[SR] ไป เที่ยว เกาหลี ฟรีๆ กับ หอการค้า [ ต อ น ที่ 1 ]


ทริปเกาหลีกับเด็กหัวการค้า


       ฮะแอม วัน ทู ทรี ทะเลแสนงามมมมม ในน้ำมีปลาาา เอาไว้ตกมาจับย่างกิน แฮ่ๆ สวัสดีค่าาาา ชาวโซเชียลมีเดีย อาจจะมีบางคนสงสัยทำไมพาดหัวกระทู้ว่าได้ไปฟรีๆๆๆๆ ถ้าใครติดตาม ม.หอการค้าจะรู้ว่ามีการจัดแคมป์เด็กหัวการค้า ผู้ประกอบการรุ่นเล็กขึ้นมาเป็นปีแรกเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งแคมป์นี้จะเป็นเชิงแข่งกับเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน มีวิทยากร(บางเลยบางคนหล่อสวยมากกก)มากมายหลายหน้าตาตบเท้าเดินพรมแดงเข้ามาให้คำแนะนำพร้อมสอนในเชิงธุรกิจ เช่น ต็อบ เถ้าแก่น้อยที่เป็นสปอนเซอร์ และมาเป็นวิทยากรในปีนี้(ปีที่แล้วไม่ได้มา) มีดาราตลกอย่าง ป๋าเทพ ที่มารวมด้วยบางเวลาเนียนๆเป็นเด็กด้วยไรงี้(ที่จำได้น่าจะอยู่สีเหลือง)  และเมรวมถึงทีมของเม ประมาณ 7 คน เราก็ได้ชนะเลิศรางวัลเป็นปีแรก เรียกว่าเป็นทีมม้ามืดทีเดียว เพราะตอนที่ทำงานเดียวกัน ถ้าเรียกแบบดีๆ ก็แบบ มีไอเดียพรั่งพรูนเข้ามาไม่ขาดสาย แต่อุปสรรค์ช่างเป็นใจเหลือเกิน พอได้ไอเดียปุบอ้าวมาติดตรงนั้น นู้นนี้นั้น เปลี่ยนไปอีก ต้องบอกว่า วนไปค่ะ! พอเขาประกาศที่เวที แบบเอ้ยเราได้จริงอ่ะ ฉับ ไปอ่านต่อด้านล่างเนอะเค้าล้อเล่น ตอนนี้เรามาชมการบรรยายและภาพตั้งแต่วันแรกสุดจนถึงวันสุดท้ายกันค้าาาา
ปอลอ. กลับมาเกือบปีนึงล่ะ เพิ่งมาเขียนอย่าเพิ่งทิ้งไปไหนกันน่ะ 555 การบรรยายอาจมีคำที่ไม่สุภาพนักเพื่อความอรรถรส จึงขออภัยมานักที่นี้ด้วย และถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหนบอกได้ค่าา



