#Father รอบ 18:15 วันศุกร์ที่ 27/05/2016 เอสพละนาด รัชดา
"Fathers" หนังไทยที่จะบอกว่า ชาย + ชาย ก็สร้างครอบครัวได้ มีลูกได้
ส่วนตัวมองว่าไม่ถึงกับดีมากมาย หนังค่อนข้างเอื่อยเลยแหละ อั๊ตแสดงล้นๆ แปลกๆ น้องเด็กผู้ชาย คือหุ่นยนต์มาก พูดเหมือนท่อง แต่ให้อภัยเพราะน่ารักมาก ที่เซอร์ไพรส์คือคนที่พยุงหนังไว้กลับกลายเป็น Nat Sakdatorn (ขออภัย กลัวสะกดภาษาไทยไม่ถูก) เล่นได้ธรรมชาติกว่าชาวบ้าน และบทดูมีมิติกว่าคนอื่นๆ อ้อ เกือบลืมสินจัย รายนั้นขึ้นหิ้ง แต่เสียดายที่ผกก.พยายามยัดความเป็นคุณป้าหว้าเหว่มีปมวัยเด็กให้ป้าสินจัยหนักไปหน่อย จนมันหลุดความเป็นคนจริงๆ ไป เสื้อผ้าหน้าผม ดูแล้วขัดหูขัดตาพิกล
ประเด็นเรื่องกฎหมายแต่งงานของเพศเดียวกัน เอ่มเป็นอีกจุดที่เสียดาย คือไม่ลง Detail ไม่เท่าไหร่ ใจเราก็อยากให้พูดถึงข้อดีทางด้านสังคม การแพทย์ กฎหมาย etc. มากหน่อยนะ แต่ดันหาจุดพีคไม่เจอ คือมันขยี้ได้อีก ไม่ได้เชียร์ให้ขยี้ถ้าหนังมันกลมกล่อม แต่นี่หนังมันค่อนข้างไปทางเบาโหวง จะพูดถึงประเด็นการเป็นเกย์โดยการเลี้ยงดู (พ่อเป็นเกย์แล้วเลี้ยงลูกออกมาจะเป็นเกย์ไหม) คนทำก็ไม่กล้าฟันธง หลายประเด็นเหมือนจะโยงดีแต่กลับปล่อยผ่าน กลับไปเล่นกับ dialog ที่ดูประดิษฐ์ไปซะอย่างนั้น อันเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมากกว่าที่ส่งเสริมหนังให้ stand out มากกว่านี้
ส่วนตัวนึกถึงหนังอย่าง The Next Best Thing ปี 2000 เล่นประเด็นเกย์กับทัศนคติความเป็นพ่อได้ดีกว่ามากๆ ขนาดว่าหนังเมื่อ 16 ปีที่แล้วนะ แถมบทวิจารณ์ก็ไม่ได้ดีเด่อะไร (ขุ่นแม่ Madonna ชนะรางวัล Razzie ด้วยซ้ำ แถมเข้าชิง Worst Picture, Worst Director, Worst Screenplay) จะเรียกว่าหนังห่วยก็ได้ แต่กลับสื่อความหมายของคำว่า "Father" ได้ตรงจุดมากกว่า
ส่วนโปรดักชั่นต่ำกว่ามาตฐานหนังไทยยุคนี้ไปหน่อย แต่ก็ไม่ขัดตาอะไรมาก อย่างน้อยก็ขอบคุณที่กล้าทำงานที่หลายหลาย ไม่ใช่เอะอะก็ทำเรื่องเกย์วัยรุ่นคู่จิ้นที่ทำกันเกลื่อนไปหมดทั้งหนังทั้งละคร (ที่พยายามจะเป็นซีรี่ย์กันให้ได้) เป็นจุดที่เราขอบคุณ และเหนือสิ่งอื่นใด อย่างน้อยก็ทำให้คนคุ้นชินกับคำว่า "พรบ.คู่ชีวิต" มากขึ้น
