สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนน่ะคะ จขกท.ชื่อ น้ำหวานค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา อาจจะยาวสักหน่อย แต่อยากให้ทุกท่านทนอ่านจนจบค่ะ เรามีจุดประสงค์ในการตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อเป็นการขอบคุณคณะลูกทัวร์ทุกท่าน รวมทั้งไกด์ทัวร์ และจขกท. มีความประสงค์ที่จะขอบคุณ คุณหนึ่ง ชัชวาล เป็นอย่างยิ่งค่ะ อีกทั้ง จขกท.ยังอยากให้กระทู้นี้เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ที่จะท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศด้วยค่ะ ว่าแล้วก็มาเข้าเรื่องกันเลยน่ะค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า จขกท. ได้ไปเที่ยว ณ ประเทศญี่ปุ่น กับคณะทัวร์ ARIGATOU โดยมีไกด์ทัวร์ ชื่อ คุณ กรองแก้ว(ก๊อง) และมีลูกทัวร์ทั้งหมด 33 คนค่ะ ครอบครัว จขกท.มีกัน 4 คนคือ จขกท. อาอี้(ป้าในภาษาจีน) พี่สาวของ จขกท. และน้องชายของ จขกท.
เราเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น วันที่ 20 พฤษภาคม 2559 เวลาประมาณ 6.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น ซึ่งวันนั้นคณะทัวร์ได้เริ่มการทัวร์กันเลย หนึ่งในโปรแกรมทัวร์คือการไปเยี่ยมชม หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ซึ่งที่นี่เองได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น อาอี้เกิดลื่นหกล้มบริเวณโขดหิน ทำให้ขาเจ็บมากจนไม่สามารถลุกขึ้นเดินได้ อาอี้นั่งอยู่สักพัก พออาอี้เจ็บน้อยลงน้องชายเราเลยพยุงอาอี้ขึ้น และมีคนไทยที่มากับทัวร์อื่นมาช่วยอุ้มอาอี้ไปนั่งพักที่เก้าอี้ เรา พี่สาว และน้อง ช่วยกันตามหา พี่ก๊องที่เป็นไกด์ เมื่อเราหาพี่เขาเจอ เรากับพี่เลยมาอยู่กับอาอี้ส่วนพี่ก๊องและน้องชายไปหายืมรถเข็นมาให้อาอี้ ขณะนั้นพี่นีและน้องสะใภ้(หนึ่งในลูกทัวร์) ได้ผ่านมาเห็น จึงช่วยหาร่มและพยายามพูดคุยกับอาอี้ เมื่อรถเข็นมาถึง พี่ก๊องและน้องเราก็ช่วยกันพยุงอาอี้ขึ้นรถเข็น อาอี้แสดงสีหน้าเจ็บมาก เราทุกคนรีบเดินพาอาอี้ไปที่รถบัส เมื่อถึงรถบัสเราทุกคนกำลังตั้งท่าจะอุ้มอาอี้ขึ้นบันไดรถบัส ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3-4 ขั้น ขณะนั้นก็มีน้าผู้ชายคนหนึ่งเดินลงมาจากรถบัสและถามว่าอาอี้เป็นอะไร เดี๋ยวเขาจะช่วยอุ้มอาอี้ขึ้นรถบัสเอง หลังจากนั้นก็มีผู้ชายคนอื่นๆ มาช่วยกันอุ้มอาอี้ โดยที่เราไม่ต้องเอ่ยปากขอความช่วยเหลือเลย ซึ่งเราได้มารู้ทีหลังว่า คนที่มาอาสาช่วยอุ้มอาอี้คนแรกคือ 'คุณ หนึ่ง ชัชวาล' ซึ่งเป็นผู้กำกับช่องเจ็ดค่ะ
