สายกินไม่ควรพลาด! ชวนเที่ยวงานThaifex-World of Food Asia 2016

เมื่อวาน จขกท.ได้มีโอกาสเข้าไปเที่ยวงาน Thaifex-World of Food Asia 2016 ที่กำลังจัดอยู่กับคุณแม่ที่เมืองทองธานี ครั้งแรกเลยนะที่มาเดินงานนี้ ไปถึง แม่เจ้า!! ของกินเยอะมากมาย เท่าที่เราเดินดูภายในงานก็จะมีสินค้าประเภทอาหาร ทั้งของสดและแปรรูป วัตถุดิบต่างๆในการทำอาหาร รวมถึงเทคโนโลยีที่ใช้ในการทำอาหารอีกด้วย เห็นว่ามีสินค้ามาออกบูธจาก 38 ประเทศด้วยกัน นับว่าเป็นอุตสาหกรรมอาหารระดับโลกมารวมอยู่ที่งานนี้เลยก็ว่าได้


เรากับแม่มากันวันเจรจาธุรกิจพอดี บรรยากาศก็จะคึกคัก ฟุด ฟิด ฟอ ไฟว์!! กันมันส์ 555 ส่วนใหญ่มีแต่นักธุรกิจจากต่างชาติทั้งนั้นที่มา  จริงๆเราเลือกมาดูงานวันนี้เพราะเผื่อจะหาลู่ทางทำมาหากินไรงี้ด้วยแหละค่ะ ^^ เห็นว่างาน Thaifex มีบูธจัดกิจกรรมต่างๆบนพื้นที่กว่า  4,600 คูหา เมื่อเดินเข้างานเราจะพบกับสินค้ามากมายและโซนอาหารจากประเทศต่างๆถึง 38 ประเทศเลย เยอะจริงไรจริง ก่อนเข้างานมีน้ำดื่มแจกฟรีด้วย ตอนแรกเรานึกว่านม ขวดสวยดีค่ะ






ไปดูโซนอาหารญี่ปุ่นกันค๊าเจอบูธนึง โอ้ โห !! ปลาตัวหย๊ายย ใหญ่  มีปลาทะเลต่าง ๆ ปลาหมึกยักษ์และเนื้อวากิวจากเมืองฮอกไกโด จากประเทศญี่ปุ่นเต็มไปหมด มีการฟรีซเพื่อคงคุณภาพไว้เป็นเป็นอย่างดี มีปลาหมึกยักษ์ให้ชิมด้วย ^^ มี ทั้งแบบนุ่มหวานและแบบเค็มน้ำทะเลกรุบกรอบ อร่อยทั้งสองแบบเลย แง่มๆ







บูธข้างๆถัดมาเป็นหอยนางรมตัวใหญ่เว้ออ!! มาให้ชิมอีกแล้ว มีทั้งแบบสด นึ่งและรมควัน ความอร่อยแตกต่างกันไป ชิมกันสด ๆ ความอร่อยจะใกล้เคียงกับหอยนางรมบ้านเรานะ แต่ขนาดหอยจะใหญ่กว่า กลิ่นทะเลแรงมาก แต่มีความหวานอยู่ เสียดายบ้านเค้าไม่มีน้ำจิ้มซีฟู๊ดกับกระถินแบบบ้านเราเนอะ 555 คงจะฟินกว่านี้


คนรักเนื้อต้องไม่พลาด! เนื้อวากิวจากเมืองฮอกไกโด  กลิ่นเนื้อลอยเตะจมูกมาเลยจ้า เลยจิ้มไป 1 ชิ้น สมคำล่ำลือ เนื้อหวานนุ่ม มันแตกละลายในปาก กลิ่นเนื้อหอมมาก พูดได้คำเดียว อร่อยเว้อ! (อยากชิมเนื้อจนมือไม้สั่น ภาพเบลอเลย )


สุดท้ายของโซนอาหารญี่ปุ่น หากนึกถึงวัตถุดิบที่รสชาติไม่เหมือนใคร กินแล้วต้องนึกถึงแดนปลาดิบ “วาซาบิ” งานนี้ได้ขนวาซาบิมาทั้งรากเลย วิธีการทำนั้น เชฟจะนำเจ้ารากตัวนี้มาปอกเปลือกออก แล้วนำไปฝนกับหนังปลาฉลาม ซึ่งวาซาบิของแท้สด ๆ ใหม่ ๆ ทานเพียงนิดเดียวก็จี๊ดจ๊าดขึ้นถึงสมองแล้ว ทั้งกลิ่นและรสชาติแตกต่างจากวาซาบิเทียมลิบลับ

