ทรู-ไอบีเอ็มผุดศูนย์อินโนเวชั่นให้เครื่องมือความรู้สตาร์ทอัพ
โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
โดย : ณัฏฐ์ธยาน์ สุทธิเจริญ
ถือว่าเป็นปีทองสำหรับการเร่งผลักดันไทยให้เข้าสู่ประเทศไทย 4.0 เมื่อสองยักษ์ใหญ่อย่างทรู สานต่อความเป็นองค์กรคอนเวอร์เจนซ์ที่ให้บริการเทคโนโลยีทุกรูปแบบ ร่วมมือกับไอบีเอ็ม บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก เข้ามาผนึกกำลังส่งต่อความรู้ให้คนรุ่นใหม่
ศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้ ทรูจะส่งทีมพนักงานกว่า 100 คน เข้าไปประจำการภายในศูนย์ดังกล่าว และไอบีเอ็มจะมีทีมงานอีก 50 คน เข้ามาร่วมกันคิดค้นวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สำหรับประเทศไทยร่วมกับทางไอบีเอ็ม
"หลังการเซ็นสัญญาในวันนี้ จะร่วมกันเดินหน้าทำงานร่วมกัน แม้ว่าขณะนี้จะยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น ซึ่งเรื่องของเงินลงทุนไม่ใช่ปัจจัยสำคัญเท่ากับความรู้ด้านเทคโนโลยีที่ประเทศไทยจะได้จากไอบีเอ็ม ถือว่าเป็นเรื่องดี หากไทยต้องการที่จะผลักดันประเทศให้เป็นไปตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยสตูดิโอ ดังกล่าวจะอยู่ย่านสยามสแควร์ซอย 2 พื้นที่รวมทั้ง 4 ชั้นกว่า 1,000-1,500 ตร.ม. จะเปิดให้บริการในสิ้นปีนี้ ในชื่อทรูไอบีเอ็ม อินโนเวชั่น สตูดิโอ แอท แบงค็อก ถือว่าเป็นแห่งแรกในเอเชีย" ศุภชัย กล่าว
แรนดี้ วอล์คเกอร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไอบีเอ็ม เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า การร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการร่วมกันสร้างนวัตกรรมดิจิทัลที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาประเทศไทย ตามนโยบายของภาครัฐ ซึ่งการทำงานเหล่านี้จะสำเร็จได้ต้องมีคู่ค้าที่เหมาะสม ปรับเปลี่ยนการทำงานให้เข้ากับยุคสมัยและความสามารถขององค์กร
"เรายินดีมากสำหรับการนำเทคโนโลยีและประสบการณ์ของไอบีเอ็ม มาถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นใหม่ได้ร่วมกันพัฒนาประเทศ เพราะการสนับสนุนด้านเทคโนโลยี นอกจากความพร้อมด้านอุปกรณ์แล้วจะต้องมีความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจที่จะเรียนรู้และสานต่อความสามารถไปยังคนรุ่นหลัง ด้วยโซลูชั่นที่เหมาะสม" วอล์คเกอร์ กล่าว
ทั้งนี้ ประเทศไทยถือว่ามีการผลักดันด้านนโยบายที่ดีจากภาครัฐ ความพร้อมที่จะลงทุนของภาคเอกชน และเด็กรุ่นใหม่ที่ใส่ใจอยากเรียนรู้เทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ถือว่าเป็นทิศทางที่ดีที่จะช่วยในการพัฒนาประเทศต่อไป
"การนำทรัพยากรที่เหมาะสมมาไว้ที่ศูนย์แห่งนี้ จะช่วยกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นนวัตกรรมที่น่าสนใจเพราะทางไอบีเอ็มจะคัดเลือกบุคลากรที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีมาถ่ายทอดเรื่องราว และความสามารถ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ เพื่อร่วมกันผลักดันอุตสาหกรรมนี้ให้เติบโตต่อไป โดยไอบีเอ็มจะจัดหาสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม และแพลตฟอร์มที่น่าสนใจมาไว้ด้วยกัน" วอล์คเกอร์ กล่าว
ด้าน ศุภชัย กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ทรูไม่ได้มุ่งผลักดันสตาร์ทอัพในเรื่องของเงินทุนหรือจำกัดจำนวนทีมแบบในอดีต แต่จะเข้าไปมีส่วนร่วมตั้งแต่ขั้นต้นด้วยการให้ความรู้เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจระยะยาว ให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่ง
"ดิจิทัลแพลตฟอร์มเข้ามาเป็นจุดเปลี่ยนการทาธุรกิจแบบเดิม ดังนั้น ทุกอุตสาหกรรมต้องปรับตัว จึงเป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ที่มีไอเดียนำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็น เฮลท์แคร์ โลจิสติกส์ และอี-คอมเมิร์ซ นอกจากนี้ หากประเทศมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีและคนมีไอเดีย ก็สามารถนำไปต่อยอดจนเกิดภาพธุรกิจใหม่ๆ ได้ ซึ่งทรูต้องการสนับสนุนในเรื่องเครื่องมือและความรู้มากกว่าแค่เงินทุน" ศุภชัย กล่าว
ทางทรูมั่นใจว่า มีความพร้อมในเรื่องเครือข่าย นวัตกรรม บริการ และจำนวนคลื่น เพียงพอต่อการให้บริการทั้งภาคธุรกิจและลูกค้าทั่วไป และได้ตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะขึ้นเป็นเบอร์สองแทนรายเดิมได้แน่นอน
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 หน้า (A6)
ทรู-ไอบีเอ็มผุดศูนย์อินโนเวชั่นให้เครื่องมือความรู้สตาร์ทอัพ
โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559
โดย : ณัฏฐ์ธยาน์ สุทธิเจริญ
ถือว่าเป็นปีทองสำหรับการเร่งผลักดันไทยให้เข้าสู่ประเทศไทย 4.0 เมื่อสองยักษ์ใหญ่อย่างทรู สานต่อความเป็นองค์กรคอนเวอร์เจนซ์ที่ให้บริการเทคโนโลยีทุกรูปแบบ ร่วมมือกับไอบีเอ็ม บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก เข้ามาผนึกกำลังส่งต่อความรู้ให้คนรุ่นใหม่
ศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้ ทรูจะส่งทีมพนักงานกว่า 100 คน เข้าไปประจำการภายในศูนย์ดังกล่าว และไอบีเอ็มจะมีทีมงานอีก 50 คน เข้ามาร่วมกันคิดค้นวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สำหรับประเทศไทยร่วมกับทางไอบีเอ็ม
"หลังการเซ็นสัญญาในวันนี้ จะร่วมกันเดินหน้าทำงานร่วมกัน แม้ว่าขณะนี้จะยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น ซึ่งเรื่องของเงินลงทุนไม่ใช่ปัจจัยสำคัญเท่ากับความรู้ด้านเทคโนโลยีที่ประเทศไทยจะได้จากไอบีเอ็ม ถือว่าเป็นเรื่องดี หากไทยต้องการที่จะผลักดันประเทศให้เป็นไปตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยสตูดิโอ ดังกล่าวจะอยู่ย่านสยามสแควร์ซอย 2 พื้นที่รวมทั้ง 4 ชั้นกว่า 1,000-1,500 ตร.ม. จะเปิดให้บริการในสิ้นปีนี้ ในชื่อทรูไอบีเอ็ม อินโนเวชั่น สตูดิโอ แอท แบงค็อก ถือว่าเป็นแห่งแรกในเอเชีย" ศุภชัย กล่าว
แรนดี้ วอล์คเกอร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไอบีเอ็ม เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า การร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการร่วมกันสร้างนวัตกรรมดิจิทัลที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาประเทศไทย ตามนโยบายของภาครัฐ ซึ่งการทำงานเหล่านี้จะสำเร็จได้ต้องมีคู่ค้าที่เหมาะสม ปรับเปลี่ยนการทำงานให้เข้ากับยุคสมัยและความสามารถขององค์กร
"เรายินดีมากสำหรับการนำเทคโนโลยีและประสบการณ์ของไอบีเอ็ม มาถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นใหม่ได้ร่วมกันพัฒนาประเทศ เพราะการสนับสนุนด้านเทคโนโลยี นอกจากความพร้อมด้านอุปกรณ์แล้วจะต้องมีความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อผลักดันให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจที่จะเรียนรู้และสานต่อความสามารถไปยังคนรุ่นหลัง ด้วยโซลูชั่นที่เหมาะสม" วอล์คเกอร์ กล่าว
ทั้งนี้ ประเทศไทยถือว่ามีการผลักดันด้านนโยบายที่ดีจากภาครัฐ ความพร้อมที่จะลงทุนของภาคเอกชน และเด็กรุ่นใหม่ที่ใส่ใจอยากเรียนรู้เทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ถือว่าเป็นทิศทางที่ดีที่จะช่วยในการพัฒนาประเทศต่อไป
"การนำทรัพยากรที่เหมาะสมมาไว้ที่ศูนย์แห่งนี้ จะช่วยกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ได้เห็นนวัตกรรมที่น่าสนใจเพราะทางไอบีเอ็มจะคัดเลือกบุคลากรที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีมาถ่ายทอดเรื่องราว และความสามารถ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ เพื่อร่วมกันผลักดันอุตสาหกรรมนี้ให้เติบโตต่อไป โดยไอบีเอ็มจะจัดหาสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม และแพลตฟอร์มที่น่าสนใจมาไว้ด้วยกัน" วอล์คเกอร์ กล่าว
ด้าน ศุภชัย กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ทรูไม่ได้มุ่งผลักดันสตาร์ทอัพในเรื่องของเงินทุนหรือจำกัดจำนวนทีมแบบในอดีต แต่จะเข้าไปมีส่วนร่วมตั้งแต่ขั้นต้นด้วยการให้ความรู้เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจระยะยาว ให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่ง
"ดิจิทัลแพลตฟอร์มเข้ามาเป็นจุดเปลี่ยนการทาธุรกิจแบบเดิม ดังนั้น ทุกอุตสาหกรรมต้องปรับตัว จึงเป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ที่มีไอเดียนำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็น เฮลท์แคร์ โลจิสติกส์ และอี-คอมเมิร์ซ นอกจากนี้ หากประเทศมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีและคนมีไอเดีย ก็สามารถนำไปต่อยอดจนเกิดภาพธุรกิจใหม่ๆ ได้ ซึ่งทรูต้องการสนับสนุนในเรื่องเครื่องมือและความรู้มากกว่าแค่เงินทุน" ศุภชัย กล่าว
ทางทรูมั่นใจว่า มีความพร้อมในเรื่องเครือข่าย นวัตกรรม บริการ และจำนวนคลื่น เพียงพอต่อการให้บริการทั้งภาคธุรกิจและลูกค้าทั่วไป และได้ตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะขึ้นเป็นเบอร์สองแทนรายเดิมได้แน่นอน
แหล่งข่าว
หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 หน้า (A6)