สวัสดีค่ะ

นี่เป็นกระทู้แรก ของเราเอง อาจจะผิดพลาดตรงไหนไปบ้างยังไง ติชม สอบถามได้เลยค่ะ
เอาล่ะ !! เข้าเรื่องกันดีกว่า เราจะมารีวิว การท่องเที่ยวของเรากับกลุ่มเพื่อน (เที่ยว) ที่มีน้อยนิด ทริปนี้มีด้วยกันสามคน
ตอนที่เราไปเป็นช่วงที่พวกเรา สอบไฟนอลเสร็จพอดี จึงวางแผนไปเที่ยวกันโดยเลือก ที่จะไป อช.แก่งกระจาน เนื่องจากช่วงนี้คนรีวิวที่นี่กันเยอะมากกกก
โดยเฉพาะ ผีเสื้อ ที่บ้านกร่าง เห็นในรูป แล้วคือสวยอ่ะ กระตุ้นความอยากเที่ยวของเรามาก ไม่รอช้า !! ให้เพื่อนอีกคนไปหารีวิว ว่าจะไปที่นี่อ่ะ ไปยังไงได้บ้าง แล้วพอดี ไปเจอรีวิวในกลุ่มท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งในเฟส พี่เค้ารีวิวไว้ค่อนข้างละเอียดมากก เราก็ตามรอยเลยจ้าาา อ่านคร่าวๆแล้ว เห้ย!! คือมันไปไม่ยากนะ เหมารถไปทีเดียวจบ (เราไม่มีรถ) เลยให้เพื่อนจัดการ ติดต่อเรื่องเหมารถและที่พัก ว่าจะไปวันนี้ อะไรยังไง เสร็จปุ๊ป ได้วันล่ะ วันสุดท้ายของหยุดยาวพอดี คนคงไม่น่าจะเยอะนะ ดูพยาการณ์อากาศด้วย เลยล่ะกัน อ้าวเห้ยย!! พายุเข้าอ่ะ ช่วงนั้น แต่ไม่เป็นไร ความอยากไม่เข้าใครออกใคร เราไม่แคร์พายุ แม้จะแอบหวังให้มันคลาดเคลื่อนก็ตาม T^T
และแล้ว ก็ถึงวันเดินทาง เราตามรอยที่เค้ารีวิวไว้เป๊ะเลย ไปขึ้นรถข้างเซนจูรี่ 250 บาท เค้าจะไปส่งที่อุทยานเลย
ถึงอุทยานแล้ววว พวกเราก็ไปติดต่อเรื่องเข้าพักและค่าเข้า อุทยาน รวม 130 บาท นั่งกินข้าวเหนียวหมูแปปนึง ก็โทรตามรถเหมาที่ติดต่อไว้ให้มารับ โทรไปแปปๆพี่แกมาไวมากกก

นี่คือรถที่พาเราไปกันค่ะ พี่คนขับ ชื่อ พี่ปิง พี่แกพาไปสะพานแขวนก่อนที่พวกเราจะขึ้นไปพะเนินทุ่ง ก็ถ่ายรูป กันสักพัก วันนี้คนไม่เยอะ เลยใช้เวลาไม่นาน

ภาพที่เราเห็น น้ำค่อนข้างน้อย ในบริเวณสะพานแขวน และ จุดกางเตนท์

แต่ได้รูปมาพอสมควร ลงเฟสเชคอินได้อยู่ 555
ไปต่อค่ะ เราจะขึ้นเขากันแล้ววว พี่ปิงจอดให้เราซื้อขนม ก่อนขึ้น เพราะข้างบนของขายค่อนข้างน้อย มีเฉพาะ ของศูนย์บริการ
ระยะทาง 50 กิโล ไปพะเนินทุ่ง แต่เราจะถึงบ้านกร่างกันก่อน ก่อนถึงบ้านกร่าง มีมุมเด็ดที่คนชอบถ่ายรูป คืออุโมงค์ต้นไม้ แต่ขาไปเรายังไม่จอด ค่อยแวะตอนขาลงในวันพรุ่งนี้ค่ะ
ตลอดทางที่มา ก็มีอะไรให้ดูเรื่อยๆ โดยเฉพาะผีเสื้อนี่มีมาตลอดทางเลย แต่ทีบ้านกร่างจะเยอะสุดด
ในที่สุด เราก็มาถึงบ้านกร่าง กันแล้วค่ะ ไปดูผีเสื้อกานนนนน ^_^ εїз

