ไปเกาหลีรอบแรกติด ตม. รอบสองจะผ่านไหมม?
เราเคยไปเกาหลีครั้งแรกกับเพื่อนหนึ่งคนตอนนั้นที่ไป เราไปข่วงเดือนมิถุนายนไปเองไม่ได้ไปกับทัว ตอนนั้นไปเราก้บินของแอรเอเชียเพราะว่ามันมีโปรจากทางสายการบินส่วนเรื่องที่พักเพื่อนเราเป่นคนจัดการจองที่พักแถวๆ ย่านฮงแดเพราะใกล้กับสถานที่เที่ยวแล้วย่านแถวๆนั้นก็มีของขายเยอะ ตอนนั้นเราซื้อตั๋วไปทั้งหมด10วัน บินจากดอนเมือง-อินชอน ประเทศเกาหลีใช้เวลาทั้งหมด ประมาณ 5 ชม. พอถึงที่สนามบินเรากับเพื่อนก็รีบเพราะว่าตอนนั้นหิวด้วย เลยเข้าคนละช่องกับเพื่อนคิดว่าตอนนั้น น่าจะไวจะรีบไปไห้ถึงที่พักเร่วๆด้วยความตื่นเต้นด้วย พอถึงตม. พนักงานก้มองหน้าเราแล้วถามว่ามากะใครเราก็บอกมากับเพื่อน เขากเไม่ถามอะไรต่อแล้วบอกเราว่าให้เข้าห้อง ออฟฟิตความที่เราไม่ได้ศึกษาข้อมูลอะไรมากก่อนเรย เราก็คิดว่าคงไม่มีอะไร อาจจะน่าเราไม่เหมือนในรูปพาสปรอต เพราะตอนนั้นเราไปทำจมูกมา คงไม่น่าจะมีปันหาอะไร เเะราะเรามาติ่งไม่ได้มาทำผิดกฎหมายก็เลยว่าใจ จนเพื่อนเราทักมาหาเราว่าอยู่ไหน คือเพื่อนเราผ่านตม.แบบง่ายมาก ไม่ถามอะไรเรย ตอนนั้นเราก่ไลน์ไปอยู่ในห้อง ออฟฟิตไม่น่าจะมีปันหาอะไรไห้รอแปบนึงคงได้ออก พอเราเข้าไปในห้อง ออฟฟิตหรือห้องเย็น(ซึ่งร้อนมาก) เขาก็ไห้เรากรอกประวัตติต่างๆ ถามชื่อถามถึงว่ามากี่วันจะแพลนจะไปเที่ยวไหนบ้าง เอาเงินมาเท่าไหร เราก็ตอบตามความจรืง เพราะเราก็บริสุทธ์ใจเพราะจะมาแค่ติ่งบินตามศิลปินมาแค่นั้น พอถามเสร็จเราก็เข้าไปอยุ่ในอีกห้องนึง ซึ่งผู้หญิงไทยติดเยอะมากเราก็ถามพี่เขาว่า เขาไห้ทำอะไรบ้าง เขาบอกแค่ไห้รอแล่วจะมีคนมาเรียกชื่อตาม พาสปรอต จนถึงคิวเรา ตม.ก็ถามโดนผ่านร่ามคนไทย ถามเราว่ามากะใครเราก็ตอบตามความจริง ว่ากับเพื่อนอีกหนึ่งคน ผ่านตม.ไปแล้วเขาก้บอกไห้ไปเรียกเพื่อนมา เราก็บอกขอไลน์หาเพื่อนได้ไหม เพราะตรงนั้นจะไม่มี wifi ต้องเดินออกมานึดนึง ตม.บอกไม่ได้เราก็แล่วจะเรียกมาไงถ้ามากะเพื่อนเพื่อนก็ต้องมารอแต่เรากับเพื่อนไม่รุ้กัน เพราะตอนไลน์ครั้งลาสุดเราบอกกับเพื่อนว่าเดี๋ยวจะตามไป เพราะเราเลยรอตรงที่เอากระเป๋า แล้วติดต่อเราไม่ได้ เร่ก็อธิบายเขาก็ไม่ฟัง ก็ถามไปเรื่อยๆ เราก็ตอบตามความจริงว่าเรามาติ่ง เปิดรูปไห้ดู เราก็บอกว่าเรียนอยู่เอาใบนักศึกษาไห้ดูว่าเรียนอยุ่ จนสรุปพี่ร่ามไทยก็บอกเราว่า ตม.ไม่ไห้เราผ่าน เราก็แบบอ่าว ทำไมอะพี่ คือมาด้วยความบริสุทธ์ใจจริงๆ เรากเไม่รุ้จะทำยังไงติดต่อกับเพื่อนก็ไม่ได้ แล้วคนไทยติดเยอะมาก หลังจากนั้นตม.