ขอแชร์ประสบการณ์และความคิดของตัวเองบ้างนะคะ เรื่องการรังแกกันในโรงเรียน

เราโพสลงเฟสบุ๊ค แล้วเพื่อนแนะให้เอามาลงพันทิป ก็เลยเอามาลงค่ะ ถือว่าแบ่งๆ ประสบการณ์ที่เราเจอมาบ้าง
เพราะเราก็เห็นกระทู้เกี่ยวกับการถูกรังแกในโรงเรียนอยู่บ่อยๆ เราไปตอบก็หลายหนอยู่ แต่ไม่เคยตั้งเองเลย
.....................................................................................................................................
ทำไมเวลามีเรื่องการรังแกกันในโรงเรียน นี่ถึงโมโหทุกครั้ง?
ทำไมถึงได้บ่นเรื่องนี้ตลอดไม่จบไม่สิ้น?
อืม....เริ่มจากตรงไหนดีล่ะ เอาเป็นว่า ค่อยๆ เล่าให้ฟังเลยละกันนะว่าโดนอะไรมาบ้าง
ตอนมัธยมต้นเราค่อนข้างจะเป็นเด็กเงียบๆ (สำหรับคนที่ไม่สนิท) ใส่แว่น ตัวอ้วนกลม ดูเนิร์ดๆ ชอบอ่านหนังสือ มีเพื่อนที่คุยกันจริงจังไม่เกินสามสี่คน
เราไม่รู้ว่าเราทำอะไรผิด เรานิสัยไม่ดีตรงไหน หรือเพราะเราไปทำอะไรขัดหูขัดตาใคร แต่เราโดนแกล้งบ่อยมาก บ่อยจริงๆ และบางทีเพื่อนยังซวยโดนไปด้วย
มันเจ็บมากที่บางครั้งอาจารย์รู้นะ แต่ไม่ทำอะไรเลย
จะเล่าโดยเอาเท่าที่จำได้นะ (แหมมันก็ร่วมสิบปีมาแล้วนะ)
ครั้งนึง เรียนวิชาพละ ตอนนั้นรู้สึกจะอยู่สนามบาส จู่ๆ โดนเพื่อนในห้องเอาเชือกไนล่อนมาพยายามจะรัดคอเรา เราก็สู้กลับสิ ส่วนอาจารย์เหรอ หันมาพูดแค่ว่า พวกเธอเป็นผู้ชาย อย่ารังแกผู้หญิงสิ แล้วฮีก็หันไปมองสนามบาสต่อ ขอบใจนะ
และอีกหนนึงตอนพักกลางวัน โดนขังไว้ในห้องเรียนคนเดียว จนเราต้องปีนออกมาทางหน้าต่าง
เคยโดนเอาสมุดรายงานไปซ่อน ส่งไม่ทัน ต้องทำใหม่
เขียนจดหมายหาเพื่อนที่โรงเรียนเก่า ตอนพักกลางวันโดนค้น เอามาฉีกซองอ่านหน้าห้อง
โดนเอากาวมาละเลงที่กระเป๋ากับโต๊ะ ทั้งของเราและเพื่อนที่นั่งข้างๆ กัน
มีวิชาเกษตร ตอนม.2 หรือม.3 ไม่แน่ใจ อาจารย์ (ซึ่งก็เป็นอาจารย์ฝ่ายปกครองด้วยนะ) ให้แบ่งกลุ่มกันจัดสวน และกลุ่มของเราทำได้ไม่ทันข้ามวันเลย โดนรื้อเทะเละทุกครั้ง ทุกรอบที่ทำ ซึ่งไม่ต้องถามก็รู้ โดนแกล้งขนาดนี้เพราะเป็นกลุ่มของเราเนี่ยแหละ (แล้วเพื่อนเราเกี่ยวไรถึงต้องซวยด้วย) แล้ววิธีการแก้ปัญหาของอาจารย์คือ พูดแบบไม่สนใจว่าไปเอาต้นไม้ที่เหลือๆ จากกลุ่มอื่นมาจัด แล้วให้คะแนนกันเดี๋ยวนั้นเลย ตอนนั้นเนี่ยแบบ WTF เป็นอาจารย์ฝ่ายปกครอง แต่ไม่ทำอะไรเลย แล้วพวกเราจะพูดอะไรได้
ตอนเย็นๆ เดินอยู่ดีๆ ก็มีเพื่อนผู้ชายในห้อง จับตัวเราลากมาเหวี่ยงไปมาแล้วตอนนั้นตั้งหลักไม่ทันไง เลยได้แต่เซไปมาตามแรงเหวี่ยงของมัน โดยมีรุ่นพี่ผู้ชายกลุ่มใหญ่ยืนดูอยู่แล้วหัวเราะ
อันนี้คือเหตุการณ์พีคๆ ที่เราจำได้นะ ยังไม่รวมว่าโดนแซว โดนด่า โดนแกล้งเล็ก น้อยๆ รายวันอีกไม่รู้กี่หน เอาเป็นว่าถามว่าวันไหนไม่โดนแกล้งนี่เราจำไม่ได้
ตอนนั้นเราเลือกจะเงียบและไม่ตอบโต้นะ ซึ่งพลาดมาก กลายเป็นว่าโดนหนักกว่าเดิม
