บระเจ้า เช้าแล้วเหรอ นอนต่ออีกครึ่งชั่วโมง ตื่นมาอาบน้ำ ล้างหน้า แปลงฟัน รีบไปกรมข่นส่งทางบนเพื่อรับใบขับขี่ (พอดีสอบทฤษฎีกับปฏิบัตรที่โรงเรียนสอนขับรถมาแล้ว ได้คะแนนเต็มด้วยนะ) คาดว่าราชการไทย เมร่งต้องใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงแน่ๆ กว่าจะได้ ความเป็นจริง 25 นาที เสียตังค์ไป 305 บาท (ค่าบัตร 200 ค่าถ่ายรูป 100 ตรงๆ ผมถ่ายเองภาพสวยกว่านี้) อ้าวยังเช้าอยู่เลย แล้วกุนัดรับรถไว้ 15:30 น. (พอดีวันเดียวกะให้เสร็จทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งรับรถและทำใบขับขี่) ห้างก็ยังไม่เปิด ไปสิงสถิตอยู่ไหนดีหว่า เอาไปนอนที่ทำงานเดิมดีกว่า ไปเที่ยวหาพี่ๆ ด้วย
ป๊าดด พอถึงย่านที่ทำงานเดิม ธนาคารสกิกรไทย บัตรซิปการ์ดเปลี่ยนพรีนี้หว่า ไม่คิดอะไรครับ วิ่งเข้าไปเปลี่ยนเลย (เม่งค่าอะไรเพิ่มมาวะ 200 บาท บัตรกุหมดอายุเมื่อไหร่วะ) พอเปลี่ยนเสร็จเดินออกมา พึ่งคิดได้ ข้างๆ ก็มีธนาคารไทยพาณิชย์ด้วยนี้หว่า เดินไปนิดเดียวเอง เออเดินไปก่อนถึงธนาคารมีร้านกาแฟ เอออากาศมันร้อน กาแฟเย็นๆ สักแก้วน่าจะดี เป๋าตังค์ๆ เม่งไม่มีสาด.... สงสังลืมไว้ในธนาคาร เดินกลับเข้าธนาคารอย่างใจเย็น ไม่มีครับ กระเป๋าตังค์ผม ป้าคนหนึ่งอยู่หน้า bank เห็นลุงคนหนึ่งเก็บได้ ถือขึ้นมา หันซ้ายหันขวาทำท่าว่ามองหาเจ้าของ (ภาพจากกล้องวงจรปิดจับได้) แล้วก็หายไปเลย ทำให้เงินสดจำนวนหนึ่ง และใบขับขี่รถยนต์ใบแรกของชีวิต มีอายุแค่ 1 ชั่วโมงนิดๆ เอง กับบัตร ATM BBL และ SCB ซึ่งแน่นอนผมเปิดบริการ online banking ไว้ด้วย เพราะผมชอบซื้อของผ่านเน็ต เลยจำเป็นจากมาเที่ยวหาพี่ กลายเป็นมายืมตังค์พี่ เพราะเงินผมอยู่ใย BBL ทั้งหมด ส่วย kbank ที่วิ่งเข้าไปในบัญชีมีไม่ถึงร้อย แล้วกุจะทำซิปการ์ดทำไม ปกติผมใช้โอนเงิน กับรับเงิน และรองรับลูกค้าครับ เลยเปิดบัญชีไว้
พนังงานกสิกรไปดูกล้องให้ บอกว่าเห็นหน้าเห็นตาชัดเจน แต่เราไม่ได้ดูนะ เพราะต้องไปแจ้งความและให้ทางตำรวจขอ file video มา เลยตัดสินใจวิ่งเข้าโรงพักแจ้งความครั้งแรกในชีวิต กลิ่นราชการไทยมาเลย เต็มๆ คราวนี้ก็คิดต่อเอาเองนะ กรมขนส่งเขา update ขึ้นแทบไม่เหลือกลิ่นราชการไทยเลย พอแจ้งความเสร็จเคลียร์ BBL ก่อนเลยครับ ไม่งั้นเงินอาจจะไปหมด แล้ววิ่งไปกรมข่นส่งทางบกอีกรอบเพื่อให้กำเนิดบัตรใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม (เหมือนในหนังเลย) ห่า...โดนไปอีก 205 บาท พอกลับมารีบวิ่งไปรับรถอีก สุดท้ายบทแบบนี้มันเกิดในชีวิตจริงได้ด้วยเหรอวะ มันน่าจะเป็นแค่ในหนังนะ
