10 เทคนิคซื้อสินค้าออนไลน์ ยังไงไม่ให้โดนโกง

กระทู้ข่าว

ธุรกรรมออนไลน์ Mobile Application คุ้มครองผู้บริโภค E-Banking ธุรกรรมทางการเงิน

10 เทคนิคซื้อสินค้าออนไลน์ ยังไงไม่ให้โดนโกง
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 28 พฤษภาคม 2559
โดย ภาวุธ พงษ์วิทยภาณุ

          เดี๋ยวนี้หลายคนชอบซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังกังวลและไม่ค่อยมั่นใจกับเว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดียที่กำลังจะเลือกซื้อว่า หลังซื้อสินค้าและจ่ายเงินไปแล้วจะได้สินค้าหรือไม่ วันนี้ผมมีเทคนิคในการเลือกซื้อ เพื่อทำให้มั่นใจมากขึ้น

          1.ตรวจสอบอายุเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดียว่า เปิดมานานหรือยัง หากเพิ่งเปิดไม่กี่วันหรือสัปดาห์ มีโอกาสสูง ส่วนใหญ่ร้านค้าที่โกงมักเปิดชั่วคราว เพื่อโกงโดยเฉพาะ

          2.ตรวจสอบดูความใหม่ของสินค้าหน้าเว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดีย และการอัพเดต หากมีการอัพเดตเป็นประจำ เช่น มีสินค้าใหม่ ๆ, มีการเปลี่ยนแปลงโปรโมชั่น เปลี่ยนแปลงข่าวสารหน้าเว็บเป็นประจำก็แสดงให้เห็นว่าเจ้าของดูแลเว็บไซต์เป็นประจำทำให้มั่นใจได้มากขึ้น

          3.เช็กเว็บบอร์ดของเว็บไซต์(หากมี)หรือการตอบคำถามในFeedใน Social Media เพื่อดูว่ามีคนเข้าไปเขียนตอบอะไรบ้าง อัตราการโต้ตอบในเว็บบอร์ดเร็ว หรือกระทู้ล่าสุดที่ตอบวันไหน หากไม่ได้ตอบนาน หรือในเว็บบอร์ดมีแต่คนเข้าไปด่า อย่าไปซื้อกับเว็บนั้นเลยครับ ดูว่ามีลูกค้าที่เคยซื้อสินค้ากับร้านนี้หรือไม่ ลองเช็กทางเว็บบอร์ดของร้าน (หากมี) หรือลอง e-mail ไปหาคนที่เคยซื้อว่าบริการเป็นอย่างไรบ้าง จะได้มั่นใจมากขึ้น

          4.ต้องระวังหากสินค้ารายการนั้นถูกเกินไป (แบบไม่น่าเชื่อ) อาจเข้าข่ายได้เช่นกัน

          5.เว็บไซต์ควรมีที่อยู่ของธุรกิจแสดงอยู่เพื่อบ่งบอกว่า ร้านค้าหรือเจ้าของร้านอยู่ที่ไหน จะดีกว่าเว็บไซต์ที่ไม่แสดงข้อมูลที่อยู่ และเบอร์ติดต่อของร้านค้า หากมีเบอร์ที่เป็น 02 หรือเบอร์บ้าน จะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า เพราะมีที่อยู่หลักแหล่งแน่นอน

          6.ดูว่ามีชื่อจริง นามสกุลจริง ของเจ้าของร้านแสดงอยู่ไหม หากมีชื่อจริง หรือเลขบัญชีธนาคารที่เราต้องจ่ายเงินไปให้ ลองใช้ชื่อเหล่านั้นค้นหาตรวจสอบใน Google ก่อนว่ามีประวัติอย่างไรบ้าง หากเป็นชื่อปลอมหรือข้อมูลปลอม อาจเจอคนอื่น ๆ มาพูดถึง หรือบ่นไว้ในที่อื่น ๆ เช่นกัน

          7.หากเว็บไซต์นั้นมีการจดทะเบียนอีคอมเมิร์ซกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จะน่าเชื่อถือมากขึ้น เช็กและตรวจสอบว่าเว็บไหนจดทะเบียนกับรัฐได้ที่ www.trustmarkthai.com

          8.ชำระเงินด้วยบัตรเครดิต (หากร้านค้ารองรับ) หากมีปัญหา เราดึงเงินกลับได้เพราะเป็นชำระเงินแบบ "เครดิต" ซึ่งแตกต่างกับการจ่ายเงินสด หรือโอนเงิน เพราะหากจ่ายไปแล้ว แล้วผู้ขายเอาเงินออกไปก็ยากที่จะเอาเงินคืน (หากร้านไหนยังไม่มีระบบชำระเงินผ่านบัตรเครดิต แนะนำ www.Pay.sn สมัครฟรี !)

          9.เดี๋ยวนี้การซื้อสินค้ากับช็อปปิ้งมอลล์ออนไลน์ ที่ภายในมีร้านค้ามากมายอยู่ และมีการการันตีว่า จะได้ของแน่นอน หากไม่ได้ เว็บไซต์ช็อปปิ้งมอลล์จะคืนเงินให้ทำให้มั่นใจได้มากขึ้น เช่น TARAD.com การันตี "มั่นใจได้ของชัวร์" หากไม่ได้ของ และยินดีจ่ายเงินคืนคุณสูงสุด 5 หมื่นบาทเลยทีเดียว

          10.หากยังไม่มั่นใจกับเว็บไซต์นั้น ให้ลองซื้อของชิ้นที่ราคาถูก ๆ ก่อน หากบริการดีและน่าเชื่อถือค่อยเพิ่มจำนวนการซื้อหรือราคาของสินค้าเพิ่มมากขึ้น

ทั้งหมดนี้หากคุณทำตามจะมั่นใจและปลอดภัยมากขึ้นครับลองนำไปใช้ดู