ก่อนหน้านี้ฉันจองตั๋วไปญี่ปุ่นคนเดียว ซึ่งจะไปประมาณวันแรงงานนี้ละ แต่แล้วจู่ๆ เส้นทางชีวิตก็เปลี่ยนผัน ไปยุโรปแทน
Cancel Flight ญี่ปุ่นซะ ถ้าแกอยากจะไปเจอนักบอลอิตาลีที่ใฝ่ฝันมานาน และถ่ายรูปชิคๆกับหอ Eiffel ที่ในบ้านเต็มไปด้วยโมเดล รูปภาพ สติ๊กเกอร์ ข้าวของเครื่องใช้รูป Eiffel แกเชื่อเถอะ Paris มันคือเมืองของแก ...
ความคิดเหล่านี้ผุดขึ้นมาในหัวทันที เมื่อเพื่อนสนิทชิดเชื้อคบหากันมานานอยู่สองคน มาบอกเล่าว่าพี่สาวของเธออยากไปยุโรป ก็อิตาลี ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม อะไรก็ได้แก แถบๆนั้นแหละ
เพื่อนสาวไม่ได้เอ่ยปากชวนเลยแม้แต่น้อย นางแค่มาขอข้อมูลบริษัททัวร์ ฉันเองก็ไม่เคยไป แต่เพราะนางคงรู้ว่าถ้ามาถามหาอะไรจากฉันแล้ว ฉันมักจะมีข้อมูลให้นางอยู่เสมอ
Google ก่อนเลย ขณะรถติดไฟแดง ดูจากบริษัททัวร์ที่ขึ้นมาอันดับแรก หลังจาก Search ทัวร์ยุโรปไป นี่ไงๆ แก อิตาลี่ สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เห้ยไม่แพงแก 59,xxx บาท แต่เดี่ยวมันถูกไปปะวะ ขอเข้าไปดูก่อนว่าชะโงกทัวร์หรือเปล่า
ด้วยอนุภาพความแรงของ 4G ค่ายยักษ์ใหญ่บ้านเรา ขยิบตาเดียว ข้อมูล Schedule ของทัวร์ก็ขึ้นมา เมื่อปราดตาดูอย่างคนที่ไม่รู้อะไร เออ ชั้นว่าก็ไปได้นะ รูทนี้แหละ จองเลยปะ เอ่อ แต่แก ถ้าวันที่เราจะไปช่วงสงกรานต์นี่มันขึ้นไปถึงแสนเลยวะ ลองดูทัวร์อื่นก่อนละกัน

ช่วงเวลา High Season Prime Time ขนาดนั้น รูทดีๆคนนิยมแบบนี้ มันเหยียบแสนกันทุกทัวร์เลยคู๊ณณณณ เกือบจะมาจบที่ทัวร์หนึ่งเป็น Benelux + Paris ก็เทือกๆ เบลเยี่ยม ลักซ์แซมเบอร์ก เนเธอแลนด์ ราวๆนั้น เรียกว่าทัวร์ทิวลิปก็ว่าได้ 4-5 ประมาณ กับเวลาเที่ยวเพียง 7 วัน ราคา 79,xxx บาท แต่เมื่อถามใจตัวเองแล้ว ถ้าเราจะไปยุโรปครั้งแรก เราจะไปที่นี่มั้ย เสียเงินเกือบแสนทั้งที เอาที่อยากไปสิ หันกลับไปถามเพื่อนสาว และถามพี่สาวของเพื่อนอีกที ว่าใครอยากไปไหน เดี๋ยวเจ้จัดให้

พี่สาวของเพื่อน ขอเรียกว่า มาดาม (เนื่องจากนางอายุมากสุด จริงๆห่างกันเพียง 2 ปี) มาดามแจ้งว่า ชั้นอยากไปอิตาลี่ อยากเห็นโคลอสเซียม น้ำพุเทรวี่ อะไรเทือกๆ นั้น โอเคต้อง Rome สินะ มาดาม
ส่วนชั้นถ้าอยากไปสุดๆ ก็เป็น... หอเอเฟล นี่ละ หนูขอปารีสค่ะมาดาม