สุดท้ายทนไม่ไหว แล้วไม่รู้จะทำยังไงแล้ว บอกพ่อแม่สิ เพราะอาจารย์ก็ช่างจะเฉย จนพ่อแม่มาถึงโรงเรียน หลังจากนั้นเราไม่โดนแกล้งอีก แต่โดนคนครึ่งค่อนโรงเรียนเกลียดหน้า หาว่าเราไม่อดทน เป็นเด็กขี้ฟ้อง เดี๋ยวนะ การอดทนคือการต้องทนโดนเหยียบย่ำศักดิ์ศรีเราอยู่ทุกวันเนี่ยนะ มันใช่เหรอ
จบม.3 ย้ายมาเรียนที่บ้าน อยู่ต่อก็โง่ละ
ย้ายมาโรงเรียนใหม่ ปีแรกมีปัญหาปรับตัวเยอะมากเหอะ คิดว่าโดนมาขนาดนั้นจะให้มีมนุษยสัมพันธ์ดีขนาดไหนกัน ไม่เป็นบ้า ไม่ฆ่าตัวตายก็ดีขนาดไหนแล้ว
ผ่านมาหลายปี เราก็ยังได้ยินเรื่องการรังแกกันในโรงเรียนหลุดรอดออกมาบ่อยๆ ยังมีคนรุ่นเดียวกันที่เคยมีประสบการณ์แบบเรามาแบ่งปันเล่าให้ฟังว่าโดนอะไรมาบ้าง
มันก็เป็นอะไรที่สะท้อนสังคมตอนนี้ได้เหมือนกันนะว่าคนไทย ละเลยปัญหาการกลั่นแกล้งในโรงเรียนมานานเกินไปแล้ว และทุกครั้งที่มีปัญหานี้ ก็จะหมอบการ์ด "แค่หยอกกันเล่นๆ ขำๆ น่า อย่าซีเรียส"
แม้แต่ครูบางคนยังไม่เห็นเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องจริงจังด้วยซ้ำ กลับมองว่าก็แค่เด็กล้อเล่นกัน ทำไมต้องซีเรียส?
ไม่ซีเรียสได้ไง คนทำน่ะสนุก แต่คนถูกกระทำน่ะไม่สนุกนะ งั้นให้เราลองเอาเชือกไปรัดคอแกแบบที่เราเคยโดนมั่ง แกจะสนุกกับเรามั้ยล่ะ!!!! ฮะ ลองดูมั่งมั้ยว่าสนุกรึเปล่า
ปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละ สังคมไทยไม่เคยสอนให้เคารพความเป็นคนของคนอื่นเลย ไม่เคารพกระทั่งตัวเองด้วยซ้ำ เพราะถ้าเคารพตัวเอง ก็คงไม่ทำอะไรเสียเกียรติแบบนั้นหรอก
นอกจากไม่เคารพตัวเอง ไม่เคารพคนอื่นแล้ว บางคนยังจะเอาหลักธรรมมาสอนเราอีกว่าให้อภัย อโหสิ ให้ตายเถอะ จะอภัยได้ไงกันถ้าคนทำยังไม่รู้เลยว่าที่ทำน่ะผิด เราถามหน่อย ไอ้สังคมที่ดีแต่ท่องคำว่าอโหสิกรรมเป็นนกแก้วนกขุนทองโดยที่คนพูดไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองถูกปลดปล่อยจากปมที่ถูกรังแกเนี่ยมันโอเคจริงๆ เหรอ
เราไม่โอเค ไม่ปล่อยวางด้วย บ่นมากก็โดนด่าว่าเจ้าคิดเจ้าแค้นไปอีก
สุดท้ายการพยายามหลอกตัวเองว่าให้อภัย ทั้งที่เราไม่ได้รู้สึกปล่อยวางจริงๆ มันก็จะเป็นแค่การพยายามเก็บกดความรู้สึกเราเองไว้ข้างใน เก็บไว้จนไม่รู้ว่ามันจะระเบิดออกมาตอนไหน และจะระเบิดออกมาในรูปแบบอะไรก็ไม่รู้แหละ เราอาจกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องโรคจิตไปเลยก็ได้ถ้าปล่อยจนถึงขั้นนั้น
ตอนนี้เราเลยเลือกที่จะอยู่กับมัน ยอมรับมัน เพราะยังไงมันก็คือส่วนหนึ่งของตัวเรา คือจุดหนึ่งที่หล่อหลอมตัวเราจนเป็นแบบเราในทุกวันนี้นี่แหละ ปฏิเสธมันไม่ได้ ลืมยิ่งไม่ได้ ก็ยอมรับมันไปเลยละกัน เชิ่ดหน้าด้วยว่าตอนนี้เราโตขึ้น แกร่งขึ้น และใครมาทำอะไรเราแบบตอนนั้นไม่ได้แล้ว แต่เราจะไม่ทำร้ายใคร จะไม่ทำแบบนั้นกับใครเด็ดขาด

แล้วนี่เราจริงจังนะ เราว่าผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการศึกษา ควรแก้ปัญหาเรื่องการรังแกกันในโรงเรียนได้แล้ว อย่าปล่อยให้มันเรื้อรังแบบนี้เลย เราจะปล่อยลูกหลานเราไปโรงเรียนโดยที่ไม่รู้ว่าแกจะโดนรังแก หรือแกจะไปรังแกใครมั่งแบบนี้น่ะเหรอ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่