช่วงต้นเดือนธันวาคม ที่ Huis Ten Bosch จึงตกแต่งสถานที่เป็นธีมคริสมาสต์   ที่นี่จะผลัดเปลี่ยนธีมการตกแต่ง และการแสดงไปเรื่อยๆ ตามฤดูกาล ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวได้หลายๆครั้ง เพราะแต่ละครั้งก็จะให้ความรู้สึกไม่เหมือนกัน  มีอะไรแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา

          เดินเข้าไปไม่นานก็เจอสัญลักษณ์ของที่นี่ ตัวแทนประเทศฮอลแลนด์ กังหันลมยักษ์

          สวนสนุกแห่งนี้ล้อมรอบด้วยคลองสายเล็กๆ ประกอบกับต้นไม้ใบไม้เปลี่ยนสีเป็นฉากหลัง โรแมนติกมาก

           บริเวณรอบๆ กังหันลมจะเป็นสวนดอกไม้  แต่สังเกตดีๆว่า จะมีสายไฟคลุมอยู่  ดูตอนนี้อาจจะดูไม่สวย  แต่ทีเด็ดจะอยู่ตอนเขาเปิดไฟตอนกลางคืน  เดี๋ยวเราจะย้อนกลับมาดูใหม่

         คุณลุงคนนี้ตั้งหน้าตั้งตาดูแล ตัดแต่งดอกไม้มาก เยี่ยม

          เดินๆ นั่งๆ ถ่ายรูปอยู่ตรงนี้สักพัก เราก็ข้ามสะพานเล็กๆ เพื่อไปยังโซนถัดไป

          เดินไปถึงโซนที่เรียกว่า Attraction Town โซนนี้มีอะไรให้ทำเยอะมาก เราอยู่ที่นี่เป็นชั่วโมงเลยทีเดียว  ตอนช่วงที่เราไปมีการจัด SM Town Theater ที่เขาว่าเป็นแบบ 3D แต่เราไม่ได้เข้าไปดู จึงแค่ถ่ายรูปกับอดีตกิ๊ก อยู่ด้านหน้า

กิ๊กเก่า Kyuhyun จุ๊บๆ (อดีตเคยเป็นติ่ง SJ มาก่อน)

สามีหมั่นไส้ นางเลยวิ่งไปถ่ายคู่กับ Girl Generation บ้าง

          จุดที่เป็น highlight  ของการถ่ายรูปของโซนนี้คือถนนลูกโป่ง  สีสันสดใส  น่ารัก แถมสองข้างทางก็เต็มไปด้วยร้านขนม

ควรค่าแก่การถ่ายรูป

          ร้านที่น่าโดนก็อย่างเช่น Chocolate House ร้านนี้  เข้าไปได้เสียเงินแน่นอน... แต่เดี๋ยวก่อน  ใครที่เป็นแฟน Chocolate ตามเรามาทางนี้ เพราะที่นี่มี Chocolate Museum ด้วยนะ

          ทางเข้า Museum แค่เห็นก็ฟินละ เหมือนบ้านราดด้วยช็อคโกแลต  ก่อนอื่นต้องขอออกตัวว่าเราบ้ากิน chocolate มาก เพราะฉะนั้นการบรรยายของเราอาจจะดูอินไปสักหน่อย อินเนอร์ และ ฟีลลิ่งมาตรึม เม่าเริงร่าเม่าเริงร่า

          ตามมาดูกันว่าข้างในจะมีอะไรเด็ดๆ บ้าง

          ตั้งแต่ทางเข้า ก็จะเห็น Chocolate แท่งใหญ่ห้อยอยู่ตรงกลางบ้าน  ภาพวาด Chocolate และผนังที่ตกแต่งด้วยก้อน Chocolate สีสดใส
          ถึงจะใช้ชื่อว่าพิพิธภัณฑ์ แต่ข้างในไม่ได้เป็นการเดินดูเฉยๆ เหมือนพิพิธภัณฑ์ทั่วๆไป  แต่จะจัดเป็นโซน Workshop ที่เกี่ยวข้องกับ Chocolate  โดยเราต้องซื้อตั๋วจากตู้ขายอัตโนมัติก่อน  จากนั้นจึงนำตั๋วไปให้เจ้าหน้าที่

            กิจกรรมที่เราแนะนำว่าห้ามพลาด คือการชิม Chocolate ร้อนๆ ที่ไหลออกมาจากก็อกน้ำ

           โอ๊ย  ฝันเป็นจริง  อยากให้ที่บ้านมีแบบนี้บ้างจัง เม่าฝึกจิต

          ส่วนโซนนี้จะเป็น Chocolate ให้เลือกชิม โดยเราจะสามารถเลือกชิมได้ 5 อย่าง
ชื่อสินค้า:   Huis Ten Bosch
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่