อันนี้เป็น ลานผีเสื้อ เค้าจะวาง เกลือ กับอะไรสักอย่างที่เค็มๆไว้ให้ผีเสื้อ มาเกาะ บอกตรงๆว่าคนเขียนกระทู้ พึ่งรู้วันนี้เองว่าผีเสื้อไม่ได้ชอบหวาน นี่เราเข้าใจผิดมาตลอดหรอนี่ 555 ความรู้ใหม่เลยค่ะ
ผีเสื้อที่เราเห็นไม่ได้มีเฉพาะตรงลานผีเสื้อนะคะ แต่จะมี เยอะมากตรงที่เป็นลำธารเล็กๆ หลังจากเข้า ด่านบ้านกร่างมาแล้ว ตอนจะขึ้นเขาพะเนินค่ะ

ตามเก็บภาพ กันอย่างต่อเนื่อง

เราชอบ เจ้าสองลายนี้มากๆเลยยย <3
ผีเสื้อที่เราเห็นจะมีหลายสีด้วยกัน แบ่งตามสายพันธุ์ แล้วยังมี แบ่งเป็นกลางวัน กลางคืนอีกนะ อันนี้พี่เจ้าหน้าที่ข้างบน เค้าบอกมาว่า ให้เราสังเกตที่หนวดของมันกันค่ะ ว่าตัวไหนกลางวัน หรือ กลางคืน ซึ่งเราก็ยังดูไม่เป็นอยู่ดีอ่ะะ +_+

แอบถ่าย เพื่อน ร่วมทริปซะหน่อย มุมกำลังได้ ^_^

อันนี้พี่ปิงถ่ายให้ เราชอบรูปนี้ กำลังเพลินเลยย

มาดูแบบมีลำธารกันบ้าง น้ำใสน่าเล่นมากค่ะ ทำให้เราอยากไปน้ำตกมากๆเลยยย

ตัวนี้ แกอโลนไปนะ

เพื่อนเรา คนนี้ ผีเสื้อตามเกาะตลอดดด เราจึงสันนิษฐานกันว่า นางต้องเค็มแน่ๆ 5555
ตัวนี้เหมือนใบไม้เลย กลมกลืนสุดๆ
ขึ้นมาเรื่อยๆก็เจอผีเสื้อเป็นระยะ เป็นช่วงๆ มีจุดนึง เห็นคนนอนกันเต็ม แวบแรก นึกว่าคนเป็นอะไร มาดูใกล้ๆอ่อ เค้าถ่ายรูปผีเสื้อกันอยู่ มองไกลเล่นเอาตกใจหมดด (ขออนุญาต คนในรูปนะคะ )

ความตั้งใจของพี่แก เต็มเปี่ยมกันมากก สุดยอดดด
ขึ้นมาสักพักเลย จุด ที่มีผีเสื้อมาแล้ว ทางที่ขึ้นมาค่อนข้าง ลุยเอาการ ระยะทาง ไม่กี่กิโล แต่ใช้เวลา ถึง 2 ชม. ด้วยกันกว่า พวกเราจะไปถึงยอด นั่งโยกกันไปตลอดทางง เราสามคน สลับไปนั่งข้างหลังรถบ้าง เพื่อที่จะได้สัมผัสธรรมชาติ สูดอากาศ เต็มที่กินลมชมวิว ถ้าฝนตกก็กลับมานั่งข้างใน
วิวข้างทาง ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ตรงไหนสวย พี่แกจอดให้เราเก็บภาพกันเต็มที่ ไปกันแบบไม่รีบร้อน
และแล้ว เราก็ถึง จุดบริการด้านบนกันแล้ววว จุดนี้เป็นจุดที่มีลานกางเตนท์และคอยบริการอาหารเครื่องดื่ม แต่ถ้าเราจะเข้าไป ดูทะเลหมอกเราต้องขึ้นไปอีก แต่ไม่ต้องเดินนะ เอารถเข้าไปได้ จอดแล้วเดินอีกนิดหน่อย ลุยค่ะะะ !!

