ก่อนอื่นต้องขอเล่าเส้นทางชีวิตรักที่ล้มเหลวฉบับย่อให้ฟังก่อนนะคะ คือตอนนั้นดิฉันอายุประมาณ22 มีแฟนเป็นตำรวจอายุ40ปี อยู่กันมาได้4ปี ก็เลิกรากัน เพราะเขาเป็นคนติดการพนันทุกรูปแบบ เล่นบอล เล่นไพ่ เล่นหวย เล่นสนุ๊ก ที่สำคัญติดเหล้าด้วย ติดหนี้ทั้งนอกระบบและในระบบ หักลบเงินเดือนแล้วเหลือประมาณ3000บาท แน่นอนว่าไม่พอใช้จ่าย ค่าอาหารการกินส่วนมากฉันเองที่เป็นคนจ่าย ระหว่างที่คบหากันฉันก็มีอาชีพทำงานร้านอาหารตอนกลางคืน รายได้ไม่เยอะ หามาได้ก็เอามากินมาใช้กับเขาจนไม่มีให้แม่ตัวเอง
จนวันหนึ่งเขาได้นำเอาปืนของหลวงที่เขาใช้อยู่ไปจำนำกับภรรยาของเพื่อนเขาที่เป็นตำรวจด้วยกัน เธอปล่อยเงินกู้นอกระบบ ซึ่งเขาก็ใช้ปืนหลวงไปจำนำกับเธอมาแล้วหลายครั้ง ตอนนั้นแย่มาก รายได้ก็น้อย หามาได้ก็ใช้จนหมดไปวันต่อวัน จึงตัดสินใจบอกเขาว่าจะไปทำงานต่างจังหวัด เพราะที่บ้านเป็นอำเภอที่อยู่ไกลตัวเมือง ไม่มีงานให้ทำเยอะเท่าไหร่ ค่อนข้างบ้านนอกนิดนึง ซึ่งเขาก็โอเค ตอนนั้นยังไม่มีปัญหากัน ยังโทรคุยกัน และฉันเพิ่งย้ายมายังไม่มีงานไม่มีเงินทุนเริ่มต้น ไหนจะต้องค่าหอเดือนแรก และค่ากิน ก็โทรคุยกัน เขาจึงบอกให้ฉันโทรหาภรรยาของเพื่อนเขา ที่เขาเอาปืนไปจำนำ ดิฉันก็รู้จักกับเธอคนนี้ประมาณหนึ่ง บอกว่าขอเพิ่มเงินอีก15000 บาท และดิฉันก็โทรไป เธอก็โอนเงินมาให้15000บาท ดิฉันก็เป็นคนส่งดอกเองมาอยู่หลายเดือน จนวันที่ฉันกลับบ้าน ก็ได้ไปหาเขาตามปกติ เขาบอกจะไปเอาปืน ก็ไปด้วยกัน พอไปถึงเขาก็พูดจำนวนเงินและดอกเบี้ยในส่วนที่เป็นของเขา ภรรยาเพื่อนเขาจึงถามว่าแล้วเงินในส่วนของแฟนคุณหละ เขาตีหน้ามึน ทำเป็นไม่รู้ ฉันก็งงมากในตอนนั้น ก็เลยไม่ได้ปืนคืนเพราะเงินไม่ครบ กลับมาที่ห้องแฟลตก็ทะเลาะกันว่าทำไมพูดเหมือนไม่รู้ สุดท้ายทำอะไรไม่ได้ เขาก็บอกให้ฉันลองกู้เงินกู้หมู่บ้าน แล้วค่อยเอาปืนออก และฉันก็ทำ แต่เงินไม่เยอะ พอได้เงินมาแล้ว ฉันก็ไม่ได้บอกเขา ฉันก็เอาไปไถ่มือถือไอโฟนที่เอาไปจำนำไว้ และหนี้สินอื่นๆที่ไปยืมเขามาในส่วนของฉัน ตอนนั้นฉันก็ยังทำงานอยู่ต่างจังหวัด และฉันกับเขาก็ขาดการติดต่อกัน ไม่ได้ทะเลาะกัน แค่ต่างคนต่างไม่โทร ไม่มีการบอกเลิกใดๆ