จุดเริ่มต้นของการเดินทาง…

ณ มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย ที่ห้องประชุมไม่ทราบชื่อ    
       พี่ดาด้า พิธีสาวประเภทสองสุดหล่อ(หล่อจริงน่ะ เออ ถ้าพี่แกเป็นผู้ชายแมนเกินร้อย ชะนีคงแย่งกันตรึม) พูดใส่ไมค์ว่า…. “ทีมที่ผ่านเข้ารอบได้แก่…… ทีมร้านอาหารค่าาาาาา”
       ณ จุดนั้น บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความเงียบ มีชีวิตหลายร้อยชีวิตนั่งอยู่ พร้อมกล้องหลายสิบตัว กำลังถ่ายอยู่ ในขณะนั้น เด็กที่นั่งแถวหน้า ต่างมองหน้ากัน… พลางคิดในใจว่า ทีมใครว่ะ ยิ้มผ่านเข้ารอบแล้วเผือกไม่ยินดีอีก  แต่ในช่วงเวลาหนึ่งที่หยุดไป ได้มีเสียงความคิดโผล่เข้ามาว่า……….กลุ่มกุนี้หว่าาาาาา ฟวย “เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ….” พิธีสองสาวทั้งสองทำหน้าเพลียบรมใจมาก พลางคิดว่า ชื่อกลุ่มเอ็ง  แต่เผือกไม่รู้นิน่ะ??? ยิ้มไม่น่าผ่านเข้าเล๊ย นิ (แค่คิดเนอะ แต่พี่หนูผ่านนนนนนค่ะ เพ่ ปรบมือรัวๆ)  และพี่ดาด้าก็พูดขี้นมาว่า “ ขุนน้องคร่ะ *$£÷;$£=&£$*#&-&*  ถ่ายใหม่ค่ะขุ่นน้องงง " และก็มีกล้องตัวนึงเดินถ่ายรายเรียงปายยยยย พอค่ะ ท่านผู้ชม ตัดมาที่ตอนจบกันเลยดีกว่า
พิธีกรที่มีตำแหน่งนำหน้าในมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยว่า รองคณบดีฝ่ายไหนไม่รู้สี่น่ะ พูดใส่ไมค์ค่ะ ว่า “ ขอเชิญน้องๆทั้ง 2 ทีมที่เข้ารอบ 2 อันดับแรกขึ้นมาที่เวทีด้วยค่ะ เราจะประกาศทีมที่ได้รับรางวัลบนเวทีพร้อมถ่ายรูปน่ะค่ะ” เด็กก็ขึ้นเวทีซิค่ะ รอไร บอกเลย เด็กทีมฝ่ายตรงข้าม หล่อลาก ออร่านี้พุ่งมาเลย เด่นสุดในทีม พอเม้าผู้ชายพอล่ะ และพิธีกรก็กำลังประกาศว่า “ ค่ะ และทีมที่ได้ อันดับรองชนะเลิศได้แก่….. อุ้ยถ้าเกิดว่าทีมชนะเลิศนี้ได้ไปเกาหลีเลยน่ะ พร้อมเงินรางวัลด้วย” ขุ่นพระ อาจารย์ค่ะ มาประกาศหรือมาเม้ามอยค่ะ หนูนี้ตกบังลังค์เลยค่ะ เจ็บก้นมากค่ะ  อาจารย์ ประกาศเถอะค่ะ พลีสสสสสสสส “ค่ะแล้วทีมที่ได้รองชนะเลิศได้แก่…….. ทีมสีฟ้าค้าาาาาา” ณ จุดนั้น ทีมสีแดงหันไปเซย์โล เซย์เยส ล้อมวง กอดคอ น้ำตาไหลปลื้มปริ่มมาก ไม่ใช่ล่ะ อารามณ์ ณ จุดนั้นคือ กุมาถึงจุดนี้ได้ไงว่ะ จุดที่...คนอื่นได้กินเกาเหลา ส่วนเราได้ไปเกาหลี หลีผู้ชายคะ เอ้ยไม่ใช่ล่ะ ผิดๆหลบกระป๋อง  มาม่า น้ำร้อน แปป
    นั้นแหละค่ะ ท่านผู้ชม ประวัติความเป็นที่แสนตลกคลุกเคล้าด้วยน้ำตาผสมหยาดเหงื่อและเลือดของสมาชิกในทีม เอาล่ะ ในตอนนี้ ดิฉัน เม ขอเชิญทุกอ่านพบกับการอ่านที่สนุกคลุกเคล้าโศกนาฎกรรม เย้ย ความมันส์ กัยเล้ยยย