หลังจากนั้น 2 วัน หน้า Facebook ที่ได้เคยกระหน่ำ Like Page ตั๋วเครื่องบินโปรโมชั่น และข่าวสารการท่องเที่ยวไว้ ก็ได้ Feed โปรโมชั่นเดินทางไปยุโรปด้วยราคาเพียง 15,xxx บาท
OMG คุณอ่านไม่ผิดค่ะ ได้รูทตามที่คุยกันด้วย ลง Rome กลับ Paris เดี๋ยวนี้สายการบินเค้ากระหน่ำลดราคากันอย่างมากมาย ไปยุโรปถูกกว่าไปญี่ปุ่นเสียเอง อีกอย่างพี่สาวของฉันก็ได้กดจอง Etihad ด้วยราคาเดียวกันนี้ เมื่อปลายปีที่แล้ว (ปัจจุบันเห็นราคา 8,xxx บาท กันแล้วก็มี) เห็นแล้วตาลุกวาว รีบแจ้งเพื่อนรัก และมาดามในทันที         



แต่ข้อด้อยของโปรโมชั่นครั้งนี้คือ  
1. สายการบิน Royal Jordanian คือสายการบินอะไรค่ะ I never heard before ชั้นไม่เคยได้ยินมาเลย
2. ขากลับต้องลง Malaysia ถ้ากลับไทยเลยราคาจะเด้งไปที่ 25,xxx เพราะฉะนั้นเราต้องนอนที่นั่นคืนหนึ่ง เพื่อถ่ายรูปทวินทาวเวอร์และตรวจทานของที่อาจจะช้อปปิ้งมาไม่ครบก่อนกลับ (ความจริงคือ ตั๋วที่กลับคืนนั้นมันแพงค่ะ เราเลยเลี่ยงด้วยการอยู่ที่นั่น ไม่แน่ใจจริงๆ ว่าอันไหนมันถูกกว่ากัน 555)

ไม่เป็นรายชั้นจะไป ช่วงจังหวะหน้ามืด และมีความรักอยู่เต็มเปี่ยมที่ได้เยือนดินแดนยุโรป กดจองเลยค่ะ ตั๋วโปรนะ ถ้าคนอื่นแย้งไปจะทำยังไง รูทได้ เวลาได้ อย่าลังเล ในเว็บเค้าบอกว่ามีเพียง 4 ที่เท่านั้น เราจัดการจองเลยค่ะ 3 ที่ก่อน และโทรชวนรุ่นพี่อีกคน เป็นอันครบหมด Promotion นี้ค่ะ

อ่อ ลืมบอกทุกคนไปว่า เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นเพียง 1 เดือน ก่อนวันเดินทางค่ะ
เราต้องรีบจองตั่วเครื่องบิน รถไฟ โรงแรม และทำ Trip plan เพื่อไปขอวีซา ซึ่งจะบอกเล่าขึ้นตอนการขอ Visa อิตาลี่ต่อไป (แม้ว่าจะมีหลายกระทู้แล้ว แต่เพื่อเป็นการ Update ข้อมูลนะคะ)

--------------------------------------------------------------------------
เริ่มต้นขอวีซา
พูดเลยค่ะ ว่าเป็นขั้นตอนที่ตื่นเต้นที่สุด จะได้ไปไม่ได้ไปขึ้นอยู่กับขั้นตอนนี้เลยค่ะ
ก่อนอื่นตามระเบียบ Google ค่ะ ใน Pantip นี่ละ แหล่งข้อมูลที่ดีของเรา **ขอบคุณทุกคนที่แชร์ประสบการณ์ดีๆค่ะ
เริ่มจาก Schengen Visa ต้องขอที่ประเทศไหน ได้รับคำตอบว่า ประเทศที่เราอยู่นานที่สุดค่ะ ถ้าอยู่เท่ากันละ เอาประเทศแรกที่เข้า
โอเค อิตาลี่ สินะ (ตอนแรกแพลนว่าจะไป Italy Switzerland และ French ค่ะ แต่ดูไปดูมาสวิตค่าครองชีพค่อนข้างแพง และสวยงามจนไม่ควรแค่แก่การไปแค่ 2-3 วัน เราเลยตัดสวิตออกค่ะ ไปใหม่ทริปหน้า)

