ผมรู้สึกพลาดอย่างแรงที่ย้ายจากทรู มาใช้ Dtac ทั้งๆที่สมัยก่อน ย้ายออกมาเพราะทนกับปัญหาสัญญาณของ dtac trinet ไม่ได้
ระหว่างที่ใช้ true เห็นความแตกต่างชัดเจน คุณภาพสัญญาณ คุณภาพเนต ดีมาก ใช้มาเกือบสองปี แต่รู้สึกแย่กับบริการต่างๆ ของศูนย์ทรู

ครั้งหนึ่งรู้สึกแย่อย่างแรงกับการใช้บริการศูนย์ทรู ด้วยความโมโห จึงตัดสินใจย้ายค่ายหนี และเลือกดีแทค ด้วยหวังว่า หลังจากดีแทคทำ 4G แล้ว อะไรๆมันน่าจะดีขึ้น (อย่าถามว่าทำไมผมไม่เลือก AIS เพราะผมมีเบอร์ AIS อยู่แล้วครับ เลยทราบว่าคุณภาพเนตกับพื้นที่ครอบคลุม สู้อีกสองเจ้าไม่ได้)

ผมย้ายเบอร์ผมทั้งสามเบอร์ออกจากทรู มาดีแทคพร้อมกัน ถึงวันนี้ก็ครบ 1 เดือนแล้ว ขอสรุปให้เลยว่า ผมพลาดอย่างแรง

ปัญหาเดิมๆของดีแทคเมื่อสองปีที่แล้ว ยังเป็นเหมือนเดิม สัญญาณอินเตอร์เนตไม่เสถียร จังหว่ะสลับคลื่นจาก 850/1800 ไป 2100 3G ไป 4G เกิดการ LAG อย่างชัดเจน ทุกพื้นที่ทั่วประเทศที่ได้ลองใช้งาน ซึ่งปัญหานี้ไม่เกิดกับทรูเลย

ที่แย่ที่สุดคือ ในพื้นที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ที่ผมใช้งานประจำ สัญญาณแย่มาก เนตไม่วิ่ง สลับสัญญาณมั่วไปหมด หลายๆครั้ง ตัดเป็น edge เฉยๆ

(FB ไม่ต้องถามหาบริเวณ สถานที่ใกล้เคียงอะไรนะครับ ผมแนบแผนที่บริเวณที่มีสัญญาณให้แล้ว  มันกว้างมากๆ)



ผลต่อมาเมื่อเครื่องโทรศัพท์มีปัญหาในการจับสัญญาณ ผลคือ แบตหมดเร็วกว่าเดิมมากครับ จากเดิมใช้ซิมทรู แบตจะใช้ได้ถึง 19.00 น. โดยเฉลี่ย แต่พอเปลี่ยนเป็น dtac ประมาณ 16.00 น. แบตก็หมดแล้วครับ

ตอนนี้ก็ได้แต่ทำใจ เห็นโฆษณา Dtac Strong ก็ได้แต่ถอนใจ เงิน 70,000 ล้าน จะปรับปรุงคุณภาพสัญญาณ ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมา ก็เห็นๆอยู่ว่า มันไม่ได้ดีขึ้น กลับแย่ลง

แต่อย่างไรแล้ว ผมจะให้โอกาสอยู่ครับ ผมจะรอดูจนถึงเดือนมกราคม 2560 ถ้ายังไม่ดีขึ้น คงเลิกรากับดีแทค แล้วไม่หวนกลับมาใช้ครั้งที่ 3 แน่นอน

สำหรับเพื่อนๆ สมาชิกที่ใช้ทรูหรือเอไอเอส แล้วกำลังคิดว่าย้ายมาดีแทค ก็ดูประสบการณ์ของผมเป็นตัวอย่างนะครับ
บางค่ายบริการที่ศูนย์อาจไม่ดี แต่การใช้โทรศัพท์นั้นผมว่า เรื่องคุณภาพสัญญาณน่าจะสำคัญที่สุด

บริการประทับใจ แต่สัญญาณห่วยแตก มันเซ็งกว่าครับ

ถ้าเจ้าเดิมที่ใช้อยู่สัญญาณดีอยู่แล้ว อย่าคิดเปลี่ยนมาใช้ดีแทคครับ ถ้าไม่อยากเจอปัญญหาแบบที่ผมเจอ