work and travel กับระดับภาษาที่สูงเท่าหัวแม่ตีน

สวัสดีครับ นี้กระทู้แรกเลย ประจำเป็นพิมอธิบายอะไรไม่ค่อยเก่ง

    ก่อนอื่นเลยนะครับด้วยความที่ว่าเป็นคนจีนละภาษาอังกฤษเนี่ย แย่ถึงขั้น ได้แค่ IS am are เพราะตั้งแต่เด็กใช่เวลาไปกับภาษาจีนซะทั้งหมดเลย ถึงขนาดที่ว่าโรงเรียนจีนสอบต้องหยุดโรงเรียนไทยเพื่อเตรียมสอบโรงเรียนจีน คือโง่มากโง่จนคิดว่าคนทั้งโลกเก่งภาษาอังกฤษกว่ากรู
    ผมมีเพื่อนที่สนิทมากๆอยู่คนหนึ่งตอนแรกที่กล้าไปเพราะอย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนครับ ธัมโม สังโค ซวยครับเพื่อนที่สนิทที่สุดมันเกือกติดเอฟครับ ต้องรอเรียนซัมเมอร์เพื่อจบเรียนพร้อมกัน หลังจากที่ทราบเรื่องผมนี้แบบไ..ส..มาติดเ..ยไรเทอมนี้ ถึงขั้นไปคุยกับแม่เลยครับว่า ผมไม่ไปได้ไหม แม่ก็สวนมาครับมีโอกาศได้ไปก็ไปซะ คนอื่นเขาอยากไปยังไม่ได้ไปเลยก็แค่เปลี่ยนบ้านเปลี่ยนที่อยู่ คิดในใจ“แหม่ แม่ ภาษาอังกฤษลูกนี้คือเต็มสิบให้กับตัวเองคือ0.3 คือง่อยมาก” (อ่อผมไปมาหลายปีแล้วไปในขณะที่ GPS ยังกากอยู่  ประมาณ5ปีที่แล้ว)
    วันแรกที่ถึงเมกาครับประทับใจมากและเป็นครั้งแรกที่ออกนอกประเทศด้วยตัวคนเดียว กับภาษาอังกฤษที่แสนจะงัวหรือวัวยังฉลาดกว่า มันมีใบสำหรับกรอกขอเข้าประเทศครับหรือที่เรียกกันว่า ใบ ตม. (ไม่แน่ใจ) ด้วยความที่กลัวผิดเลยไม่กล้าเขียนอะไรลงไปเลยเขียนแค่ ชื่อ นามสกุล แค่นั้นจริงๆครับที่อื่นก็ไม่รู้จะเขียนอะไรแล้วด้วยความที่ไม่รู้จะเขียนอะไรครับ ยืนไปดิ 1 ชม จนไฟท์บืนอื่นก็ลงจอดอีกแล้ว จนมีพนักงานคน 1 เดินเข้ามาถาม กรุนี้เลยครับยกมือขึ่นสบัดซ้ายขวา ประมาณว่ากรูไม่รู้เรื่อง และชี้ที่กระดาษครับ กรอกให้กรูที กรูกราบ เขาก็เป้นมิตรครับช่วยผมจนกรอกเสร็จ แล้วก็ชี้ให้ผมไปหน้าเคาวเตอร์เพื่อตรวจเอกสารก่อนเข้าเมืองผมก็เดินเข้าไปครับ โชคยังดีที่เค้าไม่ถามอะไรมากเข้าถามมาเราได้ยินว่า work and travel เราก็พยัคหน้า ถามว่าเงินเอามาเท่าไหร่ นี้พอฟังรู้เรื่อง  ผ่านมาด้วยดีครับ ออกมา พระเจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา คนที่มารับไม่อยุ่แล้ว และยังดีที่เรามีเบอร์ของเมเนอร์เจอร์อยู่ (อ่อได้ทำงานเป็น lifeguard ครับ ตอนสัมภาษณ์ ให้น้องฟังครับแล้วช่วยตอบแบบเงียบๆหรือเขียนเอาให้ดู) ต่อละกันครับด้วยความที่เราไม่ค่อยได้ภาษาก่อนโทรศัพท์ เปิดดิกครับเปิดจริงๆเรียงคำพูดว่ากรูอยู่ที่สนามบืนละนะไม่มีคนมารับกรู ช่วยกรูด้วยกรูเป็นเด็กโครงการ