อันนี้เป็นทางขึ้นไป จุดชมวิว ที่สวยสุด (สำหรับเรา) ของพะทุ่งเนินนะคะ แต่จะมีอีกจุดนึงซึ่งเข้าไปอีก 6 กม.
ถึงแล้ววว จุดชมวิว

อย่างที่บอกในตอนแรกนะคะ ว่าช่วงที่เราไปมีพายุ ตอนที่เราขึ้นไปถึงฝนกำลังจะตก พอดีเลยค่ะ เมฆหมอกนี่มาแบบ ครึ้มฟ้า ครึ้มฝนเลย ทะเลหมอก ที่เราหวังไว้เลยไม่ได้เห็นไปตามระเบียบ
ช่วงเวลาของการเก็บภาพพ ไม่มีทะเลหมอกก็ไม่เป็นไร
หลังจากนี้เราก็ เดินเล่นแถว ๆนั้น ดูต้นไม้ ดอกไม้ แล้วก็เจอสัตว์อะไรแปลกๆด้วยยยย
นี่คือภาพบางส่วน มาดูกันว่า เจอ สัตว์ อะไรบ้าง ??

เสียดายมากที่เรา ไม่เจอ เม่น ซึ่งเจ้าเม่นนั้นจะชอบออกมาหาอะไรกินหลังครัวของศูย์บริการ ที่ขายอาหาร
เดินกันไปเรื่อยๆ

เราก็เดินเก็บภาพของเราไป เจอน้องงู ด้วยแหละ เห้ออ !! เล่นเอาตกใจ กล้องเกือบหลุดมือ แน่ะ

พี่ปิง ชี้ให้ดูนกเงือก เสียดายมันไกลไปหน่อย กล้องเราไม่สามารถเก็บภาพมาได้

หิวแล้ววว ได้เวลาอาหารเย็นพอดี และนี่คือมื้อเย็นของพวกเรา จาก พี่ๆที่ใจดี เอามาให้ รสชาติดีมากๆเลย หมักเหมือนบาบีคิว นึกแล้วก็หิว ไม่อยากจะบอกว่าตอนแรกเรากะโซ้ยมาม่า กันแหละ อิอิ
เรานั่งกินไปด้วย คุยไปด้วย เพลินมาก พี่ๆแกเล่าเรื่องราวอะไรต่างๆให้ฟัง เล่าประสบการณ์ ที่อยู่ที่นี่ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทำงานมาแล้วกี่ปี มีเรา สามคน พี่ปิง แล้วก้อพี่ๆอุทยาน อีก สองคน คนนึงเป็นพี่ชายของพี่ปิง นั่งคุย ฟังเพลง ไปไม่ได้ดูเวลาเลย อ้อ!! ลืมบอกว่าที่นี่ ใช้ไฟจากโซล่าเซลล์ ไฟน้อย นังกันแบบสลัว มีปิดเปิดไฟเป็นเวลา บางทีก็ใช้แบตเตอรรี่ชาต โทรศัพท์ ดีนะที่มีแบตสำรองมา ซึ่งสัญญาณโทรศัพท์ของที่นี่ ก็ใช้ได้แค่ AIS กับ TRUE
DTAC ก็นั่งแหง่วไปจ้าาา อีกเรื่องที่เราเสียดายมากกับทริปนี้คือ

ฝนตกทำให้เราไม่ได้ดู ช้างเผือกอย่งที่หวัง ดาวอะไร ก็อด เพราะฟ้าปิด ทั้งลมทั้งฝน ยังดีที่ได้นั่งคุย กับพวกพี่ๆ และยังหวังอยู่ว่าตอนเช้าฟ้าจะเปิดให้เราได้เห็นทะเลหมอกสักนิดก้อยังดี
คุยไปคุยมา เริ่มง่วง ได้เวลานอนนนน แยกย้ายค่ะ