กลับมาที่การขอวีซ่าอิตาลี่ ค่ะ เค้าใช้ VFS เป็นคนรับเอกสาร เข้าเว็บนี้เลยค่ะ http://www.vfsglobal.com/italy/thailand/
เค้าจะมีเอกสารให้ Download ถ้าขอวีซ่าท่องเที่ยวแบบนี้ Type C เลยค่ะ โหลด Checklist และแบบฟอร์มที่ให้กรอกคำขอให้ครบ
ก่อนจะนำไปยื่นนะคะ ข้อสำคัญ ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารค่ะ ให้เรียบร้อยค่ะ จะได้ไม่เสียเวลา  
**ข้อเตือนใจ เพื่อนเราโดนมาค่ะ เนื่องจากไม่ได้ตรวจสอบวันที่ของเอกสารยืนยืนการทำงาน โดย HR เค้าลงปีผิดไปค่ะ เป็น 2558 ที่ถูกต้องเป็น 2559 อันนี้โดนคืนมา ต้องกลับไปให้บริษัทแก้ และมาต่อคิวไม่วันหลัง ซึ่งไม่มันไม่ OK ค่ะ มาต่อแถวตั้งแต่ตี 5 อีกรอบ

ก่อนจะส่งเอกสารมี Requirement 2 ข้อ ที่อยากบอกเล่าค่ะ คือ
1.    Trip Plan ได้ยินข่าวมาว่าอิตาลี่เอาแบบละเอียดเลยนะแก ไม่เป็นไรค่ะ เราถนัดเรื่องนี้ เราจัดให้ยัน Budget เลยค่ะ ในแพลน บอกเลยว่าวันนี้ อยู่เมืองไหน โรงแรมอะไร ใส่ Booking No. ที่อยู่และรายละเอียดโรงแรม พร้อมแนบเอกสาร Booking ทั้งโรงแรม และตั๋วรถไฟ รวมทั้งตั๋วเครื่องบินด้วยค่ะ (ตั๋วอย่าลืม ขากลับจากมาเลเซียด้วยนะ หากใครเป็นรูท Multi แบบเรา)  

**เอกสาร Booking ที่ปริ้นท์ให้ต้องเป็นภาษาอังกฤษนะคะ มีแผ่นนึง เราหยิบผิด เอาภาษาไทยสอดไป เค้าคืนค่ะ พอดีเจอคนอิตาเลี่ยนด้วย นางอ่านไม่ออก ดีนะ ที่มีใบสำรองติดมือไป
ถ้าใครยังไม่แน่ใจเรื่องโรงแรม ให้จองในเว็บ ที่สามารถ Cancel ได้นะคะ แต่อย่าลืมอ่านเงื่อนไข Cancellation นะคะ  



การเดินทางของเราคือ Rome (2 คืน) --> Florence --> Venice --> Milan --> Colmar --> Strasburg --> Paris (2 คืน) ใช้รถไฟทั้งหมดค่ะ  จองตั๋วรถไฟ ได้ตามนี้
อิตาลี่ จองที่ http://www.trenitalia.com/tcom-en
รถไฟระหว่างประเทศ TGV อิตาลี ไปฝรั่งเศส จองที่ http://www.raileurope.co.th/
ส่วนรถไฟในฝรั่งเศส จองที่ http://en.voyages-sncf.com/en/
ป.ล. จริงๆรถไฟสามารถจองเว็บไหนก็ได้นะคะ อันนี้มารู้หลังจากจองไปแล้ว

การจองจะได้รับเป็น E-Ticket ยกเว้น TGV ที่ส่งมาให้ถึงบ้านที่เมืองไทยเลยค่ะ ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม อาทิตย์นึงก็ถึงแล้วค่ะ



2.    เรื่องเอกสารต่างๆที่ต้องแปล เช่น ทะเบียนบ้าน และใบเปลี่ยนชื่อ สามารถแปลเองได้ค่ะ หาฟอร์มได้จาก Google เลย พิมพ์ลงไปเลยค่ะ แล้วปริ้นท์ออกมาเซ็นสำเนาถูกต้อง (Certified True Copy)

