ช่วงนี้คงได้ยินข่าวที่ดอกเบี้ยธนาคารลดลงเรื่อยๆใช่มั้ยครับ?
คนไหนที่มีเงินเก็บในธนาคารอยู่บ้างเอ่ย?
ผมเชื่อว่าทุกคนจะต้องมีเงินเก็บอยู่บ้างไม่มากก็น้อยครับ แต่เก็บเงินไว้เฉยๆกับธนาคารเนี่ยดอกเบี้ยก็ได้น้อยเหลือเกิน ที่เจ็บใจกว่านั้นคือบางทีได้ดอกเบี้ยมาแต่ต้องมาเสียค่าธรรมเนียมของธนาคารรายปีอีก
ผมเลยขอเสนอวิธีเก็บเงินอีกทางนึง ซึ่งจะทำให้ทุกๆคนได้ดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 2-3 เท่ากันไปเลย
วิธีนั้นก็คือ "การลงทุนในตลาดเงิน" นั่นเอง
"ตลาดเงินมันคืออะไรล่ะ?"
บางคนอาจจะไม่เคยได้ยินคำว่า "ตลาดเงิน" มาก่อนใช่มั้ยครับ? "ตลาดเงิน" เป็นตลาดการลงทุนในตราสารหนี้ที่ใกล้หมดอายุ (อายุน้อยกว่า 1 ปี) ซึ่งผลตอบแทนก็จะใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในขณะนั้นเลย ตัวอย่างของสินค้าการลงทุนก็เช่น ตั๋วเงินคลัง ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน
แต่เพื่อความสะดวกของทุกๆคน ผมขอแนะนำให้ลงทุนใน "กองทุนตลาดเงิน" ไปเลยดีกว่า เพราะจะมีผู้จัดการกองทุนคอยบริหารและดูแลเงินให้เราแบบสบายๆไปเลย
ข้อดีของกองทุนตลาดเงินที่ดีกว่าฝากออมทรัพย์คืออะไร?
1. ผลตอบแทนดีกว่าฝากออมทรัพย์
ออมทรัพย์เดี๋ยวนี้จะให้อัตราอยู่ที่ 0.5-1% เป็นแบบนี้ทุกๆที่เลย (และก็เป็นแบบนี้มานานมากแล้ว) แต่กองทุนตลาดเงินจากสถิติย้อนหลังจะให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 1-2% ถึงแม้ว่าจะดูไม่ได้เยอะอะไรมากมาย แต่เมื่อลองคำนวณดูแล้ว ดอกเบี้ยที่ได้มากกว่าเดิมตั้งเท่านึงเลย
2. ไม่ต้องรอดอกเบี้ยนานเป็นครึ่งปี
ปกติฝากเงินไว้กับธนาคารเราจะได้ดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือนใช่มั้ยครับ? กว่าจะได้ดอกเบี้ยเนี่ยต้องรอแล้วรออีก แต่ลงทุนในกองทุนตลาดเงินเนี่ย เราจะได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นทุกๆวันเลย เพราะว่ากองทุนตลาดเงินจะคิดมูลค่าแบบรายวันจากราคา NAV นั่นเอง (NAV บ่งบอกถึงราคาของหน่วยลงทุนในกองทุน) ซื้อกองทุนวันนี้ขายอาทิตย์หน้าก็ได้กำไรแล้ว ไม่ต้องรอเงินเข้ามาอีกเป็นครึ่งปี
3. ไม่ต้องเสียภาษี
บางคนอาจจะไม่รู้ว่า หากเราได้ดอกเบี้ยเงินฝากเกิน 20,000 บาทขึ้นไป ดอกเบี้ยส่วนที่เกินมาเราจะต้องเสียภาษีด้วย แต่การซื้อขายในกองทุนตลาดเงินเราจะไม่ต้องเสียภาษีเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะรัฐบาลยกเว้นภาษีขายกองทุนสำหรับบุคคลธรรมดาไว้
4. ความเสี่ยงต่ำกว่าฝากออมทรัพย์
จริงๆในทางทฤษฎีกองทุนตลาดเงินมีความเสี่ยงต่ำกว่าธนาคารอีก เพราะกองทุนตลาดเงินจะลงทุนในตราสารหนี้ของรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งความเสี่ยงในการเบี้ยวหนี้ของรัฐบาลจะน้อยกว่าธนาคารที่ส่วนมากจะบริหารโดยเอกชน
