เราอยู่คอนโดกับแฟนมา 1 ปีแล้ว ที่ผ่านมาก็พยายามทำความเข้าใจเขา และปรับตัวเข้าหากันมาตลอด จนช่วงเดือนที่ผ่านมา แฟนลาออกจากงาน และใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่คอนโด ทำให้เราได้รู้ซึ้งว่า การอยู่กับคนที่ต่างกันมากๆ มันยากจริงๆ
เราสองคนมีความสนใจที่หลากหลาย และที่จริงก็แชร์กันได้บ้าง แต่ลักษณะการใช้ชีวิตตรงข้ามกันสุดๆ แฟนกับเราชอบเล่นเกมส์ สนใจเรื่องเกมส์เหมือนกัน แต่แฟนค่อนข้างหมกมุ่นและจริงจังกับเกมส์มาก จนบางทีก็ไม่ค่อยมีชีวิตอยู่บนพื้นฐานของโลกแห่งความจริง แฟนชอบเทคโนโลยี ชอบตึกสูงๆ ชอบติดตาม youtube channels มากกว่าจะสนใจเรื่องใกล้ตัว และสิ่งที่แฟนชอบ บางทีก็เบียดเบียนเวลาพักผ่อนของเรา
เพราะแฟนมีนิสัยชอบละเลียดข้าวหน้าทีวี เขาจะแกมบังคับให้เรานั่งทานข้าวข้างๆ ระหว่างที่เปิดซีรีย์ หรือ youtube ดูไปด้วย พอจบตอนนึงก็จะขอต่ออีกตอน เพราะแฟนยังทานข้าวไม่หมด เราอยากจะไปทำอย่างอื่นก็ทำไม่ได้ ต้องมานั่งอยู่ข้างๆ ดู channel ที่บางทีเราก็ไม่ได้ชอบหรือสนใจเป็นเวลานานๆ
พอเสาร์-อาทิตย์ แฟนจะเล่นเกมส์ เขาก็จะแกมบังคับให้เราเล่นเกมส์หรืออ่านหนังสืออยู่ข้างๆ จะได้ไม่รู้สึกผิดเวลาที่ตัวเองสนใจอย่างอื่น
ครั้งนึงเคยทะเลาะกันเรื่องที่แฟนอยากไปดู Star Wars IMAX/4DX โรงหนังหกดาว และเขาอยากให้เราไปด้วย ทั้งๆที่เราไม่ได้ชอบ Star Wars (แล้วทำไมเราต้องจ่ายเงินตั้งหลายร้อยไปดูอะไรที่ตัวเองไม่ชอบตั้งหลายชั่วโมง) เราก็เลยให้แฟนไปเดทกับเพื่อนสนิทแทน แฟนก็บอกว่าไม่อยากให้เราคอยอยู่ที่คอนโดคนเดียว เราก็เลยรับงานฟรีแลนส์ไปต่างจังหวัด จะได้ไม่ต้องรอ ที่นี้แฟนก็บอกว่าจะรีบกลับ เราก็รอ แต่สุดท้ายแฟนก็กลับมาช้ากว่าเวลาที่นัดกัน 2 ชั่วโมง ... เราก็หงุดหงิด
ช่วงระหว่างที่แฟนไม่มีงานทำ แฟนก็จะขับรถมารับเราที่ทำงานเกือบทุกวัน เรารู้ว่าเขาอยากออกจากห้องบ้าง เพราะอยู่หน้าคอมไม่ได้คุยกับใครทั้งวัน เขาก็จะจิตตก พอมีเพื่อนชวนออกไปทานข้าวเย็น เรารู้ว่าเขาอยากไป เราก็ให้เขาไป แต่เขาก็บอกว่า เขาอยากอยู่กับเรามากกว่า เขาอยากให้ไปด้วยกัน พอเราบอกเขาว่าเราทำงานเหนื่อยแล้ว ไม่อยากออกไปปั้นหน้ายิ้มกับคนที่ไม่ได้สนิท เขาก็เลือกไปกับเพื่อน ... เราก็หงุดหงิด
ทีนี้เรามีแพลนจะไปเยี่ยมเพื่อนที่ไต้หวันกับพี่สาว เราเคยจะชวนเขาแล้ว แต่งานเก่าของเขาไม่ค่อยโอเค เขาจะบอกว่าไม่มีเวลา ต้องดูตารางงานก่อน หรืออาจบอกว่าไม่มีเงินไปเที่ยวเมืองนอก เราก็เลยไม่ได้ชวน จนวันก่อนเขาได้คำตอบจากงานใหม่เงินเดือนดี เราก็บอกเขาว่า เราจะไปไต้หวันนะ ถ้าพี่สาวเราไม่ไปเราก็จะไปคนเดียว เขาก็ทำหน้าลำบากใจ เขาถามเราว่าจะไปเมื่อไหร่ อีก 3 เดือนเขาอาจจะยังไม่พ้นโปร อาจจะลาไม่ได้ เราก็หงุดหงิด
