สวัสดีค่ะ^^ หลังจากกลับมาจากการเที่ยวญี่ปุ่นครั้งที่สองก็ตั้งใจว่าจะมารีวิวอย่างเป็นจริงเป็นจังซักทีเพราะก่อนไปได้ข้อมูลจากห้องนี้เยอะมากกกกกกก ทริปนี้ไปกับครอบครัวค่ะ ไปกันทั้งหมด 5 คน เดี๋ยวเรื่องค่าใช้จ่ายจะมาสรุปอีกทีนะคะ
ขอเริ่มเปิดทริปด้วยการไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองค่ะ ทริปนี้ไปโดย AirasiaX ค่ะ ได้ตั๋วไปลงโอซาก้า กลับจากนาริตะนะคะราคา 11,119 บาทค่ะ ไปวันที่ 24เม.ย.-4พ.ค. 2016 ค่ะ วันแรกเครื่องออกเวลา 14.15น.ค่ะ เราไปถึงสนามบินก่อนเวลาประมาณ 1ชม.ครึ่ง counter AirasiaXที่จะไปญี่ปุ่นอยู่ตึกแรกนะคะ ถ้านั่งtaxiมา บอกให้ taxi จอดตึกแรกเลยค่ะ พอไปถึงปรากฎว่าแถวเช็คอินน้อยมากๆค่ะ เราก็เช็คอินไปตามระเบียบ จากนั้นก็เข้ามานั่งรอข้างในพร้อมไปค่ะ
ในเครื่องไม่เล็กอย่างที่คิดเอาไว้ตอนแรกค่ะ นั่งได้สบายๆ ตอนซื้อตั๋วเราไม่ได้เลือกแบบเลือกที่นั่งเอาไว้เพราะกะว่านั่งแค่แปปเดียว ถ้านั่งแยกกันก็คงไม่เป็นไร แต่ปรากฏว่าตอนเช็คอิน พนักงานเลื่อนให้นั่งใกล้กันขึ้นด้วยค่ะ โชคดีมากเลย แต่บังเอิญไม่ได้ถ่ายรูปในเครื่องบินไว้เลยTT ระหว่างที่อยู่บนเครื่อง แอร์ก็เอาใบตม.มาแจกค่ะ แต่บังเอิญไฟลท์ที่เราไปใบศุลกากรหมดเหลือแต่ภาษาญี่ปุ่น แอร์บอกให้ไปเขียนตอนเครื่องลงแล้วที่Airport แต่เราเตรียมตัวมาดีค่ะคือหาข้อมูลมาแล้วว่าอะไรเขียนตรงไหนเลยบอกไปว่าภาษาญี่ปุ่นก็ได้ แต่สุดท้ายเค้าก็เอาภาษาอังกฤษมาให้เราค่ะ บอกว่าเหลือไม่กี่ใบสุดท้ายพอดี โชคดีมากเพราะไม่ต้องไปเสียเวลากรอกข้างล่างอีกค่ะ ใครที่เดินทางถึงดึกเหมือนเราขอให้ทำเวลานะคะ เพราะถ้ายิ่งเข้าเมืองช้า รถไฟใต้ดินจะปิดหมดค่ะ
ถึงกำหนดเครื่องลงตรงเวลาเป๊ะค่ะ เราก็เดินเร็วๆไปผ่านตม. รับประเป๋า แล้วก็รีบขึ้นรถไฟเข้าเมืองค่ะ เราเลือกNankai airport expressค่ะ เพราะถูกที่สุด แต่เพราะความรีบร้อนเลยไม่ได้ถ่ายรูปทางเดินไปขึ้นรถไฟมาเลย แต่ไม่ยากค่ะ ให้เดินตามป้ายที่มีสัญลักษณ์รถไฟไป จากนั้นก็รีบไปซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์ค่ะ โดยบอกสถานีที่จะไปลง เช่นเราไปลงNambaค่ะ เจ้าหน้าที่ก็จะจัดการซื้อตั๋วให้เราเสร็จสรรพ แล้วก็ไปขึ้นรถไฟเข้าเมืองเลยค่า
เรานั่งรถไฟไปลงสถานีNankai Namba ซึ่งจะมีทางลงไปชั้นใต้ดินเพื่อเชื่อมไปยัง Namba subwayค่ะ เพราะเป้าหมายเราคือ ทางออกหมายเลข 25 เพื่อขึ้นไปใกล้ที่พักเราที่สุดค่ะ ทางเดินใต้ดินค่อนข้างไกลกว่าจะถึงก็เดินเหนื่อยเอาการ พอถึงก็เข้าที่พักค่ะ^^ จากนี้จะเป็นการริวที่พักที่เราไปพักนะคะ
ที่โอซาก้า 3 คืนแรกเราจองที่พักผ่าน Airbnb เพราะหลังๆเห็นคนรีวิวเยอะและราคาถูกดีก็เลยอยากลองบ้างค่ะ เราพักที่ Namba Shinsaibashi Centerเลยค่ะ ทางเดินไปที่พักผ่านป้ายกูลิโกะทุกวันเลยค่ะ
หลังจากที่ไปพักมา สรุปได้ดังนี้ค่ะ
