เที่ยวใต้หน้าฝนคนเดียว !!! กระบี่ /นครศรีธรรมราช / สุราษฎร์ธานี งบ 5,000 บาท แบบลุยโหด (มั้ง) 5555

ผมพึ่งได้มีโอกาศแบกเป้เที่ยว ใต้ เมื่อวันที่  23 พ.ค.ที่ผ่านมา มีทั้งประทับใจและเสียใจปะปนกันไปครับ โดยผมตั่งใจไว้ว่าจะต้องเที่ยวให้คุ้มที่สุด โดยแผนในหัวตอนออกเดินทาง = 0  คือไม่มีอะไรในหัวเลยครับซึ่งมันไม่ดีมากๆ เพราะไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนแค่คิดว่าเดินทางก่อนเป็นพอแล้วค่อยไปตายเอาดาบหน้า 555
  วันที่ 1  
ผมเริ่มออกเดินทางโดยรถไฟตอนเวลา 4 ทุ่มรถไฟด่วนพิเศษราคา 648 บาท มุ่งสู่กระบี่ครับ(คือผมมีญาติอยู่ที่นั้นเลยมุ่งไปที่นี่ก่อน)จริงๆผมจะนั่ง 200 กว่าบาทแต่ผมมาไม่ทันนั่งรอประมาณ 2 ชม.ในที่สุดก็ได้ขึ้นรถไฟครับ
ผมลงที่สถานีทุ่งสงครับประมาณ 9 โมงได้หลังจากลงรถไฟหัวผมตอนนี้โล่งมาก 55555 ไม่รู้จะไปไหนต่อ
ผมเริ่มค้นหาสถานที่ที่ใกล้สุดก่อนเป็นอันดับแรก ก็ไปเจอน้ำตกโยงแต่ไม่รู้ไปยังไงผมเลยกถามคนแถวนั้นว่าไปยังไง เขาบอกว่ามีนั่งวินมอไซค์ไปกับนั่งรถสองแถวไป ผมก็เริ่มเดินทางไปหาวินสองแถวโดยถามคนแถวนั้นว่าไปนำตกโยงขึ้นสองแถวตรงไหนแล้วก็เจอสองแถวในที่สุด
ผมนั่งเพลินดูวิวรอบข้างเพลินไปหน่อยจนสองแถวขับเลย 555555 สองแถวเลยจอดแล้วถามผมว่าจะไปไหน ผมเลยบอกว่าจะไปน้ำตกโยง เขาบอกว่ามันเลยแล้ว เขาเลยขับย้อนมาส่งหน้าปากซอยครับ ลุงสองแถวใจดีมาก ขอบคุณมากๆครับ พอถึงหน้าปากซอยป้ายบอกว่าน้ำตกโยงต้องเข้าไปอีก 3-5 กิโล ผมมองหาวินเข้าไปแต่ไม่มีผมเลยตัดสินใจเดิน 5 กิโลครับ(ในหัวตอนนั้นผมคิดอะไรอยู่วะ 55555) เดินมาซักพักฝนก็ตกครับ
ระหว่างยืนรอฝนหยุด ก็มีแมวมองด้วยครับ แมวจริงๆนะ
หลังจากฝนหยุดผมก็เดินต่อยาวเลยครับ เดินจนเหงื่อท่วมแบบท่วมมาก จนถึงทางเข้าที่ต้องเสียค่าเข้า 20 บาทเจ้าหน้าที่เห็นผมเหงือท่วมมากเลยถามว่าเกิดไรขึ้นผมบอกว่าผมเดินมา หารถเข้ามาไม่ได้ เขาบอกว่าไม่ค่อยมีรถเข้ามาในอุทยาน เห็นผมพยายามเขาเลยไม่คิดค่าเข้าให้ ในหัวผมคิดแบบ โชคดีหรือโชคร้ายวะ 555555
ในที่สุดก็ถึงน้ำตกโยงครับ สวยมาก คนน้อยมาก เพราะ เด็กเปิดเทอมหมด+กับเป็นหน้าฝนคนเลยไม่ค่อยมาเที่ยว
ที่นี้มีบริการเรื่องที่พักด้วยนะครับ แต่ผมไม่ได้ถามว่าราคาเท่าไหร่


เงียบสงบมากครับคนไม่มีเหมือนเป็นแขก vip มาเที่ยวเลย 5555
ปลาอะไรไม่รู้ผมจำชื่อไม่ได้มีป้ายปักบอกพันธุ์ปลาอยู่แต่เยอะมากจับได้ด้วยน้ำก็เย็นโคตรเย็นจนหนาว

