คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
การวัดสายตาใช้ หน่วยเรียกว่า "ไดออปเตอร์" (Diopter) แสดงถึงค่าที่จะต้องแก้ไขเพื่อให้สายตากลับสู่ภาวะปกติ ยิ่งสายตาสั้นมากเท่าไร ไดออปเตอร์จะยิ่งมากเท่านั้น
การวัดสายตาประกอบด้วยตัวเลข 3 จำนวน เช่น -5.00 -1.50*180 ตัวเลขแรกหมายถึงค่าของสายตาสั้นหรือสายตายาว มีเครื่องหมายลบ (-) กำกับสำหรับสายตาสั้น และเครื่องหมายบวก (+) กำกับสำหรับสายตายาว ตัวเลขที่สองหมายถึงค่าของสายตาเอียง มีเครื่องหมายบวกหรือลบกำกับเช่นกัน ตัวเลขที่สามหมายถึงองศาของสายตาที่เอียง ซึ่งโดยทั่วไปคนไทยเรียกค่าสายตาเป็นหลักร้อย ดังนั้น -5.00 -1.50*180 จึงหมายถึงสายตาสั้น 500 สายตาเอียง 150 ที่มุม 180 องศา
การวัดสายตาคือการวัดระดับความสามารถในการมองเห็น จำเป็นต้องใช้เกณฑ์มาตรฐานสากลเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันระหว่างจักษุ แพทย์ทั่วโลก วัดได้โดยผู้เข้ารับการตรวจวัดนั่งห่างจากแผ่นชาร์ตที่ใช้วัดการอ่าน เรียกว่า Snellen Chart ที่ระยะ 20 ฟุต หรือ 6 เมตร แล้วปิดตาทีละข้าง จากนั้นใช้ตาข้างที่เปิดอ่านตัวเลขหรือตัวหนังสือจากบนลงล่าง
หากอ่านได้ค่า 20/20 จะหมายความดังนี้ 20 ตัวแรก หมายถึงระดับความสามารถที่ผู้เข้ารับการตรวจวัดสามารถอ่านตัวเลขหรือตัว อักษรจากมาตรฐานของ Snellen Chart ได้ครบทุกตัว เมื่ออยู่ห่างจากแผ่นชาร์ตที่ระยะ 20 ฟุต 20 ตัวหลัง หมายถึงระดับความสามารถที่คนปกติสามารถอ่านตัวเลขหรือตัวอักษรจากมาตรฐานของ Snellen Chart ได้ครบทุกตัว เมื่ออยู่ห่างจากแผ่นชาร์ตที่ระยะ 20 ฟุต
ตัวเลขนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามความสามารถในการมองเห็นของแต่ละคน ยิ่งตัวเลขมีจำนวนมากเท่าไร แสดงว่าระดับความสามารถในการมองเห็นยิ่งไม่ดีเท่านั้น ระดับการมองเห็นที่ 20/20 จึงแสดงถึงระดับความสามารถในการมองเห็นของผู้เข้ารับการตรวจวัดที่ดีเทียบ เท่ากับสายตาของคนปกติ แต่หากระดับการมองเห็นของผู้เข้ารับการตรวจวัดคือ 20/200 หมายความว่าในขณะที่คนสายตาปกติอ่านตัวเลขแถวนี้ได้ แม้จะอยู่ห่างจากแผ่นชาร์ต 200 ฟุต แต่ผู้เข้ารับการตรวจวัดต้องยืนเข้ามาใกล้มากถึงระยะ 20 ฟุต จึงจะอ่านตัวเลขแถวเดียวกันนี้ได้ แสดงให้เห็นถึงค่าสายตาที่ไม่ค่อยจะดีนัก
อย่างไรก็ตาม ในบางประเทศ ให้หน่วยของการวัดเป็น "เมตร" ตัวเลขที่แสดงก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วย เช่น 6/6, 6/12, หรือ 6/36 เป็นต้น แต่โดยทั่วไปก็ใช้หลักการเดียวกัน