5. ไม่ต้องเจอค่าธรรมเนียมรายปี
บางธนาคารเราอาจจะเจอค่าธรรมเนียมต่างๆ ทั้งค่ารักษาบัญชี ค่าบัตรรายปี ซึ่งในปีนึงเราอาจจะเจอค่าใช้จ่ายแบบนี้ที แต่หากมาดูกองทุนตลาดเงินแล้ว ผู้ดูแลเค้าจะคิดค่าธรรมเนียมเป็นรายวันเลย (แล้วมันดีกว่าตรงไหนเนี่ย - - )
แต่เดี๋ยวก่อนครับ จริงๆค่าใช้จ่ายแฝงพวกนี้ส่วนใหญ่มันจะไปคิดตอนซื้อขายกองทุนหรือไม่ก็หักจากมูลค่ากองทุน NAV รายวันทีละนิดเดียวเอง (ย้ำว่านิดเดียวจริงๆ นิดเดียวจนไม่ทันสังเกตเห็นเลย) ซึ่งทำให้จริงๆเรารู้สึกว่ามันไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร (แต่แนะนำว่า หากอยากทราบค่าใช้จ่ายโดยละเอียดจริงๆ ลองสอบถามไปที่บลจ.ของกองทุนตลาดเงินดูได้ครับ)
ถึงแม้ว่าผมจะอธิบายถึงข้อดีของกองทุนตลาดเงินมามากขนาดนี้ แต่อย่าลืมว่ามันก้อต้องได้อย่างเสียอย่างอยู่เหมือนกัน การลงทุนในกองทุนตลาดเงินเราอาจจะได้สภาพคล่องที่น้อยกว่าเงินฝากออมทรัพย์อยู่นิดหน่อย หมายถึงว่า กว่าเราจะซื้อหรือขายหน่วยลงทุนของกองทุนตลาดเงินได้ก้อต้องรออีก 1 วันทำการเลย แถมหากติดช่วงเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดอื่นๆ เราก็ต้องเลื่อนระยะเวลาไปอีก ดังนั้นบางคนอาจจะไม่สะดวกเอาก้อได้ครับ
ก่อนจะเปลี่ยนการลงทุนผมก็ขอให้ลองศึกษาพวกกองทุนตลาดเงินให้ดีๆก่อนครับ และผมก็ไม่ได้แนะนำให้โยกย้ายเงินไปที่ตลาดเงินทั้งหมดเลย เราควรเหลือเงินเก็บไว้ในออมทรัพย์บ้าง เผื่อเราต้องการใช้เงินเมื่อไหร่ก็สามารถไปธนาคารเพื่อถอนเงินได้ทันทีเลยครับ
http://www.porttoffy.com/article/feeds
ดอกเบี้ยออมทรัพย์น้อยเกินไป ต้องทำยังไงดี?
คนไหนที่มีเงินเก็บในธนาคารอยู่บ้างเอ่ย?
ผมเชื่อว่าทุกคนจะต้องมีเงินเก็บอยู่บ้างไม่มากก็น้อยครับ แต่เก็บเงินไว้เฉยๆกับธนาคารเนี่ยดอกเบี้ยก็ได้น้อยเหลือเกิน ที่เจ็บใจกว่านั้นคือบางทีได้ดอกเบี้ยมาแต่ต้องมาเสียค่าธรรมเนียมของธนาคารรายปีอีก
ผมเลยขอเสนอวิธีเก็บเงินอีกทางนึง ซึ่งจะทำให้ทุกๆคนได้ดอกเบี้ยเพิ่มเป็น 2-3 เท่ากันไปเลย
วิธีนั้นก็คือ "การลงทุนในตลาดเงิน" นั่นเอง
"ตลาดเงินมันคืออะไรล่ะ?"
บางคนอาจจะไม่เคยได้ยินคำว่า "ตลาดเงิน" มาก่อนใช่มั้ยครับ? "ตลาดเงิน" เป็นตลาดการลงทุนในตราสารหนี้ที่ใกล้หมดอายุ (อายุน้อยกว่า 1 ปี) ซึ่งผลตอบแทนก็จะใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในขณะนั้นเลย ตัวอย่างของสินค้าการลงทุนก็เช่น ตั๋วเงินคลัง ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน
แต่เพื่อความสะดวกของทุกๆคน ผมขอแนะนำให้ลงทุนใน "กองทุนตลาดเงิน" ไปเลยดีกว่า เพราะจะมีผู้จัดการกองทุนคอยบริหารและดูแลเงินให้เราแบบสบายๆไปเลย
ข้อดีของกองทุนตลาดเงินที่ดีกว่าฝากออมทรัพย์คืออะไร?
