สวัสดีเจ้าาา,,
นี่เป็นกระทู้แรกของเรา คือปกติเราเป็นคนชอบเที่ยวและตระเวนกินมากกกก แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้มารีวิวเลย วันนี้ฤกษ์งามยามดี บวกกับเพลิดเพลินจากการไหม้เกรียมจากแดดเมืองไทย เลยอยากมารีวิวทะเลที่เราเพิ่งได้ไปสัมผัสมา เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยว ยังไงถ้าผิดพลาดประการใด ก็ขอ สุมาอภัย มา ณ ที่นี้เจ้า
เราเป็นเด็กเหนือ พอดีมีอันต้องไปทำธุระที่ กทม. และเมื่อทำธุระปะปังอะไรเสร็จ จะให้บินกลับเลยก็เสียเที่ยว ไม่คุ้มเว้ย ละแบบเห้ยยย อยากเที่ยวทะเล ช่วงนี้หน้านิวฟีด Facebook IG มีแต่ทะเล มีแต่คนเที่ยว มีความอยากเที่ยวหวะแกร โอเค ได้ข้อสรุปคือ "ไปเที่ยวเสม็ด จ.ระยอง กับเกาะล้าน จ.ชลบุรี" เราไปเที่ยวระหว่างวันจันทร์ 23 พ.ค. - 27 พ.ค. 2559 ซึ่งเป็นวันธรรมดา เลยคิดว่าคนไม่น่าจะเยอะเท่ากับช่วงเทศกาล
Let's gooooooo !!
Day 1:เกาะเสม็ด จ.ระยอง
การเดินทาง
เราขึ้น BTS ไปลงอนุสาวรีย์ชัย แล้วไปขึ้นรถตู้ที่ข้างๆห้างเซนจูรี่ เดินเข้าไปก็จะมีป้ายบอก เกาะเสม็ด บ้านเพ ระยอง มุ่งตรงเข้าไปซื้อเลย ค่ารถคนละ 200 บาท จะบอกว่าตอนแรกก็คิดว่ารถคงโล่งเพราะเป็นวันธรรมดา แต่พอขึ้นไปเท่านั้นแหละ คนเต็มรถจ้า เหลือที่ไว้ให้เรานั่งหลังสุดพอดี นั่งจ๊ะนั่ง โก โก
รถออกจากคิวรถตอน 08.15 น. พี่คนขับแกขับเร็วมาก ตีนผีสุดฤทธิ์ เรานั่งหลังสุด รถก็โยกเยกแบบสุด ประหนึ่งว่านั่งเครื่องเล่นสวนสนุก พี่แกอาจกลัวผู้โดยสารรีบก็เป็นได้ เหอะๆ จริงๆ พี่ไม่ต้องรีบขนาดนี้ก็ได้ หนูกลัววววว
พอถึงระยอง แวะส่งผู้โดยสารคนอื่นหมด เหลือเรา 2 คน ที่จะไปลงที่บ้านเพ พี่แกเลยบอกว่าให้มานั่งหน้าๆ นี่ จะได้ลงง่าย โอเค มูฟฟฟ (นั่งข้างหน้าสบายกว่าเยอะ เบาะก็เอนได้ ไม่โยกเยกๆ เหมือนหลังสุด) แล้วเราก็บอกพี่แกไปว่าจะไปลงท่าเรือนวลทิพย์
ประมาณเวลา 12.00 น. ถึงท่าเรือนวลทิพย์ นี่คือท่าเรือที่เราจะใช้ข้ามไปเกาะเสม็ดฮ่ะ
พอเดินเข้าไปก็จะมีคนเข้ามาถามว่าจะนั่งเรือธรรมดาหรือสปีดโบ้ท เราเลือกเรือธรรมดาค่ะ เพราะถูกกว่า ว่ะ ฮ่าๆ เราอยากจะ Slow life ต๊ะต่อนยอน (จริงๆ อยากประหยัดงบเว้ย) เราศึกษามาแล้วจากพันทิปว่าค่าเรือข้ามเกาะคนละ 50 บาท ซึ่งเราสามารถซื้อได้ทั้งขาไป-ขากลับเลย ก็ตกอยู่ที่ราคาคนละ 100 บาท กำลังจะพุ่งตัวไปซื้อตั๋วเรือ ก็มีคนเข้ามาแนะนำทัวร์ค่ะ พี่เค้าแนะนำทัวร์ครึ่งวัน จะเป็นรอบ 14.00-16.00 น.
