จากปัญหาที่ผู้ปกครองรับนักเรียนอนุบาลผิดไปช่วงสองอาทิตย์ที่แล้ว

ตอนนี้โรงเรียนสีชมพูฟ้า ได้ออกไอเดีย ทำบัตรตามเนื้อในเฟซบุ๊คดังนี้

(ใช้พิมพ์เพราะแนบรูปไม่ได้ครับ)

"นี่คือวิธีแก้ปัญหาของ #โรงเรียน........ กรณีที่ครูอนุบาลส่งนักเรียนให้ผู้ปกครองผิดคนตอนผู้ปกครองมารับ
2 อาทิตย์ที่แล้วเพิ่งไปทำบัตรสำหรับรับ-ส่งนักเรียนเพิ่มมาอีก 1 ใบ ในราคา 100 บ. เพื่อในกรณีฉุกเฉินเผื่อให้น้องสาวไปรับแทน ตอนนี้มีใบแจ้งเรื่อง #ผุดไอเดีย ทำบัตรรับ-ส่งนักเรียนขึ้นใหม่ในราคา 500 บ. โดยการเรียกเก็บจากผู้ปกครอง

เพิ่มเติมข้อความ เวลา 17.42 น.
รร.นี้ไม่มีตังเรียนไม่ได้นะคะ
ค่าหนังสืออนุบาลเริ่มที่ 3-4 พัน
ประถมแบบ 2 ภาษา 3-4 พัน / แบบ EP. 9200
มัธยมหมื่นกว่า
ถ้าเกิดผู้ปกครองคนไหนสงสัยว่าทำไมค่าหนังสือถึงแพงจะได้ใบชี้แจงให้เปลี่ยนเป็นคลาสที่ถูกลงมา
#ประมาณว่าจะได้เพียงพอกะเงินในกระเป๋าของผู้ปกครองแต่ละคน
และรร.นี้ไม่มีแบบสอบถามความสมัครใจ หรือ ให้เลือกนะคะ ไอเดียบรรเจิดแบบไหน คุณต้องทำตามกูแบบนั้น

ที่มา
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1772393776340257&id=100007089555856

เรื่องบัตรนะครับ เข้าใจว่าโรงเรียนต้องการแก้ไข และรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น (ครูส่งนร.อนุบาลให้ผปค.ผิดคน)
แต่ว่า การให้นักเรียนต้องมาร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่โรงเรียนพยายามทำขึ้น มันไม่แฟร์

คิดแบบหยาบๆ ตามจดหมาย ต้นทุน 2,500,000 นร.ทั้งโรงเรียน 6,000x500=3,000,000 แค่ปีแรกก็กำไร 500,000 แล้วครับ
ทั้งๆที่ควรจัดการกับบุคลากรเอง โดยไม่ต้องเดือดร้อนผู้ปกครอง และยิ่งตลกไปกว่านั้น ในนักเรียนระดับม.ต้น และม.ปลาย ที่มีวุฒิภาวะมากพอสมควร จำเป็นต้องบังคับทำด้วยหรอครับ ในเมื่อนักเรียนส่วนมากก็เดินทางกลับบ้านเองมิได้มีผู้ปกครองมารับแต่อย่างใด

เหมือนเป็นแค่กรรมวิธีใหม่ที่สามารถรีดเงินออกจากกระเป๋าเงินผู้ครองอีกปีละหลายแสนบาท

สิ่งที่อยากตีแผ่เกี่ยวกับโรงเรียนนี้ ที่ผมพบจริงๆคือ
1. ค่าหนังสือเรียนแพงมาก
ราคาราวๆ 5พันบาท ไม่มีการออกจดหมายตอบรับว่าจะซื้อหรือไม่ (บังคับซื้อเท่านั้น)
ไม่มีการแสดงใบรายละเอียดราคาหนังสือแต่ละเล่ม (ถังสังฆทานยังต้องแสดง)
หนังสือบางเล่ม สั่งซื้อมาแต่ไม่ใช้
หนังสือบางเล่ม ก็ซื้อมาแบบซ้ำซ้อนกับของที่รัฐบาลแจก เช่น หนังสือแบบเรียนภาษาไทย ที่มีการซื้อยี่ห้ออื่นๆ ที่มีเนื้อหาเหมือนกันกับของกระทรวงฯ (แถมซื้อมา เปิดเทอมวันแรกครูบอกฉันไม่ชอบใช้ ไม่ชอบเล่มนี้ แล้วจะบังคับซื้อเพื่อ?)