คือผมก็นั่งหัวเราะตัวเองนะ ที่พลาดทำตกเอง แต่ก็เอาเถอะ ผ่านๆ ไปเถอะ ไม่ได้มีเครื่องย้อนเวลานี้น่า
ประสบการณ์การที่ไม่น่าจะเป็นไปได้
ป๊าดด พอถึงย่านที่ทำงานเดิม ธนาคารสกิกรไทย บัตรซิปการ์ดเปลี่ยนพรีนี้หว่า ไม่คิดอะไรครับ วิ่งเข้าไปเปลี่ยนเลย (เม่งค่าอะไรเพิ่มมาวะ 200 บาท บัตรกุหมดอายุเมื่อไหร่วะ) พอเปลี่ยนเสร็จเดินออกมา พึ่งคิดได้ ข้างๆ ก็มีธนาคารไทยพาณิชย์ด้วยนี้หว่า เดินไปนิดเดียวเอง เออเดินไปก่อนถึงธนาคารมีร้านกาแฟ เอออากาศมันร้อน กาแฟเย็นๆ สักแก้วน่าจะดี เป๋าตังค์ๆ เม่งไม่มีสาด.... สงสังลืมไว้ในธนาคาร เดินกลับเข้าธนาคารอย่างใจเย็น ไม่มีครับ กระเป๋าตังค์ผม ป้าคนหนึ่งอยู่หน้า bank เห็นลุงคนหนึ่งเก็บได้ ถือขึ้นมา หันซ้ายหันขวาทำท่าว่ามองหาเจ้าของ (ภาพจากกล้องวงจรปิดจับได้) แล้วก็หายไปเลย ทำให้เงินสดจำนวนหนึ่ง และใบขับขี่รถยนต์ใบแรกของชีวิต มีอายุแค่ 1 ชั่วโมงนิดๆ เอง กับบัตร ATM BBL และ SCB ซึ่งแน่นอนผมเปิดบริการ online banking ไว้ด้วย เพราะผมชอบซื้อของผ่านเน็ต เลยจำเป็นจากมาเที่ยวหาพี่ กลายเป็นมายืมตังค์พี่ เพราะเงินผมอยู่ใย BBL ทั้งหมด ส่วย kbank ที่วิ่งเข้าไปในบัญชีมีไม่ถึงร้อย แล้วกุจะทำซิปการ์ดทำไม ปกติผมใช้โอนเงิน กับรับเงิน และรองรับลูกค้าครับ เลยเปิดบัญชีไว้
พนังงานกสิกรไปดูกล้องให้ บอกว่าเห็นหน้าเห็นตาชัดเจน แต่เราไม่ได้ดูนะ เพราะต้องไปแจ้งความและให้ทางตำรวจขอ file video มา เลยตัดสินใจวิ่งเข้าโรงพักแจ้งความครั้งแรกในชีวิต กลิ่นราชการไทยมาเลย เต็มๆ คราวนี้ก็คิดต่อเอาเองนะ กรมขนส่งเขา update ขึ้นแทบไม่เหลือกลิ่นราชการไทยเลย พอแจ้งความเสร็จเคลียร์ BBL ก่อนเลยครับ ไม่งั้นเงินอาจจะไปหมด แล้ววิ่งไปกรมข่นส่งทางบกอีกรอบเพื่อให้กำเนิดบัตรใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม (เหมือนในหนังเลย) ห่า...โดนไปอีก 205 บาท พอกลับมารีบวิ่งไปรับรถอีก สุดท้ายบทแบบนี้มันเกิดในชีวิตจริงได้ด้วยเหรอวะ มันน่าจะเป็นแค่ในหนังนะ
คือผมก็นั่งหัวเราะตัวเองนะ ที่พลาดทำตกเอง แต่ก็เอาเถอะ ผ่านๆ ไปเถอะ ไม่ได้มีเครื่องย้อนเวลานี้น่า