คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
เพราะสุดท้ายแล้วมันเป็นผลดีมากกว่าปล่อยให้ประวัติศาสตร์อยู่บนหิ้ง
โบราณมีคำพูดว่า ทองแท้ไม่กลัวไฟ ซึ่งก็ตรงตามนั้น
สำหรับประเทศที่เจริญแล้วประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่ต้องวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงคิดวิเคราะห์ถึงสาเหตุและการตัดสินใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้ว ต้องตั้งคำถามว่าการกระทำของบุคคลในประวัติศาสตร์นั้นมีสาเหตุมาจากอะไร เหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนั้นหรือไม่ มีทางเลือกอื่นหรือเปล่า
ซึ่งการศึกษาในแนวทางนี้จะช่วยยืนยันว่าบุคคลเหล่านั้นมีความสำคัญจริงและมีความสามารถจริง ไม่ใช่ถูกอุปโลกขึ้นมา
ซึ่งการนั่งท่องจำชื่อคน จำวันเดือนปีแบบการศึกษาไทยไม่สามารถทำแบบนี้ได้
ดัวนั้นบุคคลในประวัติศาสตร์ไทยจึงต้องขึ้นไปอยู่บนหิ้งแตะต้องไม่ได้ ตั้งคำถามหรือตีความก็ไม่ได้
เพราะไม่มีใครกล้าอนุญาตให้ทำ กลัวจะเสียความศักดิสิทธิ์ กลัวว่าสิ่งที่ตนเคารพและบอกคนอื่นให้เคารพนั้นจะไม่จริงแท้
เลยขอภูมิใจกับความคลุมเครือเสียดีกว่า
แต่การอยู่บนหิ้งก็มีข้อเสียใหญ่หลวงนั้นคือ การถูกลืมเลือน หรือ irrelevant เพราะไม่สามารถเชื่อมโยงกับคน วัฒนธรรม สื่อ หรืออะไรก็ตามที่เป็นปัจจุบันได้
เปรียบเทียบได้ง่ายๆ ทุกวันนี้เชื่อว่ามีคนอเมริกัน จีน เกาหลี รวมกันอาจถึงหมื่นคน(ถ้ารวมทุกประเทศทั่วโลกอาจถึงหลายหมื่น) จำชื่อเรือรบ จุดเด่น ประวัติการรบของเรือในกองทัพจักรวรรดิ์ญี่ปุ่นซึ่งเป็นกองทัพศัตรูได้มากกว่าเรื่องราวของเรือในกองทัพประเทศตัวเอง
แถมสมัครใจค้นหาข้อมูล ท่องจำ รวมถึงจ่ายเงินซื้อของที่ระลึกมาสะสม ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีใครบังคับ
หรืออีกกลุ่มหนึ่งสามารถเล่าเรื่องประวัติศาตร์ญี่ปุ่นในยุคต่างๆ ได้เป็นฉากๆ ดินแดนไหนสภาพภูมิศาสตร์เป็นอย่างไร ใครปกครอง รบกับใครที่ไหนในปีไหนผลเป็นอย่างไร ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น และส่งผลอย่างไรต่อไป
บางคนถึงขั้นรู้ละเอียดกว่าคนญี่ปุ่นเองเสียอีก
ถามว่าประวัติศาสตร์ไทยมีแบบนี้บ้างไหม?
มีวัยรุ่นต่างชาติคนไหนสนใจประวัติศาสตร์ไทยไหม?
คิดว่าวัยรุ่นพม่า ลาว กัมพูชา เขาจะสนใจใคร่รู้ ชื่นชมยกย่องแม่ทัพของชาติท่ีเคยป็นศัตรูไหม?
แล้ววัยรุ่นชาติตะวันตกที่ห่างออกไปครึ่งค่อนโลกที่ล่ะเขาจะรู้หรือสนใจไหม?
หรือเอาแค่คนไทยเองก็ได้ นอกจากนักวิชาการไม่กี่คนแล้ว มีใครคลั่งไคล้ประวัติศาสตร์ไทยขนาดนี้ไหม?