พี่ก๊องที่เป็นไกด์ทัวร์ได้เช็คกับทางโรงพยาบาลต่างๆให้ ซึ่งปรากฏว่าบริเวณนั้นไม่มีโรงพยาบาลและหมอที่ญี่ปุ่นหยุดในวันเสาร์-อาทิตย์(วันที่อาอี้ล้มเป็นวันศุกร์) ซึ่งอาอี้ยังอดทนและทุกคนรวมทั้งอาอี้คิดว่า คงเป็นแค่กล้ามเนื้อเคล็ด ทุกคนบนรถทัวร์จึงช่วยกันหายาทั้งทาและทานมาให้อาอี้ ทั้งน้ำมันมะรุมของคุณตาคุณยาย ยาแก้อักเสบของอาโกว ยาแก้ปวดและแผ่นแปะของพี่ก๊อง การทัวร์ยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ ซึ่งตลอดการเดินทางทุกคนจะถามถึงอาการของอาอี้ตลอด และเวลาขึ้นและลงรถ คุณ หนึ่ง และคุณอ้อ ซึ่งเป็นภรรยา จะยืนคอยอยู่เสมอเพื่อที่จะอุ้มอาอี้ขึ้นรถบัส และทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ พี่ก๊อง จะมาช่วยอุ้มอาอี้ตลอด และพี่ก๊องจะถามอาอี้ตลอดว่า อาอี้จะเข้าห้องน้ำไหม อาอี้ทานข้าวได้ไหม อาการดีขึ้นไหม (อาอี้เจ็บขามาก เวลาเคลื่อนย้ายจึงต้องอุ้มจนตัวลอย โดยไม่โดนขา) เย็นวันนั้นอาอี้และพี่ก๊องลงความเห็นว่าต้องซื้อรถเข็น คนขับรถที่เป็นคนญี่ปุ่นจึงอาสาไปซื้อให้ พร้อมกับเอาใบเสร็จและเงินทอนมาให้และไม่รับเงินค่ารถ
ในโปรแกรมจะต้องมีการขึ้นเจแปนแอลป์ ซึ่งอาอี้ต้องไปด้วยไม่สามารถอยู่บนรถได้เพราะเราใช้เวลาบนเขาเป็นเวลานานประมาณครึ่งวัน ถึงจุดนี้ต้องขอชมและขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่ญี่ปุ่นทุกท่านที่รีบมาช่วยยกรถเข็นอาอี้ทุกที่ และช่วยจัดการให้อาอี้ต่อรถขึ้นเขาได้อย่างสบายๆ
เมื่อลงจากเขามา ทุกคนได้ไปเข้าที่พัก วันนั้นเป็นวันอาทิตย์แล้ว อาอี้มีอาการหนาวสั่น ทุกคนรีบช่วยกันหาวิธีให้อาอี้อุ่นขึ้น และคอยถามอาการอาอี้เรื่อยๆ เรากับพี่เริ่มเครียดขึ้นเรื่อยๆ วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันจันทร์ คุณหนึ่ง ยังคงยืนรอที่ประตูรถบัสเพื่ออุ้มอาอี้ขึ้นรถ วันนั้นมีโปรแกรมไปโอไดบะเอ้าเลท ซึ่งแถวนั้นมีโรงพยาบาลเล็กๆอยู่ พี่ก๊อง อาอี้ เรา พี่สาว และน้องชาย จึงพาอาอี้ไปหาหมอ ผลปรากฏว่าอาอี้ กระดูกต้นขาหักสามท่อน และสะโพกหลุด ไม่สามารถขึ้นเครื่องบินกลับได้ต้องผ่าตัดที่ญี่ปุ่น และต้องมีการส่งตัวอาอี้ไปยังโรงพยาบาลใหญ่ที่มีชื่อเรื่องการรักษากระดูก ซึ่งพี่ก๊องและพี่สาวเราได้นั่งรถพยาบาลไปกับอาอี้ ส่วนเราและน้องชายต้องวิ่งกลับมาที่รถบัส พี่ก๊องได้โทรติดต่อกับคนขับรถ ให้พาเราทั้งรถบัสไปยังโรงพยาบาลที่ส่งตัวอาอี้ไป เมื่อทุกคนทราบเรื่อง ทุกคนตกใจมากกับอาการของอาอี้และคำวินิจฉัยของคุณหมอ เมื่อรถบัสถึงโรงพยาบาลเราทุกคนต้องนั่งรอเวลานานน่าจะเกินครึ่งชั่วโมง เนื่องจากพี่ก๊องต้องเป็นล่ามแปลภาษาญี่ปุ่น เกี่ยวกับอาการของอาอี้ให้อาอี้และพี่สาวของเราพัง เวลาล่วงเลยจนเกินเวลาล่องเรือโจรสลัด