work and travel นางเหมือนรู้ว่าเราไม่ค่อยได้ภาษาแหนะตอบกลับมาว่า รอที่นั้นแหละเดียวฉันให้คนแวะกลับไปรับ) โอ้โหตอนรอนี้คือกระวนกระวาย กรูจะทำไงวะเนี่ย ถ้ายิ้มไม่มาละชีวิตกรูจบเลยนะ คือตตอนนั้นมันรู้สึกเหงาจริงๆครับ เพื่อนที่ไปเค้ามีคู่หมดเรานี้ เปลี่ยวสุดก็ต้องรอครับ รอได้ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งครับ ในที่สุดก็มาจนได้ ก็ไม่มีอะไรขึ้นรถจนถึงบริษัทเพื่อเซนสัญญาต่างๆลงไป ที่พีคสุดคือ ผมมาช้ากว่าคนปกติครับเลยไม่ทันสอบและต้องสอบตัวคนเดียว ตัวคนเดียวอีกแล้วหรอวะ ก็ไม่ได้สอบข้อเขียนพักยังไม่ได้พัก ให้ผมไปสอบปฎิบัติก่อนเลย โอ้โห ว่ายไปสิครับ ไปกับสระมาตรฐาน 30+ รอบ ในที่สุดก็สอบผ่านครับ แต่ไม่ได้สอบข้อเขียนเค้าบอกว่าที่เหลือจะไปเทรนถึงที่เวลาทำงานเพราะเนื่องจากคนเค้าไม่พอ นี้คิดเอาเอง คือน่าจะประมาณนี้ เราก็ทำเป้นฟังรู้เรื่อง ก็พยัคหน้าตอบไป ในที่สุดก็ได้กลับที่พักโอ้โหพระเจ้า มี น้องผญ สองคนเป็นคนไทย ผมนี้แบบดีใจจนอยากจะกระโดดกอดน้องทั้งคู่เลยครับ เหมือนไม่ได้พูดภาษาไทยมานานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แต่แค่ 3 วันเอง ฮัลโหลลลลลล 55+
วันรุ่งขึ้นผมได้ ตารางงานมาเลยครับ แล้วก็มีซุปประจำตัวคอยสอนงาน โอ้โหซุปผมนี้บอกเลย เสี้ยเลเวล10 ผญ ดูดบุหรี่ พูดจา+สายตาหยามสุดๆ ด้วยความที่โง่ภาษาเราเปิดตัวไปเลยว่าเราโง่ภาษาอังกฤษนะ โง่มาก มันก็เหมือนรู้ว่าเราโง่ พอไปถึงที่ทำงาน เราคิดว่าคงเป็นแบบ ริมทะเล สระน้ำใหญ่ๆตามสวนน้ำ ผิดคลาดครับ ไปโรงแรม มีสระโง่ๆ เหมือนสระเด็กเล่น แต่ก็ลึกพอสมควร ไปถึงนางก็พาผมไปสอน กรรมวิธีการตรวจเช็คน้ำ + ใส่สารลงไปน้ำ เพื่อให้น้ำอยู่ใน   เกรณฑ์ปกติสะอาด ตอนอธิบายเหมือนรู้ว่าอธิบายยังไงให้คนไม่เข้าใจภาษาเข้าใจ แหนะ เป้นงานวะ เหมือนมีประสบการณ์ 555+ ไม่ยากครับ พอเขาใจได้ด้วยสายตา เพราะมันใช้ภาษามือตลอดเวลา 555 หลังจากนั้น เค้าก็ส่งผมไปที่พัก
   วันนี้แหละครับเป็นวันที่ผมต้องเดินทางด้วยรถไฟฟ้าด้วยตัวคนเดียว อ่อด้วยความที่คิดว่าตัวเองเป็น โซโล แต่กำเนิด หรือ นักหลงทาง นั้นเอง เข้างาน 8 โมง ผมออกตั้งแต่ตี 5 แล้วก็เกินคลาดจริงๆครับ คนทั่วไป เค้าเดินกัน 15 นาทีถึง เมโทคือรถไฟฟ้านะครับ นี้ครับผมครับ 1 ชั่วโมง ครับ คิดถูกจริงๆ พอถึงเวลาที่ซื้อตั๋ว ผมเดินไปเลยครับไปยืนดูคนแก่คน 1 กดซื้อกดปุ่มไหนยังไงถึงบัตรจะออกมา