เป็นทัวร์รอบเกาะเสม็ด พาดำน้ำดูปะการัง และมีผลไม้เลี้ยง ราคาทัวร์คนละ 400 บาท เราก็ลังเลเพราะตอนแรกที่วางแผนไว้คือ จะเช่ามอไซค์แล้วไปเที่ยวตามหาดต่างๆ แต่แฟนเราเคยมาแล้วครึ่งนึงก็บอกว่าหาดต่างๆก็เหมือนกัน อยากลองไปดำน้ำดูปะการัง มากกว่า เราก็โอเค๊
เราขึ้นเรือปุ๊บ เรือก็ออกปั๊บเลย เราได้ขึ้นเรือรอบเที่ยงพอดี ได้นั่งด้านล่าง มีคนนั่งอยู่ก่อนแล้วไม่ถึง 10 คน ระหว่างเรือค่อยๆเคลือบคลานออกจากฝั่งอย่างช้าๆ (ซึ่งเต่าอาจเร็วกว่า) เราก็ขอถ่ายภาพก่อนนิสนึงค่ะ ปล. ภาพอาจไม่ค่อยสวยนะคะ กราบขออภัย
ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็ถึงเกาะเสม็ด พอถึงก็เจอผีเสื้อสมุทรยืนต้อนรับเลยจ้า
ขึ้นฝั่งไปจะเสียค่าผ่านท่าเทียบเรือคนละ 20 บาท พอออกมาด้านซ้ายมือจะเจอเซเว่น ด้านขวามือจะเป็นคิวรถสองแถว ค่ารถคนละ 20 บาท แต่ถ้าเราจะเหมาก็ 100 บาท ไปส่งเราคนเดียวเลย แต่ไม่เป็นไรค่ะ รอได้ (ต้องประหยัดเข้าไว้ ฮึบๆ) ขณะที่รถสองแถวจะเข้าไปส่งที่พัก ก็จะผ่านด่านอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เสียค่าธรรมเนียมอีกคนละ 40 บาท
ที่พัก
ที่พักของเราคือ สวัสดีโคโค่ รีสอร์ท (อยู่หาดทรายแก้วและที่พักติดหาดเลย) เราจองผ่าน Agoda ได้ห้องมาตรฐาน เตียงใหญ่ (ไม่มีอาหารเช้า) ราคารวมทุกอย่างแล้วคืนละ 1,582 บาท ถึงที่พักก็เช็คอิน ด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการแบกกระเป๋าอันหนักหนา บวกกับอากาศร้อนของแดดเมืองไทย จึงไม่ได้ถ่ายสภาพห้องพักมาให้ เลยขออนุญาตินำภาพจาก Agoda มา ของจริงก็จะเก่ากว่าในภาพค่ะ
ถามว่าห้องพักโอเคมั้ย ก็แอบเฟลนิดๆนะคะ เพราะตอนแรกที่คาดหวังไว้จะได้บ้านเป็นหลัง แต่จริงๆแล้ว บ้านที่เป็นหลังราคา 2,500 บาท ก็เลยต้องทำใจค่ะ มาเที่ยวสนุกๆดีกว่า ขอแค่นอนได้ ไม่มีผออี ก็พอใจแล้วค่ะ ปล.ก่อนจองไม่ได้หารีวิวให้ดีก่อน ฉุกละหุกเกิน เพราะตัดสินใจกันปุ๊บปั๊บ เลยรีบจองไปหน่อย (หากใครจะมาแนะนำให้วางแผนก่อนดีๆ และที่สำคัญคือหารีวิวอ่านเพื่อเป็นแนวทาง เพราะจะช่วยเราได้มากเลยค่ะ)
ที่สวัสดีโคโค่ จะไม่มีห้องอาหารนะคะ แต่จะมีร้านกาแฟ เราเลยลองชิมชาเขียวราคาแก้วละ 60 บาท อร่อยดี ใช้ได้เลย
