หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
“ ซินจ่าว Rainy Day! เวียดนามเหนือ... ตระกาลตาสุดอลังกับนาข้าวขั้นบันได (ต้อนรับย่างก้าวสู่ฤดูฝน)
กระทู้สนทนา
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
Backpack
เมื่อช่วงปี พ.ศ.2558 ตัวผมได้มีโอกาสไปเวียดนามทางตอนเหนือช่วงฤดูฝน ได้เห็นและดื่มด่ำกับบรรยากาศของวิวธรรมชาติสวยๆอันเขียวขจี ทุ่งนาข้าวสุดอลังการของประเทศเวียดนาม เลยไม่อยากเก็บความรู้สึกสุดฟิน ณ ตอนนั้นไว้เพียงคนเดียว มาวันนี้พอจะมีเวลาว่าง เลยอยากจะรวบรวมความสุขในครานั้น ที่ได้ผจญภัยไปกับชาวแก๊ง มาแบ่งปันให้เพื่อนๆใน pantip ได้เสพกันครับ
“ซินจ่าว” (ภาษาเวียดนามแปลว่า “สวัสดี” ) สวัสดีทักทายเพื่อนๆพี่ๆน้าๆใน pantip ทุกๆคนครับ ทริปนี้ขอทักทายในแบบเวียดนามสไตล์หน่อยนะ พอดีช่วงเข้าพรรษาหยุดยาวที่ผ่านมาเนี่ย (พ.ศ.2558) กระผมได้มีโอกาสแบคแพคไปเที่ยวเวียดนามทางตอนเหนือมาครับ หลายๆคนคงสงสัยใช่ไหมว่า เวียดนามทางตอนเหนือมันมีอะไรน่าเที่ยวหรอ? ทำไมผมถึงต้องไปเที่ยวสะไกลเลย ก็จะบอกให้ว่า มี!! และแจ่มมากๆด้วย! สำหรับเวียดนามทางตอนเหนือ
ถ้าหากใครที่ชื่นชอบบรรยากาศธรรมชาติๆในช่วงฤดูฝน ทุ่งนาสีเขียวสุดอลัง อากาศดีๆ สามารถสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดได้แบบสดชื่นสุดๆ ก็ต้องรูทนี้เลยครับ จากเมืองฮาน่อย สู่เมืองซาปา เส้นทางนี้สวยงามตลอดทั้งเส้นทาง รับประกันความสวยงามจริงๆครับ!..... โดยผมตั้งต้นกันที่ฮานอย (เมืองหลวงของเวียดนาม) – Tule - Mu cang chai – Sapa และกลับมาจบที่ฮานอย ทั้งหมดก็ 6 วัน 4คืน โดยประมาณ
ทริปนี้มีผู้ร่วมทางทั้งหมด 11 คน พาหนะในการเดินทางของเรา เป็นรถมินิบัสคันเล็กๆกะทัดรัดคล่องตัว (มีคนขับให้ พูดอังกฤษพอได้ ราคา 520$/6วัน) จุได้ประมาณไม่เกิน 13 -14 คนครับ แต่จริงๆผมอยากแนะนำให้นั้ง 10 คนกำลังดี จะได้นั่งสบายๆไม่เบียดกัน และที่สำคัญไปกันหลายๆคน แชร์ค่ารถกันถูกจร้า
การเดินทางที่สะดวกสบายที่สุดในการไปเวียดนาม ก็คงหนีไม่พ้นนั่งเครื่องบิน โดยผมได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชียไว้ ก่อนออกเดินทางประมาณเกือบสองเดือน ได้ในราคา 3xxx บาท ไป/กลับ , ระยะเวลาบินราวๆก็ไม่เกิน 1 ชั่วโมง 40 นาที แปปเดียวก็ถึงกรุงฮานอย (เวียดนามไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับคนไทย)
พอถึงสนามบินนอยไบ (เวียดนาม) แล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำ นั้นก็คือ ไปซื้อซิมการ์ดของเวียดนามให้ไว(สำหรับคนที่เสพติดโลกโซเชียล) ในสนามบินจะมีร้านขายซิมการ์ดอยู่ครับ ก็เลือกเอาสักร้านละกันนะ ราคาซิมการ์ด 7$ (เวียดนามใช้สกุลเงินดอง ถ้าไปเวียดนามควรแลกดอลลาร์ ติดตัวไปด้วย)