ไปดูมาแล้ว "Fathers" วิจารณ์ในมุมมองของเกย์คนนึงที่รอ พรบ.คู่ชีวิต
"Fathers" หนังไทยที่จะบอกว่า ชาย + ชาย ก็สร้างครอบครัวได้ มีลูกได้
ส่วนตัวมองว่าไม่ถึงกับดีมากมาย หนังค่อนข้างเอื่อยเลยแหละ อั๊ตแสดงล้นๆ แปลกๆ น้องเด็กผู้ชาย คือหุ่นยนต์มาก พูดเหมือนท่อง แต่ให้อภัยเพราะน่ารักมาก ที่เซอร์ไพรส์คือคนที่พยุงหนังไว้กลับกลายเป็น Nat Sakdatorn (ขออภัย กลัวสะกดภาษาไทยไม่ถูก) เล่นได้ธรรมชาติกว่าชาวบ้าน และบทดูมีมิติกว่าคนอื่นๆ อ้อ เกือบลืมสินจัย รายนั้นขึ้นหิ้ง แต่เสียดายที่ผกก.พยายามยัดความเป็นคุณป้าหว้าเหว่มีปมวัยเด็กให้ป้าสินจัยหนักไปหน่อย จนมันหลุดความเป็นคนจริงๆ ไป เสื้อผ้าหน้าผม ดูแล้วขัดหูขัดตาพิกล
ประเด็นเรื่องกฎหมายแต่งงานของเพศเดียวกัน เอ่มเป็นอีกจุดที่เสียดาย คือไม่ลง Detail ไม่เท่าไหร่ ใจเราก็อยากให้พูดถึงข้อดีทางด้านสังคม การแพทย์ กฎหมาย etc. มากหน่อยนะ แต่ดันหาจุดพีคไม่เจอ คือมันขยี้ได้อีก ไม่ได้เชียร์ให้ขยี้ถ้าหนังมันกลมกล่อม แต่นี่หนังมันค่อนข้างไปทางเบาโหวง จะพูดถึงประเด็นการเป็นเกย์โดยการเลี้ยงดู (พ่อเป็นเกย์แล้วเลี้ยงลูกออกมาจะเป็นเกย์ไหม) คนทำก็ไม่กล้าฟันธง หลายประเด็นเหมือนจะโยงดีแต่กลับปล่อยผ่าน กลับไปเล่นกับ dialog ที่ดูประดิษฐ์ไปซะอย่างนั้น อันเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมากกว่าที่ส่งเสริมหนังให้ stand out มากกว่านี้
ส่วนตัวนึกถึงหนังอย่าง The Next Best Thing ปี 2000 เล่นประเด็นเกย์กับทัศนคติความเป็นพ่อได้ดีกว่ามากๆ ขนาดว่าหนังเมื่อ 16 ปีที่แล้วนะ แถมบทวิจารณ์ก็ไม่ได้ดีเด่อะไร (ขุ่นแม่ Madonna ชนะรางวัล Razzie ด้วยซ้ำ แถมเข้าชิง Worst Picture, Worst Director, Worst Screenplay) จะเรียกว่าหนังห่วยก็ได้ แต่กลับสื่อความหมายของคำว่า "Father" ได้ตรงจุดมากกว่า
ส่วนโปรดักชั่นต่ำกว่ามาตฐานหนังไทยยุคนี้ไปหน่อย แต่ก็ไม่ขัดตาอะไรมาก อย่างน้อยก็ขอบคุณที่กล้าทำงานที่หลายหลาย ไม่ใช่เอะอะก็ทำเรื่องเกย์วัยรุ่นคู่จิ้นที่ทำกันเกลื่อนไปหมดทั้งหนังทั้งละคร (ที่พยายามจะเป็นซีรี่ย์กันให้ได้) เป็นจุดที่เราขอบคุณ และเหนือสิ่งอื่นใด อย่างน้อยก็ทำให้คนคุ้นชินกับคำว่า "พรบ.คู่ชีวิต" มากขึ้น