ก็พาเราลงมาใต้ดินห้องอะไรเราก้ไม่แน่ใจ คือส่งตัวกับประเทศตอนนั้นก็แบบเฟลมากแค่มาติ่งไม่ได้จะมาทำอะไร ไม่ฟังกันเรย เรารอกับประเทศ ต้องนอนค้างที่สนามบิน1คืนเพราะทางสายการบินที่เรามาไม่มีไฟล์กับ ต้องนอนแล้วคนติดเยอะมากคนไทยส่วนใหญ่ เราก็ร้องไห้เสียใจก็เสียใจโมโห อีก อาหารที่เอามาไห้กินก็แบบเป็นแฮมเบอร์เกอร์กับโค้ก อารมณ์แบบติดคุกแค่เล่นโทศัพท์ได้แค่นั้นห้องก็หนาวมากๆ ตอนนั้นคิดอย่างเดียวคิดถึงแม่อยากกับบ้านมาก พอกับมาถึงไทยเราก็เลยมานั้งคิดว่า เพราะอะไรเราถึงติดก็เรยไปอ่านตามกะทู้ ก็มีบอกว่า ไม่ควรแต่งตัวแรงมาก ซึ่งวันนั้นเราก็ใส่ชุดแดง กระโปรงแต่ไม่เชิงสั่นมาก แต่ก็ออกแนวรัดรูปทาปากแดง ก็คงผิดที่เราที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลก่อน
*หลังจากนั้นผ่านมา 5 เดือน เราก้อยากไปเกาหลีอีกเพราะแบบรอบนี้เราศึกษาข้อมูลมาดีมากๆ ก็เลยจะลองอีกรอบ เราตัดสินใจไปเดือนพฤศจิกายน แล้วก็ที่พักแถว ย่านอับกูจองเพราะคิดว่าย่านนี้ดูดีหน่อย คงไม่คิดว่าเราจะมาทำอะไรผิดกฏหมายอีก พอเราจองตั๋วจองที่พัก เรียบร้อยเราก็ไปทำพาสปรอตไหม่ไม่รู้เกี่ยวกับไหมเราแบบไม่อยากไห้พาสปรอตเราดูไม่ดีที่ถูกส่งตัวกลับก็เรยไปทำไหม่ รอบนี้เราเตรียมเอกสารยืนยันการเป็นนักศึกษาไปด้วยจากทางมหาลัยไปกับเพื่อนคนเดิม รอบนี้แต่งตัวเรียบร้อยมากหน้าไม่แต่งไปเรย กางเกงขสยาวแขนยาวปิดหมดทุกส่วน ตื่นเต้นมากตอนเข้า ตม.เราเข้าช่องเดียวกับเพื่อนเรย ตม.ก็ถามว่าเพื่อนใช้ไหม เราก็บอกใช่ สุดท้ายก็เข้า ออฟฟิตอีก รอบนี้ก้เข้าตม.กับเพื่อน แต่รอบนี้โชคดีหน่อยตม.พูดไทยได้ เขาก็ถามนุ้นนี้เหมือนเคยแล้วเราก็ตอบตามจริงถามว่าเราเรียนแถวไหน ภาคอะไร ตอนสุดท้ายก็จะไห้เข้าไปห้องเดิมเพื่อนเราก็เอาใบนืนยันการเป็นนักศึกษาไห้ดู พร้อมบัตรนักศึกษาไห้ เขาก็ดูสักพัก แล้วก็ถามว่ามากี่วัน รอบนี้เราไปแค่ 7 วัน ตม.ก็เลยบอกว่า ถ้าครบ7วันต้องกลับเลยห้าทอยุ้ต่อ คงกลัวเราแบบโดดร่มประมาณเราแบบโอเคคะ ความรู้สึกตอนนั้นที่แบบดีใจมากๆโล่งด้วยสุดท้ายก็เข้าได้ เขาก็ปั้ม ตราผ่านไห้พาสปรอตเรา สุดท้ายก็เข้าจนได้ ความรุ้สึกตอนนั้นเหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยดีใจมากๆ เรากับเพื่อนคือกรี้ดเรย
ปล. บางคนอาจจะไม่โดน ตม.ถามอะไรเลยแบยเพื่อนเราแต่บางกรณีที่โดนติดแบบเราเลยมาแชร์ประสบการณ์ไห้ฟัง เผื่อบางคนที่เคยติดแล่วไม่แน่ใจว่าจะไปอีกดีไหม ^^
ไปเกาหลีรอบแรกติดตม. ไปรอบสองจะผ่านไหม??