ไม่อยากคิดตอนจะอาบน้ำว่าจะเย็นขนาดไหน ฝนตกขนาดนี้
แล้วมันก็หนาวจิงๆด้วยยยย ขนาดแค่ 20 องศา นะคะเนี่ย (อุณหภูมิห้อง)
เช้าวันต่อมา เราตื่นตีห้ากว่าๆ เหมือนฟ้าจะเปิด ก็แอบดีใจนิดๆ นอนต่ออีกหน่อย ตื่นมาอีกที 6 ครึ่ง เห้ยยย ฝนตกอ่ะ ลมก็มา หมอกฟุ้งซิครัชช ทะเลหมอกที่หวังไว้ อดอีกแล้วจ้าาาา
ตื่นปุ๊ปก็อาบน้ำแต่งตัวไปทานข้าวเช้ากัน ก่อน เมนูวันนี้ คือ ข้าวผัดกระเพราไข่ดาว
ทานข้าวเสร็จเราก็ไปจุดชมวิว ที่สอง ที่ต้องเข้าไปอีก 6 กม. ขาไปเราว่ามันดูไกลนะ แต่ตอนกลับแปปเดียวเองอ่ะ ทางที่ไปก็ค่อนข้างลำบาก เพราะฝนตก น้ำไหล ดินทรุดบ้างเป็นระยะ (เป็นลูกรัง)
ถึงแล้วค่ะ ไปดูกัน

ฟ้ายังครึ้ม เหมือนเมื่อวาน เห้อออ พายุนะพายุ

เก็บภาพมาเล็กน้อย โดยพี่ปิงเจ้าเดิม พี่แกถ่ายรูปโอเคเลย ต่างจากรูปแรกที่ถ่าย เมื่อวาน 555 ตอนให้ถ่าย พี่แกบอก ถ่ายรูปไม่เก่ง เก่งแต่ขับรถ ตอนแรกเชื่อนะ แต่พอให้ถ่ายเรื่อยๆ ฝีมือใช้ได้เลยพี่ เราก็เลยให้พี่ปิงถ่ายภาพหมู

เอ้ย!!ภาพหมู่ อยู่บ่อยๆ
เก็บภาพพอสมควร ก็กลับไปลานกางเตนท์เพื่อเก็บของ สัมภาระ เตรียมตัวลง เขา

อันนี้เป็นต้นไม้ ที่มีความสมบูรณ์ ในองค์ประกอบที่ลงตัว พี่ปิงจอดให้เราเก็บภาพ ก็จัดเลยค่ะ

เก็บของเรียบร้อยก็ขอ ถ่ายรูปเล่นตอนฝนพรำกันซะหน่อย ไหนๆก็เอาชุดกันฝนมาล่ะ

ที่นี่มีตู้โทรศัพท์ด้วยนะคะ แต่ไม่รู้ว่าใช้ได้มั้ย

จะลงเขาแล้วก็ลาพี่ๆกัน ตอนจะลงก็รอฝนซาอีกนิดถึงจะลงได้
เค้าจะไปแล้วนะ พะเนินทุ่ง ถ้ามีโอกาสจะกลับมาดู ช้างเผือกให้ได้เลยยย

