สวัสดีครับ
คราวก่อนผมได้เขียนรีวิว
รีวิว [ขายของออนไลน์] การจดทะเบียนธุรกิจตลาดแบบตรง กับ สคบ.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ >>>
http://pantip.com/topic/34688102
วันนี้ขอเขียนรีวิว การขอเครื่องหมาย DBD Verified กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จากประสบการณ์ตัวเอง ทำจริงและได้จริง
** ไม่มีหน่วยงานใด เจ้าหน้าที่ใดๆ มาข้องเกี่ยวทั้งสิ้น เป็นการรีวิวโปร่งใส **
--------------------------------------------------------------------
รู้จักเครื่องหมาย DBD Verified
เครื่องหมาย DBD Verified คือ เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าออกให้แก่ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ได้จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์มาตรฐานของกรมฯ ที่อิงตามมาตรฐาน WTA (World Trustmark Alliance) ถือว่าเป็นหลักเกณฑ์มาตรฐานสากล แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ
ทีนี้เรามาเปรียบเทียบถึงความแตกต่างระหว่างเครื่องหมาย DBD Registered กับ DBD Verified กันครับ
เป็นตารางที่ผมประเมินเองในฐานะผู้ประกอบการ e-Commerce

* หากจดทะเบียนพาณิชย์ครั้งแรกเสีย 50 บาท ส่วน DBD Registered จนท. จะส่ง Sourcecode ให้ทางอีเมล
สรุป
เครื่องหมาย DBD Verified จะโชว์จุดเด่นในเรื่องของความน่าเชื่อถือและความเป็นมาตรฐานได้อย่างดี ช่วยให้เรารู้สึกอุ่นใจมากขึ้นเมื่อสั่งซื้อสินค้าจากเว็บที่มีเครื่องหมาย DBD Verified ครับ
--------------------------------------------------------------------
คุณสมบัติในการขอเครื่องหมาย DBD Verified
1. บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่ประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางเว็บไซต์
2. จัดส่งงบการเงิน (กรณีเป็นนิติบุคคล)
อธิบาย: ก็คือ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัท ตามกฏหมายต้องทำบัญชีส่งอยู่แล้ว
3. จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
อธิบาย: หลังจากเราได้รับเครื่องหมาย DBD Registered แล้วก็สามารถยื่นขอ DBD Verified ต่อได้เลยครับ
ไม่ต้องรอ 6 เดือนแล้ว
4. เป็นเจ้าของโดเมนเนม
อธิบาย: มีเว็บไซต์เอง แล้วเมื่อเช็คด้วย WHOIS เช่น
https://whois.icann.org จะต้องระบุได้ว่าใครคือเจ้าของโดเมน ตรงกับที่จดทะเบียนไว้ไหม
บางเว็บอาจใช้ Privacy WHOIS เพื่อปิดบังชื่อไว้ก็จะต้องปิดการใข้งาน Domain Privacy ด้วย
ส่วนขายผ่านสื่อ Social เช่น Facebook, Instagram, LINE
ไม่ถือว่าเป็นเจ้าของโดเมนเนม
รวมทั้ง Sub-domain หรือ Sub-Directory
เช่น
http://abcd.aaaa.com หรือ
http://www.aaaa.com/shop/xyz
ก็ไม่ถือว่าเป็นเจ้าของโดเมนเนมเช่นกัน
5. ระบบการสั่งซื้อ อย่างน้อย ระบบตะกร้าสินค้า/ระบบการจอง, ระบบใบเสนอราคา, ระบบแบบฟอร์มสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ
อธิบาย: ก็คือมีระบบที่ลูกค้าสามารถทำรายการสั่งซื้อได้ด้วยตัวเอง
6. ระบบการชำระเงิน ได้แก่ ระบบออฟไลน์ อย่างน้อย โอนเงินผ่านธนาคาร/เก็บเงินปลายทาง หรือ ระบบออนไลน์ อย่างน้อย ผ่านตัวกลางทางการเงิน/ผ่าน e-Banking/เคาน์เตอร์เซอวิส ผ่านบัตรเครดิต/เดบิต
7. ระบบการจัดส่ง ได้แก่ ประเภทสินค้า เช่น ไปรษณีย์ บริษัทขนส่งเอกชน พนักงานส่งสินค้า หรือ ประเภทบริการ เช่น Download จัดส่งทางอีเมล์
8. ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายและไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