เราเลยพูดกับเขาตรงๆว่า ไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปยังไง เขาจะได้งานใหม่เงินเดือนเยอะแค่ไหน เขาก็ไม่อยากไปไต้หวันกับเราอยู่ดีใช่ไหม? คนเรามีวิธีการลางานได้ตั้งหลายแบบ ถ้าไม่มีวันลาในช่วงโปร ก็ขอลาแบบไม่ได้เงินเดือนสิ ถ้าแจ้งทางบริษัทก่อนจะมีปัญหาอะไร เขาเลยยอมรับกับเราว่า เขาไม่อยากไป แต่ก็รู้สึกผิดถ้าจะปล่อยให้เราไปคนเดียว
เราหงุดหงิดมากจริงๆ เราอยากไปไต้หวันกับแฟน อยากให้ไปเจอเพื่อนด้วยกัน เรารู้ว่าเขาไม่อยากไป เราก็คาดหวังให้เขาบอกกับเราตรงๆ ไม่ใช่พูดจาหวานหูแล้วก็มาหักหลังกันทีหลัง เรารู้ว่าเขาไม่อยากไป เราถึงได้ไม่ชวนเขาตั้งแต่แรก เราแค่จะบอกเขาว่าเราจะไม่อยู่ 5-6 วัน ในเมื่อเขาไม่ไปด้วยกัน เขาก็ต้องอยู่คนเดียวนะ
พอเริ่มทะเลาะกัน เรื่องไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันมันก็พรูขึ้นมาเป็นปัญหา เราหลุดปากบอกเขาไปว่า "ถ้าเป็นแบบนี้ก็ต่างคนต่างใช้ชีวิตดีกว่า ทั้งเขาทั้งเราจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาทำอะไรที่ตัวเองไม่ชอบ" และสุดท้ายเราก็คิดขึ้นมาได้ว่า "ถ้าเป็นแบบนั้น เราสองคนก็คงไม่มีช่วงเวลาที่จะได้แชร์กันเลย"
แฟนกับเรามีไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันมากเลย
เราสองคนมีความสนใจที่หลากหลาย และที่จริงก็แชร์กันได้บ้าง แต่ลักษณะการใช้ชีวิตตรงข้ามกันสุดๆ แฟนกับเราชอบเล่นเกมส์ สนใจเรื่องเกมส์เหมือนกัน แต่แฟนค่อนข้างหมกมุ่นและจริงจังกับเกมส์มาก จนบางทีก็ไม่ค่อยมีชีวิตอยู่บนพื้นฐานของโลกแห่งความจริง แฟนชอบเทคโนโลยี ชอบตึกสูงๆ ชอบติดตาม youtube channels มากกว่าจะสนใจเรื่องใกล้ตัว และสิ่งที่แฟนชอบ บางทีก็เบียดเบียนเวลาพักผ่อนของเรา
เพราะแฟนมีนิสัยชอบละเลียดข้าวหน้าทีวี เขาจะแกมบังคับให้เรานั่งทานข้าวข้างๆ ระหว่างที่เปิดซีรีย์ หรือ youtube ดูไปด้วย พอจบตอนนึงก็จะขอต่ออีกตอน เพราะแฟนยังทานข้าวไม่หมด เราอยากจะไปทำอย่างอื่นก็ทำไม่ได้ ต้องมานั่งอยู่ข้างๆ ดู channel ที่บางทีเราก็ไม่ได้ชอบหรือสนใจเป็นเวลานานๆ
พอเสาร์-อาทิตย์ แฟนจะเล่นเกมส์ เขาก็จะแกมบังคับให้เราเล่นเกมส์หรืออ่านหนังสืออยู่ข้างๆ จะได้ไม่รู้สึกผิดเวลาที่ตัวเองสนใจอย่างอื่น