ยังไม่จบนะคะ เดี๋ยวมาต่อ[:เพี
[CR] [[Review รูปเยอะ มากกกก]] ~* ดูผีเสื้อบ้านกร่าง εїз ✿ ทะเลหมอก พะเนินทุ่ง ☆ .。.:*・@ อช.แก่งกระจาน [เพชรบุรี]~*
เอาล่ะ !! เข้าเรื่องกันดีกว่า เราจะมารีวิว การท่องเที่ยวของเรากับกลุ่มเพื่อน (เที่ยว) ที่มีน้อยนิด ทริปนี้มีด้วยกันสามคน
ตอนที่เราไปเป็นช่วงที่พวกเรา สอบไฟนอลเสร็จพอดี จึงวางแผนไปเที่ยวกันโดยเลือก ที่จะไป อช.แก่งกระจาน เนื่องจากช่วงนี้คนรีวิวที่นี่กันเยอะมากกกก
โดยเฉพาะ ผีเสื้อ ที่บ้านกร่าง เห็นในรูป แล้วคือสวยอ่ะ กระตุ้นความอยากเที่ยวของเรามาก ไม่รอช้า !! ให้เพื่อนอีกคนไปหารีวิว ว่าจะไปที่นี่อ่ะ ไปยังไงได้บ้าง แล้วพอดี ไปเจอรีวิวในกลุ่มท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งในเฟส พี่เค้ารีวิวไว้ค่อนข้างละเอียดมากก เราก็ตามรอยเลยจ้าาา อ่านคร่าวๆแล้ว เห้ย!! คือมันไปไม่ยากนะ เหมารถไปทีเดียวจบ (เราไม่มีรถ) เลยให้เพื่อนจัดการ ติดต่อเรื่องเหมารถและที่พัก ว่าจะไปวันนี้ อะไรยังไง เสร็จปุ๊ป ได้วันล่ะ วันสุดท้ายของหยุดยาวพอดี คนคงไม่น่าจะเยอะนะ ดูพยาการณ์อากาศด้วย เลยล่ะกัน อ้าวเห้ยย!! พายุเข้าอ่ะ ช่วงนั้น แต่ไม่เป็นไร ความอยากไม่เข้าใครออกใคร เราไม่แคร์พายุ แม้จะแอบหวังให้มันคลาดเคลื่อนก็ตาม T^T
และแล้ว ก็ถึงวันเดินทาง เราตามรอยที่เค้ารีวิวไว้เป๊ะเลย ไปขึ้นรถข้างเซนจูรี่ 250 บาท เค้าจะไปส่งที่อุทยานเลย
ถึงอุทยานแล้ววว พวกเราก็ไปติดต่อเรื่องเข้าพักและค่าเข้า อุทยาน รวม 130 บาท นั่งกินข้าวเหนียวหมูแปปนึง ก็โทรตามรถเหมาที่ติดต่อไว้ให้มารับ โทรไปแปปๆพี่แกมาไวมากกก
นี่คือรถที่พาเราไปกันค่ะ พี่คนขับ ชื่อ พี่ปิง พี่แกพาไปสะพานแขวนก่อนที่พวกเราจะขึ้นไปพะเนินทุ่ง ก็ถ่ายรูป กันสักพัก วันนี้คนไม่เยอะ เลยใช้เวลาไม่นาน
แต่ได้รูปมาพอสมควร ลงเฟสเชคอินได้อยู่ 555
ไปต่อค่ะ เราจะขึ้นเขากันแล้ววว พี่ปิงจอดให้เราซื้อขนม ก่อนขึ้น เพราะข้างบนของขายค่อนข้างน้อย มีเฉพาะ ของศูนย์บริการ
ระยะทาง 50 กิโล ไปพะเนินทุ่ง แต่เราจะถึงบ้านกร่างกันก่อน ก่อนถึงบ้านกร่าง มีมุมเด็ดที่คนชอบถ่ายรูป คืออุโมงค์ต้นไม้ แต่ขาไปเรายังไม่จอด ค่อยแวะตอนขาลงในวันพรุ่งนี้ค่ะ
ตลอดทางที่มา ก็มีอะไรให้ดูเรื่อยๆ โดยเฉพาะผีเสื้อนี่มีมาตลอดทางเลย แต่ทีบ้านกร่างจะเยอะสุดด
ในที่สุด เราก็มาถึงบ้านกร่าง กันแล้วค่ะ ไปดูผีเสื้อกานนนนน ^_^ εїз
อันนี้เป็น ลานผีเสื้อ เค้าจะวาง เกลือ กับอะไรสักอย่างที่เค็มๆไว้ให้ผีเสื้อ มาเกาะ บอกตรงๆว่าคนเขียนกระทู้ พึ่งรู้วันนี้เองว่าผีเสื้อไม่ได้ชอบหวาน นี่เราเข้าใจผิดมาตลอดหรอนี่ 555 ความรู้ใหม่เลยค่ะ
