ไข่เจียว
ตอนไหนๆ ไข่เจียวมันเป็นอาหารที่ชั้นเลิศ อยูวันอย่างค่ำ กินกับอะไรก็อร่อย กินไข่เจียว กับข้าวร้อนๆ ก็พออิ่มไปหนึ่งมื้อ
ไข่เจียว มันทำให้เราได้รำลึก ถึงอดีตอะไรบ้างอย่างที่เราได้จดจำไว้ตลอด มาจนปัจจุบัน
ตอนสมัยเด็กๆ ได้อยู่บ้านปู่ ย่า ด้วยความที่ว่า มีอาๆ อยู่ด้วยหลายคน ฐานะบ้านย่าก็ไม่ได้ดีอะไร หากินกันไปวันๆ ถ้าได้ปลาเยอะ ก็ได้กินปลา เอาปลาไปขาย ก็ได้กินอาหารดีหน่อยๆ แล้ว "ไข่เจียว" นี้แหละถือว่าเป็นอาหารจานเด็ดเลยก็ได้ ถ้าวันไหนได้กินถือว่าสุดยอด (แต่ว่าต้องค่อยๆกิน แบ่งกันกินนะ)
วีธี ที่ย่า ทอดไข่เจียว ย่าจะตีไข่ แล้วใส่น้ำผสม (ย้ำน่ะ ผสมน้ำ) แล้วก็ตีผสมกันให้ดี แล้วเทใส่กะทะ ให้มันแผ่นใหญ่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ "ไข่เจียว" ก็จะออกมาแบบ กระด้างๆ ไม่ได้ฟู กรอบอะไร แต่ด้วยความคิดว่า นี้แหละไข่เจียว อาหารจานเลิศสำหรับ มื้อเย็น ในตอนนั้น (ตอนเป็นเด็ก)
ย่าก็ไม่เคยบอกนะ ว่าทำไมต้องใส่น้ำเยอะ แต่ว่าตอนนี้ ได้มองย้อนไปแล้วมันคงมีเหตุผลไม่กี่อย่างหรอก ที่ย่าต้องทำ ไข่เจียว ใส่น้ำเยอะ คือ
ฐานะทางบ้านปู่กับย่า "จน" แค่ได้กินไข่เจียวสักมื้อก็ถือว่าดีแล้ว
ลูกหลานมาก ถ้าไม่ใส่น้ำเยอะก็กลัวว่าปริมาณจะไม่พอแบ่งกันกิน
ปู่กับย่าคงชอบไข่เจียวแบบนี้ (เหตุผลอันนี้ไม่น่าจะใช่)
เรื่องของ "ไข่เจียว" ก็ได้บอกอะไรเราหลายๆ อย่าง เรื่องอดีต ทำให้เราได้มองย้อนกลับไป แล้วมาถึงปัจุบัน เราได้กินไข่เจียวแบบ "ไม่ผสมน้ำ" เราบอกว่าสุดยอด เมื่อเปรียบกับอดีตของไข่เจียวฝีมือ ย่า
ด้วยความลำลึก และนึกถึง ย่า เราเลยทำ "ไข่เจียวผสมน้ำ" แบบที่ย่าเคยทำให้เรากิน กินไปแล้วนึกถึง ปู่ กับ ย่า
รักย่ามาก "จำภาพสุดท้าย" ที่ย่านั่งชันเข่า ตอนเช้ามืด แล้ว พูดว่าโชคดีน่ะ ก่อนเราออกเดินทาง
นางประดับ ยางสูง
ไข่เจียว
ตอนไหนๆ ไข่เจียวมันเป็นอาหารที่ชั้นเลิศ อยูวันอย่างค่ำ กินกับอะไรก็อร่อย กินไข่เจียว กับข้าวร้อนๆ ก็พออิ่มไปหนึ่งมื้อ
ไข่เจียว มันทำให้เราได้รำลึก ถึงอดีตอะไรบ้างอย่างที่เราได้จดจำไว้ตลอด มาจนปัจจุบัน
ตอนสมัยเด็กๆ ได้อยู่บ้านปู่ ย่า ด้วยความที่ว่า มีอาๆ อยู่ด้วยหลายคน ฐานะบ้านย่าก็ไม่ได้ดีอะไร หากินกันไปวันๆ ถ้าได้ปลาเยอะ ก็ได้กินปลา เอาปลาไปขาย ก็ได้กินอาหารดีหน่อยๆ แล้ว "ไข่เจียว" นี้แหละถือว่าเป็นอาหารจานเด็ดเลยก็ได้ ถ้าวันไหนได้กินถือว่าสุดยอด (แต่ว่าต้องค่อยๆกิน แบ่งกันกินนะ)
วีธี ที่ย่า ทอดไข่เจียว ย่าจะตีไข่ แล้วใส่น้ำผสม (ย้ำน่ะ ผสมน้ำ) แล้วก็ตีผสมกันให้ดี แล้วเทใส่กะทะ ให้มันแผ่นใหญ่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ "ไข่เจียว" ก็จะออกมาแบบ กระด้างๆ ไม่ได้ฟู กรอบอะไร แต่ด้วยความคิดว่า นี้แหละไข่เจียว อาหารจานเลิศสำหรับ มื้อเย็น ในตอนนั้น (ตอนเป็นเด็ก)
ย่าก็ไม่เคยบอกนะ ว่าทำไมต้องใส่น้ำเยอะ แต่ว่าตอนนี้ ได้มองย้อนไปแล้วมันคงมีเหตุผลไม่กี่อย่างหรอก ที่ย่าต้องทำ ไข่เจียว ใส่น้ำเยอะ คือ
ฐานะทางบ้านปู่กับย่า "จน" แค่ได้กินไข่เจียวสักมื้อก็ถือว่าดีแล้ว
ลูกหลานมาก ถ้าไม่ใส่น้ำเยอะก็กลัวว่าปริมาณจะไม่พอแบ่งกันกิน
ปู่กับย่าคงชอบไข่เจียวแบบนี้ (เหตุผลอันนี้ไม่น่าจะใช่)
เรื่องของ "ไข่เจียว" ก็ได้บอกอะไรเราหลายๆ อย่าง เรื่องอดีต ทำให้เราได้มองย้อนกลับไป แล้วมาถึงปัจุบัน เราได้กินไข่เจียวแบบ "ไม่ผสมน้ำ" เราบอกว่าสุดยอด เมื่อเปรียบกับอดีตของไข่เจียวฝีมือ ย่า
ด้วยความลำลึก และนึกถึง ย่า เราเลยทำ "ไข่เจียวผสมน้ำ" แบบที่ย่าเคยทำให้เรากิน กินไปแล้วนึกถึง ปู่ กับ ย่า
รักย่ามาก "จำภาพสุดท้าย" ที่ย่านั่งชันเข่า ตอนเช้ามืด แล้ว พูดว่าโชคดีน่ะ ก่อนเราออกเดินทาง
นางประดับ ยางสูง