พอเข้าห้องพักเสร็จ เก็บกระเป๋าเรียบร้อย ด้วยความหิวโหยที่ไม่ได้ทานไรมาตั้งแต่เช้า เรามุ่งหน้าหาไรทานทันที จะมีร้านขายอาหารตามสั่งอยู่ด้านหน้าหาดของที่พักเลย ทานเสร็จ ก็รีบเปลี่ยนชุดเพื่อไปทัวร์ ทัวร์ที่เราจะไปเป็นของแชร์บ๊วย พี่เค้าจะโทรมาหา แล้วให้เราไปรอที่หน้าหาดของที่พักเลย
ระหว่างรอเรือมารับ เลยเก็บภาพบรรยากาศมาฝาก วันที่เราไปเมฆค่อนข้างเยอะ แอบกลัวนิดๆว่าฝนจะตก แต่ดีที่สุดท้ายก็ไม่ตกค่ะ
นี่คือข้อดีของการมาเที่ยววันธรรมดาค่ะ คนไม่เยอะ ถ่ายรูปได้สบายเลย
ระหว่างที่รอเรือ ก็มีน้องกลุ่มหนึ่งเค้ามาขอให้เราช่วยถ่ายรูปให้ น้องเค้าพักที่สวัสดีโคโค่เหมือนกัน แล้วรอไปทัวร์เดียวกันพอดี น้องเค้าเลยบอกว่างั้นเดี๋ยวตอนทัวร์เราสลับกันถ่ายรูปเน้าะ เราก็โอเคเลย จะได้ไม่ต้องลำบากแบกขาตั้งกล้องไป โชคดีจัง ^^
[CR] รีวิว "เที่ยวเกาะเสม็ด-เกาะล้าน" 4 วัน 3 คืน [ฉบับเด็กดอยพาเที่ยวทะเล]
นี่เป็นกระทู้แรกของเรา คือปกติเราเป็นคนชอบเที่ยวและตระเวนกินมากกกก แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้มารีวิวเลย วันนี้ฤกษ์งามยามดี บวกกับเพลิดเพลินจากการไหม้เกรียมจากแดดเมืองไทย เลยอยากมารีวิวทะเลที่เราเพิ่งได้ไปสัมผัสมา เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยว ยังไงถ้าผิดพลาดประการใด ก็ขอ สุมาอภัย มา ณ ที่นี้เจ้า
เราเป็นเด็กเหนือ พอดีมีอันต้องไปทำธุระที่ กทม. และเมื่อทำธุระปะปังอะไรเสร็จ จะให้บินกลับเลยก็เสียเที่ยว ไม่คุ้มเว้ย ละแบบเห้ยยย อยากเที่ยวทะเล ช่วงนี้หน้านิวฟีด Facebook IG มีแต่ทะเล มีแต่คนเที่ยว มีความอยากเที่ยวหวะแกร โอเค ได้ข้อสรุปคือ "ไปเที่ยวเสม็ด จ.ระยอง กับเกาะล้าน จ.ชลบุรี" เราไปเที่ยวระหว่างวันจันทร์ 23 พ.ค. - 27 พ.ค. 2559 ซึ่งเป็นวันธรรมดา เลยคิดว่าคนไม่น่าจะเยอะเท่ากับช่วงเทศกาล
Day 1:เกาะเสม็ด จ.ระยอง
การเดินทาง
เราขึ้น BTS ไปลงอนุสาวรีย์ชัย แล้วไปขึ้นรถตู้ที่ข้างๆห้างเซนจูรี่ เดินเข้าไปก็จะมีป้ายบอก เกาะเสม็ด บ้านเพ ระยอง มุ่งตรงเข้าไปซื้อเลย ค่ารถคนละ 200 บาท จะบอกว่าตอนแรกก็คิดว่ารถคงโล่งเพราะเป็นวันธรรมดา แต่พอขึ้นไปเท่านั้นแหละ คนเต็มรถจ้า เหลือที่ไว้ให้เรานั่งหลังสุดพอดี นั่งจ๊ะนั่ง โก โก
