'ฐากร' ชงบอร์ด กทค.สรุปค่าเสียหายแจส
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559
บอร์ดกทค.สรุปตัวเลข เรียกค่าเสียหาย"แจส" วันนี้ ชี้มูลค่าที่คณะกรรมการลงมติ 131 ล้านบาท น้อยเกินไป จับตาวาระพิจารณาเพิ่ม 3 ค่ายมือถือเล็งอุทธรณ์คำสั่งกำหนดมาตรการบังคับทางปกครองกรณี ฝ่าฝืน หลักเกณฑ์บริการคงสิทธิเลขหมาย หลังมีคำสั่ง ทางปกครองให้จ่ายค่าปรับ เอไอเอสอ่วมสุดกว่า 483 ล้านบาท
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่าการประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) วันนี้ (1 มิ.ย.) สำนักงาน กสทช.เสนอวาระผลสรุปตรวจสอบความ เสียหาย กรณีที่ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ทิ้งใบอนุญาต 4จีคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ ล่าสุดคณะทำงานตรวจสอบความเสียหายแจส ที่มีนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อธิบดีสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เป็นประธานได้ประชุมเมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา สรุปว่าจะเรียกค่าเสียหายแจสจำนวน 131 ล้านบาท เพิ่มเติมจากที่สำนักงานกสทช.ยึดเงินประกันการประมูลจำนวน 644 ล้านบาท
"เรียกเก็บค่าเสียหายจากแจส 131 ล้านบาท น้อยเกินจริง เพราะต้องนำค่าเสียโอกาสเปิดประมูล 4จีที่ล่าช้ามาคำนวณด้วย รวมถึง ค่าใช้จ่ายในการจัดประมูลคลื่น 900 ครั้งก่อน และครั้งล่าสุดที่จัดไปเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ค่าเสียหายที่เรียกจากแจสจะเสนอต่อ บอร์ดกทค.วันนี้ ยืนยันว่ามากกว่ามูลค่าที่คณะกรรมการตรวจสอบความเสียหายสรุปมาอย่างแน่นอน" บอร์ด กทค. วันนี้ยังมีวาระพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งกำหนดมาตรการบังคับทางปกครองกรณี บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด และบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ไม่ปฏิบัติตามประกาศหลักเกณฑ์บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และเงื่อนไขการโอนย้ายผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
โดยคำอุทธรณ์ของทั้งสามบริษัทที่โต้แย้ง เข้ามานั้น แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค ระบุว่าคำสั่งสำนักงาน กสทช. ไม่ชัดเจนว่าต้องการให้บริษัทดำเนินการอย่างไร ต้องการให้แก้ไขปรับปรุงให้บริการคงสิทธิเลขหมายในปัจจุบัน หรือแสดงหลักฐานความประสงค์ขอโอนย้ายเลขหมายของผู้ใช้บริการกันแน่
ส่วนค่าปรับทางปกครองควรมีลักษณะกำหนดเพื่อบังคับให้กระทำการหรือไม่กระทำการ มิใช่ค่าปรับในเชิงลงโทษ กรณีนี้เหตุแห่งการบังคับให้กระทำการหรือไม่กระทำการถือว่าล่วงพ้นไปแล้วไม่จำเป็นต้องกำหนดมาตรการบังคับทางปกครองอีก
ส่วนดีแทค ไตรเน็ต โต้แย้งว่า เลขาธิการ กสทช. ไม่มีอำนาจออกคำสั่งได้ เนื่องจาก ประกาศหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขแนวทางปฏิบัติ การโอนย้ายฯออกโดยอำนาจตาม พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2543 ประกอบ พ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 เป็นกฎหมายที่บัญญัติไว้เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับ การให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ขณะที่ ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น อ้างว่า ได้ใช้วิธีการส่งข้อความสั้นให้ผู้ใช้บริการแสดงความประสงค์จะขอใช้สิทธิโอนย้ายเลขหมาย พร้อมทั้งให้พนักงานโทรศัพท์หา ผู้ใช้บริการเพื่อยืนยันความประสงค์ขอ โอนย้าย จึงมิได้ฝ่าฝืนประกาศหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขแนวทางปฏิบัติการโอนย้ายฯ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ คำสั่งกำหนดค่าปรับทางปกครองเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2558 แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค ต้องชำระค่าปรับทางปกครองวันละ 11.8 ล้านบาท นับแต่วันที่พ้นกำหนดวัน แจ้งเตือนจนถึงช่วงเวลาสิ้นสุดการกระทำฝ่าฝืน 41 วัน รวม 483.8 ล้านบาท ดีแทค ไตรเน็ตต้องชำระวันละ 6,156,184 บาท 17 วัน รวมเป็นเงิน ทั้งสิ้น 104.6 ล้านบาท และ ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น ต้องชำระวันละ 169,244 บาท 44 วัน รวม 7.5 ล้านบาท
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559 (หน้า 5)
'ฐากร' ชงบอร์ด กทค.สรุปค่าเสียหายแจส