ต่อมาภรรยาของเพื่อนเขาก็โทรมาบอกว่าเขาไถ่ปืนไปแล้ว แต่ในส่วนของเขา บอกว่าเขาไม่รับรู้ในส่วนของฉัน ฉันก็รู้สึกโกรธมากพยายามติดต่อไปก็ไม่ยอมรับสาย โทรหาเพื่อนของเขาบอกเขาว่าให้ติดต่อกลับ ก็ไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จนเรื่องก็เงียบไปประมาณ2ปี ก็เลยคิดว่าเขาน่าจะจ่ายไปแล้ว จนสองวันที่แล้ว ภรรยาของเพื่อนเขาโทรมาอีกบอกเขายังไม่จ่าย บอกไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น บอกให้มาทวงกับฉันเอง
อยากจะขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆว่าจะขึ้นไปโรงพักที่เขาทำงานอยู่ พึ่งตำรวจเลยดีไหม เรียกเขามาคุยกัน เพราะเขาพูดว่าเขาไม่รับรู้ ทั้งๆที่เขาก็รู้และเป็นคนบอกฉันไปเอาเอง เพราะที่ภรรยาเพื่อนเขาโอนเงินให้ฉันก็เพราะมีปืนของเขาค้ำอยู่ สุดท้ายยอมคืนปืนให้เขาโดยที่เขาไม่จ่ายในส่วนของฉัน แล้วมาทวงที่ฉัน ฉันไม่เชื่อเพื่อนเขาไม่รับรู้ในส่วนของฉัน ผู้หญิงที่ปล่อยเงินกู้ก็บอกว่าไม่ได้คุยกับแฟนคุยเลยเรื่องที่คุณโทรมาเพิ่มเงิน เพราะคิดว่าเราสองคนรู้กันแล้ว มันจะเป็นไปได้เหรอที่ไม่รู้ เพราะฉันส่งดอกมาตั้งหลายเดือน มันน่าเจ็บใจนะ อย่างน้อยก็น่าจะจ่ายเป็นค่าที่เกาะชายกระโปรงฉันกินมาตั้งหลายปี ไม่น่าพูด

ว่าไม่รู้เลย
รบกวนเพื่อนๆช่วยให้คำแนะนำทีนะคะ ขอบคุณคะ
มีปัญหากับแฟนเก่าที่เป็นตำรวจ เรื่องเงินๆทองๆ
จนวันหนึ่งเขาได้นำเอาปืนของหลวงที่เขาใช้อยู่ไปจำนำกับภรรยาของเพื่อนเขาที่เป็นตำรวจด้วยกัน เธอปล่อยเงินกู้นอกระบบ ซึ่งเขาก็ใช้ปืนหลวงไปจำนำกับเธอมาแล้วหลายครั้ง ตอนนั้นแย่มาก รายได้ก็น้อย หามาได้ก็ใช้จนหมดไปวันต่อวัน จึงตัดสินใจบอกเขาว่าจะไปทำงานต่างจังหวัด เพราะที่บ้านเป็นอำเภอที่อยู่ไกลตัวเมือง ไม่มีงานให้ทำเยอะเท่าไหร่ ค่อนข้างบ้านนอกนิดนึง ซึ่งเขาก็โอเค ตอนนั้นยังไม่มีปัญหากัน ยังโทรคุยกัน และฉันเพิ่งย้ายมายังไม่มีงานไม่มีเงินทุนเริ่มต้น ไหนจะต้องค่าหอเดือนแรก และค่ากิน ก็โทรคุยกัน เขาจึงบอกให้ฉันโทรหาภรรยาของเพื่อนเขา ที่เขาเอาปืนไปจำนำ ดิฉันก็รู้จักกับเธอคนนี้ประมาณหนึ่ง บอกว่าขอเพิ่มเงินอีก15000 บาท และดิฉันก็โทรไป