--------------------------------------------------------------------
ขั้นตอนการขอเครื่องหมาย DBD Verified
A. เตรียมความพร้อม
-----------------------
การประเมินจะประเมิน 3 ขั้นตอน
3 ขั้นตอน
ขั้น 1. ผู้ประกอบการ ประเมินเอง (ทำดร๊าฟท์)
ขั้น 2. เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้ประเมิน (ตรวจและทดสอบ)
ขั้น 3. คณะกรรมการจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เป็นผู้ประเมิน
สำหรับขอ DBD Verified ระดับ Silver หลังจากวันที่ได้ DBD Registered แล้ว เป็นอันว่าได้ฤกษ์ดียามดี
ก็เลยเข้าไปที่
https://www.trustmarkthai.com
สังเกต HTTPS และเครื่องหมายกุญแจสีเขียว
ทางกรมพัฒฯ เองก็ยังติดตั้ง SSL เข้ารหัสข้อมูล เป็นแบบอย่างให้แก่ผู้ประกอบการ
แล้วพวกเราผู้ประกอบการที่เก็บข้อมูลลูกค้า รหัสผ่านเอย รหัสบัตรเครดิตเอยก็ควรติดตั้ง SSL ด้วยนะครับ
ถ้าลูกค้าโดนแฮกข้อมูลขึ้นมา กิจการของคุณแทบจะพังมลายสิ้น
++ สำหรับท่านใดที่ซื้อของออนไลน์บ่อยๆ หมั่นสังเกต https และเครื่องหมายกุญแจสีเขียวๆ ทุกครั้งก่อนกรอกรหัสผ่าน บัตรเครดิต ++


ทดสอบความปลอดภัยของ SSL Cert. กรมพัฒฯ
-----------------------

ตรวจเขาตรวจเรานะฮะ Cert. แบบนี้ไม่เหมาะกับการใช้กับเว็บ e-Commerce เนื่องจากมีช่องโหว่บางจุดอยู่
คุณภาพ SSL Cert. ก็มีผลต่อความปลอดภัยข้อมูลลูกค้าเช่นกัน
B. เตรียมทำดร้าฟท์ส่งให้ จนท. ตรวจ
-----------------------
จขกท. เริ่มทำวันที่ 14 มี.ค. 2559
อย่าเพิ่งง่วง มีอีกเยอะ....

แต่ผมก็แอบหลับนิดๆ ตอนทำเหมือนกันนะฮะ....
ขั้น 1. ผู้ประกอบการ ประเมินเอง (ทำดร๊าฟท์)
1. Log in เข้าระบบ
Username/Password นี้เราได้มาจากตอนยื่นขอเครื่องหมาย DBD Registered แล้วทางกรมพัฒฯ ส่ง Sourcecode มาให้
แล้วคลิกเมนู ขอเครื่องหมาย -> ขอเครื่องหมาย Verified
2. จะพบ ประวัติการขอเครื่องหมาย Verified ให้เราคลิก ไอคอนรูป Note ด้านขวามือ
3. เงื่อนไขการขอเครื่องหมาย ให้เรา ติ๊ก Checkbox ยอมรับเงื่อนไข....
4. เริ่มประเมินกันเลย
การประเมินจะแบ่งเป็น 5 หน้า เมื่อประเมินแต่ละหน้าเสร็จแล้ว ** อย่าลืมคลิก บันทึกฉบับร่าง ทุกครั้งก่อนที่จะประเมินหลักเกณฑ์ถัดไป **
5 หลักเกณฑ์มีคำถามที่ต้องตอบ 60 กว่าข้อ ยื่งมีครบทุกข้อยิ่งดีครับ
5 หลักเกณฑ์
หลักเกณฑ์ 1. คุณสมบัติผู้ประกอบการที่ขอเครื่องหมาย
หลักเกณฑ์ 2. เงื่อนไขการค้าและบริการ
หลักเกณฑ์ 3. ด้านความมั่นคงปลอดภัยของเว็บไซต์
หลักเกณฑ์ 4. ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล
หลักเกณฑ์ 5. การแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน และการระงับข้อพิพาท
ขั้น 2. เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้ประเมิน (ตรวจและทดสอบ)
-----------------------
เมื่อเสร็จแล้วจะขึ้นสถานะฉบับร่าง
3-14 วัน เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้ประเมิน (ตรวจและทดสอบ)
จะเริ่มตรวจสอบดร้าฟท์ ทดสอบเว็บไซต์ ทดลองทำรายการสั่งซื้อ อ่านข้อมูลทุกส่วนของเว็บไซต์ ตรวจข้อมูลบัญชี
ขั้น 3. คณะกรรมการจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เป็นผู้ประเมิน
-----------------------
ขั้นตอนนี้จะกินเวลาเป็นเดือน
ทั้งหมดจะใช้เวลา 45 วันโดยประมาณ หรืออาจมากกว่าขึ้นอยู่กับรอบการตรวจแต่ละครั้ง
ระหว่างนี้แนะนำให้ท่านควรเป็นคนดีเข้าไว้นะฮะ หมั่นทำบุญเยอะๆ
...............