ข้อดี : อยู่ย่านNamba สะดวกต่อการไปเดินเล่นแถวๆShinsaibashi เราไปเกือบทุกคืนเลยค่ะ, เหมาะต่อการเดินทางด้วย Kintetsu pass เพราะมีสถานีอยู่ที่Namba, ถ้ามาเป็นครอบครัวจะได้พักด้วยกันในห้องเดียวเลยค่ะ, ราคาถูก
ข้อเสีย : แอบเดินไกลจากสถานีนิดนึง ถ้าเดินสบายๆก็ประมาณ 10 นาทีค่ะ(พูดง่ายๆก็คือไม่ได้อยู่ติดสถานีนั่นเอง)
ราคา : สำหรับ 5 คน 3 คืน 11,102 บาทค่ะ ตกคนละ 740 บาท/คน/คืน
ตามความรู้สึกเราก็ชอบนะคะ ห้องพักสบาย ติดกันเเลยก็มี Familiy Mart ระหว่างทางเดินก็มีร้านอาหาร ติดนิดเดียวตรงที่เดินไกลจากสถานีค่ะ แต่สำหรับคนที่อยากจะเดินShinsaibashiทุกคืนคุ้มแน่นอนค่ะ555
จบไปแล้วสำหรับวันแรกนะคะสรุปกว่าเราจะเข้านอนก็ปาไปตี 1 -O- เสร็จแล้วก็รีบนอนเก็บแรงไว้ลุยวันต่อไปค่ะ^^
แปะท้ายโพสต์แรกด้วยตารางเที่ยวคร่างๆของทริปนี่ค่ะ
เพิ่มเติมอีกนิดนึงเผื่อสงสัยนะคะ เผอิญทริปนี้เรามีแวะไปเยี่ยมญาติที่นาโงย่า แล้วพ่อกับแม่เราอยู่ได้แค่ 5 วันค่ะ จึงตัดสินใจซื้อตั๋วไปกลับโอซาก้าให้พ่อกับแม่ ดังนั้นการเดินทางจึงต้องไปกลับโอซาก้าแบบนี้ค่ะTT เพราะช่วงที่พ่อแม่อยู่ไม่อยากไปไกลถึงโตเกียว มันจะเหนื่อยและเสียเวลาเดินทางมากค่ะ ดังนั้นเราจึงเลือกซื้อ Kintetsu pass 5 days ค่ะ เพราะไปกลับนาโงย่ายังไงก็คุ้มแน่นอน แถมยังใช้รถไฟไปเกียวโต นาราแล้วก็โกเบได้ด้วยค่ะ^^
เดี๋ยวมาต่อนะคะ นี่เป็นกระทู้แรกหากมีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยด้วยนะคะTT
[CR] รีวิวเที่ยวโอซาก้า เกียวโต นาโงย่า โตเกียว 10 วันด้วยตัวเอง
ขอเริ่มเปิดทริปด้วยการไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมืองค่ะ ทริปนี้ไปโดย AirasiaX ค่ะ ได้ตั๋วไปลงโอซาก้า กลับจากนาริตะนะคะราคา 11,119 บาทค่ะ ไปวันที่ 24เม.ย.-4พ.ค. 2016 ค่ะ วันแรกเครื่องออกเวลา 14.15น.ค่ะ เราไปถึงสนามบินก่อนเวลาประมาณ 1ชม.ครึ่ง counter AirasiaXที่จะไปญี่ปุ่นอยู่ตึกแรกนะคะ ถ้านั่งtaxiมา บอกให้ taxi จอดตึกแรกเลยค่ะ พอไปถึงปรากฎว่าแถวเช็คอินน้อยมากๆค่ะ เราก็เช็คอินไปตามระเบียบ จากนั้นก็เข้ามานั่งรอข้างในพร้อมไปค่ะ
ในเครื่องไม่เล็กอย่างที่คิดเอาไว้ตอนแรกค่ะ นั่งได้สบายๆ ตอนซื้อตั๋วเราไม่ได้เลือกแบบเลือกที่นั่งเอาไว้เพราะกะว่านั่งแค่แปปเดียว ถ้านั่งแยกกันก็คงไม่เป็นไร แต่ปรากฏว่าตอนเช็คอิน พนักงานเลื่อนให้นั่งใกล้กันขึ้นด้วยค่ะ โชคดีมากเลย แต่บังเอิญไม่ได้ถ่ายรูปในเครื่องบินไว้เลยTT ระหว่างที่อยู่บนเครื่อง แอร์ก็เอาใบตม.มาแจกค่ะ แต่บังเอิญไฟลท์ที่เราไปใบศุลกากรหมดเหลือแต่ภาษาญี่ปุ่น แอร์บอกให้ไปเขียนตอนเครื่องลงแล้วที่Airport แต่เราเตรียมตัวมาดีค่ะคือหาข้อมูลมาแล้วว่าอะไรเขียนตรงไหนเลยบอกไปว่าภาษาญี่ปุ่นก็ได้ แต่สุดท้ายเค้าก็เอาภาษาอังกฤษมาให้เราค่ะ บอกว่าเหลือไม่กี่ใบสุดท้ายพอดี โชคดีมากเพราะไม่ต้องไปเสียเวลากรอกข้างล่างอีกค่ะ ใครที่เดินทางถึงดึกเหมือนเราขอให้ทำเวลานะคะ เพราะถ้ายิ่งเข้าเมืองช้า รถไฟใต้ดินจะปิดหมดค่ะ
