เกือบ 80% ของประชาชนรอบเหมืองทองคำพิจิตรยังต้องการเหมือง

ในวันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม 2559 ดร.โสภณ พรโชคชัย ในฐานะหัวหน้าคณะนักวิจัยได้ร่วมกับคณะนักศึกษาและคณาจารย์จากวิทยาลัยชุมชนพิจิตร วิทยาเขตทับคล้อ โดยได้รับความเมตตาจาก นายวิชัย ชวนรักษาสัตย์ ผู้อำนวยการวิทยาเขต และนักศึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จำนวนรวม 18 คน ออกสำรวจความคิดเห็นของประชาชนโดยมุ่งเน้นในพื้นที่รอบเหมืองทองคำโดยเฉพาะในตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร และในเขตตำบลท้ายดง อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์
    การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนนี้ จะเป็นเครื่องชี้ถึงความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในพื้นที่ที่อยู่ในบริเวณรอบเหมืองทองคำโดยตรง  อันถือเป็นการประมวลความคิดเห็นของประชาชน เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าสิ่งที่รัฐบาลตัดสินใจนั้น สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนมากน้อยเพียงใด  รัฐบาลจะได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบการวางนโยบายและแผน รวมทั้งกำหนดมาตรการที่เหมาะสมอันถือเป็นการฟังความต้องการของชาวบ้านอย่างแท้จริง  และในการสำรวจนี้ ได้จำนวนผู้ให้สัมภาษณ์จำนวน 596 ราย  โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่โดยรอบเหมืองทองคำชาตรีของ บมจ.อัครา รีซอร์สเซส
    
ประชาชนถึงสี่ในห้าต้องการเหมืองทองคำ
    ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ต่อกรณีเห็นควรให้ปิดเหมือง หรือไม่ควรปิดโดยให้ดำเนินการต่อไป เป็นดังนี้:
ตารางที่ 1: ความเห็นของประชาชนต่อการปิดเหมืองทองคำ
ให้ปิดเหมือง    133    22%
ไม่ควรปิด    463    78%
รวม    596    100%
ที่มา: ผลการสำรวจภาคสนาม 20 พฤษภาคม 2559

    อาจกล่าวได้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ถึง 78% หรือราวสี่ในห้า ต้องการให้เหมืองเปิดดำเนินการต่อไป มีเพียงส่วนน้อยราว 22% ที่เห็นควรให้ปิดเหมืองตามคำสั่งของทางราชการ  การนี้จึงแสดงให้เห็นว่าความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในพื้นที่คือความต้องการเหมือง  ส่วนที่มีประชาชนจำนวนหนึ่งออกมาคัดค้านนั้น ในแง่หนึ่งเป็นคนส่วนน้อย (ซึ่งก็พึงรับฟัง) และในอีกแง่หนึ่งก็เป็นกลุ่มบุคคลภายนอกที่ไมได้รับรู้ข้อมูลโดยตรงจากการอยู่อาศัยในพื้นที่

เหตุผลความเห็นชอบต่อการทำเหมืองต่อไป
    สำหรับเหตุผลต่อความเห็นชอบของประชาชนต่อการทำเหมืองต่อไปนี้ ส่วนมากเป็นประเด็นด้านเศรษฐกิจและการไม่เห็นว่ามีมลพิษจริงตามที่มีการกล่าวอ้าง โดยมีรายละเอียดดังนี้:
    1. กลัวคนในชุมชนตกงาน
    2. กำลังพัฒนาดี
    3. เกิดการกระจายรายได้/ค้าขายดีขึ้น
    4. ขาดเงินสนับสนุนชุมชน/หมู่บ้าน
    5. ขาดลูกค้า/รายได้
    6. ชุมชนต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดหากเหมืองทองคำปิด
    7. ทางบริษัทมีการช่วยเหลือชุมชนในชมชนเสมอ
    8. ทำให้เศรษฐกิจชุมชนแย่ลง-ถ้าปิดจะเอาอะไรกิน
    9. เพราะเหมืองไม่ได้ส่งผลอะไรมาก/ไม่มีผลกระทบ
    10. โรงเรียนจะไม่ได้รับทุนสนับสนุน
    11. เหมืองจะสร้างรายได้ให้กับชุมชนมาก
    ทั้งนี้สอดคล้องกับความเห็นของหอการค้าจังหวัดพิจิตรและคู่ค้าอัคราฯ ที่ยื่นหนังสือถึงทางราชการโดยระบุว่าการปิดเหมืองทอง  จะทำให้เศรษฐกิจ 4,000 ล้านบาทต่อปี "มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของทั้งจังหวัดในปี 2541 ที่ต่ำกว่า 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นมาเป็น 6 หมื่นล้านบาทในปี 2556  . . . เฉพาะรายได้ค่าภาคหลวงแร่ในช่วงปี 2541 ถึงปี 2556 ยังคิดเป็น 5 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GPP) ทั้งหมดของจังหวัดพิจิตรและเพชรบูรณ์อีกด้วย . . . พิจิตรมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เป็นอันดับ 4 ของภาคเหนือ และอยู่ในลำดับที่ 29 ของทั้งประเทศในปี 2556 ที่ผ่านมา" {2}