เมื่อเอกสารทุกอย่างเรียบร้อยได้เวลาไปยื่นแล้วค่ะ VFS Italy อยู่ที่สีลมเซ็นเตอร์นะคะ ตรงเซ็นทรัลนั่นแหละค่ะ เดินเข้าไปด้านหลัง ไม่ต้องเดินผ่านห้างนะคะ เพราะเช้าขนาดนั้น ห้างยังไม่เปิดให้ผ่าน ฮิฮิ

ไปกี่โมงดี ที่นี่ไม่มีให้จองคิว Online แบบฝรั่งเศสนะคะ มาวัดดวงเข้าแถวกันเอง เราไปถึง ตีห้าครึ่งค่ะ มีคิวก่อนหน้า ที่มาตั้งแถวรอตั้งแต่ประตูยังไม่เปิด พนักงานยังไม่มา เห็นแล้วนึกถึงการต่อแถวซื้อโดนัทเจ้าดัง หรือซื้อโทรศัพท์มือถือบางยี่ห้อ ผ่านไป 5 นาที แม่เจ้า คนมาจากไหนค่ะ จากแถวเดียวก่อนหน้าเรา เพิ่มขึ้นมาเป็น 3 แถวในพริบตา รอไม่นานนัก น่าจะประมาณ 7 โมงค่ะ พนักงานจะเปิดให้กดบัตรคิว เราได้คิวที่ 34 ค่ะ หลังรับบัตรคิวแล้วก็ไปนั่งรอข้างในเลยค่ะ มีเก้าอี้ให้ นั่งเย็นสบาย ใครจะลงไปทานข้าวก่อนก็ได้นะคะ ถ้าคิวแรกๆก็รีบขึ้นมาหน่อย คิวหลังๆก็เดินห้างตามสบายค่ะ



8.30 น. เค้าจะเปิดให้เข้าไปข้างในค่ะ เพื่อรอเรียกคิว ให้ปิดโทรศัพท์ทั้งหมด อาหารห้ามนำเข้าไป จะมีชั้นให้วางอยู่ข้างนอกค่ะ



9.15 น. ก็ถึงคิวเราแล้วค่ะ ขณะที่นั่งรอ พนักงานทั้งหมดเป็นคนไทยค่ะ ยกเว้น ผู้ชายคนเดียวที่เป็นอิตาลี่ ภาวะนาในใจ คนไทยๆๆๆๆๆๆ สุดท้ายหวยออกที่อิตาลีค่ะ คือไม่ใช่อะไรนะ กลัวคุยกันไม่รู้เรื่องค่ะ ได้ยินมาตลอดว่าคนอิตาลี่ไม่ค่อยพูดอังกฤษ คนไม่เก่งมาเจอกัน จะหรุ่เหรื่องมั้ยละ
และแล้วสิ่งที่ชั้นคิดก็เกิดขึ้น คือ ฮีลืมถามค่ะ ว่าจะส่งพาสปอร์ตเป็น EMS หรือจะมารับเอง หรือฮีถามแต่เราไม่รู้เรื่องนะ เราก็บอกให้เค้าแก้ไข แต่ฮีบอกว่าแก้ไม่ได้ ฮีปรินท์ใบเสร็จแล้ว เอางัยดีละ กว่าจะถ่อสังขาลจากชานเมืองไปถึงสีลม เราก็ตัดสินใจชะโงกหน้าไปถามน้องคนไทยที่อยู่เค้าเตอร์ข้างๆค่ะ น้องบอกว่าแก้ไขไม่ได้แล้ว ไม่งั้นต้องต่อคิวใหม่เลยค่ะ ไม่ๆๆๆๆๆ พี่มารับเองก็ได้ค่ะ พี่สะดวกมาก
หลังจากกลับมา บอกเพื่อนร่วมทริปเลยว่า ไปถึงเค้าเตอร์แกบอกเลยนะ EMS Please

ป.ล. 1 เวลาอาจมีการคลาดเคลื่อนบ้างนะคะ ผ่านมา 2-3 เดือนแล้ว ลืมไปบ้างค่ะ ขอโทษที่ดองไว้นาน
ป.ล. 2 ใครอยากได้ Trip Plan ทั้งหมด หลังไมค์มาเลยค่ะ
ป.ล. 3 ติดตามตอนต่อไปนะคะ

#PDtheJourney