ยอมรับผิดชอบหนี้ที่เป็นชื่อของตัวเอง(แต่ไม่ได้ใช้สักบาท) คิดผิด หรือ คิดถูก ที่ทำแบบนี้....

กระทู้คำถาม
เริ่มเลยละกันครับ... ผมเริ่มคบกับผู้หญิงคนหนึ่ง ด้วยการแนะนำจากคนในที่ทำงานที่สนิทกับเธอ
ตอนแรกก็ไม่รู้สึกอะไร ลองๆคุยดู เพราะเธอก็มีลูกติดจากสามีเก่าของเธออยู่แล้ว  แต่พอคุยไปเรื่อยๆเธอก็ได้ระบายเรื่องราวต่างๆในชีวิตที่ผ่านมาให้ฟังมากมาย  โดยเฉพาะเรื่องหนี้สินของเธอ  ผมได้ยินได้ฟังบ่อยๆก็รู้สึกสงสารอยากจะช่วย จนตัดสินใจลองคบกันดู ... ตั้งแต่คบกันแบบเปิดเผยต่อคนในที่ทำงานและที่บ้านของเธอ  ผมก็พยายามหาทางกู้เงินมาให้เธอไปปิดหนี้ที่ค้างอยู่  โดยเป็นชื่อของผมที่กู้มา  เพราะผมเครดิตดีกว่าเธอ  บวกกับเธอกำลังจะลาออกจากที่ทำงานด้วย พอได้เงินมาแต่ละครั้งที่เป็นชื่อของผมไปกู้  ผมก็เอาให้เธอทั้งหมดไปปิดหนี้ของเธอ  แต่ผมบอกกับเธอไปแล้วว่า ถึงผมจะกู้และผ่อนให้ก่อน  ถ้ามีเงินก็แบ่งมาคืนบ้าง เดือนละนิดละหน่อยก็ยังดี เพราะผมก็ไม่มีเงินเหมือนกัน..
ผมกู้เงินมาจาก 3 แหล่งให้เธอคนเดียว(ผมไม่ได้ใช้สักบาท) จำนวนทั้งสิ้น 56,000 บาท  (เงินต้นที่ยังไม่รวมเงินดอก) ดังนี้ครับ

1. แหล่งเงินกู้ในที่ทำงาน  จำนวน 16,000 บาท ผมกู้เงินเพื่อเอามาปิดหนี้ของเธอ(ประมาณ10,000บาท ยอดประมาณ9,800 บาท)หลังจากที่เธอลาออกไปแล้ว  (ความจริงผมไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการรับผิดชอบตรงนี้ เพราะเธอเป็นหนี้ก่อนจะเจอผมตั้งนาน) แต่คนในที่ทำงาน ที่เป็นคนค้ำประกันให้เธอพวกเขาไม่ยอมจ่ายกัน  เลยลงเสียงกันว่าให้ผมรับผิดชอบเพราะเธอเป็นแฟนของผม (ห๊ะ!! แบบนี้ก็มีหรอครับ สัญญาการขอกู้ ที่มีลายเซ็นคนค้ำก็ไม่มีชื่อผมด้วยเลย) ผมก็เลยต้องจำยอมรับผิดชอบหนี้ในส่วนนี้ไป เพื่อคนค้ำจะได้เลิกยุ่งกับผมสักที  อีก 6,000 บาทที่กู้มา(จาก ข้อ 2.) ผมเอาไปจ่ายค่าบัตรเครดิตที่เคยกดเงินสดมาให้เธอ  แต่เพราะช่วงหลังๆค้างจ่ายจนมียอดประมาณแปดพันกว่า เพราะเงินไม่พอ ผมเลยเอาไปจ่ายเท่าที่มีอยู่

2. กู้บัตรเครดิตธนาคารสีเหลือง 20,000 บาท  ผมกดให้เธอไปปิดหนี้ของเธอ (หนี้อะไรที่ไหนไม่รู้ เธอบอกแค่ว่าติดหนี้) ...เห้อ

3. หนี้นอกระบบ  20,000 บาท  หนี้ก้อนนี้เธอขอให้ใช้ชื่อผมกู้  เพราะเจ้าหนี้ไม่ยอมให้เธอกู้ (เจ้าหนี้รู้จักกับเจ้านายในที่ทำงาน เลยรู้ว่าเธอกำลังจะลาออก) ซึ่งก่อนหน้าจะกู้ก้อนนี้  เธอก็ติดหนี้เจ้าหนี้คนเดิมนี้มาก่อนแล้ว  แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเธอไปหาเงินจากไหนมาปิดหนี้เก่าตรงนี้  พอเธอปิดหนี้ตรงนี้ได้  
ก็ขอกู้ต่อโดยใช้ชื่อผม  (เธอจ่ายค่าดอกได้สองสามงวด) ค่าดอกเดือนละ2,000บาท ไม่ลดต้นน่ะครับ  ต้องหาเงินก้อนมาปิดอย่างเดียว