เราเคยไปเกาหลีครั้งแรกกับเพื่อนหนึ่งคนตอนนั้นที่ไป เราไปข่วงเดือนมิถุนายนไปเองไม่ได้ไปกับทัว ตอนนั้นไปเราก้บินของแอรเอเชียเพราะว่ามันมีโปรจากทางสายการบินส่วนเรื่องที่พักเพื่อนเราเป่นคนจัดการจองที่พักแถวๆ ย่านฮงแดเพราะใกล้กับสถานที่เที่ยวแล้วย่านแถวๆนั้นก็มีของขายเยอะ ตอนนั้นเราซื้อตั๋วไปทั้งหมด10วัน บินจากดอนเมือง-อินชอน ประเทศเกาหลีใช้เวลาทั้งหมด ประมาณ 5 ชม. พอถึงที่สนามบินเรากับเพื่อนก็รีบเพราะว่าตอนนั้นหิวด้วย เลยเข้าคนละช่องกับเพื่อนคิดว่าตอนนั้น น่าจะไวจะรีบไปไห้ถึงที่พักเร่วๆด้วยความตื่นเต้นด้วย พอถึงตม. พนักงานก้มองหน้าเราแล้วถามว่ามากะใครเราก็บอกมากับเพื่อน เขากเไม่ถามอะไรต่อแล้วบอกเราว่าให้เข้าห้อง ออฟฟิตความที่เราไม่ได้ศึกษาข้อมูลอะไรมากก่อนเรย เราก็คิดว่าคงไม่มีอะไร อาจจะน่าเราไม่เหมือนในรูปพาสปรอต เพราะตอนนั้นเราไปทำจมูกมา คงไม่น่าจะมีปันหาอะไร เเะราะเรามาติ่งไม่ได้มาทำผิดกฎหมายก็เลยว่าใจ จนเพื่อนเราทักมาหาเราว่าอยู่ไหน คือเพื่อนเราผ่านตม.แบบง่ายมาก ไม่ถามอะไรเรย ตอนนั้นเราก่ไลน์ไปอยู่ในห้อง ออฟฟิตไม่น่าจะมีปันหาอะไรไห้รอแปบนึงคงได้ออก พอเราเข้าไปในห้อง ออฟฟิตหรือห้องเย็น(ซึ่งร้อนมาก) เขาก็ไห้เรากรอกประวัตติต่างๆ ถามชื่อถามถึงว่ามากี่วันจะแพลนจะไปเที่ยวไหนบ้าง เอาเงินมาเท่าไหร เราก็ตอบตามความจรืง เพราะเราก็บริสุทธ์ใจเพราะจะมาแค่ติ่งบินตามศิลปินมาแค่นั้น พอถามเสร็จเราก็เข้าไปอยุ่ในอีกห้องนึง ซึ่งผู้หญิงไทยติดเยอะมากเราก็ถามพี่เขาว่า เขาไห้ทำอะไรบ้าง เขาบอกแค่ไห้รอแล่วจะมีคนมาเรียกชื่อตาม พาสปรอต จนถึงคิวเรา ตม.ก็ถามโดนผ่านร่ามคนไทย ถามเราว่ามากะใครเราก็ตอบตามความจริง ว่ากับเพื่อนอีกหนึ่งคน ผ่านตม.ไปแล้วเขาก้บอกไห้ไปเรียกเพื่อนมา เราก็บอกขอไลน์หาเพื่อนได้ไหม เพราะตรงนั้นจะไม่มี wifi ต้องเดินออกมานึดนึง ตม.บอกไม่ได้เราก็แล่วจะเรียกมาไงถ้ามากะเพื่อนเพื่อนก็ต้องมารอแต่เรากับเพื่อนไม่รุ้กัน เพราะตอนไลน์ครั้งลาสุดเราบอกกับเพื่อนว่าเดี๋ยวจะตามไป เพราะเราเลยรอตรงที่เอากระเป๋า แล้วติดต่อเราไม่ได้ เร่ก็อธิบายเขาก็ไม่ฟัง ก็ถามไปเรื่อยๆ เราก็ตอบตามความจริงว่าเรามาติ่ง เปิดรูปไห้ดู เราก็บอกว่าเรียนอยู่เอาใบนักศึกษาไห้ดูว่าเรียนอยุ่ จนสรุปพี่ร่ามไทยก็บอกเราว่า ตม.ไม่ไห้เราผ่าน เราก็แบบอ่าว ทำไมอะพี่ คือมาด้วยความบริสุทธ์ใจจริงๆ เรากเไม่รุ้จะทำยังไงติดต่อกับเพื่อนก็ไม่ได้ แล้วคนไทยติดเยอะมาก หลังจากนั้นตม.