เครื่องหมายในกลอนและการขึ้นย่อหน้า

เครื่องหมายในกลอน
๏  ฟองมัน (ตาไก่)  ใช้บอกว่า เริ่มต้นบทกวี หรือข้อความ
๚ อังคั่นคู่ ใช้บอกว่า จบตอน
๚ะ อังคั่นคู่ประวิสรรชนีย์ ใช้บอกว่า จบบทกวี
๛ โคมูตร (เยี่ยววัว) ใช้บอกว่า จบเรื่อง
๚ะ๛ อังคั่นคู่ประวิสรรชนีย์โคมูตร ใช้บอกว่า จบบริบูรณ์

วิธีพิมพ์เครื่องหมาย กด Alt ค้างไว้ ตามด้วยกดตัวเลข ดังนี้
๏ ( Alt+239 )
๚ ( Alt+250 )
๛ ( Alt+251 )

การขึ้นย่อหน้า
แต่เดิมการเขียนกลอน จะเขียนบรรทัดละสองวรรค ในแต่ละวรรคเขียนติดกัน ไม่แยกวรรคเป็นสามสองสาม และเขียนต่อกันไปเรื่อยๆ ไม่เว้นบรรทัดจนจบ โดยจะมีเครื่องหมายตาไก่แสดงจุดเริ่มต้นในแต่ละตอน และมีเครื่องหมายอังคั่นคู่แสดงว่าจบตอนบอกไว้ เพื่อให้ง่ายต่อการแยกตอน และใช้เครื่องหมาย อังคั่นคู่ประวิสรรชณีตามด้วยโคมูตร บอกว่าจบบริบูรณ์ ดังตัวอย่างจากนิราศภูเขาทองของสุนทรภู่ข้างล่างนี้

๏ พอกราบพระปะดอกปทุมชาติ พบพระธาตุสถิตในเกสร
สมถวิลยินดีชุลีกร ประคองซ้อนเชิญองค์ลงนาวา
กับหนูพัดมัสการสำเร็จแล้ว ใส่ขวดแก้ววางไว้ใกล้เกศา
มานอนกรุงรุ่งขึ้นจะบูชา ไม่ปะตาตันอกยิ่งตกใจ
แสนเสียดายหมายจะชมบรมธาตุ ใจจะขาดคิดมาน้ำตาไหล
โอ้บุญน้อยลอยลับครรไลไกล เสียน้ำใจเจียนจะดิ้นสิ้นชีวัน
สุดจะอยู่ดูอื่นไม่ฝืนโศก กำเริบโรคร้อนฤทัยเฝ้าใฝ่ฝัน
พอตรู่ตรู่สุริย์ฉายขึ้นพรายพรรณ ให้ล่องวันหนึ่งมาถึงธานี ๚     
๏ ประทับท่าหน้าอรุณอารามหลวง ค่อยสร่างทรวงทรงศีลพระชินสีห์
นิราศเรื่องเมืองเก่าของเรานี้ ไว้เป็นที่โสมนัสทัศนา
ด้วยได้ไปเคารพพระพุทธรูป ทั้งสถูปบรมธาตุพระศาสนา
เป็นนิสัยไว้เหมือนเตือนศรัทธา ตามภาษาไม่สบายพอคลายใจ
ใช่จะมีที่รักสมัครมาด แรมนิราศร้างมิตรพิสมัย
ซึ่งครวญคร่ำทำทีพิรี้พิไร ตามนิสัยกาพย์กลอนแต่ก่อนมา
เหมือนแม่ครัวคั่วแกงแพนงผัด สารพัดเพียญชนังเครื่องมังสา
อันพริกไทยใบผักชีเหมือนสีกา ต้องโรยหน้าเสียสักหน่อยอร่อยใจ ๚     
๏ จงทราบความตามจริงทุกสิ่งสิ้น อย่านึกนินทาแกล้งแหนงไฉน
นักเลงกลอนนอนเปล่าก็เศร้าใจ จึงร่ำไรเรื่องร้างเล่นบ้างเอย ๚ะ๛

ครั้นพอมาเขียนกลอนบนอินเตอร์เน็ต หากเขียนแบบเดิม บางทีพื้นที่ไม่กว้างพอ จะล้นบรรทัด และโปรแกรมจะขึ้นบรรทัดใหม่ให้ ทำให้มั่ว และอ่านยากมาก จึงแก้ปัญหาโดยเขียนกลอนบรรทัดละวรรคแทน และแต่ละวรรคก็แบ่งเป็น สามสองสาม เพื่อให้อ่านง่ายขึ้นไปอีก และเนื่องจากเครื่องหมายตาไก่ เครื่องหมายอังคั่นคู่ไม่มีบนคีย์บอร์ด จึงแยกตอนด้วยการเว้นบรรทัดเสียหนึ่งครั้งแทน ดังตัวอย่างข้างล่างนี้