ที่เห็นอยู่นี้ยังไม่หมดนะ ยังมีอีกเพียบให้ผู้ที่ชอบได้เดินไปชิมไปอีกเยอะ หลังจากนั้นมาดูในส่วนของบูธงานแสดงของประเทศเกาหลีซึ่งต้องบอกก่อนเลยว่าผลิตภัณฑ์ที่นำมานั้นล้วน แต่เป็นของเด็ดของดีจากเกาหลีเลยก็ว่าได้




เริ่มต้นที่ กิมจิ นับว่าเป็นอาหารขึ้นชื่อของคนเกาหลีเลยเพราะถือเป็นอาหารประจำชาติจากภูมิปัญญาบรรพบุรุษเกาหลี ต้นตำหรับมาเองเลยจ้า ถ้าได้ลองชิมแล้วต้องบอกเลยว่าจะติดใจนะจะบอกให้


ในส่วนของน้ำที่ได้ชิมมา กระป๋องสีเหลืองต้องบอกเลยว่าแปลกเพราะเป็นน้ำข้าวที่มีรสชาติแบบว่า คล้ายเครื่องดื่มชาเขียวกลิ่นข้าวญี่ปุ่นบ้านเราแต่ตรงแปลกคือ หอมกว่าและได้รสชาติความเป็นน้ำข้าวอย่างแท้จริงเพราะในกระป๋องมีเมล็ดข้าวผสมอยู่ด้วย ไม่ธรรมดา !!

เดินมาเรื่อยๆมาโซนของไทยเรากันมั่งค่ะ ขนแต่บูธของดี ของเด็ดมาทั้งนั้นเหมือนกัน สะดุดตากับบูธนี้เลยจ้า บูธคนไทยอย่างน้ำมันพืชคำ เห็นคนกำลังคึกคักเลย ไทยมุงๆ ไม่รีรอรีบแวะเข้าไปดูสินค้าสักหน่อย ผลิตภัณฑ์หลักของบูธนี้ไม่พ้นน้ำมันพืชคำ มีทั้งน้ำมันปาล์ม และน้ำมันถั่วเหลือง  




ภายในบูธก็จะมีจัดกิจกรรมสาธิตการทำอาหาร ในภาพก็จะเป็นการสาธิตทำอาหารโดยใช้น้ำมันมะพร้าวผสมน้ำมันกระเทียม หอมฟุ้งกันเลยทีเดียวแค่ได้กลิ่นก็หิวแล้วค๊า



แอบเห็นบรรจุภัณฑ์สวยๆแบบนี้ เลยสอบถามพี่พนักงานที่บูธดูค่ะ จนถึงบางอ้อว่า เป็นผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นั่นเอง มาเปิดตัวที่งานนี้ที่แรกเลย มีทั้งน้ำมันมะพร้าวผสมสมุนไพรไทย และน้ำมันรำข้าวผสมสมุนไพรไทย โดยสมุนไพรที่ผสมก็มีตะไคร้ กระเทียม  มะกรูด และพริก เห็นว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวกำลังเป็นที่ต้องการจากต่างประเทศ การันตีเลยว่าเป็นน้ำมันพืชจากธรรมชาติจริงๆ คุณแม่สนใจยืนอยู่บูธนี้นานมากค่ะ แม่บ้านแม่เรือนงี้ 55

ไม่เพียงเท่านั้นนะ เห็นคนมุงๆกันเยอะๆอยู่นั้น น้ำมันพืชคำยังมีผลิตภัณฑ์ที่ฉีกแนวไปจากเดิมนั่นคือเครื่องดื่มน้ำมะพร้าวโคคู น้ำมะพร้าวแท้ 100% ขอบอกเลยว่า พนักงานที่ประจำอยู่บูธ ชั่งใจดีเหลือเกิน หยิบน้ำมะพร้าวมาให้เราชิม  แก้กระหาย รสชาติอร่อยดีนะคะ ไม่หวานจนเกินไปกำลังดีเลยค่ะ เพราะปกติเราก็เคยซื้อของยี่ห้ออื่นมากินนะจะหวานเกิน


แวะมากันได้ค่ะ บูธตั้งอยู่ที่ H41 แนะนำกันพอหอมปากหอมคอ ขอเดินไปบูธต่อไปก่อนนะคะ

บูธแม่ประนอมก็มานะค๊า  พันท้ายนรสิงห์ พริตตี้แอบน่ารักเชียว  เจอบูธของกะทิชาวเกาะ มีนางงามน้อง ณฉัตร วัลเนซ่า  มาออกบูธด้วย ตัวจริงสวยจัง ><'