ถึงกำหนดเครื่องลงตรงเวลาเป๊ะค่ะ เราก็เดินเร็วๆไปผ่านตม. รับประเป๋า แล้วก็รีบขึ้นรถไฟเข้าเมืองค่ะ เราเลือกNankai airport expressค่ะ เพราะถูกที่สุด แต่เพราะความรีบร้อนเลยไม่ได้ถ่ายรูปทางเดินไปขึ้นรถไฟมาเลย แต่ไม่ยากค่ะ ให้เดินตามป้ายที่มีสัญลักษณ์รถไฟไป จากนั้นก็รีบไปซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์ค่ะ โดยบอกสถานีที่จะไปลง เช่นเราไปลงNambaค่ะ เจ้าหน้าที่ก็จะจัดการซื้อตั๋วให้เราเสร็จสรรพ แล้วก็ไปขึ้นรถไฟเข้าเมืองเลยค่า
เรานั่งรถไฟไปลงสถานีNankai Namba ซึ่งจะมีทางลงไปชั้นใต้ดินเพื่อเชื่อมไปยัง Namba subwayค่ะ เพราะเป้าหมายเราคือ ทางออกหมายเลข 25 เพื่อขึ้นไปใกล้ที่พักเราที่สุดค่ะ ทางเดินใต้ดินค่อนข้างไกลกว่าจะถึงก็เดินเหนื่อยเอาการ พอถึงก็เข้าที่พักค่ะ^^ จากนี้จะเป็นการริวที่พักที่เราไปพักนะคะ
ที่โอซาก้า 3 คืนแรกเราจองที่พักผ่าน Airbnb เพราะหลังๆเห็นคนรีวิวเยอะและราคาถูกดีก็เลยอยากลองบ้างค่ะ เราพักที่ Namba Shinsaibashi Centerเลยค่ะ ทางเดินไปที่พักผ่านป้ายกูลิโกะทุกวันเลยค่ะ
หลังจากที่ไปพักมา สรุปได้ดังนี้ค่ะ
ข้อดี : อยู่ย่านNamba สะดวกต่อการไปเดินเล่นแถวๆShinsaibashi เราไปเกือบทุกคืนเลยค่ะ, เหมาะต่อการเดินทางด้วย Kintetsu pass เพราะมีสถานีอยู่ที่Namba, ถ้ามาเป็นครอบครัวจะได้พักด้วยกันในห้องเดียวเลยค่ะ, ราคาถูก
ข้อเสีย : แอบเดินไกลจากสถานีนิดนึง ถ้าเดินสบายๆก็ประมาณ 10 นาทีค่ะ(พูดง่ายๆก็คือไม่ได้อยู่ติดสถานีนั่นเอง)
ราคา : สำหรับ 5 คน 3 คืน 11,102 บาทค่ะ ตกคนละ 740 บาท/คน/คืน
ตามความรู้สึกเราก็ชอบนะคะ ห้องพักสบาย ติดกันเเลยก็มี Familiy Mart ระหว่างทางเดินก็มีร้านอาหาร ติดนิดเดียวตรงที่เดินไกลจากสถานีค่ะ แต่สำหรับคนที่อยากจะเดินShinsaibashiทุกคืนคุ้มแน่นอนค่ะ555
จบไปแล้วสำหรับวันแรกนะคะสรุปกว่าเราจะเข้านอนก็ปาไปตี 1 -O- เสร็จแล้วก็รีบนอนเก็บแรงไว้ลุยวันต่อไปค่ะ^^
แปะท้ายโพสต์แรกด้วยตารางเที่ยวคร่างๆของทริปนี่ค่ะ
เพิ่มเติมอีกนิดนึงเผื่อสงสัยนะคะ เผอิญทริปนี้เรามีแวะไปเยี่ยมญาติที่นาโงย่า แล้วพ่อกับแม่เราอยู่ได้แค่ 5 วันค่ะ จึงตัดสินใจซื้อตั๋วไปกลับโอซาก้าให้พ่อกับแม่ ดังนั้นการเดินทางจึงต้องไปกลับโอซาก้าแบบนี้ค่ะTT เพราะช่วงที่พ่อแม่อยู่ไม่อยากไปไกลถึงโตเกียว มันจะเหนื่อยและเสียเวลาเดินทางมากค่ะ ดังนั้นเราจึงเลือกซื้อ Kintetsu pass 5 days ค่ะ เพราะไปกลับนาโงย่ายังไงก็คุ้มแน่นอน แถมยังใช้รถไฟไปเกียวโต นาราแล้วก็โกเบได้ด้วยค่ะ^^
เดี๋ยวมาต่อนะคะ นี่เป็นกระทู้แรกหากมีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยด้วยนะคะTT