หลังจากที่วุ่นๆกับการซื้อซิมการ์ดเสร็จ ต่อจากนั้นก็นั่งรถเข้าเมืองฮานอย ตามหาของกิน ขับไปขับมาจนมาได้ร้านเฝอ (คล้ายๆก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา) ก็ไม่รอช้าที่จะเขมือบมันทันทีเพราะความหิว รสชาติโดยรวมก็พอทานได้ แต่ในร้านกลิ่นเนื้อแรงมากๆ
ที่พักในคืนแรกชื่อ Pho nui Guesthouse ( Khách sạn Phố Núi - Tú Lệ ) (17$/ห้อง) เป็นที่พักในเมืองชนบทเล็กๆ บริเวณรอบๆที่พัก มีร้านขายของชำ และร้านอาหารอยู่บ้าง ถ้าจะสั่งอาหารทาน ก็ถามให้แน่ชัดก่อนนะว่าเนื้ออะไร ฮ่าๆ รู้ใช่ไหมว่าหมายถึงอะไร?
เช้าวันที่ 2 ฝนตกกันแต่เช้าเลยครับ กะว่าจะรีบตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นสะหน่อย อดเลย ร้องไห้หนักมากจริงๆ! แต่ก็ไม่เป็นไร ถือสะว่าได้หมอกฟรุ้งฟริ้งลอยๆ ก็สวยไปอีกแบบครับ (ให้กำลังใจตัวเองสุดๆ)
นาขันบันได Tule โซนนี้อยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก ใช้เวลานั่งรถไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงแล้ว แนะนำว่าเดินเล่นไปเรื่อยๆครับ มีจุดสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะแยะเลย ที่สำคัญระวังตกขันนานะ อยากบอกว่าผู้ร่วมทริปผม สังเวยไปแล้วหนึ่งท่าน ฮ่าๆๆๆๆๆ
ในส่วนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่นาอลังการมาก อยู่ติดถนนเช่นกัน เพื่อนๆจะได้เห็นทั้งนาขันบันได ภูเขา และหมู่บ้านของคนที่อาศัยอยู่ที่เมือง Tule ครับ (คำเตือน!! ขึ้นหอคอยเสียตังค์นะครับ ไม่ได้ให้ขึ้นฟรี)
ในขณะที่เรานั่งรถลัดเลาะไปตามหุบเขา มุ่งหน้าไปยังเมืองมูกางจ๋าย (Mu Cang Chai) ตลอดเส้นทาง วิวสวยมากจริงๆ ตื่นตาตื่นใจกันสุดๆ เป็นการนั่งรถไกล ไม่เบื่อเลยครับ ตัวผมเองและพี่ๆที่ร่วมทริปไปด้วยกัน ต่างก็ร้องว่า หูยยยยย! โอววววว! ว๊าวววว! เป็นระยะๆ เพราะทุกคนก็คงมีความสุข ที่ได้เห็นวิวธรรมชาติ และนาขั้นบันไดสุดอลังการตลอดการเดินทาง ทั้งคันรถแทบจะไม่มีใครได้หลับกันเลยจริงๆ
ในวันที่ 2 มานอนที่ NHA NGHI MOON (Mu Cang Chai) (17$/ห้อง) ครับ
เชื่อไหมว่าวันที่พวกเราได้มาถึงที่เมืองนี้ แทบไม่เจอนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และคนไทยเลย (คืนแรกก็เช่นกัน) รู้สึกโดดเดี่ยวมากๆ เดินไปทางไหนก็มีแต่คนมอง ไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย เขิลยังไงก็ไม่รู้!
เมืองมูกางจ๋าย Mu cang chai เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเอียนบ๊าย Yenbai อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือห่างจากฮานอยประมาณ 300 กม. ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสปรับอากาศประมาณ 9 ชม.
นาขั้นบันไดที่เมืองมูกางจ๋าย (Mu Cang Chai) จะสวยและอลังการกว่าที่เมืองทูเลย์ (Tule) ที่นี่เขาทำนากันทั้งภูเขาเลยครับ จะเห็นได้ว่าภูเขาทุกลูกจะเต็มไปด้วยขันนาที่ไต่ระดับความสูง ไล่ลงต่ำมาข้างล่าง สวยงามมีศิลปะสุดๆเลย เป็นสวรรค์ของคนชอบถ่ายรูปแน่ๆ!
ถ้าจะมาถ่ายรูปแบบว่าจริง
แบบเนี่ย แนะนำว่านอนที่เมืองมูกางจ๋าย (Mu Cang Chai) สัก 2-3 คืนน่าจะเวิร์คครับ มุมถ่ายรูปที่นี่เด็ดจริงๆ เดินกันให้ทั่วๆ ปีนป่ายกันให้ทุกซอกทุกมุมกันเลยทีเดียว ส่วนเมืองทูเลย์ (Tule) นอนสักคืนก็เพียงพอแล้ว
รีวิวผมก็ไม่มีอะไรมากครับ ชิลๆไป ตัวหนังสือไม่ค่อยเยอะ บรรยายนิดๆหน่อยๆ ดูภาพประกอบ แล้วก็จินตนาการ หรือว่ามโนว่าได้ไปอยู่ที่นั่นเป็นพอฮะ ฮ่าๆ
หลังจากที่เราร่อนไปเรื่อยๆสำหรับทูเล และมูกางจ๋าย ในช่วง 2-3 วันแรก สำหรับโค้งสุดท้ายของการเดินทาง เป็นการเดินทางเข้าเมืองซาปา (Sapa) เมืองแห่งการตากอากาศพักผ่อน เพราะที่เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูง อากาศดีตลอดทั้งปี
ซาปา ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของประเทศเวียดนาม ใกล้กับชายแดนจีน ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 350 กิโลเมตร อยู่ในเขตจังหวัดลาวไค สูง 1,650 เมตร มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ซึ่งในอดีตเมืองซาปาแห่งนี้ เคยถูกให้สร้างขึ้นเป็นเมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาปกครองในสมัยยุคอาณานิคม ถ้าหากได้ไปเที่ยวที่ซาปา จะเห็นได้ว่า บรรยากาศของเมืองนี้ จะคล้ายๆยุโรปเหมือนกันนะ
“สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่เมืองซาปา” จริงๆแล้วมีหลายๆที่ที่น่าสนใจมากๆครับ แต่เนื่องด้วยวันที่ผมไปนั้น พายุดันเข้าซะงั้น ฝนตกทุกวันเลยครับ จึงทำให้ไปไม่ครบทุกสถานที่ ..เดี๋ยวจะแนะนำในส่วนที่ผมได้ไปมาละกัน
เริ่มจากที่พักก่อน มาเที่ยวซาปา เพื่อนๆก็ต้องการที่พักวิวสวยๆใช่ไหมครับ ต้องที่นี่ครับ H'Mong Sapa Hotel ตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถมองวิวได้แทบจะ 360 องศา (คืน/48$)
**สถานที่ท่องเที่ยว**
โบสถ์คริส (เมืองซาปา) โบสถ์คริสแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
หมู่บ้านกั๊ต กั๊ต (Cat Cat Village) หมู่บ้านนี่อยู่ห่างจากซาปา 3 ก.ม เป็นหมู่บ้านชาวเขา ที่นี้มีวิวนาขั้นบันได และน้ำตกที่สวยมาก มาแล้วต้องห้ามพลาดเลยนะจุดนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
บันทึก MU CANG CHAI, VIETNAM ด้วยรถสาธารณะ