เหตุผลที่ควรหยุดการหยุดการทำเหมือง
    ในทางตรงกันข้าม เหตุผลของการหยุดการทำเหมือง มีดังนี้
    1. กลัวตนเองลูกหลานได้รับสารพิษ/สารเคมี
    2. กลัวเป็นโรค
    3. คนที่ทำงานแล้วได้รับผลกระทบ ไม่มีการช่วยเหลือใดใดทั้งสิ้น
    4. คนในชุมชนเดือดร้อน-ป่วย-เสียชีวิต
    5. คนในพื้นที่ไม่ค่อยได้รับผลประโยชน์
    6. จะได้ไม่มีเสียง (ดัง) มารบกวนอีก
    7. ต้องทำตามกฎหมาย (ตามที่รัฐบาลสั่ง)
    8. ทำลายสิ่งแวดล้อม
    9. ผักและน้ำกินไม่ได้เพราะมีสารพิษ ไม่สะอาด
    10. ฝุ่นละออง
    11. มีผลเสียมากกว่าผลดี
    12. ไม่เคยช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน
    13. ไม่ปรับปรุงแก้ไขเรื่องสารพิษ
    14. ไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ
    15. อากาศเสีย

อาชีพกับการปิดเหมือง
    แม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่จะเห็นด้วยกับการให้เหมืองคงอยู่ต่อไป  แต่หากวิเคราะห์ในรายละเอียดจะพบว่า อาชีพที่แตกต่างกันก็มีสัดส่วนของความเห็นด้วยหรือไม่ที่แตกต่างไปบ้างเช่นกัน

ตารางที่ 2: อาชีพกับความเห็นต่อการปิดเหมือง    
อาชีพ    ให้ปิดเหมือง    ไม่ควรปิด    รวม    %ที่ไม่ปิดเหมือง
ข้าราชการ    10    19    29    66%
ค้าขาย/อิสระ    50    155    205    76%
พนง.เหมือง/เกี่ยวข้อง    5    79    84    94%
พนง.เอกชนอื่น    10    31    41    76%
เกษตรกร    46    124    170    73%
อื่นๆ        12    55    67    82%
รวมทั้งหมด    133    463    596    78%
รวมแต่ไม่เอาข้าราชการ    123    444    567    78%
รวมที่ไม่รวม พนง.เหมือง    128    384    512    75%
ที่มา: ผลการสำรวจภาคสนาม 20 พฤษภาคม 2559

    อาจกล่าวได้ว่าแม้ส่วนใหญ่ถึงเกือบ 80% จะต้องการให้เหมืองเปิดดำเนินการต่อไป  แต่จะพบว่าข้าราชการ มีความต้องการเช่นนี้ในสัดส่วนที่ต่ำกว่าคือ 66% หรือราวสองในสาม ในขณะที่ประชาชนทั่วไปสี่ในห้าต้องการเหมือง  กรณีเช่นนี้คงเป็นเพราะข้าราชการไม่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการทำเหมือง  และคงวิตกไปตามการกล่าวอ้างถึงเรื่องมลพิษ  แต่หากตัดกลุ่มข้าราชการออกไป ก็ยังพบว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังต้องการมีเหมืองต่อไป  ในทางตรงกันข้ามกลุ่มคนที่ทำงานในเหมืองหรือเป็นบริษัทรับจ้างต่อมีสัดส่วนถึง 94% ที่ต้องการให้เหมืองดำเนินการต่อไป  อย่างไรก็ตามหากตัดกลุ่มนี้ทิ้งไป ความต้องการของประชาชนในพื้นที่ที่ไม่ได้มีอาชีพที่เกี่ยวกับการทำเหมืองส่วนใหญ่ถึง 75% ก็ยังต้องการให้เหมืองดำเนินการต่อไป
อายุและระยะเวลาการอยู่อาศัย
    หากพิจารณาถึงช่วงอายุ และระยะเวลาการอยู่อาศัยที่แตกต่างกัน มีความเห็นต่อการปิดเหมืองอย่างไรบ้าง ก็ได้พบดังนี้:

ตารางที่ 3: อายุของประชาชนกับความเห็นต่อการปิดเหมือง    
อายุ        ให้ปิดเหมือง    ไม่ควรปิด    รวม    %ที่ไม่ปิดเหมือง
ไม่เกิน 30 ปี    28    75    103    73%
31-45 ปี    25    76    101    75%
46-60 ปี    36    144    180    80%
มากกว่า 60 ปี    44    168    212    79%
ที่มา: ผลการสำรวจภาคสนาม 20 พฤษภาคม 2559