ถามว่าทำไมญี่ปุ่นถึงทำได้ เพราะเขาทำให้ประวัติศาตร์ของตนเชื่อมโยงกับปัจจุบัน (relevant) ผ่านการตีความ หรือการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคล สถานที่ สถานการณ์ หรือแม้แต่ตัวประวัติศาสตร์เอง
เช่น ไปปรากฏตัวในเรื่องราวอื่น หรือแม้แต่เปลี่ยนชายวัยกลางคนเป็นเด็กผู้หญิง หรือหนุ่มหน้ามน
เพราะมันทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงบุคคลในประวัติศาสตร์ได้เหมือนเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีด้านดี เลว ตลก เศร้าหรือแม้แต่น่าอับอาย
และหันมาสนใจค้นคว้าหาข้อมูลอื่นๆต่อไป
ไม่ใช่เคารพในฐานะพระเจ้าที่ยกมือไหว้แล้วก็จบกัน
ด้วนเหตุนี้ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นจึงมีชีวิต และแพร่ขยายกิ่งก้านสาขาออกไปยังผู้คนทั้งในและนอกประเทศได้
โบราณมีคำพูดว่า ทองแท้ไม่กลัวไฟ ซึ่งก็ตรงตามนั้น
สำหรับประเทศที่เจริญแล้วประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่ต้องวิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงคิดวิเคราะห์ถึงสาเหตุและการตัดสินใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้ว ต้องตั้งคำถามว่าการกระทำของบุคคลในประวัติศาสตร์นั้นมีสาเหตุมาจากอะไร เหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนั้นหรือไม่ มีทางเลือกอื่นหรือเปล่า
ซึ่งการศึกษาในแนวทางนี้จะช่วยยืนยันว่าบุคคลเหล่านั้นมีความสำคัญจริงและมีความสามารถจริง ไม่ใช่ถูกอุปโลกขึ้นมา
ซึ่งการนั่งท่องจำชื่อคน จำวันเดือนปีแบบการศึกษาไทยไม่สามารถทำแบบนี้ได้
ดัวนั้นบุคคลในประวัติศาสตร์ไทยจึงต้องขึ้นไปอยู่บนหิ้งแตะต้องไม่ได้ ตั้งคำถามหรือตีความก็ไม่ได้
เพราะไม่มีใครกล้าอนุญาตให้ทำ กลัวจะเสียความศักดิสิทธิ์ กลัวว่าสิ่งที่ตนเคารพและบอกคนอื่นให้เคารพนั้นจะไม่จริงแท้
เลยขอภูมิใจกับความคลุมเครือเสียดีกว่า
แต่การอยู่บนหิ้งก็มีข้อเสียใหญ่หลวงนั้นคือ การถูกลืมเลือน หรือ irrelevant เพราะไม่สามารถเชื่อมโยงกับคน วัฒนธรรม สื่อ หรืออะไรก็ตามที่เป็นปัจจุบันได้
เปรียบเทียบได้ง่ายๆ ทุกวันนี้เชื่อว่ามีคนอเมริกัน จีน เกาหลี รวมกันอาจถึงหมื่นคน(ถ้ารวมทุกประเทศทั่วโลกอาจถึงหลายหมื่น) จำชื่อเรือรบ จุดเด่น ประวัติการรบของเรือในกองทัพจักรวรรดิ์ญี่ปุ่นซึ่งเป็นกองทัพศัตรูได้มากกว่าเรื่องราวของเรือในกองทัพประเทศตัวเอง
แถมสมัครใจค้นหาข้อมูล ท่องจำ รวมถึงจ่ายเงินซื้อของที่ระลึกมาสะสม ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีใครบังคับ
หรืออีกกลุ่มหนึ่งสามารถเล่าเรื่องประวัติศาตร์ญี่ปุ่นในยุคต่างๆ ได้เป็นฉากๆ ดินแดนไหนสภาพภูมิศาสตร์เป็นอย่างไร ใครปกครอง รบกับใครที่ไหนในปีไหนผลเป็นอย่างไร ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น และส่งผลอย่างไรต่อไป
บางคนถึงขั้นรู้ละเอียดกว่าคนญี่ปุ่นเองเสียอีก
ถามว่าประวัติศาสตร์ไทยมีแบบนี้บ้างไหม?
มีวัยรุ่นต่างชาติคนไหนสนใจประวัติศาสตร์ไทยไหม?
คิดว่าวัยรุ่นพม่า ลาว กัมพูชา เขาจะสนใจใคร่รู้ ชื่นชมยกย่องแม่ทัพของชาติท่ีเคยป็นศัตรูไหม?
แล้ววัยรุ่นชาติตะวันตกที่ห่างออกไปครึ่งค่อนโลกที่ล่ะเขาจะรู้หรือสนใจไหม?
หรือเอาแค่คนไทยเองก็ได้ นอกจากนักวิชาการไม่กี่คนแล้ว มีใครคลั่งไคล้ประวัติศาสตร์ไทยขนาดนี้ไหม?