ครั้งนึงเคยทะเลาะกันเรื่องที่แฟนอยากไปดู Star Wars IMAX/4DX โรงหนังหกดาว และเขาอยากให้เราไปด้วย ทั้งๆที่เราไม่ได้ชอบ Star Wars (แล้วทำไมเราต้องจ่ายเงินตั้งหลายร้อยไปดูอะไรที่ตัวเองไม่ชอบตั้งหลายชั่วโมง) เราก็เลยให้แฟนไปเดทกับเพื่อนสนิทแทน แฟนก็บอกว่าไม่อยากให้เราคอยอยู่ที่คอนโดคนเดียว เราก็เลยรับงานฟรีแลนส์ไปต่างจังหวัด จะได้ไม่ต้องรอ ที่นี้แฟนก็บอกว่าจะรีบกลับ เราก็รอ แต่สุดท้ายแฟนก็กลับมาช้ากว่าเวลาที่นัดกัน 2 ชั่วโมง ... เราก็หงุดหงิด
ช่วงระหว่างที่แฟนไม่มีงานทำ แฟนก็จะขับรถมารับเราที่ทำงานเกือบทุกวัน เรารู้ว่าเขาอยากออกจากห้องบ้าง เพราะอยู่หน้าคอมไม่ได้คุยกับใครทั้งวัน เขาก็จะจิตตก พอมีเพื่อนชวนออกไปทานข้าวเย็น เรารู้ว่าเขาอยากไป เราก็ให้เขาไป แต่เขาก็บอกว่า เขาอยากอยู่กับเรามากกว่า เขาอยากให้ไปด้วยกัน พอเราบอกเขาว่าเราทำงานเหนื่อยแล้ว ไม่อยากออกไปปั้นหน้ายิ้มกับคนที่ไม่ได้สนิท เขาก็เลือกไปกับเพื่อน ... เราก็หงุดหงิด
ทีนี้เรามีแพลนจะไปเยี่ยมเพื่อนที่ไต้หวันกับพี่สาว เราเคยจะชวนเขาแล้ว แต่งานเก่าของเขาไม่ค่อยโอเค เขาจะบอกว่าไม่มีเวลา ต้องดูตารางงานก่อน หรืออาจบอกว่าไม่มีเงินไปเที่ยวเมืองนอก เราก็เลยไม่ได้ชวน จนวันก่อนเขาได้คำตอบจากงานใหม่เงินเดือนดี เราก็บอกเขาว่า เราจะไปไต้หวันนะ ถ้าพี่สาวเราไม่ไปเราก็จะไปคนเดียว เขาก็ทำหน้าลำบากใจ เขาถามเราว่าจะไปเมื่อไหร่ อีก 3 เดือนเขาอาจจะยังไม่พ้นโปร อาจจะลาไม่ได้ เราก็หงุดหงิด
เราเลยพูดกับเขาตรงๆว่า ไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปยังไง เขาจะได้งานใหม่เงินเดือนเยอะแค่ไหน เขาก็ไม่อยากไปไต้หวันกับเราอยู่ดีใช่ไหม? คนเรามีวิธีการลางานได้ตั้งหลายแบบ ถ้าไม่มีวันลาในช่วงโปร ก็ขอลาแบบไม่ได้เงินเดือนสิ ถ้าแจ้งทางบริษัทก่อนจะมีปัญหาอะไร เขาเลยยอมรับกับเราว่า เขาไม่อยากไป แต่ก็รู้สึกผิดถ้าจะปล่อยให้เราไปคนเดียว
เราหงุดหงิดมากจริงๆ เราอยากไปไต้หวันกับแฟน อยากให้ไปเจอเพื่อนด้วยกัน เรารู้ว่าเขาไม่อยากไป เราก็คาดหวังให้เขาบอกกับเราตรงๆ ไม่ใช่พูดจาหวานหูแล้วก็มาหักหลังกันทีหลัง เรารู้ว่าเขาไม่อยากไป เราถึงได้ไม่ชวนเขาตั้งแต่แรก เราแค่จะบอกเขาว่าเราจะไม่อยู่ 5-6 วัน ในเมื่อเขาไม่ไปด้วยกัน เขาก็ต้องอยู่คนเดียวนะ
พอเริ่มทะเลาะกัน เรื่องไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันมันก็พรูขึ้นมาเป็นปัญหา เราหลุดปากบอกเขาไปว่า "ถ้าเป็นแบบนี้ก็ต่างคนต่างใช้ชีวิตดีกว่า ทั้งเขาทั้งเราจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาทำอะไรที่ตัวเองไม่ชอบ" และสุดท้ายเราก็คิดขึ้นมาได้ว่า "ถ้าเป็นแบบนั้น เราสองคนก็คงไม่มีช่วงเวลาที่จะได้แชร์กันเลย"