สวัสดีครับชาวพันทิพ ผมมีเรื่องค่อนข้างหนักใจระหว่างผมกับแฟน คือ"เราจะมีลูกกันดีมั้ย" ซึ่งตัวผมกับแฟนมีความเห็นตรงกันว่า ไม่ชอบเด็ก และทางครอบครัวก็ไม่เห็นด้วยกับการมีบุตร
เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ ขอเท้าความเกี่ยวกับตัวผมและแฟนนิดนึงครับ
ตอนนี้ผมอายุ 25 ปี พ่อแม่ของผมอายุ 44 ปี คำนวนไม่ยากครับ เขา"พลาด"มีผมขึ้นมาตั้งแต่สมัยเรียน ทั้งสองไม่สามารถหาเงินเลี้ยงดูผมได้ จึงฝากผมไว้ให้ย่าเลี้ยง แล้วทั้งคู่ก็หย่ากันตั้งแต่ผมยังจำความไม่ได้
ทางด้านแฟนผม พ่อและแม่ของเขาก็"พลาด"มีเขาขึ้นมาเช่นกัน ย่าของทางฝั่งพ่อ ขอให้แม่ไปเอาเด็กออก แต่แม่เขาไม่ยอม จึงหนีไปอยู่คนเดียวที่ต่างจังหวัด และคลอดแฟนผมออกมา... ความเป็นอยู่ของทางเขาค่อนข้างแย่กว่าผม เขายากจนถึงขนาดต้องต้มใบตำลึงใส่น้ำปลากิน แม่ของแฟนเขาจึงส่งแฟนให้ย่าดูแล
น่าจะได้เห็นเหตุแล้วว่าทำไมรอบข้างจึงไม่อยากให้มีบุตร ซึ่งผมก็เห็นด้วยว่าถ้าให้กำเนิดเด็กขึ้นมาแล้วต้องมาเผชิญชีวิตวัยเด็กเช่นเดียวกันกับผมและแฟน ย่อมไม่ใช่เรื่องดี
ขอเท้าความเกี่ยวกับช่วงชิวิตวัยเด็กอีกสักนิดครับ
ปูและย่าของผม ท่านเป็นครูบำนาญกันทั้งคู่ ซึ่งก็รู้ๆกันอยู่ว่าอาจารย์รุ่นนี้ เขามีดีกรีความเขี้ยว ความดุขนาดไหน...เลิกเรียนมาอย่าหวังจะได้เล่นเหมทอนเด็กคนอื่นๆครับ เพราะนอกจากการบ้านแล้ว ยังมีแบบฝึกหัด5วิชาที่ต้องทำให้เสร็จก่อน2ทุ่ม ซึ่งเป็นเวลาที่ถูกกำหนดให้นอน ถ้าทำไม่ได้ ทำไม่ทัน ขัดคำสั่ง ก็โดนไม้ โดนหัวเข็มขัด ไม่ใช่แค่เรื่องเรียนครับ ทุกๆเรื่องถ้าไม่ทำตามที่เขาบอก ก็จะโดนตี ไม่มีการอธิบายเหตุผลหรือเปิดโอกาสให้พูดแก้ต่างอะไรทั้งนั้น ซึ่งผมก็เป็นคนใจเสาะ กลัวเจ็บอีกต่างหาก ทุกววันนี้ค่อนข้างวิตกจริตกับสิ่งรอบตัวครับ ระแวงไปหมด แถมชอบเก็บตัว ไม่ค่อยพูดกันคนในบ้าน เรียกว่าปฏิสัมพันธ์กับครอบครัวไม่ดีเอาเสียเลย
ส่วนทางแฟนก็ไม่แพ้กัน เมื่อต้องกลับมาอยู่กับย่าที่ไม่อยากจะให้เขาเกิดมา ก็เป็นที่ไม่พอใจนัก อยู่แบบเป็นขี้ข้า คนใช้ แต่อย่างน้อย ย่าก็ยังส่งเสียให้เรียน ชีวิตมาเริ่มแย่หนักตอนที่พ่อของเขาล้มละลาย หอบทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาอยู่กับย่า ผมไม่ค่อยทราบรายละเอียดว่าเขาทำอะไรกับแฟนผมบ้าง แต่สิ่งที่พบเห็นได้คือรอยฟกช้ำ ที่มีใหม่เกือบทุกสัปดาห์ ซึ่งผมเคยบอกให้แฟนแจ้งความกับมูลนิธิปวีณา แต่นางก็ไม่ยอมครับ บอกจะให้เขามาจับพ่อไปได้ยังไง ผมก็จนปัญญา ไม่อยากทำลายเกียรติพ่อของเขา จึงไม่ก้าวก่ายให้เขาตัดสินใจเลือกเองว่าจะทำอย่างไร