โดยไม่อายครับ อย่าอายครับ มันไม่รู้จักเราหรอกครับ อยู่ สี่เดือน ก็กลับแล้ว อย่าไปอายครับ ในที่สุดก็ได้มาแบบเป็นอาทิตย์ เอามาก่อน ให้กรูไปได้ก่อนไว้ว่างค่อยมาศึกษา หลังจากนั้นครับ ด้วยความที่ว่าประเทศไทย คือ รถไฟฟ้ามีแค่สายเดียว โอ้โห มาเจอที่นี้ กรูนั่งสนุกเลยครับ พระเจ้าาาาาาาาาาาาา ยั่วเยี่ย ไปหมด สีแดง น้ำเงิน ม่วง เชี้ยไรเนี่ยยยยย แล้วก็นั่งผิดนั่งถูกจน ลงถูกที่ครับ ถึงที่ทำงาน พอดีเป๊ะ 7.30 555+ หลังจากนั้นก็สบายครับ พอถึงช่วงเย็นเวลาเลิกงานเนื่องจากเลิกดึก ประมาณ 3 ทุ่มครี่งเลยต้องกินอะไรง่าย เลยไป แมคครับ โอ้โหอีกแล้วครับท่าน เจอพนักงานใช่สำเนียงสเปนนิสใส่ ไอเราอะตอบได้แค่ yes no ok สั่งไปเป็นเซตครับแต่ตอบได้แค่นี้ เลยได้ไก่มาสองชิ้น แล้วเราก็สั่งน้ำต่อ เราก็บอก วอเตอร์ นี้ ..... ไอสัส เอา น้ำขวด 3 ดอล หรือ 2 ดอลไม่รู้จำไม่ได้ละให้ผมมา โอ้โห น้ำจากหิมาลัยหรือไร 60 บาทบวก ต้องทำใจยอมรับมาครับมีแค่ไหนกินแค่นั้นไม่อิ่มก็ต้องอิ่มรีบกลับบ้านครับ(ถ้าจะสั่งให้สั่งว่า คัฟ ฟอ วอเตอร์ครับ)
  หลังจากที่ทำงานได้สัก3-4วัน ผมก็คิดว่าชีวิตแค่นี้ก็โอเครนะ แต่ไม่ใช่ครับ วันโลกาวินาสก็มาถึง ให้เปิดบัญชี โอ้โห แต่โชคยังดี พอดีผมเรียนการเงิน ศัพท์ก็เลยพอคุ้นหูบ้าง แต่ก็ยังต้องให้เค้าโทรหาคนไทยช่วยอยู่ดี ประทับใจสุดๆสำหรับเรื่องธนาคาร แต่ที่แย่คือ มันให้ผมไปกรมแรงงานคนเดียว เอ้าไอสัสปล่อยเกาะกูนิหว่า ต้องจำใจไป แต่โชคยังดีครับ น้อง ผญ สองคนให้ความร่วมมือพอคนโง่แบบพี่ไป กรมแรงงานเพื่อแสดงตัว กราบขอบพระคุณใน ณ ที่นี้ด้วย
   ด้วยความที่ว่างานนี้แสนจะสบาย คือวันๆไม่ต้องทำไรครับ ดูน้ำ ตรวจน้ำ เช็คน้ำ หยอดสาร วนไปเรื่อยๆทุกชั่วโมง ไม่มีแม้แต่เงาคน มาว่ายน้ำ ภาษาก็ไม่กระเตื่อง 12 ชั่วโมง บางวันก็มีงานแค่ 4 ชม ห้ามเล่นเนต ห้ามใช้คอม คุณทำไงครับ เหมือนอยู่ห้องดับจิต แล้ว ชม งาน ก็ลดลงทุกอาทิตย์อีก ผมทำใจเลยครับ ทำอะไรไม่ได้เลย เบื่อมาก เบื่อโครต แล้วความซวยก็บังเกิดครับ เหมือนว่าจะไล่ผมออก แล้วมันก็ไล่ออกจริงๆครับ มันบอกอะไรผมไม่รุ้ แต่โชคยังดีครับ ช่วงๆเวลาที่ ว่างงงาน ไปหางานที่สอง หาไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่เวิค สักงงาน ต้องเข้าใจก่อนว่า การที่จะทำงานในร้านอาหารไทย เค้าจะมีให้ทดสอบงานก่อน1เดือนซึ่งจะไม่มีค่าจ้างใดๆเลย แต่จะมีรายได้จากพี่ๆพนักงานเค้าจะให้ตามสมควร