JAS ตอบรับจ่าย 200ล้าน โบรกฯ เชียร์ซื้อ 5.80 บาท
ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2559
“JAS” แจ้งพร้อมจ่ายเงินค่าปรับอีกกว่า 200 ล้านบาท ให้กสทช.ภายใน 15 วัน ฟากโบรกฯเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 5.80 บาท มองบวกจ่ายค่าเสียหายน้อยกว่าคาด-ราคาในกระดานต่ำกว่าราคาซื้อหุ้นคืน 5 บาท
นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่า บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด (JASMBB) ได้รับหนังสือแจ้งเป็นทางการจากสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แล้วเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 59
โดยทางกสทช. ได้มีมติว่า จะต้องชำระค่าใช้จ่ายในการประมูลใหม่และอื่นๆ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 199,423,991.16 บาท และให้นำมาชำระภายใน 15 วัน ซึ่งทางบริษัท JASMBB จะดำเนินการตามที่ กสทช. แจ้งให้ทราบ สำหรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม และอินเทอร์เน็ต ของบริษัทในเครือของ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับอนุญาตจาก กสทช. ยังมีผลบังคับให้ใช้ได้ต่อไป
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ระบุว่า ขณะนี้ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น JAS เป็น “ซื้อ” จากเดิม “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ 5.80 บาท/หุ้น เนื่องจากฝ่ายวิเคราะห์ได้หักเงินชดเชยมูลค่า 1.90 บาท/หุ้น ออกจากการประเมินมูลค่าของ JAS หลังจากที่กสทช.มีแนวโน้มจะเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมจาก JAS อีก 199 ล้านบาท จึงน้อยกว่าที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดไว้เดิมอย่างมาก และจะช่วยลดความกังวลต่อการอ่อนแอของงบดุลในระยะยาว
ทั้งนี้ เชื่อว่า JAS จะใช้เงินซื้อคืนหุ้นครบ 100% ตามเป้าหมาย เนื่องจากราคาตลาดในปัจจุบันต่ำกว่าราคา share buyback ถึง 6.8% อย่างไรก็ตาม หากมีการใช้สิทธิน้อยกว่าคาด จะสร้างดาวน์ไซด์ต่อราคาเป้าหมายของฝ่ายวิเคราะห์ ในกรณีที่ไม่มีการซื้อหุ้นคืนเลย ซึ่งราคาเป้าหมายของฝ่ายวิเคราะห์จะลดลงเหลือ 5.50 บาท แต่ยังคงให้แนวโน้มอัตราผลตอบแทน 17% จากราคาปัจจุบัน
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า กรณีกสทช.เรียกเก็บค่าเสียหายกับ JASMBB เพิ่มอีกจำนวน 199 ล้านบาท จะส่งผลเป็นลบต่อหุ้น เพราะเป็นจำนวนเงินสูงกว่าข่าวที่รายงานออกมาสัปดาห์ก่อนว่าจะอยู่ที่ประมาณ 120 ล้านบาท โดยคาดทาง JAS จะมีการตั้งสำรองในงบการเงินไตรมาส 2/59 นี้เลย หลังจากที่ไตรมาส 1/59 มีการตั้งสำรองในส่วนการริบเงินประกัน 644 ล้านบาท
สำหรับในช่วงนี้ตั้งแต่ 1-10 มิ.ย. 59 เป็นช่วงนำหุ้น JAS ไปขายคืนให้กับบริษัทที่ราคาสูงกว่าราคาตลาดในระดับ 5 บาท ซึ่งจากราคาปิดเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.อยู่ที่ระดับ 4.68 บาท แม้จะมีส่วนแตกต่างอยู่ถึง 6.8% แต่บริษัทรับซื้อคืนในสัดส่วนเพียง 16.82% เทียบกับจำนวนหุ้นทั้งหมด แสดงว่าส่วนแตกต่างสุทธิที่ได้รับจริงๆ เป็นเพียง 1.15% ซึ่งถือว่าน้อยมากแล้ว
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เป็นไปตามที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ตั้งแต่ ADVANC เสนอซื้อคลื่นล็อต JAS ในราคาที่ JAS ชนะประมูลว่า ค่าความเสียหายที่ JAS จะต้องจ่าย กสทช.เพิ่มเติม นอกเหนือการถูกยึดเงินประกันไม่น่าจะสูงมากนัก
ทั้งนี้ ในแง่ของประมาณการ ซึ่งในกรณีเลวร้าย หากกำหนดให้ JAS ตั้งสำรองเงินค่าเสียหายดังกล่าวในปีนี้จะกระทบกำไรปีนี้ให้ลดลงประมาณการปัจจุบันราว 5.7% แต่จะกระทบมูลค่าพื้นฐานไม่มีนัยสำคัญเพียงประมาณ 0.03 บาท อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น JAS ที่ผ่านมาได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องรับข่าวบวกดังกล่าวมาแล้ว
ส่วนธุรกิจหลักอินเทอร์เนตความเร็วสูงยังมีความเสี่ยงแข่งขันรุนแรงในระยะยาว อีกทั้งมูลค่าพื้นฐานยังเหลืออัพไซด์ให้ลงทุนได้จำกัดแล้ว จากราคาเป้าหมายที่กำหนดไว้ 5 บาท จึงยังคงคำแนะนำให้ Switch ไปหุ้นในกลุ่มที่ยังมีอัพไซด์ อาทิ ADVANC ราคาเป้าหมาย 189 บาท หรือ INTUCH ราคาเป้าหมาย 75 บาท
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2559 (หน้า 27)
JAS ตอบรับจ่าย 200ล้าน โบรกฯ เชียร์ซื้อ 5.80 บาท