หลังจากเล่นน้ำกับฝูงปลาก็มีฝนตกมาบ้างเป็นช่วงๆ จากนั้นผมก็เดินทางไปหาที่พักก่อนแล้ววางแผนว่าวันต่อไปเที่ยวไหน  แต่ก่อนอื่นผมคงไม่เดินกลับไปหน้าปากซอยอีก 5 กิโลหรอก 55555 ผมเลยขอให้เจ้าหน้าที่ของอุทยานพาไปส่งที่หน้าปากซอย แล้วผมก็นั่งสองแถว กลับไปยังจุดที่ผมขึ้นสองแถว เพราะแถวนั้นจะมีวินรถตู้อยู่ ผมเลยนั่งรถตู้เข้าไปพักที่บ้านญาติในกระบี่ แล้วไปวางแผนก่อน
   วันที่2
ผมขอยืมรถมอไซค์ของญาติ เพื่อจะเที่ยวแต่ค่อนข้างโชคร้ายตรงที่ฝนตกแต่เช้าพยากรอากาศบอกว่า ฝนตก 80% ของพื้นที่คุณพระ ผมเลยตัดสินใจเอาวะเป็นไงเป็นกัน ซื้อเสื้อกันฝนแล้วแว้นแม่มเลย 55555 ลุยยยยย
เป้าหมายแรกที่ผมจะไป คือ วัดถ้ำเสือจ.กระบี่ ซึ้งต้องแว้นไกลถึง 50 กิโลกว่าถึงฝนจะตกผมก็ลุย แต่ฝนตกค่อนข้างหนัก บางครั้งลมแรง จนต้องแวะพัก เป็นระยะๆ
ในที่สุดผมก็มาถึงแล้ว วัดถ้ำเสือบริเวณวัดก็เหมือนวัดทั่วๆไป คือมี พระพุทธรูปมากมาย เดินเข้าไปลึกๆหน่อย ก็ไปเจอกับ เจ้าแม่กวนอิม ขนาดใหญ่ มีคนเข้าไปกราบไหว้ แม้ฝนจะตกใส่ก็ตามที่น่าประหลาดคือ คนไทยน้อยมาก  ส่วนใหญ่จะมีแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติมาที่นี่คงเป็นเพราะฝนด้วย แล้วผมก็ เจอ ไฮไลท์ของวัดนี้ นั้นก็คือ ข้างบนจะมี พระพุทธรูปขนาดใหญ่อยู่ข้างบน แต่ปัญหาคือต้องขึ้นบันได(หาเรื่องให้เหนื่อยอีกละ 555)
ด้านหน้าทางขึ้นบันไดจะมีป้ายบอกว่าให้เตรียมน้ำดื่มไปด้วย แต่ผมงกไม่ซื้อ5555 บันไดพันกว่าขั้น อีซี้จะตาย
ทางขึ้นค่อนข้างชัน สูงบ้างต่ำบ้างขึ้นยากในบางจุดแต่ก็ไม่ใช่อุปสรรค์
ขึ้นมาได้ซักขั้นที่ 500 ผมก็เริ่มคิดในใจละ คิดไรอยู่เมื่อกี้ทำไมไม่ไปซื้อน้ำ 55555 เริ่มเหนื่อยขาเริ่มชาๆระหว่างผมพักนักท่องเที่ยวต่างชาติก็เดินสวนลงมา ผมเลยทักไปถามว่า"ข้างบนเป็นยังไงบ้าง"เขาตอบกลับมาว่า "มันสวยมากๆเลยแหละ ไม่เชื่อลองขึ้นไปดูซิ " ผมได้แต่คิดในใจแล้วตอบเป็นภาษาไทยว่า  " จ๊ะ " (วิวมุมบันไดขั้นที่ 500 กว่า สวยมาก) ในที่สุดผมก็ขึ้นมาถึงซะที เหนื่อยมาก มีฝรั่งอยู่เต็มไปหมดผมเลยถามคนพวกนั้นว่าเป็นยังไงบ้างขึ้นมา เขาบอกว่าเหนื่อยมากแต่สนุกดีผมเลยแซวเขาไปว่า คุณแข็งแกร่งมาก เขาก็หัวเราะแล้วบอกว่า แน่นอน(วิวด้านบนสวยมาก แต่ว่าตอนนั้นฝนตกแล้วก็หมอกเยอะ เลยเห็นวิวไม่ชัดมากเท่าไหร่ ก็อย่างที่บอกครับ ฝนมันตก ผมเก็บภาพได้เท่านี้จริงๆ
ข้างบนมีหมานอน อยู่ 2 ตัวด้วย สุดยอดเลยเจ้าตูบ พอฝนเบาลงผมก็เดินลงครับ เจอฝรั่งที่ขึ้นมา กำลังยืนเหนื่อย ผมเลยถามไป ว่า โอเคไหม เขาบอกว่าปวดขามาก รู้สึกว่าเดินไม่ไหว ผมเลยให้กำลังใจไปว่า "You can do it"  