ผีเสื้อที่เราเห็นไม่ได้มีเฉพาะตรงลานผีเสื้อนะคะ แต่จะมี เยอะมากตรงที่เป็นลำธารเล็กๆ หลังจากเข้า ด่านบ้านกร่างมาแล้ว ตอนจะขึ้นเขาพะเนินค่ะ
ตามเก็บภาพ กันอย่างต่อเนื่อง
เราชอบ เจ้าสองลายนี้มากๆเลยยย <3
ผีเสื้อที่เราเห็นจะมีหลายสีด้วยกัน แบ่งตามสายพันธุ์ แล้วยังมี แบ่งเป็นกลางวัน กลางคืนอีกนะ อันนี้พี่เจ้าหน้าที่ข้างบน เค้าบอกมาว่า ให้เราสังเกตที่หนวดของมันกันค่ะ ว่าตัวไหนกลางวัน หรือ กลางคืน ซึ่งเราก็ยังดูไม่เป็นอยู่ดีอ่ะะ +_+
แอบถ่าย เพื่อน ร่วมทริปซะหน่อย มุมกำลังได้ ^_^
อันนี้พี่ปิงถ่ายให้ เราชอบรูปนี้ กำลังเพลินเลยย
มาดูแบบมีลำธารกันบ้าง น้ำใสน่าเล่นมากค่ะ ทำให้เราอยากไปน้ำตกมากๆเลยยย
ตัวนี้ แกอโลนไปนะ
เพื่อนเรา คนนี้ ผีเสื้อตามเกาะตลอดดด เราจึงสันนิษฐานกันว่า นางต้องเค็มแน่ๆ 5555
ตัวนี้เหมือนใบไม้เลย กลมกลืนสุดๆ
ขึ้นมาเรื่อยๆก็เจอผีเสื้อเป็นระยะ เป็นช่วงๆ มีจุดนึง เห็นคนนอนกันเต็ม แวบแรก นึกว่าคนเป็นอะไร มาดูใกล้ๆอ่อ เค้าถ่ายรูปผีเสื้อกันอยู่ มองไกลเล่นเอาตกใจหมดด (ขออนุญาต คนในรูปนะคะ )
ความตั้งใจของพี่แก เต็มเปี่ยมกันมากก สุดยอดดด
ขึ้นมาสักพักเลย จุด ที่มีผีเสื้อมาแล้ว ทางที่ขึ้นมาค่อนข้าง ลุยเอาการ ระยะทาง ไม่กี่กิโล แต่ใช้เวลา ถึง 2 ชม. ด้วยกันกว่า พวกเราจะไปถึงยอด นั่งโยกกันไปตลอดทางง เราสามคน สลับไปนั่งข้างหลังรถบ้าง เพื่อที่จะได้สัมผัสธรรมชาติ สูดอากาศ เต็มที่กินลมชมวิว ถ้าฝนตกก็กลับมานั่งข้างใน
วิวข้างทาง ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ตรงไหนสวย พี่แกจอดให้เราเก็บภาพกันเต็มที่ ไปกันแบบไม่รีบร้อน
และแล้ว เราก็ถึง จุดบริการด้านบนกันแล้ววว จุดนี้เป็นจุดที่มีลานกางเตนท์และคอยบริการอาหารเครื่องดื่ม แต่ถ้าเราจะเข้าไป ดูทะเลหมอกเราต้องขึ้นไปอีก แต่ไม่ต้องเดินนะ เอารถเข้าไปได้ จอดแล้วเดินอีกนิดหน่อย ลุยค่ะะะ !!
อันนี้เป็นทางขึ้นไป จุดชมวิว ที่สวยสุด (สำหรับเรา) ของพะทุ่งเนินนะคะ แต่จะมีอีกจุดนึงซึ่งเข้าไปอีก 6 กม.
ถึงแล้ววว จุดชมวิว
ช่วงเวลาของการเก็บภาพพ ไม่มีทะเลหมอกก็ไม่เป็นไร
หลังจากนี้เราก็ เดินเล่นแถว ๆนั้น ดูต้นไม้ ดอกไม้ แล้วก็เจอสัตว์อะไรแปลกๆด้วยยยย
นี่คือภาพบางส่วน มาดูกันว่า เจอ สัตว์ อะไรบ้าง ??
เสียดายมากที่เรา ไม่เจอ เม่น ซึ่งเจ้าเม่นนั้นจะชอบออกมาหาอะไรกินหลังครัวของศูย์บริการ ที่ขายอาหาร
เดินกันไปเรื่อยๆ
เราก็เดินเก็บภาพของเราไป เจอน้องงู ด้วยแหละ เห้ออ !! เล่นเอาตกใจ กล้องเกือบหลุดมือ แน่ะ