Mu Cang Chai มูกางจ๋าย อยู่ในจังหวัด Yen Bai ประเทศเวียดนาม ห่างจากฮานอยประมาณ 300 กิโลเมตร ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ***ช่วงเวลาท่องเที่ยว*** นักท่องเที่ยวรู้จักมูกางจ๋ายในฐานะเมืองที่มีนาขั้นบันไ
hnHNP
แบกเป้ ไปเท่ที่ ซาปา - มูกางจ๋าย " อยากเห็นสวรรค์นาขั้นบันได ให้ไป Mu Cang Chai เถอะ "
สวัสดีครับ วันนี้ ผม นาย tummengTravel / แบกเป้เท่ห์ทั่วโลก มีทริปแบกเป้เท่ห์ๆ มาฝากอีกครั้ง ครับ เนื่องจาก สองสามปีก่อน ผม หลงเข้าไปอ่านกระทู้ เที่ยวนาขั้นบันได ที่ ซาปา – มูกางจ๋าย ทำให้ ผมหาโ
tummeng_in
#นาขั้นบันได ณ เมืองมูกางจ๋าย ประเทศเวียดนาม
-ผมเคยมีโอกาสได้ไปถ่ายภาพนาขั้นบันไดที่ บ้านป่าปงเปียง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มาครั้งหนึ่ง รู้สึกมีความสุข กับท้องนาสีเขียวขจี ท้องนาลดหลั่นเป็นขั้นบันไดดูช่างงดงาม มาวันหนึ่งมีคนจัดทริปไปถ่ายภาพ นาขั้
สมาชิกหมายเลข 1459826
ตามรอยมุมในฝัน . . . นาขั้นบันไดที่มูกางจ๋าย เวียดนาม
สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆชาวพันทิปทุกท่านครับ หลังจากที่ผมเริ่มจับกล้องถ่ายรูปได้ประมาณ 2 ปี แน่นอนว่าการตามเสพย์งานบรรดาช่างภาพหลายๆท่านทั้งเมืองไทยและต่างประเทศ ทำให้เพิ่มแรงบันดาลใจให้กับช่างภาพมือใหม่อย่า
Jitipeera
ในเวียดนาม โดนโกงที่ไหนก้นบ้างครับ
ผมมีแผนจะไปเวียดนามช่วงปลาย ก.ค. เห็นว่ามีคนไปเวียดนามแล้วโดนโกงเยอะ ที่จะไปคือ ฮานอย และซาปา ไม่ทราบว่า ต้องระวังเรื่องโกงเยอะไหมครับ ส่วนมากเจอกันที่ไหน เจอยังไงบ้าง
Nepocrates
บันทึกการเดินทาง Hanoi – Mu Chang chai – Sapa
ต้องขอ อภัยในความผิดพลาดเพราะเป็นการรีวิวครั้งแรกครับผม วันที่ 1 Bkk – Hanoi เริ่มต้นการบินด้วย ไฟล์เช้า มาถึง สนามบิน Hanoi ประมาณ 8 โมงเช้า โดยนัด Ms Huang ในการจอง รถมารับที่สนามบิน รถบัสไป M
สมาชิกหมายเลข 1970182
ซาปา กับมูกางจ๋าย ถ้าไปช่วงกลางเดือนตุลาคม ยังทันถ่ายรูปกับนาข้าวไหมครับ
เท่าที่หาข้อมูลมา เห็นบอกว่า จะเค้าจะเริ่มเก็บเกี่ยวนาตอนช่วงเดือนตุลาคม แต่ผมตั้งใจจะไปช่วงวันหยุดกลางเดือนตุลาคม เลยสงสัยว่า ถ้าผมจะไปเพื่อถ่ายรูปนาโดยเฉพาะ ระยะเวลาช่วงนั้น มันจะหมิ่นเหม่ไปไหมครับ
เจ้าสำนักคันฉ่องวารี
สอบถามเส้นทางรถบัส จาก Hanoi ไป Mu cang chai ครับผม
ผมวางแผนจะ backpack ไป ซาปา โดยเริ่มจาก Hanoi ไป Mu cang chai นอน 3 คืน แล้วจะไป ซาปา นอนที่ ซาปา 2 คืน แล้วเดินทางกลับ ฮานอยเพื่อกลับ กทม เลยอยากถามสมาชิกว่า 1 มีรถบัส จาก Hanoi ไป Mu cang chai มั่ยค
สมาชิกหมายเลข 1970182
สอบถาม รถจาก Hanoi ไป Mu cang chai ครับ
