ผมนั้นเคยลองขอขับรถกระบะมีคลัทช์ในสนามฟุตบอลของคนข้างบ้าน เดินหน้า ถอยหลัง ตอนอายุประมาณ 18-19
มอไซที่บ้านก็มีแต่นูโว บิดอย่างเดียว
เวฟข้างบ้านก็เคยมาลองขี่ กดเปลี่ยนเกียร์
รถยนต์ที่บ้านก็เกียร์ออโต้
จนวันนึง มีเหตุต้องใช้มอไซค์อีกคัน
ผมคิดว่า เกิดมาเป็นผู้ชายทั้งที่ มันต้องขี่รถหรือขับรถที่มีคลัทช์เป็นสิ
ผมเลยตั้งเป้าไว้ว่าจะออกรถที่เป็นมอไซค์ผู้ชาย (ถึงแม้จะลำบากเวลาซื้อของก็เถอะ ต้องสะพายเป้)
ผมจึงหามอไซค์มือสองที่ราคาไม่สูงมากนัก แน่นอน เป็น CBR ยอดนิยม
พูดคุยกับคนขายแล้ว เขาใจดี เขาจะสอนให้
ผมไปหาเขา นัดดูรถ พี่เขาสอนผมหน้าบ้าน ออกตัว ฯลฯ
แล้วปล่อยให้ผมวนรอบหมู่บ้านเขาอยู่ซัก สี่ ห้า รอบ จนรถไม่ดับ
ผมต้องมั่นใจก่อนว่าต้องขี่ให้ได้ เพราะต้องขี่กลับจากบ้านพี่เขา มาที่บ้านตัวเอง ซึ่งระยะทางก็ประมาณเกือบ 20 โล
อาทิตย์ถัดมา ผมได้ไปซื้อรถเขา แล้วขี่กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย
หลังจากนั้น ผมขี่ในหมู่บ้านมั่ง ไปปากซอยมั่ง ออกถนนใหญ่มั่ง
จนหลังๆชักนักขึ้น ผมขี่ไปเรื่อยๆทั่วกรุงเทพฯ กลับมาถึงบ้าน ระยะทางรวม ร้อยกว่าโล
หลังจากนั้น อาทิตย์นึง ผมได้ขนส่งรถไปใช้ที่ ตจว.
ผมเริ่มขี่ได้คล่องขึ้น ไปซื้อกับข้าว ซื้อขนม
จนถึงขี่ไปทำงาน
วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ถัดมา
ผมขี่ไป จันทบุรี ลัดเลาะตามเข้า โค้งไปโค้งมา
วันนั้น ผมได้ขี่ไปเกือบ 400 km.
หลังจากนั้น ผมรู้สึกขี่คล่องขึ้นอย่างชัดเจน (หลังจากกลับจากจันทบุรี)
รู้สึกมันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับรถ
สามารถลัดเลาะตามช่องระหว่างรถยนต์ได้อย่างไม่เกร็ง (ช่วงแรกที่รับรถเกร็งมาก เจอช่องแคบทีไร ผมหาที่จอดหลบพวกรถเล็กก่อนเลย)
จบแล้วครับ แค่อยากเล่าเรื่องของผมออกมา เพราะผมก็ไม่คิดว่าจะเป็นได้ภายในไม่กี่อาทิตย์
(พี่คนขายก็บอกผม อาทิตย์เดียวก็คล่องแล้ว)
(กระทู้เล่าเรื่อง) จากคนที่ไม่เคยขับรถมีคลัทช์ มาวันนี้ สามารถขี่ออกตจว.ได้แล้วร่วม 400 km.
มอไซที่บ้านก็มีแต่นูโว บิดอย่างเดียว
เวฟข้างบ้านก็เคยมาลองขี่ กดเปลี่ยนเกียร์
รถยนต์ที่บ้านก็เกียร์ออโต้
จนวันนึง มีเหตุต้องใช้มอไซค์อีกคัน
ผมคิดว่า เกิดมาเป็นผู้ชายทั้งที่ มันต้องขี่รถหรือขับรถที่มีคลัทช์เป็นสิ
ผมเลยตั้งเป้าไว้ว่าจะออกรถที่เป็นมอไซค์ผู้ชาย (ถึงแม้จะลำบากเวลาซื้อของก็เถอะ ต้องสะพายเป้)
ผมจึงหามอไซค์มือสองที่ราคาไม่สูงมากนัก แน่นอน เป็น CBR ยอดนิยม
พูดคุยกับคนขายแล้ว เขาใจดี เขาจะสอนให้
ผมไปหาเขา นัดดูรถ พี่เขาสอนผมหน้าบ้าน ออกตัว ฯลฯ
แล้วปล่อยให้ผมวนรอบหมู่บ้านเขาอยู่ซัก สี่ ห้า รอบ จนรถไม่ดับ
ผมต้องมั่นใจก่อนว่าต้องขี่ให้ได้ เพราะต้องขี่กลับจากบ้านพี่เขา มาที่บ้านตัวเอง ซึ่งระยะทางก็ประมาณเกือบ 20 โล
อาทิตย์ถัดมา ผมได้ไปซื้อรถเขา แล้วขี่กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย
หลังจากนั้น ผมขี่ในหมู่บ้านมั่ง ไปปากซอยมั่ง ออกถนนใหญ่มั่ง
จนหลังๆชักนักขึ้น ผมขี่ไปเรื่อยๆทั่วกรุงเทพฯ กลับมาถึงบ้าน ระยะทางรวม ร้อยกว่าโล
หลังจากนั้น อาทิตย์นึง ผมได้ขนส่งรถไปใช้ที่ ตจว.
ผมเริ่มขี่ได้คล่องขึ้น ไปซื้อกับข้าว ซื้อขนม
จนถึงขี่ไปทำงาน
วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ถัดมา
ผมขี่ไป จันทบุรี ลัดเลาะตามเข้า โค้งไปโค้งมา
วันนั้น ผมได้ขี่ไปเกือบ 400 km.
หลังจากนั้น ผมรู้สึกขี่คล่องขึ้นอย่างชัดเจน (หลังจากกลับจากจันทบุรี)
รู้สึกมันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับรถ
สามารถลัดเลาะตามช่องระหว่างรถยนต์ได้อย่างไม่เกร็ง (ช่วงแรกที่รับรถเกร็งมาก เจอช่องแคบทีไร ผมหาที่จอดหลบพวกรถเล็กก่อนเลย)
จบแล้วครับ แค่อยากเล่าเรื่องของผมออกมา เพราะผมก็ไม่คิดว่าจะเป็นได้ภายในไม่กี่อาทิตย์
(พี่คนขายก็บอกผม อาทิตย์เดียวก็คล่องแล้ว)