เมื่อกฎหมายมีปัญหา ก็จะพาบ้านเมืองวุ่นวาย เฮ้อออ..........................

ผมหมายถึง พ.ร.บ.ประชามติ  นั่นแหละครับ  (พระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559)

ที่ผ่าน ๆ มา   เรามักจะพูดกันว่า  กฎหมายนั้นดี  ไม่ดีที่การบังคับใช้กฎหมาย
แต่สำหรับ พรบ.ประชามติ นี่  ผมว่า  ตัวกฎหมายนี่แหละ  ต้นตอของปัญหาพาวุ่นวายเลย

ก็ขนาดคนระดับนายมีชัย  ฤชุพันธุ์  คนร่างรัฐธรรมนูญเอง  ยังโดนร้องว่ากระทำผิด พรบ.ประชามติ
ก็ขนาดคนระดับโฆษกรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ  แก้วกำเนิด  ยังโดนร้องว่ากระทำผิด พรบ.ประชามติ

แล้วชาวบ้าน   รด.   ครู ก.  ครู ข.  ครู ค.   จะเหลือเร๊อะ ?
นักการเมือง  ผู้นำทางความคิดในชุมชน  หัวคะแนน  นักวิชาการ  ผู้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ   จะเหลือเร๊อะ ?

อีรุงตุงนังแน่ครับ  ในยุคภาพและเสียงบันทึกได้ง่าย ๆ



สนช. รับผิดชอบอะไรไหม ?
กกต. สำนึกรู้ว่าพลาดอะไรไหม ?

หรือไม่รู้สึกอะไรเลย ?    




ต่อให้พูดได้ฝ่ายเดียว  นำเสนอได้ฝ่ายเดียว   แต่หากพูดพลาดนิดเดียว  พูดในสิ่งที่ไม่คิดว่าจะผิด
ก็เป็นปัญหาได้   โดนร้องเอาผิดได้ง่าย ๆ

ปัญหาที่จะซ้ำซ้อนตามมาอีก  ก็คือ เมื่อมีการร้องเอาผิด
หากมีการเอาผิดบางฝ่าย  ไม่เอาผิดบางฝ่าย   แน่นอน   วุ่นหนัก !!!




การวางยาทางกฎหมาย   กฎหมายอันควรเป็นเครื่องมือสร้างความเป็นธรรมสร้างความยุติธรรมในสังคม
แต่เมื่อมีการใช้กฎหมายป็นเครื่องมือเพื่อผลทางการเมือง

มองเห็นแต่ปัญหา   มองเห็นแต่ความขัดแย้ง   มองเห็นแต่ความวุ่นวายครับ
ไม่วันนี้  ก็วันหน้า





งานนี้  นักค้าความขัดแย้งเห็นสวรรค์รำไร