ซึ่งผมก็ไปฝึกได้ไม่กี่วัน ในขณะที่ทำงานเป็นคนเฝ้าสระน้ำนั้นแหละครับ เพราะ บางอาทิตย์ ก็ ชมงานน้อยเหลือเกิน แต่ละที่ก็ไม่เวิคคิดไว้แล้วว่าคงได้เงินไม่เยอะ หลังวันที่ผมโดนไล่ออก 1 วัน ผมก็เลย จัดแจงความบ้าคลั่งของตัวเอง ไม่อยากให้แม่ต้องอาย ไม่อยากให้คนที่อยู่เมืองไทยดูถูกว่ากรูไปไม่รอด (ในใจตอนที่โดนไล่ออกคือคิดว่ากลับก็ดีสบายใจดี) ก็ถือบัตร รถเมย์ ขึ่น รถเมย์ ให้รถเมย์ขับไปเรื่อยๆ เจอร้านอาหารไทยก็ ลง จดเบอร์ ทำแบบนี้ 8 ชม ครับ ได้ทั้งไทย และ ร้านฝรั่ง และในที่สุดหลังจากที่ไปขอเบอร์
มาผมก็จัดแจงโทรไล่เลยครับ และ แล้วนึกว่าจะซวยมาตลอด เหมือนสวรรด์ เป้นใจ มีร้านหนึ่งครับผมขอไม่เอ่ยชื่อ เค้า โทรกลับมาบอกว่าอยากให้ไปลองงาน รายได้ทำงานทั้งวัน 50 ดอล ข้าวฟรี เป็นร้านอาหารไทย ฟาดฟูด กึ่ง ฟูเซอวิส (ถ้ามีคนไม่เข้าใจผมจะมาอธิบายทีหลังครับ) ต่อครับผมไม่รอช้าครับ กำขี้ดีกว่ากำตด ได้วันละ 50 ดอล แค่นี้พอใจละครับ ได้งานทุกวัน ไม่ใช่ว่างเหมือนงานคนเฝ้าสระน้ำ ผมก็ยอมลงทุนจากที่พักเก่าไปที่ร้าน ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ทำอยู่สามวัน แล้วผมก็บอกเค้าไปว่าผมจะมาทำที่นี้ถาวรได้ไหมครับ ลาออกจากงงานเก่า(ตามกฎหมายแล้วทำแบบผมไม่ได้นะครับ ในกรณีแบบผม นายจ้างเข้ายินดี เป็นผู้ปกครองต่อ หรือเหมือนเป็นพยานให้ว่าทำงานที่นี้จริงๆ) ต่อครับ จริงๆกรูโดนไล่ออกมาเหอะ 555+ ตอนแรก เค้าบอกผมว่า เดียวอีกอาทิตย์จะให้คำตอบโอ้โหใจผมไปอยู่ตาตุ่มละครับ ผมทำใจเลยครับกูได้กลับประเทศแน่ๆ หลังจากวันนั้นแค่1วันเค้าโทรมาหาผมเลยครับ
โอ้โหแล้วบอกว่า เตรียมย้ายเสื้อผ้ามาเลย เดียวให้คนไปรับ ผมนี้แบบ ดีใจมากๆอะ แล้วก็พ้นโปรครับเค้ารับผมเป้นพนักงาน รายได้ ชม ละ 7.25 ไอตอนแรก เค้าก็บอกว่า เค้าไม่ค่อยนีดผมนะ ผมก็คิดในใจ เออ ได้เท่าไหนเท่านั้น เอาเท่าที่ได้พอ พอตารางงานออกเท่านั้นแหละครับโอ้โห วันละ 10 ชม 7วัน
นี้คือไม่นีด ฮัลโหลลลลลลลลลลลลลล ถ้านีดนี้ผมคงต้องอยู่ร้านทั้งวันทั้งคืน พอดีเค้าใจดีครับจัดหาที่อยู่ให้ ผมเป็นคนง่ายๆครับ เค้าก้ให้นอนโซโฟ เดือน ละ 200 ดอล โอ้โห บุญหล่นทับ ไม่ขอเตียง ไม่ขออะไรทั้งนั้น ขอกูมีที่ซุกหัวนอนพอ อาบน้ำทำงานนอน ไม่ค่อยได้อยู่บ้านหรอกครับ งานใหม่ดีจริงๆครับ งานดีมากๆ ได้ใช้ภาษา  เป้นทั้งคนรับออเดอร์ เป็นทั้งคนผัด เป็นทั้งคนล้างจาน ขัดห้องน้ำ มันสนุกมากครับถ้างานยุ่ง เพราะได้ใช้ภาษา ถึงมันจะนิดหน่อย