พี่นี น้าขนม และทุกๆท่านลงความเห็นว่า ยกเลิกการล่องเรือเลยก็ได้ ให้พี่ก๊องช่วยอาอี้อย่างเต็มที่และไม่ต้องรีบ ทุกคนโทรบอกพี่ก๊องตามที่ตกลงกัน ผ่านไปสักพักพี่กีองได้มารับกระเป๋าอาอี้พร้อมพี่สาวเรา พี่ก๊องน้ำตาซึมเนื่องจากสงสารอาอี้เราเข้าไปปลอบพี่ก๊อง หันมาอีกทีเห็นพี่สาวเราน้ำตาซึมด้วย คราวนี้เราเลยกลั้นไว้ไม่อยู่เลยน้ำตาไหลตาม เราสี่คนได้ไปส่งอาอี้ที่ห้องและบอกลา เราตกลงกันว่าให้พี่สาวเราอยู่เฝ้าและให้ญาติที่เป็นผู้ใหญ่ที่อยู่เมืองไทยบินด่วนไปเปลี่ยนตัวกับพี่เราอีกที
หลังจากนั้นลูกทัวร์ทุกคนได้คอยไถ่ถาม และดูแลเรากับน้องชายมาตลอดอีกสองวันที่เหลือ ทั้งพาไปทานข้าว เลี้ยงข้าวและคอยถามเสมอว่าอาอี้เป็นอย่างไร เราก็คอลไลน์คุยกับพี่ทุกวัน จนเราได้กลับเมืองไทยวันที่ 25 พฤษภาคม ซึ่งพี่เราและอาอี้ก็ยังอยู่ที่ญี่ปุ่น พี่ก๊อง น้าอ้อ น้าหนึ่ง ยังคงติดตามอาการของอาอี้เรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้อาอี้อาการดีขึ้นมากแล้วค่ะ ผ่านการผ่าตัดได้อย่างดี ตอนนี้ทางโรงบาลให้อาอี้เดินแล้วค่ะ
ท้ายนี้เราขอขอบคุณทุกๆคนจริงๆค่ะ ทั้งพี่ก๊องที่คอยช่วยอาอี้เข้าห้องน้ำตลอด น้าหนึ่ง น้าอ้อ ที่คอยอุ้มอาอี้ขึ้นลงตลอดเวลา ขอบคุณพี่นีที่คอยสร้างสีสันตลอดและคอยคอนแทคกับพี่ก๊องค่ะ นอกจากนี้ก็ยังขอบคุณทุกๆคนที่เป็นห่วงอาอี้เสมอ ไม่ว่าจะเป็น น้าขนม พี่แนน ครอบครัวน้องพัชร พี่แป้ง พี่แต้ม คุณตา คุณยายทุกท่าน ครอบครัวอาโกว ครอบครัวแตม ขอบคุณทุกท่านจริงๆน่ะคะ ที่เป็นห่วงอาอี้เสมอ ขอบคุณค่ะ
ปณ.ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบน่ะคะ และเราอยากจะให้ผู้อ่านทุกท่านดูแลตัวเองและระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุอย่างนี้ขึ้นกับตนเอง และอยากให้ผู้ที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ช่วยกันแชร์ ให้เห็นถึงน้ำใจของทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นค่ะ
สุดท้ายแล้วจริงๆเราขอชมเลยว่า คุณหนึ่งและคุณอ้อ เป็นคนที่น่ารักมากๆ มีน้ำใจ ซึ่งเราอยากให้คนไทยมีคนแบบคุณน้าสองคนนี้เยอะๆเลยค่ะ และอยากให้มีไกด์ทัวร์ดีๆแบบนี้ด้วยค่ะ ทริปนี้เราประทับใจไกด์ทัวร์ ลูกทัวร์ และคนขับรถมากๆค่ะ ขอบคุณทุกคนจริงๆน่ะคะ


ประสบการณ์เที่ยวญี่ปุ่น คนดีในสังคมไทย ทริปที่มีแต่ความประทับใจผู้ร่วมเดินทาง
เรื่องมีอยู่ว่า จขกท. ได้ไปเที่ยว ณ ประเทศญี่ปุ่น กับคณะทัวร์ ARIGATOU โดยมีไกด์ทัวร์ ชื่อ คุณ กรองแก้ว(ก๊อง) และมีลูกทัวร์ทั้งหมด 33 คนค่ะ ครอบครัว จขกท.มีกัน 4 คนคือ จขกท. อาอี้(ป้าในภาษาจีน) พี่สาวของ จขกท. และน้องชายของ จขกท.