1. ผลตอบแทนดีกว่าฝากออมทรัพย์
ออมทรัพย์เดี๋ยวนี้จะให้อัตราอยู่ที่ 0.5-1% เป็นแบบนี้ทุกๆที่เลย (และก็เป็นแบบนี้มานานมากแล้ว) แต่กองทุนตลาดเงินจากสถิติย้อนหลังจะให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 1-2% ถึงแม้ว่าจะดูไม่ได้เยอะอะไรมากมาย แต่เมื่อลองคำนวณดูแล้ว ดอกเบี้ยที่ได้มากกว่าเดิมตั้งเท่านึงเลย
2. ไม่ต้องรอดอกเบี้ยนานเป็นครึ่งปี
ปกติฝากเงินไว้กับธนาคารเราจะได้ดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือนใช่มั้ยครับ? กว่าจะได้ดอกเบี้ยเนี่ยต้องรอแล้วรออีก แต่ลงทุนในกองทุนตลาดเงินเนี่ย เราจะได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นทุกๆวันเลย เพราะว่ากองทุนตลาดเงินจะคิดมูลค่าแบบรายวันจากราคา NAV นั่นเอง (NAV บ่งบอกถึงราคาของหน่วยลงทุนในกองทุน) ซื้อกองทุนวันนี้ขายอาทิตย์หน้าก็ได้กำไรแล้ว ไม่ต้องรอเงินเข้ามาอีกเป็นครึ่งปี
3. ไม่ต้องเสียภาษี
บางคนอาจจะไม่รู้ว่า หากเราได้ดอกเบี้ยเงินฝากเกิน 20,000 บาทขึ้นไป ดอกเบี้ยส่วนที่เกินมาเราจะต้องเสียภาษีด้วย แต่การซื้อขายในกองทุนตลาดเงินเราจะไม่ต้องเสียภาษีเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะรัฐบาลยกเว้นภาษีขายกองทุนสำหรับบุคคลธรรมดาไว้
4. ความเสี่ยงต่ำกว่าฝากออมทรัพย์
จริงๆในทางทฤษฎีกองทุนตลาดเงินมีความเสี่ยงต่ำกว่าธนาคารอีก เพราะกองทุนตลาดเงินจะลงทุนในตราสารหนี้ของรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งความเสี่ยงในการเบี้ยวหนี้ของรัฐบาลจะน้อยกว่าธนาคารที่ส่วนมากจะบริหารโดยเอกชน
5. ไม่ต้องเจอค่าธรรมเนียมรายปี
บางธนาคารเราอาจจะเจอค่าธรรมเนียมต่างๆ ทั้งค่ารักษาบัญชี ค่าบัตรรายปี ซึ่งในปีนึงเราอาจจะเจอค่าใช้จ่ายแบบนี้ที แต่หากมาดูกองทุนตลาดเงินแล้ว ผู้ดูแลเค้าจะคิดค่าธรรมเนียมเป็นรายวันเลย (แล้วมันดีกว่าตรงไหนเนี่ย - - )
แต่เดี๋ยวก่อนครับ จริงๆค่าใช้จ่ายแฝงพวกนี้ส่วนใหญ่มันจะไปคิดตอนซื้อขายกองทุนหรือไม่ก็หักจากมูลค่ากองทุน NAV รายวันทีละนิดเดียวเอง (ย้ำว่านิดเดียวจริงๆ นิดเดียวจนไม่ทันสังเกตเห็นเลย) ซึ่งทำให้จริงๆเรารู้สึกว่ามันไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร (แต่แนะนำว่า หากอยากทราบค่าใช้จ่ายโดยละเอียดจริงๆ ลองสอบถามไปที่บลจ.ของกองทุนตลาดเงินดูได้ครับ)
ถึงแม้ว่าผมจะอธิบายถึงข้อดีของกองทุนตลาดเงินมามากขนาดนี้ แต่อย่าลืมว่ามันก้อต้องได้อย่างเสียอย่างอยู่เหมือนกัน การลงทุนในกองทุนตลาดเงินเราอาจจะได้สภาพคล่องที่น้อยกว่าเงินฝากออมทรัพย์อยู่นิดหน่อย หมายถึงว่า กว่าเราจะซื้อหรือขายหน่วยลงทุนของกองทุนตลาดเงินได้ก้อต้องรออีก 1 วันทำการเลย แถมหากติดช่วงเสาร์อาทิตย์หรือวันหยุดอื่นๆ เราก็ต้องเลื่อนระยะเวลาไปอีก ดังนั้นบางคนอาจจะไม่สะดวกเอาก้อได้ครับ
ก่อนจะเปลี่ยนการลงทุนผมก็ขอให้ลองศึกษาพวกกองทุนตลาดเงินให้ดีๆก่อนครับ และผมก็ไม่ได้แนะนำให้โยกย้ายเงินไปที่ตลาดเงินทั้งหมดเลย เราควรเหลือเงินเก็บไว้ในออมทรัพย์บ้าง เผื่อเราต้องการใช้เงินเมื่อไหร่ก็สามารถไปธนาคารเพื่อถอนเงินได้ทันทีเลยครับ
http://www.porttoffy.com/article/feeds