2. มีการบังคับนักเรียนไปค่ายวิทย์-คณิตทุกปี ราคา 2,400 บาท ที่ชะอำ
ไปเพื่ออะไร ผมเข้าใจในจุดประสงค์ของค่ายนี้นะครับ ว่าต้องการส่งเสริมทักษะให้นักเรียน
ทว่า กิจกรรมต่างๆล้วนไม่มีความพร้อมและความเหมาะสม เพราะสถานที่จัดกิจกรรม ใช้ห้องประชุม ไม่ใช่ห้องแลป อุปกรณ์ไม่เพียงพอ
กิจกรรมบางอย่างไม่เหมาะสมกับความรู้ของนักเรียน และศักยภาพของนักเรียนแต่ละช่วงวัย
เช่น นักเรียนม.ต้น มีเนื้อหาแลปเกี่ยวกับ indicator ในวิชาเคมีของชั้น ม. ปลาย
จำนวนอุปกรณ์ไม่มีความพร้อม เช่น อุปกรณ์ไทเทรต 1 ชุด ต่อ 1กลุ่ม (นร. 10-15 คน ต่อกลุ่ม)
ผ่ากบ ผ่าลูกไก่ ตัวเล็กๆ 1 ตัว ต่อ 1 กลุ่ม แล้วนักเรียนจะได้ประโยชน์อะไร

อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือไม่พร้อม กล้องจุลทรรศน์เสียราขึ้น ไม่ซ่อมแซม
บีกเกอร์แก้ว เปลี่ยนเป็นถ้วยน้ำพลาสติก
หรือแม้กระทั่ง อาหารที่ไม่เพียงพอต่อจำนวนเด็กในแต่ละมื้อ

และห้องนอนที่ยัดให้นอนถึง 6 คนในห้องแคบๆ (ไซส์รร.ธรรมดา)

แถมยังมีการบังคับนักเรียนให้เข้าร่วมทุกปี ทุกครั้งที่เดิม ขู่ด้วยคะแนนในแต่ละวิชาแบบน่าเกลียด เช่น 50 คะแนนมั่ง 30 คะแนนมั่ง

สุดท้าย มองไปมองมา เจ้าของโรงแรม(สถานที่จัดค่าย) กับเจ้าของโรงเรียนคือคนๆเดียวกัน

3. หนังสือไม่ได้แพงอย่างเดียว ค่าชุดนักเรียนก็เช่นกัน
หลานสาวไปเข้าเรียนชั้นม.ปลาย หลายปีก่อน
ถามอาจารย์ว่าต้องเตรียมค่าชุดนักเรียนเท่าไร 5,000 พอไหม
อาจารย์บอก 8,000 เถอะค่ะเดี๋ยวไม่พอ ไม่แน่ใจว่าชุดนี้สั่งตัดแบบโอกูตูร์ รึเปล่าถึงได้แพงจัง อย่างกะชุดชมพู่ไปเดินเมืองคานส์
พีคที่สุดตรงเวลาไปซื้อกางเกงพละใหม่ หรือเสื้อนักเรียนตัวใหม่
ไม่เคยมีป้ายราคาบอก แต่ยื่นมาบิลมาทีไรผมสะดุ้งทุกที (ก่อนซื้อต้องกินยาแก้ตกใจครับ)



อยากให้เรื่องนี้มีการแก้ไข และแถลงจากโรงเรียนด้วยครับ และต้องการให้กระทรวงศึกษาธิการเข้ามาควบคุมด้วย

มิใช่อ้างเพียงว่า ถ้าไม่พอใจก็ให้ลาออก