หลังจากการแข่งขันโอลิมปิกรอบคัดเลือกที่ญี่ปุ่น จนทำให้เกิดแมตช์อัปยศที่ค้านสายตาคนทั้งโลกทำให้เจ้าภาพ ประเทศญี่ปุ่นและสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ต้องเสียหน้าและโดนโจมตีจากแฟนวอลเลย์บอลจากประเทศสมาชิกต่างๆทั่วโลก แต่สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ หรือ FIVB ได้ตอบรับคำวิจารณ์เหล่านั้นด้วยการให้ข้อมูลเบี่ยงประเด็นความสนใจไปที่โค้ชและกับตันทีมชาติไทย ซึ่งในเนื้อหาได้กล่าวถึงการขาดวินัย ของกัปตันทีมชาติและโค้ชของ ทีมชาติไทย
       
             หลังจากนั้นอีกระรอก สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติได้ออกจดหมายเชิญทุกทีมที่เข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้ด้วยหัวเรื่อง In order to avoid and solve the confusion of the use of tablet ซึ่งดูเหมือนว่าการแข่งขันในแมตช์อัปยศนี้คงจะถูกกำหนดว่าเป็นปัญหาระบบเทคโนโลยี แต่กระนั้นก็ไม่เป็นไปตามที่คาดหมาย เนื่องจากเนื้อหาที่เรียกประชุมเป็นเพียงการสอนการใช้ระบบบงานที่อยู่บนแท็ปเล็ตและแถมทิ้งทายด้วยว่าให้ทุกทีมกลับไปอ่านคู่มือให้เข้าใจและระบบนี้จะถูกนำไปใช้ในการแข่งขันอื่นๆต่อไป ซึ่งเท่ากับเป็นการบอกให้ทุกทีมที่เข้าร่วมรับทราบว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากระบบ หากแต่เกิดจากความไม่เข้าใจในการใช้งานของผู้ใช้เองโดยให้กลับไปอ่านคู่มือการใช้ให้ละเอียด นั่นเท่ากับเป็นการตบหน้าทีมงานของไทยซ้ำหลังจากประเด็นเรื่องการขาดวินัยของทีมชาติไทย

       คลื่นที่ถาโถมยังคงไม่หมดไป เมื่อสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติปฏิเสธการยื่นขอสอบจริยธรรมของกรรมตัดสินที่หนึ่งชาว นายหลุยส์ เจราร์โด มาเซียส เป็นชาวเม็กซิโก อายุ 45 ปี โดยทางสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติปฏิเสธการสอบจริยธรรมผู้ตัดสินเนื่องจากทีมชาติไทย "ไม่ยื่นหนังสือร้องเรียนภายใน 1 ชั่วโมง"

      เรื่องที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเหตุให้ "บิ๊กติ๋ม"  เรืออากาศโท ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ  ผู้บริหารสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย และ กรรมการบริหารสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ประกาศลาออกจากทุกตำแหน่งในสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ เผยรับไม่ได้กับแมตช์อัปยศ แถมโค้ชและกัปตันทีมไทยยังถูกตำหนิว่าไร้วินัย
       
       “ผมขอลาออกจากทุกตำแหน่งของ เอฟไอวีบี เป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ ยังยกเลิกการร่วมทำหน้าที่ควบคุมการแข่งขันโอลิมปิกที่ประเทศบราซิล โดยงานสุดท้ายที่จะทำหน้าที่เป็นการแข่งขันเวิลด์กรังด์ปรีซ์ รอบชิงชนะเลิศที่ประเทศไทย และจะทำงานเฉพาะทวีปเอเชียให้ครบอีก 3 ปี จนครบวาระเท่านั้น”

ซึ่งเรื่องดังกล่าวยังไม่จบลงเพียงการลาออกจากทุกตำแหน่งของ บิ๊กติ๋ม เท่านั้น ยังคงมีการสอบถามเชิงตอบโต้จากทางสมาพันธ์อย่างไม่เป็นทางการ โดยเนื้อความระบุบถึงการที่สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติไม่รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นมาก่อน และกล่าวในเชิงลบว่าจะส่งผลให้กิดปัญหาระหว่างสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย กับ สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติได้



               จากแม็ตอัปยศที่เกิดขึ้น รวมทั้งการตอบรับการร้องเรียนเรื่องต่างๆไปยังสหพันธ์ในทุกครั้งนั้น การตอบกลับนอกจากจะไม่รับผิดชอบต่อผลที่เกิดขึ้นแล้วยังมีผลกลับมาในลักษณะพุงเป้ามาทางฝ่ายไทยเป็นผู้กระทำผิดเสียเอง ทั้งหมดนี้อาจทำให้เข้าใจได้ว่าสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติจะไม่มีทางยอมรับข้อผิดผลาดที่เกิดขึ้น รวมทั้งอาจจะยังปานปลายในการพุ่งเป้าหมายไปที่การแข่งขันของทีมชาติไทยในครั้งต่อๆไป โดยเฉพาะเรื่องวินัยในการแข่งขันซึ่งเป็นไปตามจุดยืน และการกระทำที่สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติได้ให้ข่าวและกระทำไว้ก่อนหน้า

           ผมจึงอย่ากให้เราพัฒามากยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีก เพราะแน่นอนว่าหนทางต่อจากนี้เราจะต้องเจอขวากหนามจากอคติและการทำให้สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชติเสียหน้าทั้งๆที่เป็นการกระทำของสหหพันธ์เอง และเราไม่เป็นเพียงเหยื่อที่ไม่ยอมดิ้นตายให้สหพันธ์เฉีอดง่ายๆเท่านั้น นี่หากเราไม่เป็นขวัญใจของเหล่าบรรดาแฟยวอลเลย์บอลทั่วโลก และการแสดงสปิริตในการแข่งขันครั้งนี้ให้เห็นแล้ว ทีมชาติทั้งทีมอาจถูกสร้างคำกล่าวหาโดยสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติอีกอย่างแน่นอน ไม่เพียงเฉพาะแค่กัปตันหน่องและโค้ชอ๊อต แต่อาจเป็นคำกล่าวหาต่อทีมชาติไทยทั้งทีม ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณ สาวๆทุกคนที่ฝากสปิริตที่โลกจะไม่มีวันลืมถึงแม้ว่าเราอาจจะโดนเศษน้ำลายของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติไปบ้าง

          สุดท้ายนี้ขอฝากน้องๆรุ่นหลังๆที่กำลังจะขึ้นมาแทนรุ่นพี่ จงจำวินาทีนี้ไว้ให้ดีว่าขนาดเราพยายามและแสดงสปิริตจนถึงจุดนี้แล้วยังไม่พ้นที่จะถูกกล่าวหาได้ หนทางต่อจากนี้ไปจะขรุขระว่ารุ่นพี่ๆที่เคยเดินมาในมุมของการแข่งขัน พวกเธอจงเอากำลังใจแรงเชียร์จากทุกคนที่รักพวกเธอฝ่าอุปสรรค์เหล่านี้ไปให้ได้ว่าเราจะแกร่งยิ่งๆขึ้นไปอีก ไม่ว่าทางเดินข้างหน้ามันจะสกปรกโสโครกขนาดไหน พวกเธอจะทำให้เป็นเป็นชัยชนะที่สะอาดและบริสุทธิให้ได้

                                                                                                                                                       -Shadow walk-