มีทริปไป เวียดนามไปดูนาขั้นบันได เดือน สค ครับ เครื่องลงที่สนามบินประมาณ 8.30 คือไม่อยากพักที่ Hanoi อยากจะนั่งรถ ไป Mu cang chai เลยครับ เลยอยากทราบว่า เพื่อนๆ มี www จองรถไป Mu cang chai มั่ยครับห
สมาชิกหมายเลข 1970182
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
Backpack
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 70
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
“ ซินจ่าว Rainy Day! เวียดนามเหนือ... ตระกาลตาสุดอลังกับนาข้าวขั้นบันได (ต้อนรับย่างก้าวสู่ฤดูฝน)
เมื่อช่วงปี พ.ศ.2558 ตัวผมได้มีโอกาสไปเวียดนามทางตอนเหนือช่วงฤดูฝน ได้เห็นและดื่มด่ำกับบรรยากาศของวิวธรรมชาติสวยๆอันเขียวขจี ทุ่งนาข้าวสุดอลังการของประเทศเวียดนาม เลยไม่อยากเก็บความรู้สึกสุดฟิน ณ ตอนนั้นไว้เพียงคนเดียว มาวันนี้พอจะมีเวลาว่าง เลยอยากจะรวบรวมความสุขในครานั้น ที่ได้ผจญภัยไปกับชาวแก๊ง มาแบ่งปันให้เพื่อนๆใน pantip ได้เสพกันครับ
“ซินจ่าว” (ภาษาเวียดนามแปลว่า “สวัสดี” ) สวัสดีทักทายเพื่อนๆพี่ๆน้าๆใน pantip ทุกๆคนครับ ทริปนี้ขอทักทายในแบบเวียดนามสไตล์หน่อยนะ พอดีช่วงเข้าพรรษาหยุดยาวที่ผ่านมาเนี่ย (พ.ศ.2558) กระผมได้มีโอกาสแบคแพคไปเที่ยวเวียดนามทางตอนเหนือมาครับ หลายๆคนคงสงสัยใช่ไหมว่า เวียดนามทางตอนเหนือมันมีอะไรน่าเที่ยวหรอ? ทำไมผมถึงต้องไปเที่ยวสะไกลเลย ก็จะบอกให้ว่า มี!! และแจ่มมากๆด้วย! สำหรับเวียดนามทางตอนเหนือ
ถ้าหากใครที่ชื่นชอบบรรยากาศธรรมชาติๆในช่วงฤดูฝน ทุ่งนาสีเขียวสุดอลัง อากาศดีๆ สามารถสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดได้แบบสดชื่นสุดๆ ก็ต้องรูทนี้เลยครับ จากเมืองฮาน่อย สู่เมืองซาปา เส้นทางนี้สวยงามตลอดทั้งเส้นทาง รับประกันความสวยงามจริงๆครับ!..... โดยผมตั้งต้นกันที่ฮานอย (เมืองหลวงของเวียดนาม) – Tule - Mu cang chai – Sapa และกลับมาจบที่ฮานอย ทั้งหมดก็ 6 วัน 4คืน โดยประมาณ
ทริปนี้มีผู้ร่วมทางทั้งหมด 11 คน พาหนะในการเดินทางของเรา เป็นรถมินิบัสคันเล็กๆกะทัดรัดคล่องตัว (มีคนขับให้ พูดอังกฤษพอได้ ราคา 520$/6วัน) จุได้ประมาณไม่เกิน 13 -14 คนครับ แต่จริงๆผมอยากแนะนำให้นั้ง 10 คนกำลังดี จะได้นั่งสบายๆไม่เบียดกัน และที่สำคัญไปกันหลายๆคน แชร์ค่ารถกันถูกจร้า
การเดินทางที่สะดวกสบายที่สุดในการไปเวียดนาม ก็คงหนีไม่พ้นนั่งเครื่องบิน โดยผมได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชียไว้ ก่อนออกเดินทางประมาณเกือบสองเดือน ได้ในราคา 3xxx บาท ไป/กลับ , ระยะเวลาบินราวๆก็ไม่เกิน 1 ชั่วโมง 40 นาที แปปเดียวก็ถึงกรุงฮานอย (เวียดนามไม่ต้องขอวีซ่าสำหรับคนไทย)