'ฐากร' ชงบอร์ด กทค.สรุปค่าเสียหายแจส
กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559
บอร์ดกทค.สรุปตัวเลข เรียกค่าเสียหาย"แจส" วันนี้ ชี้มูลค่าที่คณะกรรมการลงมติ 131 ล้านบาท น้อยเกินไป จับตาวาระพิจารณาเพิ่ม 3 ค่ายมือถือเล็งอุทธรณ์คำสั่งกำหนดมาตรการบังคับทางปกครองกรณี ฝ่าฝืน หลักเกณฑ์บริการคงสิทธิเลขหมาย หลังมีคำสั่ง ทางปกครองให้จ่ายค่าปรับ เอไอเอสอ่วมสุดกว่า 483 ล้านบาท
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่าการประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) วันนี้ (1 มิ.ย.) สำนักงาน กสทช.เสนอวาระผลสรุปตรวจสอบความ เสียหาย กรณีที่ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ทิ้งใบอนุญาต 4จีคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิรตซ์ ล่าสุดคณะทำงานตรวจสอบความเสียหายแจส ที่มีนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อธิบดีสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต เป็นประธานได้ประชุมเมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา สรุปว่าจะเรียกค่าเสียหายแจสจำนวน 131 ล้านบาท เพิ่มเติมจากที่สำนักงานกสทช.ยึดเงินประกันการประมูลจำนวน 644 ล้านบาท
"เรียกเก็บค่าเสียหายจากแจส 131 ล้านบาท น้อยเกินจริง เพราะต้องนำค่าเสียโอกาสเปิดประมูล 4จีที่ล่าช้ามาคำนวณด้วย รวมถึง ค่าใช้จ่ายในการจัดประมูลคลื่น 900 ครั้งก่อน และครั้งล่าสุดที่จัดไปเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ค่าเสียหายที่เรียกจากแจสจะเสนอต่อ บอร์ดกทค.วันนี้ ยืนยันว่ามากกว่ามูลค่าที่คณะกรรมการตรวจสอบความเสียหายสรุปมาอย่างแน่นอน" บอร์ด กทค. วันนี้ยังมีวาระพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งกำหนดมาตรการบังคับทางปกครองกรณี บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด และบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ไม่ปฏิบัติตามประกาศหลักเกณฑ์บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ และเงื่อนไขการโอนย้ายผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่
โดยคำอุทธรณ์ของทั้งสามบริษัทที่โต้แย้ง เข้ามานั้น แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค ระบุว่าคำสั่งสำนักงาน กสทช. ไม่ชัดเจนว่าต้องการให้บริษัทดำเนินการอย่างไร ต้องการให้แก้ไขปรับปรุงให้บริการคงสิทธิเลขหมายในปัจจุบัน หรือแสดงหลักฐานความประสงค์ขอโอนย้ายเลขหมายของผู้ใช้บริการกันแน่
ส่วนค่าปรับทางปกครองควรมีลักษณะกำหนดเพื่อบังคับให้กระทำการหรือไม่กระทำการ มิใช่ค่าปรับในเชิงลงโทษ กรณีนี้เหตุแห่งการบังคับให้กระทำการหรือไม่กระทำการถือว่าล่วงพ้นไปแล้วไม่จำเป็นต้องกำหนดมาตรการบังคับทางปกครองอีก
ส่วนดีแทค ไตรเน็ต โต้แย้งว่า เลขาธิการ กสทช. ไม่มีอำนาจออกคำสั่งได้ เนื่องจาก ประกาศหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขแนวทางปฏิบัติ การโอนย้ายฯออกโดยอำนาจตาม พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2543 ประกอบ พ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 เป็นกฎหมายที่บัญญัติไว้เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับ การให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ขณะที่ ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น อ้างว่า ได้ใช้วิธีการส่งข้อความสั้นให้ผู้ใช้บริการแสดงความประสงค์จะขอใช้สิทธิโอนย้ายเลขหมาย พร้อมทั้งให้พนักงานโทรศัพท์หา ผู้ใช้บริการเพื่อยืนยันความประสงค์ขอ โอนย้าย จึงมิได้ฝ่าฝืนประกาศหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขแนวทางปฏิบัติการโอนย้ายฯ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ คำสั่งกำหนดค่าปรับทางปกครองเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2558 แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค ต้องชำระค่าปรับทางปกครองวันละ 11.8 ล้านบาท นับแต่วันที่พ้นกำหนดวัน แจ้งเตือนจนถึงช่วงเวลาสิ้นสุดการกระทำฝ่าฝืน 41 วัน รวม 483.8 ล้านบาท ดีแทค ไตรเน็ตต้องชำระวันละ 6,156,184 บาท 17 วัน รวมเป็นเงิน ทั้งสิ้น 104.6 ล้านบาท และ ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น ต้องชำระวันละ 169,244 บาท 44 วัน รวม 7.5 ล้านบาท
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559 (หน้า 5)