ก็พาเราลงมาใต้ดินห้องอะไรเราก้ไม่แน่ใจ คือส่งตัวกับประเทศตอนนั้นก็แบบเฟลมากแค่มาติ่งไม่ได้จะมาทำอะไร ไม่ฟังกันเรย เรารอกับประเทศ ต้องนอนค้างที่สนามบิน1คืนเพราะทางสายการบินที่เรามาไม่มีไฟล์กับ ต้องนอนแล้วคนติดเยอะมากคนไทยส่วนใหญ่ เราก็ร้องไห้เสียใจก็เสียใจโมโห อีก อาหารที่เอามาไห้กินก็แบบเป็นแฮมเบอร์เกอร์กับโค้ก อารมณ์แบบติดคุกแค่เล่นโทศัพท์ได้แค่นั้นห้องก็หนาวมากๆ ตอนนั้นคิดอย่างเดียวคิดถึงแม่อยากกับบ้านมาก พอกับมาถึงไทยเราก็เลยมานั้งคิดว่า เพราะอะไรเราถึงติดก็เรยไปอ่านตามกะทู้ ก็มีบอกว่า ไม่ควรแต่งตัวแรงมาก ซึ่งวันนั้นเราก็ใส่ชุดแดง กระโปรงแต่ไม่เชิงสั่นมาก แต่ก็ออกแนวรัดรูปทาปากแดง ก็คงผิดที่เราที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลก่อน
*หลังจากนั้นผ่านมา 5 เดือน เราก้อยากไปเกาหลีอีกเพราะแบบรอบนี้เราศึกษาข้อมูลมาดีมากๆ ก็เลยจะลองอีกรอบ เราตัดสินใจไปเดือนพฤศจิกายน แล้วก็ที่พักแถว ย่านอับกูจองเพราะคิดว่าย่านนี้ดูดีหน่อย คงไม่คิดว่าเราจะมาทำอะไรผิดกฏหมายอีก พอเราจองตั๋วจองที่พัก เรียบร้อยเราก็ไปทำพาสปรอตไหม่ไม่รู้เกี่ยวกับไหมเราแบบไม่อยากไห้พาสปรอตเราดูไม่ดีที่ถูกส่งตัวกลับก็เรยไปทำไหม่ รอบนี้เราเตรียมเอกสารยืนยันการเป็นนักศึกษาไปด้วยจากทางมหาลัยไปกับเพื่อนคนเดิม รอบนี้แต่งตัวเรียบร้อยมากหน้าไม่แต่งไปเรย กางเกงขสยาวแขนยาวปิดหมดทุกส่วน ตื่นเต้นมากตอนเข้า ตม.เราเข้าช่องเดียวกับเพื่อนเรย ตม.ก็ถามว่าเพื่อนใช้ไหม เราก็บอกใช่ สุดท้ายก็เข้า ออฟฟิตอีก รอบนี้ก้เข้าตม.กับเพื่อน แต่รอบนี้โชคดีหน่อยตม.พูดไทยได้ เขาก็ถามนุ้นนี้เหมือนเคยแล้วเราก็ตอบตามจริงถามว่าเราเรียนแถวไหน ภาคอะไร ตอนสุดท้ายก็จะไห้เข้าไปห้องเดิมเพื่อนเราก็เอาใบนืนยันการเป็นนักศึกษาไห้ดู พร้อมบัตรนักศึกษาไห้ เขาก็ดูสักพัก แล้วก็ถามว่ามากี่วัน รอบนี้เราไปแค่ 7 วัน ตม.ก็เลยบอกว่า ถ้าครบ7วันต้องกลับเลยห้าทอยุ้ต่อ คงกลัวเราแบบโดดร่มประมาณเราแบบโอเคคะ ความรู้สึกตอนนั้นที่แบบดีใจมากๆโล่งด้วยสุดท้ายก็เข้าได้ เขาก็ปั้ม ตราผ่านไห้พาสปรอตเรา สุดท้ายก็เข้าจนได้ ความรุ้สึกตอนนั้นเหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยดีใจมากๆ เรากับเพื่อนคือกรี้ดเรย
ปล. บางคนอาจจะไม่โดน ตม.ถามอะไรเลยแบยเพื่อนเราแต่บางกรณีที่โดนติดแบบเราเลยมาแชร์ประสบการณ์ไห้ฟัง เผื่อบางคนที่เคยติดแล่วไม่แน่ใจว่าจะไปอีกดีไหม ^^