พอกราบพระ ปะดอก ปทุมชาติ
พบพระธาตุ สถิต ในเกสร
สมถวิล ยินดี ชุลีกร
ประคองซ้อน เชิญองค์ ลงนาวา
กับหนูพัด มัสการ สำเร็จแล้ว
ใส่ขวดแก้ว วางไว้ ใกล้เกศา
มานอนกรุง รุ่งขึ้น จะบูชา
ไม่ปะตา ตันอก ยิ่งตกใจ
แสนเสียดาย หมายจะชม บรมธาตุ
ใจจะขาด คิดมา น้ำตาไหล
โอ้บุญน้อย ลอยลับ ครรไลไกล
เสียน้ำใจ เจียนจะดิ้น สิ้นชีวัน
สุดจะอยู่ ดูอื่น ไม่ฝืนโศก
กำเริบโรค ร้อนฤทัย เฝ้าใฝ่ฝัน
พอตรู่ตรู่ สุริย์ฉาย ขึ้นพรายพรร
ให้ล่องวัน หนึ่งมา ถึงธานี

ประทับท่า หน้าอรุณ อารามหลวง
ค่อยสร่าง ทรวงทรง ศีลพระชินสีห์
นิราศเรื่อง เมืองเก่า ของเรานี้
ไว้เป็นที่ โสมนัส ทัศนา
ด้วยได้ไป เคารพ พระพุทธรูป
ทั้งสถูป บรมธาตุ พระศาสนา
เป็นนิสัย ไว้เหมือน เตือนศรัทธา
ตามภาษา ไม่สบาย พอคลายใจ
ใช่จะมี ที่รัก สมัครมาด
แรมนิราศ ร้างมิตร พิสมัย
ซึ่งครวญคร่ำ ทำที พิรี้พิไร
ตามนิสัย กาพย์กลอน แต่ก่อนมา
เหมือนแม่ครัว คั่วแกง แพนงผัด
สารพัด เพียญชนัง เครื่องมังสา
อันพริกไทย ใบผักชี เหมือนสีกา
ต้องโรยหน้า เสียสักหน่อย อร่อยใจ

จงทราบความ ตามจริง ทุกสิ่งสิ้น
อย่านึกนิน ทาแกล้ง แหนงไฉน
นักเลงกลอน นอนเปล่า ก็เศร้าใจ
จึงร่ำไร เรื่องร้าง เล่นบ้างเอย

จะไม่เว้นหนึ่งบรรทัดทุกบท เพราะการเว้นหนึ่งบรรทัด หมายถึงการขึ้นย่อหน้าใหม่ (ขึ้นตอนใหม่) เราขึ้นย่อหน้าใหม่ตามเนื้อหา ไม่ใช่ขึ้นย่อหน้าใหม่เพราะจบบท ส่วนใครที่สามารถใส่เครื่องหมายเข้าไปด้วยได้ ก็จะใส่เครื่องหมายเข้าไปเพื่อเป็นการรักษาแบบแผนไว้อีกชั้นหนึ่ง ก็จะเป็นการเท่มากทีเดียว ดังนี้

๏ พอกราบพระ ปะดอก ปทุมชาติ
พบพระธาตุ สถิต ในเกสร
สมถวิล ยินดี ชุลีกร
ประคองซ้อน เชิญองค์ ลงนาวา
กับหนูพัด มัสการ สำเร็จแล้ว
ใส่ขวดแก้ว วางไว้ ใกล้เกศา
มานอนกรุง รุ่งขึ้น จะบูชา
ไม่ปะตา ตันอก ยิ่งตกใจ
แสนเสียดาย หมายจะชม บรมธาตุ
ใจจะขาด คิดมา น้ำตาไหล
โอ้บุญน้อย ลอยลับ ครรไลไกล
เสียน้ำใจ เจียนจะดิ้น สิ้นชีวัน
สุดจะอยู่ ดูอื่น ไม่ฝืนโศก
กำเริบโรค ร้อนฤทัย เฝ้าใฝ่ฝัน
พอตรู่ตรู่ สุริย์ฉาย ขึ้นพรายพรร
ให้ล่องวัน หนึ่งมา ถึงธานี ๚

๏ ประทับท่า หน้าอรุณ อารามหลวง
ค่อยสร่าง ทรวงทรง ศีลพระชินสีห์
นิราศเรื่อง เมืองเก่า ของเรานี้
ไว้เป็นที่ โสมนัส ทัศนา
ด้วยได้ไป เคารพ พระพุทธรูป
ทั้งสถูป บรมธาตุ พระศาสนา
เป็นนิสัย ไว้เหมือน เตือนศรัทธา
ตามภาษา ไม่สบาย พอคลายใจ
ใช่จะมี ที่รัก สมัครมาด
แรมนิราศ ร้างมิตร พิสมัย
ซึ่งครวญคร่ำ ทำที พิรี้พิไร
ตามนิสัย กาพย์กลอน แต่ก่อนมา
เหมือนแม่ครัว คั่วแกง แพนงผัด
สารพัด เพียญชนัง เครื่องมังสา
อันพริกไทย ใบผักชี เหมือนสีกา
ต้องโรยหน้า เสียสักหน่อย อร่อยใจ ๚

๏ จงทราบความ ตามจริง ทุกสิ่งสิ้น
อย่านึกนิน ทาแกล้ง แหนงไฉน
นักเลงกลอน นอนเปล่า ก็เศร้าใจ
จึงร่ำไร เรื่องร้าง เล่นบ้างเอย ๚ะ๛

หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่