ควรแก้ไขการขีดทางอาชีพให้เด็กอย่างไร

ผมเป็นเด็กต่างจังหวัด สังคมรอบตัวผมมักสอนและชี้นำให้เด็กคิดว่าโตไปแล้วควรจะประกอบอาชีพอะไร โดยในรุ่นผม
มักไม่พ้นแพทย์ ทันตแพทย์ ครู เป็นสายหลัก และมักไม่สนับสนุนให้เป็นทนายความหรืออาชีพอิสระ โรงเรียนของผม
มักเปรียบเทียบระดับความเก่งของรุ่นโดยเอาจำนวนคนที่สอบติดคณะแพทย์มาวัดคุณภาพ ตอนประกาศผลการสอบตรง
ของแต่ละมหาวิทมยาลัย มีเพียงคณะแพทย์เท่านั้นที่ผู้อำนวยการเรียกมาถ่ายรูปหน้าเสาธง

ผู้ใหญ่หลายคนมองว่าการเรียนอาชีวะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดี เวลาที่ได้ยินข่าวว่ามีลูกใครไปเรียนก็มักจะนำมานินทา
เพื่อนบางคนที่เรียนหนังสือไม่เก่งแทนที่จะถูกสนับสนุนให้หาแนวทางที่ตัวเองถนัด ครูหลายคนกลับบอกแค่ว่า
"เป็นแบบนี้จะไปทำอาชีพอะไรได้" ทำให้เพื่อนคิดว่าตัวเองนั้นโง่เขลา มีไม่เท่าคนอื่น จนบางคนกลายเป็นเด็กเกเรที่วันๆไม่ทำอะไร
เพราะเห็นว่า"ทำไปกูก็ไม่ดีขึ้น" บ้างก็เสียคนไปเลยก็มี บางคนพ่อแม่ก็ไม่ยอมส่งไปเรียนอาชีวะทั้งที่อยากไปและมีใจรักในทางนั้น
กลายเป็นว่าเพื่อนผมจำนวนหนึ่งต้องเสียเวลาเพราะสังคมแวดล้อมพยายามขีดทางให้เขาเป็น

เพื่อนผมจำนวนหนึ่งที่พลาดหวังจากการสอบกลายเป็นคนล่องลอย ไม่รู้ว่าตัวเองจะเรียนอะไร ไม่รู้ว่าจะประกอบอาชีพอะไร
เพราะตั้งแต่เล็กจนโตก็มีเป้าหมายเดียวมาตลอด บ้างก็เลือกเรียนในคณะที่คะแนนถึง คนที่ได้เรียนในสิ่งที่ชอบก็เรียนไป ส่วน
คนที่ได้อันที่ไม่ชอบก็ซิ่วไป คนที่ซิ่วมักบอกว่ายังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรจนบางคนถึงขนาดซิ่วไป 2 ครั้งแล้ว  บ้างก็รอสอบใหม่
ไม่เรียนอะไรจนกว่าจะสอบได้ก็มี

หลายคนที่สอบเข้าไปได้ก็เรียนเพื่อพ่อแม่ ไม่ก็มุ่งที่จะเรียนเพื่อค่าตอบแทนที่สูงจนบางครั้งผมก็รู้สึกว่าแรงจูงใจนี้อาจจะมีผล
ต่อการทำงานในอนาคตของพวกเขา จากประสบการณ์ส่วนตัว ผมเคยเจอครูที่ทำให้รู้สึกว่าเขาไม่ต้องการสอน โดยแจกชีทให้
อ่าน ให้ทำแบบฝึกหัด ให้การบ้าน และเลิกคาบ วนอยู่อย่างนี้ตลอด ครูบางคนก็มักอารมณ์เสียเมื่อนักเรียนมีคำถาม เคยเจอ
แพทย์ที่ตรวจร่างกายภายในครึ่งนาทีเสร็จแล้วทำหน้าราวกับว่าผมเป็นภาระของเขา แพทย์บางคนตรวจคนรู้จักของผมไม่ละเอียด
ทำการรักษาเพียงเบื้องต้นและไม่ติดตามผลต่อเนื่องจนสุดท้ายเขาก็เสียชีวิตทั้งที่ยังสามารถช่วยเหลือได้ในตอนแรก ฯลฯ
ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าสังคมยังเป็นแบบนี้ต่อไป อนาคตประเทศเราจะเป็นอย่างไร

ผมจึงอยากอ่านความคิดเห็นของคนในบอร์ดนี้ว่าเราควรจะมีแนวทางการแก้ไขในเรื่องดังกล่าวอย่างไรบ้าง แม้ว่าสังคมของ
พวกท่านอาจจะไม่เหมือนผม แต่อย่างน้อยก็อยากให้ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนทัศนะกัน เผื่อว่าวันหนึ่งการสนทนานี้อาจ
มีประโยชน์ต่อสังคมที่เป็นแบบเดียวกันกับผมบ้างไม่มากก็น้อย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่