รถออกจากคิวรถตอน 08.15 น. พี่คนขับแกขับเร็วมาก ตีนผีสุดฤทธิ์ เรานั่งหลังสุด รถก็โยกเยกแบบสุด ประหนึ่งว่านั่งเครื่องเล่นสวนสนุก พี่แกอาจกลัวผู้โดยสารรีบก็เป็นได้ เหอะๆ จริงๆ พี่ไม่ต้องรีบขนาดนี้ก็ได้ หนูกลัววววว
พอถึงระยอง แวะส่งผู้โดยสารคนอื่นหมด เหลือเรา 2 คน ที่จะไปลงที่บ้านเพ พี่แกเลยบอกว่าให้มานั่งหน้าๆ นี่ จะได้ลงง่าย โอเค มูฟฟฟ (นั่งข้างหน้าสบายกว่าเยอะ เบาะก็เอนได้ ไม่โยกเยกๆ เหมือนหลังสุด) แล้วเราก็บอกพี่แกไปว่าจะไปลงท่าเรือนวลทิพย์
ประมาณเวลา 12.00 น. ถึงท่าเรือนวลทิพย์ นี่คือท่าเรือที่เราจะใช้ข้ามไปเกาะเสม็ดฮ่ะ
พอเดินเข้าไปก็จะมีคนเข้ามาถามว่าจะนั่งเรือธรรมดาหรือสปีดโบ้ท เราเลือกเรือธรรมดาค่ะ เพราะถูกกว่า ว่ะ ฮ่าๆ เราอยากจะ Slow life ต๊ะต่อนยอน (จริงๆ อยากประหยัดงบเว้ย) เราศึกษามาแล้วจากพันทิปว่าค่าเรือข้ามเกาะคนละ 50 บาท ซึ่งเราสามารถซื้อได้ทั้งขาไป-ขากลับเลย ก็ตกอยู่ที่ราคาคนละ 100 บาท กำลังจะพุ่งตัวไปซื้อตั๋วเรือ ก็มีคนเข้ามาแนะนำทัวร์ค่ะ พี่เค้าแนะนำทัวร์ครึ่งวัน จะเป็นรอบ 14.00-16.00 น.
เป็นทัวร์รอบเกาะเสม็ด พาดำน้ำดูปะการัง และมีผลไม้เลี้ยง ราคาทัวร์คนละ 400 บาท เราก็ลังเลเพราะตอนแรกที่วางแผนไว้คือ จะเช่ามอไซค์แล้วไปเที่ยวตามหาดต่างๆ แต่แฟนเราเคยมาแล้วครึ่งนึงก็บอกว่าหาดต่างๆก็เหมือนกัน อยากลองไปดำน้ำดูปะการัง มากกว่า เราก็โอเค๊
เราขึ้นเรือปุ๊บ เรือก็ออกปั๊บเลย เราได้ขึ้นเรือรอบเที่ยงพอดี ได้นั่งด้านล่าง มีคนนั่งอยู่ก่อนแล้วไม่ถึง 10 คน ระหว่างเรือค่อยๆเคลือบคลานออกจากฝั่งอย่างช้าๆ (ซึ่งเต่าอาจเร็วกว่า) เราก็ขอถ่ายภาพก่อนนิสนึงค่ะ ปล. ภาพอาจไม่ค่อยสวยนะคะ กราบขออภัย
ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็ถึงเกาะเสม็ด พอถึงก็เจอผีเสื้อสมุทรยืนต้อนรับเลยจ้า
ขึ้นฝั่งไปจะเสียค่าผ่านท่าเทียบเรือคนละ 20 บาท พอออกมาด้านซ้ายมือจะเจอเซเว่น ด้านขวามือจะเป็นคิวรถสองแถว ค่ารถคนละ 20 บาท แต่ถ้าเราจะเหมาก็ 100 บาท ไปส่งเราคนเดียวเลย แต่ไม่เป็นไรค่ะ รอได้ (ต้องประหยัดเข้าไว้ ฮึบๆ) ขณะที่รถสองแถวจะเข้าไปส่งที่พัก ก็จะผ่านด่านอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เสียค่าธรรมเนียมอีกคนละ 40 บาท