เธอก็โอนเงินมาให้15000บาท ดิฉันก็เป็นคนส่งดอกเองมาอยู่หลายเดือน จนวันที่ฉันกลับบ้าน ก็ได้ไปหาเขาตามปกติ เขาบอกจะไปเอาปืน ก็ไปด้วยกัน พอไปถึงเขาก็พูดจำนวนเงินและดอกเบี้ยในส่วนที่เป็นของเขา ภรรยาเพื่อนเขาจึงถามว่าแล้วเงินในส่วนของแฟนคุณหละ เขาตีหน้ามึน ทำเป็นไม่รู้ ฉันก็งงมากในตอนนั้น ก็เลยไม่ได้ปืนคืนเพราะเงินไม่ครบ กลับมาที่ห้องแฟลตก็ทะเลาะกันว่าทำไมพูดเหมือนไม่รู้ สุดท้ายทำอะไรไม่ได้ เขาก็บอกให้ฉันลองกู้เงินกู้หมู่บ้าน แล้วค่อยเอาปืนออก และฉันก็ทำ แต่เงินไม่เยอะ พอได้เงินมาแล้ว ฉันก็ไม่ได้บอกเขา ฉันก็เอาไปไถ่มือถือไอโฟนที่เอาไปจำนำไว้ และหนี้สินอื่นๆที่ไปยืมเขามาในส่วนของฉัน ตอนนั้นฉันก็ยังทำงานอยู่ต่างจังหวัด และฉันกับเขาก็ขาดการติดต่อกัน ไม่ได้ทะเลาะกัน แค่ต่างคนต่างไม่โทร ไม่มีการบอกเลิกใดๆ
ต่อมาภรรยาของเพื่อนเขาก็โทรมาบอกว่าเขาไถ่ปืนไปแล้ว แต่ในส่วนของเขา บอกว่าเขาไม่รับรู้ในส่วนของฉัน ฉันก็รู้สึกโกรธมากพยายามติดต่อไปก็ไม่ยอมรับสาย โทรหาเพื่อนของเขาบอกเขาว่าให้ติดต่อกลับ ก็ไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จนเรื่องก็เงียบไปประมาณ2ปี ก็เลยคิดว่าเขาน่าจะจ่ายไปแล้ว จนสองวันที่แล้ว ภรรยาของเพื่อนเขาโทรมาอีกบอกเขายังไม่จ่าย บอกไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น บอกให้มาทวงกับฉันเอง
อยากจะขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆว่าจะขึ้นไปโรงพักที่เขาทำงานอยู่ พึ่งตำรวจเลยดีไหม เรียกเขามาคุยกัน เพราะเขาพูดว่าเขาไม่รับรู้ ทั้งๆที่เขาก็รู้และเป็นคนบอกฉันไปเอาเอง เพราะที่ภรรยาเพื่อนเขาโอนเงินให้ฉันก็เพราะมีปืนของเขาค้ำอยู่ สุดท้ายยอมคืนปืนให้เขาโดยที่เขาไม่จ่ายในส่วนของฉัน แล้วมาทวงที่ฉัน ฉันไม่เชื่อเพื่อนเขาไม่รับรู้ในส่วนของฉัน ผู้หญิงที่ปล่อยเงินกู้ก็บอกว่าไม่ได้คุยกับแฟนคุยเลยเรื่องที่คุณโทรมาเพิ่มเงิน เพราะคิดว่าเราสองคนรู้กันแล้ว มันจะเป็นไปได้เหรอที่ไม่รู้ เพราะฉันส่งดอกมาตั้งหลายเดือน มันน่าเจ็บใจนะ อย่างน้อยก็น่าจะจ่ายเป็นค่าที่เกาะชายกระโปรงฉันกินมาตั้งหลายปี ไม่น่าพูด
รบกวนเพื่อนๆช่วยให้คำแนะนำทีนะคะ ขอบคุณคะ