JAS ตอบรับจ่าย 200ล้าน โบรกฯ เชียร์ซื้อ 5.80 บาท
ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2559
“JAS” แจ้งพร้อมจ่ายเงินค่าปรับอีกกว่า 200 ล้านบาท ให้กสทช.ภายใน 15 วัน ฟากโบรกฯเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 5.80 บาท มองบวกจ่ายค่าเสียหายน้อยกว่าคาด-ราคาในกระดานต่ำกว่าราคาซื้อหุ้นคืน 5 บาท
นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เปิดเผยว่า บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด (JASMBB) ได้รับหนังสือแจ้งเป็นทางการจากสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แล้วเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 59
โดยทางกสทช. ได้มีมติว่า จะต้องชำระค่าใช้จ่ายในการประมูลใหม่และอื่นๆ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 199,423,991.16 บาท และให้นำมาชำระภายใน 15 วัน ซึ่งทางบริษัท JASMBB จะดำเนินการตามที่ กสทช. แจ้งให้ทราบ สำหรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม และอินเทอร์เน็ต ของบริษัทในเครือของ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ที่ได้รับอนุญาตจาก กสทช. ยังมีผลบังคับให้ใช้ได้ต่อไป
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ระบุว่า ขณะนี้ได้ปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น JAS เป็น “ซื้อ” จากเดิม “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ 5.80 บาท/หุ้น เนื่องจากฝ่ายวิเคราะห์ได้หักเงินชดเชยมูลค่า 1.90 บาท/หุ้น ออกจากการประเมินมูลค่าของ JAS หลังจากที่กสทช.มีแนวโน้มจะเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมจาก JAS อีก 199 ล้านบาท จึงน้อยกว่าที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดไว้เดิมอย่างมาก และจะช่วยลดความกังวลต่อการอ่อนแอของงบดุลในระยะยาว
ทั้งนี้ เชื่อว่า JAS จะใช้เงินซื้อคืนหุ้นครบ 100% ตามเป้าหมาย เนื่องจากราคาตลาดในปัจจุบันต่ำกว่าราคา share buyback ถึง 6.8% อย่างไรก็ตาม หากมีการใช้สิทธิน้อยกว่าคาด จะสร้างดาวน์ไซด์ต่อราคาเป้าหมายของฝ่ายวิเคราะห์ ในกรณีที่ไม่มีการซื้อหุ้นคืนเลย ซึ่งราคาเป้าหมายของฝ่ายวิเคราะห์จะลดลงเหลือ 5.50 บาท แต่ยังคงให้แนวโน้มอัตราผลตอบแทน 17% จากราคาปัจจุบัน
ขณะที่นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า กรณีกสทช.เรียกเก็บค่าเสียหายกับ JASMBB เพิ่มอีกจำนวน 199 ล้านบาท จะส่งผลเป็นลบต่อหุ้น เพราะเป็นจำนวนเงินสูงกว่าข่าวที่รายงานออกมาสัปดาห์ก่อนว่าจะอยู่ที่ประมาณ 120 ล้านบาท โดยคาดทาง JAS จะมีการตั้งสำรองในงบการเงินไตรมาส 2/59 นี้เลย หลังจากที่ไตรมาส 1/59 มีการตั้งสำรองในส่วนการริบเงินประกัน 644 ล้านบาท
สำหรับในช่วงนี้ตั้งแต่ 1-10 มิ.ย. 59 เป็นช่วงนำหุ้น JAS ไปขายคืนให้กับบริษัทที่ราคาสูงกว่าราคาตลาดในระดับ 5 บาท ซึ่งจากราคาปิดเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.อยู่ที่ระดับ 4.68 บาท แม้จะมีส่วนแตกต่างอยู่ถึง 6.8% แต่บริษัทรับซื้อคืนในสัดส่วนเพียง 16.82% เทียบกับจำนวนหุ้นทั้งหมด แสดงว่าส่วนแตกต่างสุทธิที่ได้รับจริงๆ เป็นเพียง 1.15% ซึ่งถือว่าน้อยมากแล้ว
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เป็นไปตามที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ตั้งแต่ ADVANC เสนอซื้อคลื่นล็อต JAS ในราคาที่ JAS ชนะประมูลว่า ค่าความเสียหายที่ JAS จะต้องจ่าย กสทช.เพิ่มเติม นอกเหนือการถูกยึดเงินประกันไม่น่าจะสูงมากนัก
ทั้งนี้ ในแง่ของประมาณการ ซึ่งในกรณีเลวร้าย หากกำหนดให้ JAS ตั้งสำรองเงินค่าเสียหายดังกล่าวในปีนี้จะกระทบกำไรปีนี้ให้ลดลงประมาณการปัจจุบันราว 5.7% แต่จะกระทบมูลค่าพื้นฐานไม่มีนัยสำคัญเพียงประมาณ 0.03 บาท อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้น JAS ที่ผ่านมาได้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องรับข่าวบวกดังกล่าวมาแล้ว
ส่วนธุรกิจหลักอินเทอร์เนตความเร็วสูงยังมีความเสี่ยงแข่งขันรุนแรงในระยะยาว อีกทั้งมูลค่าพื้นฐานยังเหลืออัพไซด์ให้ลงทุนได้จำกัดแล้ว จากราคาเป้าหมายที่กำหนดไว้ 5 บาท จึงยังคงคำแนะนำให้ Switch ไปหุ้นในกลุ่มที่ยังมีอัพไซด์ อาทิ ADVANC ราคาเป้าหมาย 189 บาท หรือ INTUCH ราคาเป้าหมาย 75 บาท
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2559 (หน้า 27)