ถามว่าทำไมญี่ปุ่นถึงทำได้ เพราะเขาทำให้ประวัติศาตร์ของตนเชื่อมโยงกับปัจจุบัน (relevant) ผ่านการตีความ หรือการเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นตัวบุคคล สถานที่ สถานการณ์ หรือแม้แต่ตัวประวัติศาสตร์เอง
เช่น ไปปรากฏตัวในเรื่องราวอื่น หรือแม้แต่เปลี่ยนชายวัยกลางคนเป็นเด็กผู้หญิง หรือหนุ่มหน้ามน
เพราะมันทำให้ผู้คนสามารถเข้าถึงบุคคลในประวัติศาสตร์ได้เหมือนเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีด้านดี เลว ตลก เศร้าหรือแม้แต่น่าอับอาย
และหันมาสนใจค้นคว้าหาข้อมูลอื่นๆต่อไป
ไม่ใช่เคารพในฐานะพระเจ้าที่ยกมือไหว้แล้วก็จบกัน
ด้วนเหตุนี้ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นจึงมีชีวิต และแพร่ขยายกิ่งก้านสาขาออกไปยังผู้คนทั้งในและนอกประเทศได้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 31
ปัญหาคือ ตอนนี้อยู่ในระดับไหน
1. อวยในสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงได้หรือไม่ ?
2. ชื่นชมในสิ่งที่มีอยู่จริงได้หรือไม่ ?
3. วิจารณ์ได้หรือไม่ ?
4. พูดถึงข้อเสียได้หรือไม่ ?
5. เอามาประยุกต์ได้หรือไม่ ?
6. ตำหนิในสิ่งไม่ดีได้หรือไม่ ?
7. ล้อเลียนให้ดูไม่ดีได้หรือไม่ ?
8. ด่าทอในสิ่งที่ไม่ดีได้หรือไม่ ?
9. ใส่ร้ายป้ายสีในเรื่องที่ไม่จริงได้หรือไม่ ?
รู้สึกว่าสังคมไทยทำได้แค่ 1 กับ 2 แต่ไม่ใช่กับ 3 - 9
อันที่จริงแค่จะแย้งว่า 1 ไม่ใช่เรื่องจริงยังไม่ยอมเลย
ทว่าต่างชาติ เขาทำได้ตั้งแต่ 1 - 8 เลยนะ 9 นั่นแหละถึงจะผิด
1. อวยในสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงได้หรือไม่ ?
2. ชื่นชมในสิ่งที่มีอยู่จริงได้หรือไม่ ?
3. วิจารณ์ได้หรือไม่ ?
4. พูดถึงข้อเสียได้หรือไม่ ?
5. เอามาประยุกต์ได้หรือไม่ ?
6. ตำหนิในสิ่งไม่ดีได้หรือไม่ ?
7. ล้อเลียนให้ดูไม่ดีได้หรือไม่ ?
8. ด่าทอในสิ่งที่ไม่ดีได้หรือไม่ ?
9. ใส่ร้ายป้ายสีในเรื่องที่ไม่จริงได้หรือไม่ ?
รู้สึกว่าสังคมไทยทำได้แค่ 1 กับ 2 แต่ไม่ใช่กับ 3 - 9
อันที่จริงแค่จะแย้งว่า 1 ไม่ใช่เรื่องจริงยังไม่ยอมเลย
ทว่าต่างชาติ เขาทำได้ตั้งแต่ 1 - 8 เลยนะ 9 นั่นแหละถึงจะผิด
แสดงความคิดเห็น
ทำไมในต่างประเทศบางประเทศถึงรับได้เมื่อบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์โดนจับมายำเล่น ? (ถามด้วยความอยากรู้)
ประเทศสหรัฐ ที่ผู้นำประเทศในอดีตที่ทำประโยชน์ให้กับชาติโดนจับมายำเล่นไม่ว่าจะเป็นหนัง เกม การ์ตูนทั้งทำแบบธรรมดาและแบบล้อเลียน
ส่วนประเทศญี่ปุ่น นี่ก็เหล่าขุนศึกในยุดสงครามการเมือง เซ็งโงะกุ แล้วก็กลุ่ม ชินเซ็งงุมิ โดนจับมาเป็นหนุ่มหล่อในอนิเมะและเกมให้สาวๆฟิน
อยากทราบว่า ทำไมประชาชนในประเทศนั้นถึงรับได้ครับ เพราะถ้าเป็นประเทศเราคงโดนประณามไปแล้ว