หลังผ่านงานไป 2-3 ชม.
ณ แชทไลน์
พี่ เอ : เอ้ยพวกเทอร์ ถึงบ้านยัง
           ไม่น่าเชื่อเนอะว่าเราจะได้ไป เป็นม้ามืดเลยน่ะเนั้ยยย
พี่ บี  : จริงด้วย โคตรดีใจอ่ะ ตอนนั้น ฿@,&$;÷€¡●
บลาๆๆ
ในขณะที่ประกาศผลไปเป็นที่เรียบร้อยแล๊วววนั้น มีข่าวจากพี่เกาว่า… มีโรคเมอร์สระบาด คุณพระ ตอนไม่ไปทำไมไม่เป็น มาเป็นตอนจะไป คือดีเริ่ดมากค่ะ พี่เกาาาา
เวลาผ่านไป ต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้านเมืองของใครของมัน
ผ่านไป 1 อาทิตย์
พี่แก็ป(สมาชิกคนสำคัญของทีม)เสกไลน์กลุ่มมาบอกว่าทำพาสปอร์สแล้วน้าาา (ไวดีแท้ ข้ายังไม่ทำเลย)  ทันใดนั้น ทางมหาลัยได้โทรมาบอกให้ ส่งพาสปอร์สไปเท่านั้นแหละรีบไปทำเลย?! ใช่ที่ไหนล่ะ ! ผ่านไปเป็นชาติล่ะ ตอนใกล้ๆเพิ่งมานั่งทำ พอมานึกย้อนกลับไปแบบว่ะ เราควรจะรีบทำแต่แรกจะได้ไม่วุ่นวายขนาดนี้ และมีสมาชิกทีมมีประมาณ 2-3 คนที่มีปัญหาเรื่อง พาสปอร์ต และอีกคนไม่ได้ไปด้วยเพราะพ่อแม่ไม่อนุมัติ แต่ถึงกระนั้นเรื่องก็ยังคงดำเนินต่อไป



รุ่งอรุณของการเดินทางมาถึงแล้วน่ะ!!


ยามรุ่งอรุณส่องแสงยามเช้าวันใหม่ วันแห่งการเดินทางได้มาเยือนรออยู่ที่หน้าประตู ข้าพเจ้านั้นได้เตรียมกระเป๋าไว้คอยท่า? เปล๊า กระเป๋ายังไม่มีใส่เล้ย พึ่งไปแลกแบงวอนมาหมาดๆเอ๊ง แต่เรื่องแบบนี้ไม่ควรเอาไปเผยแผ่ให้ประชาชีรู้ อับอาย ข้ามไปสนามบินกันกว่าาา


หลังจากเก็บกระเป๋าเข้าตู้เอ้ย เก็บกระเป๋า(โอเคๆ ไม่เล่นมุขล่ะๆ)ใส่รถแล้วไปสนามบินสุวรรณภูมิตอนทุ่มครึ่งปับ ไปถึงเกตชะเง้อมองเป็นคอยีราฟยังไม่เจอใครเลย เราก็ร้อนใจ เอ๊ะ ตูมาผิดเปล่าฟ่ะ ไลน์ไปถามก็ไม่ตอบ ผ่านไปพักใหญ่ๆ พี่ก็ตอบมาล่ะ รอดแล้วกุ เกือบพลัดพลากจากกันแล้วไหมล่ะ  สรุปคือ ไปนั่งรอเกตอื่น บังเอิญเกตนี้ไม่มีที่นั่งจ่ะ  พอไปเจอทักทายไรเรียบร้อย อาจารย์ที่ไปด้วยก็โทรมาถามว่าอยู่ไหนกันไรงี้ อารมณ์เดียวกะคนข้างบนไม่ใช่ใครที่ไหนเราเองแหละ  (ปล.  เขาส่ง เมลมา 2 อัน แล้วบังเอิญไปเห็นว่าเกตที่เช็คอินทั้ง2 เมล ไม่ตรงกัน แต่ดีที่อยู่ใกล้ๆกัน)  พอวางปุปก็ไปเจอกันที่เกตที่นัดหมาย ไปถึง พระเจ้าช่วยกล้วยทอด คือตอนแรกยังโล่งๆ หนาวเปล่าเปลี่ยววิเวกอยู่เลย ตอนนี้มันอัลไรรรร คือคนต่อแถวยาวกว่าไปต่อคิวเข้าแถวซื้อตั๋วมาไทยแลนด์อี๊กอ่ะ ยืนรอ(นอกที่คั้น มีคนไปต่อคิวอยู่)จนเมื่อยอ่ะ กว่าจะได้ ต้องไปรอต่อในคิวอีก  ระหว่างนี้คุยกะเพื่อนไป ครูก็แจกของที่ต้องแจกไป(แจกเสื้อ3 ตัว 3 วัน พร้อมเสื้อกันหนาว แฮะและเราจะเตรียมมาทำไมฟ่ะ)  พอๆ ไปถึงคิวปุบก็จะแยกๆกันไป เพราะเยอะเกิน เราก็ไปอีกเคาน์เตอร์นึงก็เช็คๆไป


ดูสิค่ะ ท่านผู้ชมยาวขนาดช้างไหมล่ะค่ะ!