เราเดินทางถึงประเทศญี่ปุ่น วันที่ 20 พฤษภาคม 2559 เวลาประมาณ 6.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น ซึ่งวันนั้นคณะทัวร์ได้เริ่มการทัวร์กันเลย หนึ่งในโปรแกรมทัวร์คือการไปเยี่ยมชม หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ซึ่งที่นี่เองได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น อาอี้เกิดลื่นหกล้มบริเวณโขดหิน ทำให้ขาเจ็บมากจนไม่สามารถลุกขึ้นเดินได้ อาอี้นั่งอยู่สักพัก พออาอี้เจ็บน้อยลงน้องชายเราเลยพยุงอาอี้ขึ้น และมีคนไทยที่มากับทัวร์อื่นมาช่วยอุ้มอาอี้ไปนั่งพักที่เก้าอี้ เรา พี่สาว และน้อง ช่วยกันตามหา พี่ก๊องที่เป็นไกด์ เมื่อเราหาพี่เขาเจอ เรากับพี่เลยมาอยู่กับอาอี้ส่วนพี่ก๊องและน้องชายไปหายืมรถเข็นมาให้อาอี้ ขณะนั้นพี่นีและน้องสะใภ้(หนึ่งในลูกทัวร์) ได้ผ่านมาเห็น จึงช่วยหาร่มและพยายามพูดคุยกับอาอี้ เมื่อรถเข็นมาถึง พี่ก๊องและน้องเราก็ช่วยกันพยุงอาอี้ขึ้นรถเข็น อาอี้แสดงสีหน้าเจ็บมาก เราทุกคนรีบเดินพาอาอี้ไปที่รถบัส เมื่อถึงรถบัสเราทุกคนกำลังตั้งท่าจะอุ้มอาอี้ขึ้นบันไดรถบัส ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3-4 ขั้น ขณะนั้นก็มีน้าผู้ชายคนหนึ่งเดินลงมาจากรถบัสและถามว่าอาอี้เป็นอะไร เดี๋ยวเขาจะช่วยอุ้มอาอี้ขึ้นรถบัสเอง หลังจากนั้นก็มีผู้ชายคนอื่นๆ มาช่วยกันอุ้มอาอี้ โดยที่เราไม่ต้องเอ่ยปากขอความช่วยเหลือเลย ซึ่งเราได้มารู้ทีหลังว่า คนที่มาอาสาช่วยอุ้มอาอี้คนแรกคือ 'คุณ หนึ่ง ชัชวาล' ซึ่งเป็นผู้กำกับช่องเจ็ดค่ะ
พี่ก๊องที่เป็นไกด์ทัวร์ได้เช็คกับทางโรงพยาบาลต่างๆให้ ซึ่งปรากฏว่าบริเวณนั้นไม่มีโรงพยาบาลและหมอที่ญี่ปุ่นหยุดในวันเสาร์-อาทิตย์(วันที่อาอี้ล้มเป็นวันศุกร์) ซึ่งอาอี้ยังอดทนและทุกคนรวมทั้งอาอี้คิดว่า คงเป็นแค่กล้ามเนื้อเคล็ด ทุกคนบนรถทัวร์จึงช่วยกันหายาทั้งทาและทานมาให้อาอี้ ทั้งน้ำมันมะรุมของคุณตาคุณยาย ยาแก้อักเสบของอาโกว ยาแก้ปวดและแผ่นแปะของพี่ก๊อง การทัวร์ยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ ซึ่งตลอดการเดินทางทุกคนจะถามถึงอาการของอาอี้ตลอด และเวลาขึ้นและลงรถ คุณ หนึ่ง และคุณอ้อ ซึ่งเป็นภรรยา