แต่ผมว่ามันโอเครนะ ดีกว่า เฝ้าสระ แล้วไม่เจอใคร ไม่มีคนคุยด้วย ง่อมมาก 555+ ร้านอาหารไทยกินฟรี มีคนไทยให้คุยด้วย ลูกค้าก็เค้ามาเยอะ แยะ ทั้งไทย จีน อินเดีย พม่ายังมี 55+  จากความซวยที่ได้จาก งานเก่า เหมือนได้ชีวิตใหม่ ก่อนกลับยังได้กีตร้าจากคนลาวคนลาวชื่อหน้า แซ่วให้มาครับ ชอบพากันไปเล่นหวย ผมนี้เจ๊งบ่อยมากแต่ลุงแกเล่นหนักครับ ถูกบ้าง ถูกกินบ้าง  ยังได้รู้จักรุ่นน้องคนลาว ชื่อ อนัน กวนตีนมากครับไอเด็กเปรตเนี่ย มันโตที่เมกาครับ คุยกันเป็นภาษาอังกฤษผสมลาวซะส่วนใหญ่ ไอนันนี้กวนตีนแบบ มากครับ  ถึงมันกวนตีน ถ้าผมลำบากมันก็จะพาผมไปนู้นไปนี่ บอกให้มารับก็มารับ มันอยากกินไรในร้านผมก็เลี้ยงมันครับ ว่าไปก็คิดถึงมันเหมือนกัน ยังมีอีกหลายคนครับ ผมไม่ขอผลาดพิงคนไทยละกัน 555
   อ่อมีอยู่ครั้ง1ครับ ลูกค้าต้องการ Salt แต่ตัวผมอะเข้าใจว่า sauce ยืนเถียงกับฝรั่งนานมากครับ (ผมฟังได้ประมาณว่า เค้าบอกเค้าจะเอา sauce ผมก็ห๊ะ อะไรนะ เค้าก็บอกว่า sauce สีขาว เป็น powder  ที่ make from sea ) เท่านั้นแหละครับ ผมอ่อ เกลือจะเอาเกลือ คือ ตลกมาครับ พี่คนไทยที่อยู่ในร้านขำกันหมดจริงๆเค้ารู้นานละครับ แต่เค้าอยากดูว่าผมจะคุยรู้เรื่องไหม คือจริงๆภาษาอังกฤษ ผมพัทนาไปมากแล้วแต่ตัวผมอะไม่รู้ตัวเพราะว่าเปิด ดิก เปิดเวฟ ศึกษาคำพูดไปตลอดเวลา มันเหมือนซึมเข้ามาไม่รู้ตัว ต่อครับ คนในร้าน ก็ใจดีกันแทบทุกคน มีแต่คน ผัด คน 1 เกลียดยิ้มมากครับ อย่าให้พูดเลย ถ้าผมเกลียดใครเนี่ย คือคนนั้นนี้ สันดารแย่สุดๆ เพราะผมเฟรนรี่มากๆครับ  มีพี่คนหนึ่ง ขอใช่ตัวย่อ น นะครับ เค้าดีมากครับช่วยผมทุกเรื่องเลย กราบขอบพระคุณพี่อีกครั้งนะครับ อ่อ


ปล. 1น้องๆที่ไปแนะนำให้เอาม่าๆไปเยอะๆครับ เสื้อน้อยๆดีกว่า แต่ระวังโดนตรวจนะครับ ก่อนถึงเมกาอย่าแต่งตัวเหมือนอยู่เอเซียครับ ให้แต่งตัวแนวฝรั่งผมนี้ใส่เสื้อกล้ามลายสกอตทับเสื้อเลยครับ ผ่านฉลุย 5555
      2แนะนำม่าๆต้มโค้งหยอดน้ำปลาสองหยดกับข้าวเปล่า แรร์ไอเทมครับ เชื่อพี่ ที่พี่ไปไม่มีหม้อหุงข้าวให้นะ หุงเองตามยูทูปไม่ตายครับ ผ่านฉลุยข้าวสวยน่าทาน ไม่เข้าใจอะไรเซิดครับ เวลาเจออะไรทำไม่เป็นอย่าตกใจ ตั้งสติ สำคัญมากครับแล้วถามหาพี่กูเกิ้ลครับมีทุกอย่าง


ไว้ว่างๆ ผมจะมาเล่าประสบการณ์การเที่ยวแบบทรหดกับเพื่อนอีกสองคนให้ฟังครับ มันสนุก ตื่นเต้น มากๆครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่