พอถึงสนามบินนอยไบ (เวียดนาม) แล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำ นั้นก็คือ ไปซื้อซิมการ์ดของเวียดนามให้ไว(สำหรับคนที่เสพติดโลกโซเชียล) ในสนามบินจะมีร้านขายซิมการ์ดอยู่ครับ ก็เลือกเอาสักร้านละกันนะ ราคาซิมการ์ด 7$ (เวียดนามใช้สกุลเงินดอง ถ้าไปเวียดนามควรแลกดอลลาร์ ติดตัวไปด้วย)
หลังจากที่วุ่นๆกับการซื้อซิมการ์ดเสร็จ ต่อจากนั้นก็นั่งรถเข้าเมืองฮานอย ตามหาของกิน ขับไปขับมาจนมาได้ร้านเฝอ (คล้ายๆก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา) ก็ไม่รอช้าที่จะเขมือบมันทันทีเพราะความหิว รสชาติโดยรวมก็พอทานได้ แต่ในร้านกลิ่นเนื้อแรงมากๆ
ที่พักในคืนแรกชื่อ Pho nui Guesthouse ( Khách sạn Phố Núi - Tú Lệ ) (17$/ห้อง) เป็นที่พักในเมืองชนบทเล็กๆ บริเวณรอบๆที่พัก มีร้านขายของชำ และร้านอาหารอยู่บ้าง ถ้าจะสั่งอาหารทาน ก็ถามให้แน่ชัดก่อนนะว่าเนื้ออะไร ฮ่าๆ รู้ใช่ไหมว่าหมายถึงอะไร?
เช้าวันที่ 2 ฝนตกกันแต่เช้าเลยครับ กะว่าจะรีบตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นสะหน่อย อดเลย ร้องไห้หนักมากจริงๆ! แต่ก็ไม่เป็นไร ถือสะว่าได้หมอกฟรุ้งฟริ้งลอยๆ ก็สวยไปอีกแบบครับ (ให้กำลังใจตัวเองสุดๆ)
นาขันบันได Tule โซนนี้อยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก ใช้เวลานั่งรถไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงแล้ว แนะนำว่าเดินเล่นไปเรื่อยๆครับ มีจุดสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะแยะเลย ที่สำคัญระวังตกขันนานะ อยากบอกว่าผู้ร่วมทริปผม สังเวยไปแล้วหนึ่งท่าน ฮ่าๆๆๆๆๆ
ในส่วนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่นาอลังการมาก อยู่ติดถนนเช่นกัน เพื่อนๆจะได้เห็นทั้งนาขันบันได ภูเขา และหมู่บ้านของคนที่อาศัยอยู่ที่เมือง Tule ครับ (คำเตือน!! ขึ้นหอคอยเสียตังค์นะครับ ไม่ได้ให้ขึ้นฟรี)
ในขณะที่เรานั่งรถลัดเลาะไปตามหุบเขา มุ่งหน้าไปยังเมืองมูกางจ๋าย (Mu Cang Chai) ตลอดเส้นทาง วิวสวยมากจริงๆ ตื่นตาตื่นใจกันสุดๆ เป็นการนั่งรถไกล ไม่เบื่อเลยครับ ตัวผมเองและพี่ๆที่ร่วมทริปไปด้วยกัน ต่างก็ร้องว่า หูยยยยย! โอววววว! ว๊าวววว! เป็นระยะๆ เพราะทุกคนก็คงมีความสุข ที่ได้เห็นวิวธรรมชาติ และนาขั้นบันไดสุดอลังการตลอดการเดินทาง ทั้งคันรถแทบจะไม่มีใครได้หลับกันเลยจริงๆ
ในวันที่ 2 มานอนที่ NHA NGHI MOON (Mu Cang Chai) (17$/ห้อง) ครับ
เชื่อไหมว่าวันที่พวกเราได้มาถึงที่เมืองนี้ แทบไม่เจอนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และคนไทยเลย (คืนแรกก็เช่นกัน) รู้สึกโดดเดี่ยวมากๆ เดินไปทางไหนก็มีแต่คนมอง ไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย เขิลยังไงก็ไม่รู้!