ที่พัก
ที่พักของเราคือ สวัสดีโคโค่ รีสอร์ท (อยู่หาดทรายแก้วและที่พักติดหาดเลย) เราจองผ่าน Agoda ได้ห้องมาตรฐาน เตียงใหญ่ (ไม่มีอาหารเช้า) ราคารวมทุกอย่างแล้วคืนละ 1,582 บาท ถึงที่พักก็เช็คอิน ด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการแบกกระเป๋าอันหนักหนา บวกกับอากาศร้อนของแดดเมืองไทย จึงไม่ได้ถ่ายสภาพห้องพักมาให้ เลยขออนุญาตินำภาพจาก Agoda มา ของจริงก็จะเก่ากว่าในภาพค่ะ
ถามว่าห้องพักโอเคมั้ย ก็แอบเฟลนิดๆนะคะ เพราะตอนแรกที่คาดหวังไว้จะได้บ้านเป็นหลัง แต่จริงๆแล้ว บ้านที่เป็นหลังราคา 2,500 บาท ก็เลยต้องทำใจค่ะ มาเที่ยวสนุกๆดีกว่า ขอแค่นอนได้ ไม่มีผออี ก็พอใจแล้วค่ะ ปล.ก่อนจองไม่ได้หารีวิวให้ดีก่อน ฉุกละหุกเกิน เพราะตัดสินใจกันปุ๊บปั๊บ เลยรีบจองไปหน่อย (หากใครจะมาแนะนำให้วางแผนก่อนดีๆ และที่สำคัญคือหารีวิวอ่านเพื่อเป็นแนวทาง เพราะจะช่วยเราได้มากเลยค่ะ)
ที่สวัสดีโคโค่ จะไม่มีห้องอาหารนะคะ แต่จะมีร้านกาแฟ เราเลยลองชิมชาเขียวราคาแก้วละ 60 บาท อร่อยดี ใช้ได้เลย
พอเข้าห้องพักเสร็จ เก็บกระเป๋าเรียบร้อย ด้วยความหิวโหยที่ไม่ได้ทานไรมาตั้งแต่เช้า เรามุ่งหน้าหาไรทานทันที จะมีร้านขายอาหารตามสั่งอยู่ด้านหน้าหาดของที่พักเลย ทานเสร็จ ก็รีบเปลี่ยนชุดเพื่อไปทัวร์ ทัวร์ที่เราจะไปเป็นของแชร์บ๊วย พี่เค้าจะโทรมาหา แล้วให้เราไปรอที่หน้าหาดของที่พักเลย
ระหว่างรอเรือมารับ เลยเก็บภาพบรรยากาศมาฝาก วันที่เราไปเมฆค่อนข้างเยอะ แอบกลัวนิดๆว่าฝนจะตก แต่ดีที่สุดท้ายก็ไม่ตกค่ะ
นี่คือข้อดีของการมาเที่ยววันธรรมดาค่ะ คนไม่เยอะ ถ่ายรูปได้สบายเลย
ระหว่างที่รอเรือ ก็มีน้องกลุ่มหนึ่งเค้ามาขอให้เราช่วยถ่ายรูปให้ น้องเค้าพักที่สวัสดีโคโค่เหมือนกัน แล้วรอไปทัวร์เดียวกันพอดี น้องเค้าเลยบอกว่างั้นเดี๋ยวตอนทัวร์เราสลับกันถ่ายรูปเน้าะ เราก็โอเคเลย จะได้ไม่ต้องลำบากแบกขาตั้งกล้องไป โชคดีจัง ^^
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น