สักพัก (ไปอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์ล่ะ)
พนง.ถามใครชื่อ “เมสิยาพรครับ”
ยกมือ คิดในใจเอ้ยไร เรียกทำไมว่ะ
พนง.“คือนามสกุลน้องมันยาวเกินไปอ่ะครับ…”
ตุบ ตุบ ตุบ ตะ ะ…….
พนง.“เดียวพี่จะทำกระเป๋าพิเศษน่ะ$&^*)_)(*%^&*()...”
ห้ะ พูดไรฟังไม่รู้เรื่อง ที่รู้คือเออ รอดเว้ย ไม่ต้องกลับบ้านล่ะแกร พลางคิดอยู่ พิเศษคืออะไร? ได้ไปนั่งชั้นพิเศษหรอ? เอ้ยไม่ใช่ล่ะ พอมาอ่านดูในเน็ตทีหลังถึงได้รู้ว่า นามสกุล(ภาษาอังกฤษ)ยาวเกินช่องที่กำหนดมีสิทธิ์ไม่ได้ขึ้นเครื่องเช่นกัน วิธีแก้คือ ก่อนจองโทรไปถามแต่เนิ่นๆ พี่ข้างๆที่ไปด้วยบอก เกือบกลับบ้านแล้วไหมล่ะ 555 มาถึงขนาดนี้แล้วถ้าให้กลับบ้านไม่รู้จะพูดคำไหนออกมาล่ะ

พอส่งกระเป๋าเสร็จก็เดินไปเรื่อยๆ ณ จุดนั้นเมื่อยเท้ามาก อยากนั่งมากอ่ะ เดินไปเอาเป๋าวางถอดรองเท้า คือไม่ต่องถอดก็ได้น่ะ แต่อยากถอดอ่ะ ใส่ยืนนานล่ะ ณ จุดนั้น แทบอยากใส่รองเท้าเหมือนเดิม พื้นเย็นเจี๊ยบนึกว่าเอาพื้นที่ขั้วโลกใต้มาวาง TT เข้าเครื่องสแกนร่างกายเสร็จไปที่ด่านเข้าเมือง ต่อคิวสแกนรอยนิ้วมือ ผ่านที่คั่น ยินดีทุกท่านเข้าสู่ ดิวดี้ฟรรรรรี แต่ไม่ฟรีเหมือนท้ายชื่อน่ะจ้ะ ก็เดินๆไปเดินเรื่อยๆอ่ะ ใครเป๋าหนักมีรถเข็นเล็กส่วนบุคคลด้วยน่ะใครอยากโดยสารร่วมก็ไม่ว่ากัน เดินเล่นรอเวลาขึ้นเครื่อง


(เอารูปแค่นี้พอเนอะ เดี่ยวจะยาวปาย)