เมืองมูกางจ๋าย Mu cang chai เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเอียนบ๊าย Yenbai อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือห่างจากฮานอยประมาณ 300 กม. ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสปรับอากาศประมาณ 9 ชม.
นาขั้นบันไดที่เมืองมูกางจ๋าย (Mu Cang Chai) จะสวยและอลังการกว่าที่เมืองทูเลย์ (Tule) ที่นี่เขาทำนากันทั้งภูเขาเลยครับ จะเห็นได้ว่าภูเขาทุกลูกจะเต็มไปด้วยขันนาที่ไต่ระดับความสูง ไล่ลงต่ำมาข้างล่าง สวยงามมีศิลปะสุดๆเลย เป็นสวรรค์ของคนชอบถ่ายรูปแน่ๆ!
ถ้าจะมาถ่ายรูปแบบว่าจริง
รีวิวผมก็ไม่มีอะไรมากครับ ชิลๆไป ตัวหนังสือไม่ค่อยเยอะ บรรยายนิดๆหน่อยๆ ดูภาพประกอบ แล้วก็จินตนาการ หรือว่ามโนว่าได้ไปอยู่ที่นั่นเป็นพอฮะ ฮ่าๆ
หลังจากที่เราร่อนไปเรื่อยๆสำหรับทูเล และมูกางจ๋าย ในช่วง 2-3 วันแรก สำหรับโค้งสุดท้ายของการเดินทาง เป็นการเดินทางเข้าเมืองซาปา (Sapa) เมืองแห่งการตากอากาศพักผ่อน เพราะที่เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาสูง อากาศดีตลอดทั้งปี
ซาปา ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของประเทศเวียดนาม ใกล้กับชายแดนจีน ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 350 กิโลเมตร อยู่ในเขตจังหวัดลาวไค สูง 1,650 เมตร มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ซึ่งในอดีตเมืองซาปาแห่งนี้ เคยถูกให้สร้างขึ้นเป็นเมืองตากอากาศของชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาปกครองในสมัยยุคอาณานิคม ถ้าหากได้ไปเที่ยวที่ซาปา จะเห็นได้ว่า บรรยากาศของเมืองนี้ จะคล้ายๆยุโรปเหมือนกันนะ
“สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่เมืองซาปา” จริงๆแล้วมีหลายๆที่ที่น่าสนใจมากๆครับ แต่เนื่องด้วยวันที่ผมไปนั้น พายุดันเข้าซะงั้น ฝนตกทุกวันเลยครับ จึงทำให้ไปไม่ครบทุกสถานที่ ..เดี๋ยวจะแนะนำในส่วนที่ผมได้ไปมาละกัน
เริ่มจากที่พักก่อน มาเที่ยวซาปา เพื่อนๆก็ต้องการที่พักวิวสวยๆใช่ไหมครับ ต้องที่นี่ครับ H'Mong Sapa Hotel ตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถมองวิวได้แทบจะ 360 องศา (คืน/48$)
**สถานที่ท่องเที่ยว**
โบสถ์คริส (เมืองซาปา) โบสถ์คริสแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
หมู่บ้านกั๊ต กั๊ต (Cat Cat Village) หมู่บ้านนี่อยู่ห่างจากซาปา 3 ก.ม เป็นหมู่บ้านชาวเขา ที่นี้มีวิวนาขั้นบันได และน้ำตกที่สวยมาก มาแล้วต้องห้ามพลาดเลยนะจุดนี้