ปัจจุบันเราทั้งคู่เรียนจบ และทำงาน ออกจากบ้านเรียบร้อย แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันครับ ไปมาหาสู้กันก็สัปดาห์ละ 2-3หน เพราะเราอยู่ค่อนข้างไกลกัน ทั้งที่พัก และที่ทำงาน เริ่มมีเงินเก็บ วางแผนลงหลักปักฐานกัน และเรื่องที่เป็นประเด็นคือการมีบุตรก็เข้ามามีส่วนเอี่ยว
เราทั้งสองไม่ได้ขัดหรทอทะเลาะอะไรกัน เพราะเราทั้งคู่ไม่ได้ชอบเด็ก และทางครอบครัวของเราทั้งคู่ก็ไม่เห็นด้วยเพราะเหตุผลข้างต้นมา ซึ่งผมเองก็เกรงว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ไม่อยากให้เด็กโดยเฉพาะลูกของเราต้องมาเจอวัยเด็กแย่ๆแบบเราสอง แต่นั่นแหละครับที่เป็นตัวจุดประกายให้ผมอยากมีลูก ผมคิดว่ามันคงจะดี ที่เราสามารถreset ชีวิตตัวเองโดยการให้ชีวิตวัยเด็กที่เราขาดกับเลือดเนื้อเชื้อไขของเรา
ผมหวังเอาไว้ว่า อีกสัก5-7 ปี ผมจะพร้อมทั้งทางด้านการเงิน และเวลา ผมจะอบรมลูกอย่างละมุนละม่อม ให้เหตุ ผล ให้ทางเลือก ให้อิสระทางความคิด รับฟังไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ ฝึกให้เขาคิด ให้มีความคิดของตัวเอง รับผิดชอบการกระทำของตัวเอง
แต่นั่นเป็นได้แค่แนวคิดเท่านั้น ผมไม่มีประสปการณ์การเป็นพ่อ แล้วผมก็ไม่ใช่คนที่เพรียบพร้อม ไม่ทราบเลยว่าจะทำได้ตามที่ตั้งมั่นหรือไม่...
ผมและแฟนควรจะมีลูกดีไหมครับ หรือรับเลี้ยง หรือควรหยุดความคิดไว้ก่อนดีครับ
ไม่ชอบเด็ก แต่อยากมีลูก เพราะ...
เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ ขอเท้าความเกี่ยวกับตัวผมและแฟนนิดนึงครับ
ตอนนี้ผมอายุ 25 ปี พ่อแม่ของผมอายุ 44 ปี คำนวนไม่ยากครับ เขา"พลาด"มีผมขึ้นมาตั้งแต่สมัยเรียน ทั้งสองไม่สามารถหาเงินเลี้ยงดูผมได้ จึงฝากผมไว้ให้ย่าเลี้ยง แล้วทั้งคู่ก็หย่ากันตั้งแต่ผมยังจำความไม่ได้
ทางด้านแฟนผม พ่อและแม่ของเขาก็"พลาด"มีเขาขึ้นมาเช่นกัน ย่าของทางฝั่งพ่อ ขอให้แม่ไปเอาเด็กออก แต่แม่เขาไม่ยอม จึงหนีไปอยู่คนเดียวที่ต่างจังหวัด และคลอดแฟนผมออกมา... ความเป็นอยู่ของทางเขาค่อนข้างแย่กว่าผม เขายากจนถึงขนาดต้องต้มใบตำลึงใส่น้ำปลากิน แม่ของแฟนเขาจึงส่งแฟนให้ย่าดูแล
น่าจะได้เห็นเหตุแล้วว่าทำไมรอบข้างจึงไม่อยากให้มีบุตร ซึ่งผมก็เห็นด้วยว่าถ้าให้กำเนิดเด็กขึ้นมาแล้วต้องมาเผชิญชีวิตวัยเด็กเช่นเดียวกันกับผมและแฟน ย่อมไม่ใช่เรื่องดี
ขอเท้าความเกี่ยวกับช่วงชิวิตวัยเด็กอีกสักนิดครับ