    อาจกล่าวได้ว่าประชาชนในชุมชนที่มีอายุที่แตกต่างกันตั้งแต่อายุไม่เกิน 30 ปีที่ยังอยู่ในวัยฉกรรจ์ จนถึงกลุ่มผู้สูงวัย (อายุเกิน 60 ปี) ก็ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ  ประชาชนส่วนใหญ่ยังต้องการเหมืองทองคำ

ตารางที่ 4: ระยะเวลาในการอยู่อาศัยในชุมชนกับความเห็นต่อการปิดเหมือง    
อายุ        ให้ปิดเหมือง    ไม่ควรปิด    รวม    %ที่ไม่ปิดเหมือง
ไม่เกิน 10 ปี    21    39    60    65%
11-20 ปี    22    61    83    73%
21-30 ปี    18    92    110    84%
31 ปีขึ้นไป    72    271    343    79%
    133    463    596    78%
ที่มา: ผลการสำรวจภาคสนาม 20 พฤษภาคม 2559

อาจกล่าวได้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ในแทบทุกหมู่บ้านต่างเห็นด้วยกับการให้มีเหมืองทองคำต่อไป มีเพียงบ้านหมู่ 8 ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัด ที่มีผู้เห็นด้วยกับการคงเหมืองทองคำ 59% และที่บ้านหมู่ 5 ตำบลท้ายดง อำเภอวังโป่ง จังหวดเพชรบูรณ์ ที่เห็นด้วยกับการคงเหมืองทองคำ 52% แต่ก็ยังถือได้ว่าประชาชนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านทั้งสองแห่งนี้ยังเห็นด้วยกับการมีเหมืองทองคำ  และหากไม่นับรวมสองหมู่บ้านนี้ สัดส่วนของผู้ที่เห็นด้วยกับเหมืองทองคำ จะสูงถึง 83%

ความเห็นต่อมลพิษและเหมือง
    ประชาชนในส่วนที่เห็นด้วยกับการปิดเหมืองเห็นว่าระดับมลพิษของเหมืองมีสูงถึง 7.2 คะแนนจาก 10 คะแนนเต็ม  ส่วนประชาชนกลุ่มที่ไม่เห็นควรให้ปิดเหมือง กลับมีความเห็นในเชิงที่แทบจะไม่มีมลพิษเลย (คะแนน 1 คือไม่มีมลพิษ)

ตารางที่ 5: ความเห็นของประชาชนต่อระดับมลพิษและการทำประโยชน์ของเหมือง
ความเห็น    ให้ปิดเหมือง    ไม่ควรปิด    เฉลี่ย
ระดับมลพิษที่เกิดจากเหมือง    7.2    1.7    2.9
การมีเหมืองส่งผลดีเพียงใด    3.8    9.1    7.9
ที่มา: ผลการสำรวจภาคสนาม 20 พฤษภาคม 2559

    ในทางตรงกันข้าม ต่อความเห็นว่าการมีเหมืองทองคำ ส่งผลดีต่อชุมชนมากน้อยเพียงใด ผลปรากฏว่าโดยเฉลี่ยแล้วส่งผลดีมาก (7.9 คะแนนจาก 10 คะแนนเต็ม) โดยเฉพาะกลุ่มที่เห็นด้วยกับการมีเหมืองให้คะนนถึง 9.1  ส่วนในกลุ่มที่ต้องการให้ปิดเหมือง ก็ยังเห็นคุณประโยชน์ของการมีเหมืองพอสมควร คือประมาณ 3.8 คะแนน  แสดงว่าเหมืองก็ได้สร้างคุณูปการเป็นที่ประจักษ์พอสมควร

การป่วยและเสียชีวิตจากการทำเหมือง?
    มักมีการกล่าวอ้างกันว่า การป่วยและตายของประชาชนในพื้นที่นั้น เกิดขึ้นจากการทำเหมืองทองคำ คณะนักวิจัยจึงได้สัมภาษณ์ประชาชนว่าในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาในชุมชนของท่านมีผู้เสียชีวิตและเจ็บป่วยเพราะมลพิษจากเหมืองทองคำกี่คน  ผลการศึกษาเป็นดังนี้:

ตารางที่ 5: การแยกแยะความเห็นรายหมู่บ้าน
หมู่    ตำบล    อำเภอ    จังหวัด    ตาย    ป่วย
1-2    เขาเจ็ดลูก    ทับคล้อ    พิจิตร    0    0
2    เขาเจ็ดลูก    ทับคล้อ    พิจิตร    0    0
3    เขาเจ็ดลูก    ทับคล้อ    พิจิตร    0    0
4    เขาเจ็ดลูก    ทับคล้อ    พิจิตร    0    0
7    เขาเจ็ดลูก    ทับคล้อ    พิจิตร    0    6
8    เขาเจ็ดลูก    ทับคล้อ    พิจิตร    30    20
9    เขาเจ็ดลูก    ทับคล้อ    พิจิตร    0    0
1    ท้ายดง    วังโป่ง    เพชรบูรณ์    0    0
2-4    ท้ายดง    วังโป่ง    เพชรบูรณ์    0    0
3    ท้ายดง    วังโป่ง    เพชรบูรณ์    0    0
5    ท้ายดง    วังโป่ง    เพชรบูรณ์    10    10
7    ท้ายดง    วังโป่ง    เพชรบูรณ์    0    4
8    ท้ายดง    วังโป่ง    เพชรบูรณ์    0    0
9    ท้ายดง    วังโป่ง    เพชรบูรณ์    0    0
10    ท้ายดง    วังโป่ง    เพชรบูรณ์    0    0
12    ท้ายดง    วังโป่ง    เพชรบูรณ์    0    0
4    วังหิน    วังโป่ง    เพชรบูรณ์    0    0
8    วังหิน    วังโป่ง    เพชรบูรณ์    0    0
9    วังหิน    วังโป่ง    เพชรบูรณ์    0    0
รวม                    40    40
ที่มา: ผลการสำรวจภาคสนาม 20 พฤษภาคม 2559

    ในการสำรวจ ในแต่ละหมู่บ้านแทบไม่มีการระบุจำนวนผู้เสียชีวิตและป่วยที่คาดว่าจะมาจากมลพิษของการทำเหมืองทองคำในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาเลย ต่างจากความเชื่อของประชาชนทั่วไปในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตสูงสุดถึง 30 ราย และป่วย 20 ราย  ส่วนที่หมู่ 5 ตำบลท้ายดง อำเภอวังโป่ง จังหวัด    เพชรบูรณ์ ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตในรอบ 3 ปี 10 ราย และป่วย 10 ราย  อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการพิสูจน์ เป็นเพียงจำนวนสูงสุดที่ให้สัมภาษณ์
    ประชาชนผู้ให้สัมภาษณ์หลายรายระบุว่า หลายคนเสียชีวิตเพราะโรคชรา ก็ถูกนำมาอ้างว่าเสียชีวิตเพราะมลพิษจากเหมืองทองคำ  ที่สำคัญประชาชนในส่วนที่ทำงานกับเหมือง ก็ยังแข็งแรงดี  หากเหมืองมีสารพิษจริง คนทำงานในโรงงานก็คงรู้และไม่กล้าเข้าไปทำงานด้วย

ประชาชนไม่ได้เสียชีวิตเพราะเหมือง
    อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิต เช่นกรณีนายสมคิด ธรรมพเวช ที่เสียชีวิตจากสาเหตุปอดอักเสบบวม และภาวะลิ่มเลือดอุดตันในเนื้อปอด ไม่มีสาเหตุมาจากการทำงานในเหมืองแร่ทองคำชาตรี โดยภริยานายสมคิดระบุว่า "แต่ยังมีผู้ไม่หวังดีแอบอ้างการเสียชีวิตของสามีตน นำไปเป็นข้ออ้างในการต่อต้านเหมืองแร่ทองคำชาตรีอยู่อีก นอกจากนี้ ยังมีการไปแอบอ้างรับบริจาคเงินด้วย โดยที่ตนเองและครอบครัวไม่ได้อนุญาต และไม่ได้รับเงินที่รับบริจาค" {3}
    อีกกรณีหนึ่งก็คือนายเฉื่อย บุญส่ง ชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบเหมืองแร่ทองคำ ได้เสียชีวิตลงโดยจากการตรวจสอบพบสารแมงกานีสสูงเกินค่ามาตรฐาน อย่างไรก็ตามนายเฉื่อยก็มีโรคตับแข็งด้วย {4}  ส่วนในกรณีพบสารเคมีนั้น จากการตรวจสอบของทางราชการกลับพบว่าในพื้นที่รอบเหมืองมีสารเคมี (เหล็ก แมงกานีส สารหนู) เกินค่ามาตรฐานก่อนการทำเหมืองแล้ว {5}  ยิ่งกว่านั้นการที่คนไข้มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั้น โรคนี้คงไม่ได้เกิดจากการทำเหมืองเพราะแม้เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็เกิดขึ้นทั่วโลก จนถึงขนาดมีการรณรงค์ Ice Bucket Challenge ในช่วงที่ผ่านมา {6}

ที่มา: http://www.area.co.th/thai/area_announce/area_press.php?strquey=press_announcement1428.htm
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่