พี่ปิง ชี้ให้ดูนกเงือก เสียดายมันไกลไปหน่อย กล้องเราไม่สามารถเก็บภาพมาได้
หิวแล้ววว ได้เวลาอาหารเย็นพอดี และนี่คือมื้อเย็นของพวกเรา จาก พี่ๆที่ใจดี เอามาให้ รสชาติดีมากๆเลย หมักเหมือนบาบีคิว นึกแล้วก็หิว ไม่อยากจะบอกว่าตอนแรกเรากะโซ้ยมาม่า กันแหละ อิอิ
เรานั่งกินไปด้วย คุยไปด้วย เพลินมาก พี่ๆแกเล่าเรื่องราวอะไรต่างๆให้ฟัง เล่าประสบการณ์ ที่อยู่ที่นี่ ว่าเจออะไรมาบ้าง ทำงานมาแล้วกี่ปี มีเรา สามคน พี่ปิง แล้วก้อพี่ๆอุทยาน อีก สองคน คนนึงเป็นพี่ชายของพี่ปิง นั่งคุย ฟังเพลง ไปไม่ได้ดูเวลาเลย อ้อ!! ลืมบอกว่าที่นี่ ใช้ไฟจากโซล่าเซลล์ ไฟน้อย นังกันแบบสลัว มีปิดเปิดไฟเป็นเวลา บางทีก็ใช้แบตเตอรรี่ชาต โทรศัพท์ ดีนะที่มีแบตสำรองมา ซึ่งสัญญาณโทรศัพท์ของที่นี่ ก็ใช้ได้แค่ AIS กับ TRUE
DTAC ก็นั่งแหง่วไปจ้าาา อีกเรื่องที่เราเสียดายมากกับทริปนี้คือ
คุยไปคุยมา เริ่มง่วง ได้เวลานอนนนน แยกย้ายค่ะ
ไม่อยากคิดตอนจะอาบน้ำว่าจะเย็นขนาดไหน ฝนตกขนาดนี้
แล้วมันก็หนาวจิงๆด้วยยยย ขนาดแค่ 20 องศา นะคะเนี่ย (อุณหภูมิห้อง)
เช้าวันต่อมา เราตื่นตีห้ากว่าๆ เหมือนฟ้าจะเปิด ก็แอบดีใจนิดๆ นอนต่ออีกหน่อย ตื่นมาอีกที 6 ครึ่ง เห้ยยย ฝนตกอ่ะ ลมก็มา หมอกฟุ้งซิครัชช ทะเลหมอกที่หวังไว้ อดอีกแล้วจ้าาาา
ตื่นปุ๊ปก็อาบน้ำแต่งตัวไปทานข้าวเช้ากัน ก่อน เมนูวันนี้ คือ ข้าวผัดกระเพราไข่ดาว
ทานข้าวเสร็จเราก็ไปจุดชมวิว ที่สอง ที่ต้องเข้าไปอีก 6 กม. ขาไปเราว่ามันดูไกลนะ แต่ตอนกลับแปปเดียวเองอ่ะ ทางที่ไปก็ค่อนข้างลำบาก เพราะฝนตก น้ำไหล ดินทรุดบ้างเป็นระยะ (เป็นลูกรัง)
ถึงแล้วค่ะ ไปดูกัน
ฟ้ายังครึ้ม เหมือนเมื่อวาน เห้อออ พายุนะพายุ
เก็บภาพมาเล็กน้อย โดยพี่ปิงเจ้าเดิม พี่แกถ่ายรูปโอเคเลย ต่างจากรูปแรกที่ถ่าย เมื่อวาน 555 ตอนให้ถ่าย พี่แกบอก ถ่ายรูปไม่เก่ง เก่งแต่ขับรถ ตอนแรกเชื่อนะ แต่พอให้ถ่ายเรื่อยๆ ฝีมือใช้ได้เลยพี่ เราก็เลยให้พี่ปิงถ่ายภาพหมู
เก็บภาพพอสมควร ก็กลับไปลานกางเตนท์เพื่อเก็บของ สัมภาระ เตรียมตัวลง เขา
อันนี้เป็นต้นไม้ ที่มีความสมบูรณ์ ในองค์ประกอบที่ลงตัว พี่ปิงจอดให้เราเก็บภาพ ก็จัดเลยค่ะ
เก็บของเรียบร้อยก็ขอ ถ่ายรูปเล่นตอนฝนพรำกันซะหน่อย ไหนๆก็เอาชุดกันฝนมาล่ะ
ที่นี่มีตู้โทรศัพท์ด้วยนะคะ แต่ไม่รู้ว่าใช้ได้มั้ย
จะลงเขาแล้วก็ลาพี่ๆกัน ตอนจะลงก็รอฝนซาอีกนิดถึงจะลงได้
เค้าจะไปแล้วนะ พะเนินทุ่ง ถ้ามีโอกาสจะกลับมาดู ช้างเผือกให้ได้เลยยย
ยังไม่จบนะคะ เดี๋ยวมาต่อ[:เพี
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น