ปูและย่าของผม ท่านเป็นครูบำนาญกันทั้งคู่ ซึ่งก็รู้ๆกันอยู่ว่าอาจารย์รุ่นนี้ เขามีดีกรีความเขี้ยว ความดุขนาดไหน...เลิกเรียนมาอย่าหวังจะได้เล่นเหมทอนเด็กคนอื่นๆครับ เพราะนอกจากการบ้านแล้ว ยังมีแบบฝึกหัด5วิชาที่ต้องทำให้เสร็จก่อน2ทุ่ม ซึ่งเป็นเวลาที่ถูกกำหนดให้นอน ถ้าทำไม่ได้ ทำไม่ทัน ขัดคำสั่ง ก็โดนไม้ โดนหัวเข็มขัด ไม่ใช่แค่เรื่องเรียนครับ ทุกๆเรื่องถ้าไม่ทำตามที่เขาบอก ก็จะโดนตี ไม่มีการอธิบายเหตุผลหรือเปิดโอกาสให้พูดแก้ต่างอะไรทั้งนั้น ซึ่งผมก็เป็นคนใจเสาะ กลัวเจ็บอีกต่างหาก ทุกววันนี้ค่อนข้างวิตกจริตกับสิ่งรอบตัวครับ ระแวงไปหมด แถมชอบเก็บตัว ไม่ค่อยพูดกันคนในบ้าน เรียกว่าปฏิสัมพันธ์กับครอบครัวไม่ดีเอาเสียเลย
ส่วนทางแฟนก็ไม่แพ้กัน เมื่อต้องกลับมาอยู่กับย่าที่ไม่อยากจะให้เขาเกิดมา ก็เป็นที่ไม่พอใจนัก อยู่แบบเป็นขี้ข้า คนใช้ แต่อย่างน้อย ย่าก็ยังส่งเสียให้เรียน ชีวิตมาเริ่มแย่หนักตอนที่พ่อของเขาล้มละลาย หอบทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาอยู่กับย่า ผมไม่ค่อยทราบรายละเอียดว่าเขาทำอะไรกับแฟนผมบ้าง แต่สิ่งที่พบเห็นได้คือรอยฟกช้ำ ที่มีใหม่เกือบทุกสัปดาห์ ซึ่งผมเคยบอกให้แฟนแจ้งความกับมูลนิธิปวีณา แต่นางก็ไม่ยอมครับ บอกจะให้เขามาจับพ่อไปได้ยังไง ผมก็จนปัญญา ไม่อยากทำลายเกียรติพ่อของเขา จึงไม่ก้าวก่ายให้เขาตัดสินใจเลือกเองว่าจะทำอย่างไร
ปัจจุบันเราทั้งคู่เรียนจบ และทำงาน ออกจากบ้านเรียบร้อย แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันครับ ไปมาหาสู้กันก็สัปดาห์ละ 2-3หน เพราะเราอยู่ค่อนข้างไกลกัน ทั้งที่พัก และที่ทำงาน เริ่มมีเงินเก็บ วางแผนลงหลักปักฐานกัน และเรื่องที่เป็นประเด็นคือการมีบุตรก็เข้ามามีส่วนเอี่ยว
เราทั้งสองไม่ได้ขัดหรทอทะเลาะอะไรกัน เพราะเราทั้งคู่ไม่ได้ชอบเด็ก และทางครอบครัวของเราทั้งคู่ก็ไม่เห็นด้วยเพราะเหตุผลข้างต้นมา ซึ่งผมเองก็เกรงว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ไม่อยากให้เด็กโดยเฉพาะลูกของเราต้องมาเจอวัยเด็กแย่ๆแบบเราสอง แต่นั่นแหละครับที่เป็นตัวจุดประกายให้ผมอยากมีลูก ผมคิดว่ามันคงจะดี ที่เราสามารถreset ชีวิตตัวเองโดยการให้ชีวิตวัยเด็กที่เราขาดกับเลือดเนื้อเชื้อไขของเรา
ผมหวังเอาไว้ว่า อีกสัก5-7 ปี ผมจะพร้อมทั้งทางด้านการเงิน และเวลา ผมจะอบรมลูกอย่างละมุนละม่อม ให้เหตุ ผล ให้ทางเลือก ให้อิสระทางความคิด รับฟังไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ ฝึกให้เขาคิด ให้มีความคิดของตัวเอง รับผิดชอบการกระทำของตัวเอง
แต่นั่นเป็นได้แค่แนวคิดเท่านั้น ผมไม่มีประสปการณ์การเป็นพ่อ แล้วผมก็ไม่ใช่คนที่เพรียบพร้อม ไม่ทราบเลยว่าจะทำได้ตามที่ตั้งมั่นหรือไม่...
ผมและแฟนควรจะมีลูกดีไหมครับ หรือรับเลี้ยง หรือควรหยุดความคิดไว้ก่อนดีครับ