ผมอดทนทุกวัน  ที่จะต้องมาทนฟังคำพูดของเธอเรื่องตัดพ้อชีวิต เรื่องความจน เรื่องหนี้สิน เรื่องอยากรวยอยากมีแบบคนอื่นบ้าง  ซึ่งผมก็คอยช่วยเหลือ  แนะนำ  หาทางออกให้  ปลอบใจ  ให้กำลังใจ  แต่เธอก็ยังบ่นๆๆ พูดซ้ำๆเรื่องเดิมๆทุกวัน แนะนำแม้กระทั่งให้หาอาชีพเสริม  เธอก็ไม่เอา บ่นว่าทำไม่ได้  ทั้งๆที่ยังไม่ลงมือทำเลยสักครั้ง.....เห้อ

จนมาถึงวันที่ผมต้องตัดสินใจ ....ผมถามใจตัวเอง  แล้วผมก็ได้รับคำตอบมาว่า ผมไม่ได้รักเธอ  ทุกอย่างมันเริ่มมาจากความสงสาร  ตั้งแต่ผมคบกับเธอ  ครอบครัวผมก็ลำบากขึ้นกว่าเดิม  เพราะผมต้องเอาเงินมาผ่อนหนี้ ที่ไปยืมมาให้เธอ  เลยไม่ได้ส่งให้ที่บ้านมานานเกือบปีแล้ว  ผมเลยต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดสักที  

ดังนั้นผมจึงขอเลิกกับเธอ  ....ตอนแรกเธอไม่ยอมเลิกง่ายๆ เธอหาว่าผมมีคนใหม่ ที่รวยกว่าเธอ  และเธอก็บอกอีกว่าไม่มีใครรักผมได้มากเท่าเธอหรอก (หราาาาาาา ) เธอยังมาทวงเงินที่ผมยืมเธอไปดาวน์รถ 15,000 บาท (ใช่ครับผมยืมเงินเธอไปดาวน์รถ) แต่ผมก็บอกไปว่าคืนให้ได้น่ะ  แต่เธอต้องเอาเงินที่ผมให้ไปมาคืนทั้งหมดก่อน  เธอก็.....เงียบ  ผมจึงบอกเธอว่า  ผมจะรับผิดชอบเงินที่กู้มาจาก  ที่ทำงาน กับ บัตรเครดิต  (ข้อ 1. ,ข้อ 2.)ส่วนเงินที่กู้มาจากนอกระบบ  ผมจะให้เธอรับผิดชอบเอง   สุดท้าย ....เธอก็ยอมออกไปจากชีวิตผม

มันควรจะจบไปแล้วใช่มั้ยครับ  มาฟังต่อ......เลิกกันไปได้เดือนกว่า  เจ้าหนี้นอกระบบก็มาหาผมถึงที่ทำงาน  มาทวงเงินค่าดอก 2,000 บาทที่ผม (ข้อ 3.) เพราะเธอไปบอกเจ้าหนี้ว่า  เธอเลิกกับผมแล้ว  ไม่ยุ่งเกี่ยวกันแล้ว  ชื่อใครเป็นคนกู้คนนั้นก็รับผิดชอบไป  แถมเธอยังมาบอกกับผมในแชท facebook ว่า "ช่วยไม่ได้น่ะ  ผมเลือกแบบนี้เอง"  ....เห้ออ

นี่ผมคิดผิดหรือคิดถูกกันแน่ที่เลิก ....คิดผิดของผมก็คือถ้าผมทนคบต่อไป เธออาจจะเอาเงินมาคืนผมบ้าง (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหน เพราะคบมาเป็นปีกว่าแล้ว  ผมก็ยังไม่ได้เงินคืน)  ....คิดถูกของผมคือ  ผมไม่ต้องทนฟังเรื่องที่มันทำให้หดหู่ใจเพิ่มขึ้น  ผมจะได้ไม่มีหนี้จากเธอเพิ่มอีก  ผมจะได้มีโอกาสกลับไปช่วยเหลือครอบครัวแบบเดิมอีกครั้ง  (คนที่ผมอยากแต่งงานด้วยไม่ใช่เธอ เธอไม่ใช่คนที่ใช่ ผมไม่สามารถทนอยู่กับผู้หญิงคนนี้ไปตลอดชีวิตได้...ผมจึงตัดสินใจเลิก....)


ผมตั้งใจจะหาทางใช้หนี้แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่านี้  ....แต่ตอนนี้ผมยังต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายหลายอย่างมาก  แต่ละเดือนเรียกได้ว่าไม่พอกินเลย ...  ......สู้ครับ  ผมยังไหว  ต่อให้ต้องอดมื้อกินมื้อก็เถอะ  ...ตอนนี้ผมหาอาชีพเสริมทำได้แล้ว.... (คิดมาตั้งนานแต่ยังไม่มีโอกาสสักที)   แต่วันนี้ผมมีโอกาสแล้วครับ  ผมจะทำมันให้ดีที่สุด  .......


....ขอบคุณทุกคนมากครับที่สละเวลามาฟังปัญหาชีวิตของผม .....กินข้าวให้อร่อยน่ะครับ กินเผื่อผมด้วย ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่