...............
วันที่ 2 มิ.ย. 2559
ในที่สุดก็ได้รับอีเมลว่าผ่านการประเมินแล้ว
หน้าตาหนังสืออนุญาต
ถือว่าเว็บไซต์ได้ได้รับการรับรองความน่าเชื่อถือจากกรมพัฒฯ
--------------------------------------------------------------------
ขอขอบพระคุณ
สำนักพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
กระทรวงพาณิชย์
-----
อ้างอิง
1.
คู่มือการขอเครื่องหมาย DBD Verified บนเว็บไซต์ www.trustmarkthai.com. สำนักพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า.
2.
พาณิชย์ ‘เปิดแผน’ พัฒนาผู้ประกอบการออนไลน์ทั้งระบบ ตั้งแต่ตั้งไข่จนโกอินเตอร์ หวังใช้ อี-คอมเมิร์ซ เป็นช่องทางช่วย SMEs ขยายตลาด/สร้างฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ. กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์. สืบค้น 4 มิถุนายน 2559.
-----
PS. บทความนี้เป็นบทความต้นฉบับที่ Pantip ที่เดียว
[CR] รีวิว [ขายของออนไลน์] การขอเครื่องหมาย DBD Verified กรมพัฒฯ
คราวก่อนผมได้เขียนรีวิว
รีวิว [ขายของออนไลน์] การจดทะเบียนธุรกิจตลาดแบบตรง กับ สคบ.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ >>> http://pantip.com/topic/34688102
วันนี้ขอเขียนรีวิว การขอเครื่องหมาย DBD Verified กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จากประสบการณ์ตัวเอง ทำจริงและได้จริง
** ไม่มีหน่วยงานใด เจ้าหน้าที่ใดๆ มาข้องเกี่ยวทั้งสิ้น เป็นการรีวิวโปร่งใส **
--------------------------------------------------------------------
รู้จักเครื่องหมาย DBD Verified
เครื่องหมาย DBD Verified คือ เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าออกให้แก่ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ได้จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์มาตรฐานของกรมฯ ที่อิงตามมาตรฐาน WTA (World Trustmark Alliance) ถือว่าเป็นหลักเกณฑ์มาตรฐานสากล แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ
ทีนี้เรามาเปรียบเทียบถึงความแตกต่างระหว่างเครื่องหมาย DBD Registered กับ DBD Verified กันครับ
เป็นตารางที่ผมประเมินเองในฐานะผู้ประกอบการ e-Commerce
* หากจดทะเบียนพาณิชย์ครั้งแรกเสีย 50 บาท ส่วน DBD Registered จนท. จะส่ง Sourcecode ให้ทางอีเมล
สรุป
เครื่องหมาย DBD Verified จะโชว์จุดเด่นในเรื่องของความน่าเชื่อถือและความเป็นมาตรฐานได้อย่างดี ช่วยให้เรารู้สึกอุ่นใจมากขึ้นเมื่อสั่งซื้อสินค้าจากเว็บที่มีเครื่องหมาย DBD Verified ครับ
--------------------------------------------------------------------
คุณสมบัติในการขอเครื่องหมาย DBD Verified
1. บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่ประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางเว็บไซต์
2. จัดส่งงบการเงิน (กรณีเป็นนิติบุคคล)
อธิบาย: ก็คือ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัท ตามกฏหมายต้องทำบัญชีส่งอยู่แล้ว
3. จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
อธิบาย: หลังจากเราได้รับเครื่องหมาย DBD Registered แล้วก็สามารถยื่นขอ DBD Verified ต่อได้เลยครับ
ไม่ต้องรอ 6 เดือนแล้ว
4. เป็นเจ้าของโดเมนเนม
อธิบาย: มีเว็บไซต์เอง แล้วเมื่อเช็คด้วย WHOIS เช่น https://whois.icann.org จะต้องระบุได้ว่าใครคือเจ้าของโดเมน ตรงกับที่จดทะเบียนไว้ไหม
บางเว็บอาจใช้ Privacy WHOIS เพื่อปิดบังชื่อไว้ก็จะต้องปิดการใข้งาน Domain Privacy ด้วย
ส่วนขายผ่านสื่อ Social เช่น Facebook, Instagram, LINE
ไม่ถือว่าเป็นเจ้าของโดเมนเนม
รวมทั้ง Sub-domain หรือ Sub-Directory
เช่น http://abcd.aaaa.com หรือ http://www.aaaa.com/shop/xyz
ก็ไม่ถือว่าเป็นเจ้าของโดเมนเนมเช่นกัน
5. ระบบการสั่งซื้อ อย่างน้อย ระบบตะกร้าสินค้า/ระบบการจอง, ระบบใบเสนอราคา, ระบบแบบฟอร์มสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ
อธิบาย: ก็คือมีระบบที่ลูกค้าสามารถทำรายการสั่งซื้อได้ด้วยตัวเอง
6. ระบบการชำระเงิน ได้แก่ ระบบออฟไลน์ อย่างน้อย โอนเงินผ่านธนาคาร/เก็บเงินปลายทาง หรือ ระบบออนไลน์ อย่างน้อย ผ่านตัวกลางทางการเงิน/ผ่าน e-Banking/เคาน์เตอร์เซอวิส ผ่านบัตรเครดิต/เดบิต
7. ระบบการจัดส่ง ได้แก่ ประเภทสินค้า เช่น ไปรษณีย์ บริษัทขนส่งเอกชน พนักงานส่งสินค้า หรือ ประเภทบริการ เช่น Download จัดส่งทางอีเมล์
8. ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายและไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
--------------------------------------------------------------------
ขั้นตอนการขอเครื่องหมาย DBD Verified
A. เตรียมความพร้อม
-----------------------
การประเมินจะประเมิน 3 ขั้นตอน
3 ขั้นตอน
ขั้น 1. ผู้ประกอบการ ประเมินเอง (ทำดร๊าฟท์)
ขั้น 2. เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้ประเมิน (ตรวจและทดสอบ)
ขั้น 3. คณะกรรมการจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เป็นผู้ประเมิน
สำหรับขอ DBD Verified ระดับ Silver หลังจากวันที่ได้ DBD Registered แล้ว เป็นอันว่าได้ฤกษ์ดียามดี
ก็เลยเข้าไปที่
https://www.trustmarkthai.com
สังเกต HTTPS และเครื่องหมายกุญแจสีเขียว
ทางกรมพัฒฯ เองก็ยังติดตั้ง SSL เข้ารหัสข้อมูล เป็นแบบอย่างให้แก่ผู้ประกอบการ
แล้วพวกเราผู้ประกอบการที่เก็บข้อมูลลูกค้า รหัสผ่านเอย รหัสบัตรเครดิตเอยก็ควรติดตั้ง SSL ด้วยนะครับ
ถ้าลูกค้าโดนแฮกข้อมูลขึ้นมา กิจการของคุณแทบจะพังมลายสิ้น
++ สำหรับท่านใดที่ซื้อของออนไลน์บ่อยๆ หมั่นสังเกต https และเครื่องหมายกุญแจสีเขียวๆ ทุกครั้งก่อนกรอกรหัสผ่าน บัตรเครดิต ++
ทดสอบความปลอดภัยของ SSL Cert. กรมพัฒฯ
-----------------------
ตรวจเขาตรวจเรานะฮะ Cert. แบบนี้ไม่เหมาะกับการใช้กับเว็บ e-Commerce เนื่องจากมีช่องโหว่บางจุดอยู่
คุณภาพ SSL Cert. ก็มีผลต่อความปลอดภัยข้อมูลลูกค้าเช่นกัน
B. เตรียมทำดร้าฟท์ส่งให้ จนท. ตรวจ
-----------------------
จขกท. เริ่มทำวันที่ 14 มี.ค. 2559
อย่าเพิ่งง่วง มีอีกเยอะ....