บูธถัดมาเราจะพาไปเดินดูโซนยุโรปกันบ้างเริ่มต้นกันที่ประเทศ อิตาลี ในเรื่องของหมูสไลด์ เนื้อสไลด์ต้องยกนิ้วให้เลยค่ะเพราะอาหารเช้าส่วนใหญ่ที่เค้ารับประทานกันก็คือ แฮมนานาชนิดซึ่งเป็นแฮมโฮมเมดที่ผ่านการตากแห้งเป็นหลายเดือน กับขนมปัง




ถัดจากอิตาลีแล้วเรากับแม่ได้เดินกันมาถึงบูธกิจกรรมของประเทศเยอรมนีแน่นอนเลยว่าต้องมีของขึ้นชื่ออีกเช่นกัน นั้นก็คือเบียร์สดเยอรมันเพราะต้องบอกเลยว่าเป็นต้นกำเนิดของเบียร์สดเลยทีเดียวในส่วนของการผสมที่ทำให้เบียร์ออกรสหวานเปรี้ยวนั้นมาจากผลไม้ทำให้เบียร์เยอรมันนั้นได้รับความนิยมทั่วโลก



ได้ลองดูบรรยากาศคร่าวๆ ของโซนยุโรปแล้ว ลองมาดูประเทศใกล้บ้านเรากันบ้างอย่างมาเลเซีย




ประเทศเพื่อนบ้านของเราที่ติดประเทศไทยทางตอนใต้อย่างมาเลเซีย ส่วนใหญ่แล้วนับถือศาสนาอิสลามก็จะมีแต่เนื้อหรือไก่แต่ไม่ใช่แค่นั้นก็จะมี ไส้กรอก ลุกชิ้น ที่มีวัตุดิบอย่างเนื้อวัว เนื้อไก่มาเป็นวัตถุดิบ ลักษณะเด่นของประเทศนี้อยู่ที่เครื่องเทศ เพราะเครื่องเทศของเค้ามีรสชาติที่เข้มข้นมากเลยดีเดียว
และถัดจากมาเลเซียแล้ว เดินมาอีกหน่อยจะเจอกับบูธของทางประเทศเวียดนามของขึ้นชื่อและเป็นคู่แข่งทางเกษตรกรของประเทศไทยก็หนีไม่พ้นที่เวียดนามจะนำข้าวที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเมล็ดข้าวที่ดี ที่สุดของโลก เวียดนามจึงมีวัตถุดิบและข้าวมาเป็นเมนูอาหารของเวียดนามอย่าง ข้าวเกียบทอดและอาหารต่างๆผู้ที่สนใจต้องอย่าพลาดจริงๆในงานนี้




นอกจากอาหารการกินแล้ว ในงานยังมีการแสดงศิลปะการ “วาดรูปบนทราย” ซึ่งเป็นการใช้มือโรย ปาด ลูบ ให้เกิดเป็นรูปภาพบนทราย การแสดงนี้ถูกแสดงโดยศิลปินหนุ่มจากประเทศตุรกี โดยรูปที่เขาวาดนั้น เป็นรูปที่ทำให้ผู้เดินชมงานทั้งคนไทยและต่างประเทศต้องหยุดชะงักเพื่อชมผลงาน ที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก



นอกจากนี้ยังมีสินค้าอาหารจากอีกหลายประเทศ และการสาธิตทำอาหารจากเชฟชื่อดังพร้อมให้ผู้ชมงานได้ชิมอาหารที่ส่งตรงจากมือเชฟ ทั้งยังมีการสาธิตทำกาแฟจากเหล่าแชมป์ Coffee Art  นอกจากได้พบเห็นอาหารจากนานาประเทศแล้ว ยังได้เห็นวิธีการปรุงอาหารและการเลือกวัตถุดิบที่มีในงานจากเชฟของแต่ละบูธ รวมถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่กำลังจะเข้ามาสู่ตลาดธุรกิจ โดยวันที่ 25-27 ที่เรากับแม่ไป งานThaifexจะเปิดให้มีการเจรจาธุรกิจ และวันที่ 28-29 จะเป็นวันที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปร่วมชมงาน และขายปลีกสินค้าภายในงาน เป็นงานดี ๆ ที่สายเดินไปชิมไปไม่ควรพลาด! วันหยุดนี้หลือจัดอีก 2 วันแล้ว วันที่ 28-29 พ.ค. เพื่อนๆว่างก็มาแวะชมงานนี้กันได้นะคะ  ที่อาคาร ชาเลนเจอร์1-3 และอาคาร Impact  Exhibition Center Hall 1-4 ค๊า ได้ของติดไม้ติดมือกันเต็มแน่ๆ ^^
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่