สถานที่ต่อไปผมเดินทางต่อไปที่ ป่าพรุท่าปอม แว้นไปอีกประมาณ 30 กิโลครับ เป็นป่าที่สวยน้ำใสมากๆ(รูปในเว็บนะ)แต่ผมไปน้ำไม่ค่อยใสเท่าไหร่ เพราะว่าฝนตกแต่มีใสบ้างบางจุดนี้ถ้าลงไปถ่ายใต้น้ำได้นิผมลงไปละ ฮ่า ให้รู้ว่าผมยังโอเคทางลงครับ แต่ไม่รู้โผล่ไหน5555ต่อมาผมขับออกจากป่าพรุ ผมเห็นป้ายเขียนว่าไปอ่าวเลน ผมเลยแว้นไปอีกหน่อย เพราะคิดว่ามันใกล้กันแต่ไปๆมาไกลอยู่เหมือนกันแต่วิวข้างทางดีโคตรๆครับ เลยจอดแล้วถ่ายมา ขับมาเรื่อยๆผมก็หลงจริงๆจังๆโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ แถมลมแรงผมเลยขับกลับดีกว่า ทะเลไม่สวยเพราะฝนตกด้วย แต่ว่าผมไปถึงจริงๆนะ แค่ไปไม่สุดจากนั้นผมก็กลับไปที่บ้านญาติเพื่อเอารถไปคืนแล้วก็ขอพักอีกคืน หากใครจะเที่ยว ผมแนะนำให้หารถตู้เอาราคาก็ราว130-200 แล้วแต่ระยะทางสดวกกว่าแว้นนะครับ
    วันที่ 3
ผมเดินทางไปต่อที่นครศรีธรรมราชโดยนั่งรถตู้ ทุ่งสง-นครศรีธรรมราช โดยจุดหมายแรกก็คือวัดพระธาตุครับ เมื่อมาถึงขนส่งที่นครศรีธรรมราช ก็หาสองแถวที่ผ่านไปวัดพระธาตุเลย การจลาจรดูบางตากว่าที่คิดแล้วก็ขึ้นสองแถวมุ่งสู่วัดพระธาตุ แล้วเราก็มาถึงวัดพระธาตุ ไม่ไกลจากขนส่งมากนักวัดนี้นกเยอะมาก สงสัยค่าเช่ารังแพง 5555อันนี้เป็นกระดูกช้าง(ถ้าจำไม่ผิด)ซึ่งเขาไม่ให้ไปขีดเขียน แต่มีการแชทบอกรักกันในกระดูกช้างด้วย ยิ่งในวัดนี้มีพิพิธภัณฑ์ด้วยครับ แต่เขาไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปเลยไม่ได้เก็บภาพมาให้ชมกันสายๆหน่อยผมก็ไปหาอะไรลงท้องโดยนั่งสองแถวไปที่ร้าน โกปี๊ เป็นร้านชื่อดังก็เลยแวะเข้าไปพักเที่ยงที่นี่ก่อนที่ผมจะเริ่มกินผมสังเกตุเห็นมดดับอนาถอยู่ ลองหาดูมีประมาณ7ตัวได้ แต่ไม่สนใจกินลูกเดียว5555จากนั้นจุดต่อไปคือหมู่บ้านคีรีวงโดยจะต้องไปที่คิวสองแถวบริเวณจุดสีฟ้าจะอยู่ในซอยลองเดินหาหรือถามคนแถวนั้นดูครับรถสองแถวจะพาเราไปถึงตัวหมู่บ้านคีรีวงเลยครับ เมื่อมาถึงผมก็เข้าไปที่พัก ซึ่งได้ติดต่อไว้ก่อนหน้านั้นแล้วเป็นที่พักแบบ home stay ครับ นี่คือบ้านที่ผมเข้ามาพัก ราคา 300 บาท/คืนนี้เป็นห้องนอนเตียงพื้นแบบพัดลมไม่ร้อนเพราะอากาศเย็นอยู่แล้วจากนั้นผมก็ทัวร์รอบหมู่บ้านเลย มีร้านกาแฟอยู่ผมเลยไปกินชานมซะหน่อยจากนั้นก็หาถ่ายรูปไปทั่ว หาวิวสวยๆในแม่น้ำมีปลาตัวเดียวกับที่ไปน้ำตกโยงด้วยแถมน้ำก็เย็นมากรู้สึกสดชื่นหลายเจอเจ้าหมาหิวโซผมเลยซื้อไส้กรอกให้มัน 4ไม้ เปลืองมากแล้วจากนั้นก็เข้าที่พัก     วันที่ 4
คุณยายที่ผมไปเข้าพักเขาบอกว่าเข้าไปอีกจะมีจุดชมวิวอีกจุดนึงเรียกว่า หนานหินท่าหา แต่ต้องเข้าไปอีก 3 กิโล ผมเลยเช่าจักรยาน 50 บาทปั่นเข้าไป(ขาผมยังล้าจากการขึ้นบันไดอยู่เลย)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่