แต่ผมก็แอบหลับนิดๆ ตอนทำเหมือนกันนะฮะ....
ขั้น 1. ผู้ประกอบการ ประเมินเอง (ทำดร๊าฟท์)
1. Log in เข้าระบบ
Username/Password นี้เราได้มาจากตอนยื่นขอเครื่องหมาย DBD Registered แล้วทางกรมพัฒฯ ส่ง Sourcecode มาให้
แล้วคลิกเมนู ขอเครื่องหมาย -> ขอเครื่องหมาย Verified
2. จะพบ ประวัติการขอเครื่องหมาย Verified ให้เราคลิก ไอคอนรูป Note ด้านขวามือ
3. เงื่อนไขการขอเครื่องหมาย ให้เรา ติ๊ก Checkbox ยอมรับเงื่อนไข....
4. เริ่มประเมินกันเลย
การประเมินจะแบ่งเป็น 5 หน้า เมื่อประเมินแต่ละหน้าเสร็จแล้ว ** อย่าลืมคลิก บันทึกฉบับร่าง ทุกครั้งก่อนที่จะประเมินหลักเกณฑ์ถัดไป **
5 หลักเกณฑ์มีคำถามที่ต้องตอบ 60 กว่าข้อ ยื่งมีครบทุกข้อยิ่งดีครับ
5 หลักเกณฑ์
หลักเกณฑ์ 1. คุณสมบัติผู้ประกอบการที่ขอเครื่องหมาย
หลักเกณฑ์ 2. เงื่อนไขการค้าและบริการ
หลักเกณฑ์ 3. ด้านความมั่นคงปลอดภัยของเว็บไซต์
หลักเกณฑ์ 4. ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล
หลักเกณฑ์ 5. การแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียน และการระงับข้อพิพาท
ขั้น 2. เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้ประเมิน (ตรวจและทดสอบ)
-----------------------
เมื่อเสร็จแล้วจะขึ้นสถานะฉบับร่าง
3-14 วัน เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้ประเมิน (ตรวจและทดสอบ)
จะเริ่มตรวจสอบดร้าฟท์ ทดสอบเว็บไซต์ ทดลองทำรายการสั่งซื้อ อ่านข้อมูลทุกส่วนของเว็บไซต์ ตรวจข้อมูลบัญชี
ขั้น 3. คณะกรรมการจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เป็นผู้ประเมิน
-----------------------
ขั้นตอนนี้จะกินเวลาเป็นเดือน
ทั้งหมดจะใช้เวลา 45 วันโดยประมาณ หรืออาจมากกว่าขึ้นอยู่กับรอบการตรวจแต่ละครั้ง
ระหว่างนี้แนะนำให้ท่านควรเป็นคนดีเข้าไว้นะฮะ หมั่นทำบุญเยอะๆ
...............
...............
วันที่ 2 มิ.ย. 2559
ในที่สุดก็ได้รับอีเมลว่าผ่านการประเมินแล้ว
หน้าตาหนังสืออนุญาต
ถือว่าเว็บไซต์ได้ได้รับการรับรองความน่าเชื่อถือจากกรมพัฒฯ
--------------------------------------------------------------------
ขอขอบพระคุณ
สำนักพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
กระทรวงพาณิชย์
-----
อ้างอิง
1. คู่มือการขอเครื่องหมาย DBD Verified บนเว็บไซต์ www.trustmarkthai.com. สำนักพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์. กรมพัฒนาธุรกิจการค้า.
2. พาณิชย์ ‘เปิดแผน’ พัฒนาผู้ประกอบการออนไลน์ทั้งระบบ ตั้งแต่ตั้งไข่จนโกอินเตอร์ หวังใช้ อี-คอมเมิร์ซ เป็นช่องทางช่วย SMEs ขยายตลาด/สร้างฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ. กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์. สืบค้น 4 มิถุนายน 2559.
-----
PS. บทความนี้เป็นบทความต้นฉบับที่ Pantip ที่เดียว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น