จะยืนคอยอยู่เสมอเพื่อที่จะอุ้มอาอี้ขึ้นรถบัส และทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ พี่ก๊อง จะมาช่วยอุ้มอาอี้ตลอด และพี่ก๊องจะถามอาอี้ตลอดว่า อาอี้จะเข้าห้องน้ำไหม อาอี้ทานข้าวได้ไหม อาการดีขึ้นไหม (อาอี้เจ็บขามาก เวลาเคลื่อนย้ายจึงต้องอุ้มจนตัวลอย โดยไม่โดนขา) เย็นวันนั้นอาอี้และพี่ก๊องลงความเห็นว่าต้องซื้อรถเข็น คนขับรถที่เป็นคนญี่ปุ่นจึงอาสาไปซื้อให้ พร้อมกับเอาใบเสร็จและเงินทอนมาให้และไม่รับเงินค่ารถ
ในโปรแกรมจะต้องมีการขึ้นเจแปนแอลป์ ซึ่งอาอี้ต้องไปด้วยไม่สามารถอยู่บนรถได้เพราะเราใช้เวลาบนเขาเป็นเวลานานประมาณครึ่งวัน ถึงจุดนี้ต้องขอชมและขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่ญี่ปุ่นทุกท่านที่รีบมาช่วยยกรถเข็นอาอี้ทุกที่ และช่วยจัดการให้อาอี้ต่อรถขึ้นเขาได้อย่างสบายๆ
เมื่อลงจากเขามา ทุกคนได้ไปเข้าที่พัก วันนั้นเป็นวันอาทิตย์แล้ว อาอี้มีอาการหนาวสั่น ทุกคนรีบช่วยกันหาวิธีให้อาอี้อุ่นขึ้น และคอยถามอาการอาอี้เรื่อยๆ เรากับพี่เริ่มเครียดขึ้นเรื่อยๆ วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันจันทร์ คุณหนึ่ง ยังคงยืนรอที่ประตูรถบัสเพื่ออุ้มอาอี้ขึ้นรถ วันนั้นมีโปรแกรมไปโอไดบะเอ้าเลท ซึ่งแถวนั้นมีโรงพยาบาลเล็กๆอยู่ พี่ก๊อง อาอี้ เรา พี่สาว และน้องชาย จึงพาอาอี้ไปหาหมอ ผลปรากฏว่าอาอี้ กระดูกต้นขาหักสามท่อน และสะโพกหลุด ไม่สามารถขึ้นเครื่องบินกลับได้ต้องผ่าตัดที่ญี่ปุ่น และต้องมีการส่งตัวอาอี้ไปยังโรงพยาบาลใหญ่ที่มีชื่อเรื่องการรักษากระดูก ซึ่งพี่ก๊องและพี่สาวเราได้นั่งรถพยาบาลไปกับอาอี้ ส่วนเราและน้องชายต้องวิ่งกลับมาที่รถบัส พี่ก๊องได้โทรติดต่อกับคนขับรถ ให้พาเราทั้งรถบัสไปยังโรงพยาบาลที่ส่งตัวอาอี้ไป เมื่อทุกคนทราบเรื่อง ทุกคนตกใจมากกับอาการของอาอี้และคำวินิจฉัยของคุณหมอ เมื่อรถบัสถึงโรงพยาบาลเราทุกคนต้องนั่งรอเวลานานน่าจะเกินครึ่งชั่วโมง เนื่องจากพี่ก๊องต้องเป็นล่ามแปลภาษาญี่ปุ่น เกี่ยวกับอาการของอาอี้ให้อาอี้และพี่สาวของเราพัง เวลาล่วงเลยจนเกินเวลาล่องเรือโจรสลัด พี่นี น้าขนม และทุกๆท่านลงความเห็นว่า ยกเลิกการล่องเรือเลยก็ได้ ให้พี่ก๊องช่วยอาอี้อย่างเต็มที่และไม่ต้องรีบ ทุกคนโทรบอกพี่ก๊องตามที่ตกลงกัน ผ่านไปสักพักพี่กีองได้มารับกระเป๋าอาอี้พร้อมพี่สาวเรา พี่ก๊องน้ำตาซึมเนื่องจากสงสารอาอี้เราเข้าไปปลอบพี่ก๊อง หันมาอีกทีเห็นพี่สาวเราน้ำตาซึมด้วย คราวนี้เราเลยกลั้นไว้ไม่อยู่เลยน้ำตาไหลตาม เราสี่คนได้ไปส่งอาอี้ที่ห้องและบอกลา เราตกลงกันว่าให้พี่สาวเราอยู่เฝ้าและให้ญาติที่เป็นผู้ใหญ่ที่อยู่เมืองไทยบินด่วนไปเปลี่ยนตัวกับพี่เราอีกที
หลังจากนั้นลูกทัวร์ทุกคนได้คอยไถ่ถาม และดูแลเรากับน้องชายมาตลอดอีกสองวันที่เหลือ ทั้งพาไปทานข้าว เลี้ยงข้าวและคอยถามเสมอว่าอาอี้เป็นอย่างไร เราก็คอลไลน์คุยกับพี่ทุกวัน จนเราได้กลับเมืองไทยวันที่ 25 พฤษภาคม ซึ่งพี่เราและอาอี้ก็ยังอยู่ที่ญี่ปุ่น พี่ก๊อง น้าอ้อ น้าหนึ่ง ยังคงติดตามอาการของอาอี้เรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้อาอี้อาการดีขึ้นมากแล้วค่ะ ผ่านการผ่าตัดได้อย่างดี ตอนนี้ทางโรงบาลให้อาอี้เดินแล้วค่ะ
ท้ายนี้เราขอขอบคุณทุกๆคนจริงๆค่ะ ทั้งพี่ก๊องที่คอยช่วยอาอี้เข้าห้องน้ำตลอด น้าหนึ่ง น้าอ้อ ที่คอยอุ้มอาอี้ขึ้นลงตลอดเวลา ขอบคุณพี่นีที่คอยสร้างสีสันตลอดและคอยคอนแทคกับพี่ก๊องค่ะ นอกจากนี้ก็ยังขอบคุณทุกๆคนที่เป็นห่วงอาอี้เสมอ ไม่ว่าจะเป็น น้าขนม พี่แนน ครอบครัวน้องพัชร พี่แป้ง พี่แต้ม คุณตา คุณยายทุกท่าน ครอบครัวอาโกว ครอบครัวแตม ขอบคุณทุกท่านจริงๆน่ะคะ ที่เป็นห่วงอาอี้เสมอ ขอบคุณค่ะ
ปณ.ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบน่ะคะ และเราอยากจะให้ผู้อ่านทุกท่านดูแลตัวเองและระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุอย่างนี้ขึ้นกับตนเอง และอยากให้ผู้ที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ช่วยกันแชร์ ให้เห็นถึงน้ำใจของทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นค่ะ
สุดท้ายแล้วจริงๆเราขอชมเลยว่า คุณหนึ่งและคุณอ้อ เป็นคนที่น่ารักมากๆ มีน้ำใจ ซึ่งเราอยากให้คนไทยมีคนแบบคุณน้าสองคนนี้เยอะๆเลยค่ะ และอยากให้มีไกด์ทัวร์ดีๆแบบนี้ด้วยค่ะ ทริปนี้เราประทับใจไกด์ทัวร์ ลูกทัวร์ และคนขับรถมากๆค่ะ ขอบคุณทุกคนจริงๆน่ะคะ