พอถึงเวลาขึ้นเครื่องก็ไม่มีไรมากแค่เดินๆตามท่อเหล็กส่งเหมือนที่ถ่ายสินค้าโรงงาน เข้าเครื่องปับเจอแอร์ขอตั๋ว เดินๆหาที่นั่ง ตุก… ครู 2 คนนั่งข้างเราอ่ะ เอาจริงเหมือนประกบซ้อยขวาเสมือนบอดี้การ์ดหรือพ่อแม่ยังไงอย่างงั้น แต่เราขอเปลี่ยนเป็นนั่งติดหน้าต่างค่อยหายใจคล่อยหน่อย ฟูดดดดด จากนั้นก็มีแอร์มาสาธิตตอนเครื่องตก บลาๆ ถึงเวล่ำเวลาที่เครื่องจะบินแล้ว เวลาผ่านๆไป เอาน้ำมาแจก อืมๆ ดีหน่อย ในใจจะได้กินข้าวเมื่อไรฟ่ะ ณ จุดนั้นอยากกราบพ่อแม่พี่มาก พ่อซิ้อข้าวมากลัวหิวตอนอยู่บนเครื่อง ไอ้เราคิดว่าบนเครื่องน่าจะมีที่ไหนได้ ไม่มี๊ ท่านอ่านถูกแล้ว ไม่มีค่ะ… คือแบบตอนนั้นนั่ง งง ตั้งแต่บินขึ้นยันบินลงอ่ะ มีแต่น้ำๆๆๆ กะสจ๊วต(หล่อทั้งขาไปและกลับ)กะวิวข้างนอกที่มีให้ดูเป็นอาหารตา ตอนนั้นแทบอยากบินกลับไปขอบพระคุณพ่อ ซึ้งยิ่งกว่างานวันพ่ออีก (ความจริงเขาก็บอกอยู่ว่าไม่มีอาหาร เอ็งก็อ่านแล้วไม่จำ --) ปล. สายการบินที่ เม นั่งไป เขาจะไม่มีอาหารให้อยู่แล้ว ถ้าอยากได้แบบสบายๆ มีอาหารให้กินระหว่างทางต้องนั่งสายการบิน โคเรียแอร์ แต่ราคาจะแพงขึ้นนิดนึง



ถึงแล้วน่ะแกรรร เท้าแตะพื้นอันเป็นดินแดงของโอปป้าแล้ว


ตอนนี้ก็เป็นตอนกำลังจะลงเครื่องไปที่ช่องระบายผู้โดยสาร อย่างที่บอกไป เรานั่งใกล้หน้าต่าง แล้วบังเอิญอยู่ตำแหน่งเดียวกะช่องเก็บระเป๋า เลยเห็นตอนหยิบกระเป๋าเต็มๆ คือ หยิบๆ โยนใส่ที่คล้ายๆตู้ ดังนั้น เราจึงควรเลือกกระเป๋าที่แข็งแกร่งประดุจโล่ของกัปตันอเมริกา ก่อนจะถึงด่าน ตม. จะมีที่คล้ายๆ mrt บ้านเรา นั่งไปออกที่ทางระบายผู้โดยสาร

จากนั้นไปที่ด่านตรวจเมือง ระหว่างทางก็คุยๆกันแบบควรทำยังไงอะไรอย่างนี้ ถ้าไม่อยากโดนเข้าห้องเย็นอ่ะน่ะ 555 เอาจริง เกือบมีคนโดนอยู่ แต่ก็รอดไปได้ จากนั้นก็มาที่กระเป๋า ช่วยๆกันหาไป พอได้กระเป๋าครบแล้ว ลากกระเป๋าไปที่นั่งพักหน้าห้องน้ำ เข้าไปล้างหน้า แปรงฟัน(เหม็นขี้ฟันแย่) ตื่นเช้ามาต้องล้างหน้า แปรงฟังตามปกตินั้นแหละ แต่ต่างกันตรงสถานที่ ที่ไม่ใช่ห้องน้ำในบ้านแต่เป็นในห้องน้ำของสนามบินแทน ฟีลริ่งมันใช่


หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วก็ออกจาก … ไปหาไกด์เกาหลี แต่พูดไทยชัดโคตรกะยังคนไทยมาเอง?!ถ่ายรูปกันเสร็จ ก็ไปขึ้นรถแนะนำตัวกับไกด์เป็นรายคน คือพี่ไกด์ชื่อ...อะไรเมจำไม่ได้แล้วขอเรียกว่า โอปป้าล่ะกัน โอปป้าเป็นคนที่ดูสนุกสนานเข้าถึงทุกคน และ ณ ตอนนี้กำลังเดินทางไปต่างจังหวัดของเกาหลีที่ชื่อ แดดึงซาน ด้านข้างถนนที่ออกจากสนามบินไม่ค่อยมีบ้านคน ดังนั้นเลยมีแต่ต้นไม้ ปลูกได้สวยมากกกก อยากให้ที่เมืองไทยมีแบบนี้มาก อากาศไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป


เพี้ยนปูเสื่อรอเดียวมาต่อค่ะ เอ้ยยย ไม่ใช่โปรดติดตามตอนต่อไปค่าาา
ชื่อสินค้า:   เที่ยวเกาหลี
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่