จากคุณ : ลอดห้าคาสิบ กระดุกกระดิกพันห้า - [ 3 ต.ค. 50 03:16:30 ]
การวัดสายตาประกอบด้วยตัวเลข 3 จำนวน เช่น -5.00 -1.50*180 ตัวเลขแรกหมายถึงค่าของสายตาสั้นหรือสายตายาว มีเครื่องหมายลบ (-) กำกับสำหรับสายตาสั้น และเครื่องหมายบวก (+) กำกับสำหรับสายตายาว ตัวเลขที่สองหมายถึงค่าของสายตาเอียง มีเครื่องหมายบวกหรือลบกำกับเช่นกัน ตัวเลขที่สามหมายถึงองศาของสายตาที่เอียง ซึ่งโดยทั่วไปคนไทยเรียกค่าสายตาเป็นหลักร้อย ดังนั้น -5.00 -1.50*180 จึงหมายถึงสายตาสั้น 500 สายตาเอียง 150 ที่มุม 180 องศา
การวัดสายตาคือการวัดระดับความสามารถในการมองเห็น จำเป็นต้องใช้เกณฑ์มาตรฐานสากลเพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันระหว่างจักษุ แพทย์ทั่วโลก วัดได้โดยผู้เข้ารับการตรวจวัดนั่งห่างจากแผ่นชาร์ตที่ใช้วัดการอ่าน เรียกว่า Snellen Chart ที่ระยะ 20 ฟุต หรือ 6 เมตร แล้วปิดตาทีละข้าง จากนั้นใช้ตาข้างที่เปิดอ่านตัวเลขหรือตัวหนังสือจากบนลงล่าง
หากอ่านได้ค่า 20/20 จะหมายความดังนี้ 20 ตัวแรก หมายถึงระดับความสามารถที่ผู้เข้ารับการตรวจวัดสามารถอ่านตัวเลขหรือตัว อักษรจากมาตรฐานของ Snellen Chart ได้ครบทุกตัว เมื่ออยู่ห่างจากแผ่นชาร์ตที่ระยะ 20 ฟุต 20 ตัวหลัง หมายถึงระดับความสามารถที่คนปกติสามารถอ่านตัวเลขหรือตัวอักษรจากมาตรฐานของ Snellen Chart ได้ครบทุกตัว เมื่ออยู่ห่างจากแผ่นชาร์ตที่ระยะ 20 ฟุต
ตัวเลขนี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามความสามารถในการมองเห็นของแต่ละคน ยิ่งตัวเลขมีจำนวนมากเท่าไร แสดงว่าระดับความสามารถในการมองเห็นยิ่งไม่ดีเท่านั้น ระดับการมองเห็นที่ 20/20 จึงแสดงถึงระดับความสามารถในการมองเห็นของผู้เข้ารับการตรวจวัดที่ดีเทียบ เท่ากับสายตาของคนปกติ แต่หากระดับการมองเห็นของผู้เข้ารับการตรวจวัดคือ 20/200 หมายความว่าในขณะที่คนสายตาปกติอ่านตัวเลขแถวนี้ได้ แม้จะอยู่ห่างจากแผ่นชาร์ต 200 ฟุต แต่ผู้เข้ารับการตรวจวัดต้องยืนเข้ามาใกล้มากถึงระยะ 20 ฟุต จึงจะอ่านตัวเลขแถวเดียวกันนี้ได้ แสดงให้เห็นถึงค่าสายตาที่ไม่ค่อยจะดีนัก
อย่างไรก็ตาม ในบางประเทศ ให้หน่วยของการวัดเป็น "เมตร" ตัวเลขที่แสดงก็จะเปลี่ยนแปลงไปด้วย เช่น 6/6, 6/12, หรือ 6/36 เป็นต้น แต่โดยทั่วไปก็ใช้หลักการเดียวกัน
จากคุณ : ลอดห้าคาสิบ กระดุกกระดิกพันห้า - [ 3 ต.ค. 50 03:16:30 ]
แสดงความคิดเห็น
ช่วยอ่านค่าสายตาให้หน่อยค่ะ เขาอ่านกันยังไง
ตาขวา -4.00 -3.00 x 175 PD 31
ตาซ้าย -4.50 -2.50 x16 PD 30.5
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