
(ตึก Taipei 101 สูงจนมองจากฐานตึกไม่เห็นยอด)
Short note จากทริปไต้หวัน 4-5 วัน หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ
1) ไปเที่ยวไต้หวันต้องขอ visa ก่อน (นอกจากจะมี visa ของประเทศโลกที่ 1 อย่าง อเมริกา อังกฤษ หรือญี่ปุ่นอยู่) ค่าธรรมเนียมปกติ 1,700 บาท ใช้เวลา 2 วันทำการ ถ้าอยากได้วันถัดไปเลยต้องจ่ายเพิ่ม 850 บาท เอกสารตามที่ประกาศไว้ใช้ประมาณ 8 รายการรวมหลักฐานการเงิน (ธนาคารคิด 200 บาท เฉพาะค่าใช้จ่ายในการขอ visa ก็ปาเข้าเกือบไป 2,000 เป็นอย่างน้อยแล้ว) กระนั้น วันที่บอกให้มารับ visa อาจไม่ได้รับนะครับ คนที่เป็นเจ้าของกิจการอาจโดนเรียกเอกสารเพิ่มเติมอีก เช่น หลักฐานการเสียภาษีของบริษัท บางคน (เห็นกับตาได้ยินกับหู) โดนขอหลักฐานการศึกษาด้วย!!! ส่วนพวกลูกจ้างอาจโดนเรียกดูบัตรประกันสังคม หรือหลักฐานการเสียภาษีเพิ่มเติม แต่โดยทั่วไปก็จะได้ visa กันทุกคนในที่สุด
2) สถานที่ที่ไปขอ visa ไม่ใช่สถานทูตไต้หวัน เรียกอย่างเป็นทางการว่า “สํานักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจําประเทศไทย” ซึ่งทำหน้าที่เสมือนสถานทูตของประเทศไต้หวัน นั่นเพราะรัฐบาลไทยถือนโยบายจีนเดียว คือมีแต่ประเทศจีนที่บริหารโดยรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์เท่านั้น ซึ่งเขาถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ไม่ใช่ประเทศเอกราชอย่างที่ไต้หวันอ้าง
3) เวลาไต้หวันเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง ฟ้าอาจสว่างตั้งแต่ตี 5 และมืดค่อนข้างเร็ว
4) ปลั๊กในไต้หวันเป็นแบบขาแบน ใช้ไฟ 110 โวลต์ นอกจากอุปกรณ์ไฮเทคอย่าง มือถือ กล้อง และโน้ตบุ๊คแล้ว ของอื่นๆ อย่างเช่น ที่เป่าผม ไม่ต้องเอาไปนะฮะ ใช้ไม่ได้
5) ค่าเงินนิวไต้หวันดอลล่าร์ (NTD) ใกล้กับค่าเงินบาทมาก ค่าครองชีพสูงกว่าไทยเล็กน้อย แต่บางอย่างถูกกว่าเมื่อเทียบกับคุณภาพและปริมาณ เช่น ผลิตภัณฑ์ชา เนื่องจากเป็นผู้ผลิตหลักและมีการแข่งขันกันสูง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(ชาอูหลงของไต้หวัน)
6) ไต้หวันถือเป็นสังคมอารยะ มี infrastructure สะดวกสบาย สะอาดเป็นระเบียบ มีจักรยานหยอดเหรียญ เหมาะไปเรียนภาษา หรือหนีกรุงเทพฯ ไปอยู่อาศัยสักหลายวัน บางคนบอกว่าบ้านเมืองดีงามน้องๆ ญี่ปุ่น ก็คงมีแค่บางมุมในไทเปที่ฮิปๆ หน่อย แต่ไม่ใช่บรรยากาศโดยทั่วไปของไต้หวัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(รถเมล์ลาย Fairy Tail)
7) คนไต้หวันมีวินัย มีจิตสำนึกสาธารณะสูงกว่าไทยมาก การใช้บริการสาธารณะต่างๆ มีการเข้าคิวเป็นระเบียบทั้งรถเมล์และรถไฟ บันไดเลื่อนคนจะยืนชิดขวาเผื่อคนรีบ ที่นั่งคนพิการ เด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ มักถูกเว้นไว้แม้ที่นั่งทั่วไปจะเต็ม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(ชาวไต้หวันยืนรอรถเมล์อย่างเป็นระเบียบ)
8) บ้านเมืองสะอาด แม้แต่ตลาดกลางคืนที่คนพลุกพล่าน ถังขยะก็ยังสะอาดเรียบร้อยแทบไม่มีเศษขยะกลาดเกลื่อน ห้องน้ำตามที่สาธารณะ ร้านค้า ร้านอาหาร ถือว่าสะอาด มาตรฐานสูงกว่าของไทย
9) มีปัญหาคนเร่ร่อนอยู่บ้าง แต่ไม่พบสุนัขจรจัด ทำให้ถนนแม้จะชำรุดแต่ก็ไม่มีค่อยมีมูลสุนัข
10) แต่ถ้าคิดจะ "ไปเที่ยว" อาจไม่ฟินเท่าไหร่ เพราะธรรมชาติก็ไม่ได้สวยตื่นตาตื่นใจ (เทียบกับ จางเจี่ยเจี้ย หรือจะแค่ภูเขาโบรโม) สถานที่ท่องเที่ยวมนุษย์สร้างก็ไม่โดดเด่นมาก (เทียบกับของเก่าอย่างพม่า หรือของใหม่อย่างสิงคโปร์)
11) จิ่วเฟิ่นน่าจะเป็นไฮไลท์ของทริปไต้หวัน บ้านเรือน+ร้านรวงที่ตกแต่งอย่างคลาสสิค และทางเดินที่ลดหลั่นไปตามภูมิประเทศ โดยมีทะเลเป็นฉากหลังเป็นเอกลักษณ์ดูเก๋ แต่เสียดายที่เล็กไปหน่อย ทัวร์ญี่ปุ่นลงไม่ขาดสาย นัยว่ามาตามรอย Spirited Away ที่ร้านน้ำชา "อาเหม่ย" (Ah Mei) เหมือนที่ทัวร์จีนมาเชียงใหม่ตามหนัง Lost in Thailand
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(เมืองจิ่วเฟิ่น)

(ร้านน้ำชาอาเหม่ย ต้นแบบของฉากหนึ่งในอนิเมะเรื่อง Spirited Away)
12) อันนี้ต้องชมว่าเจ๋งจริงคือ Star Hostel Taipei Main Station พัก hostel มาหลายที่ในหลายประเทศ ไม่มีที่ไหนจะมี common room สวยและใหญ่ขนาดนี้ มีครัวใหญ่ให้ทำอาหารทานเองได้ ห้องพักยังมีให้เลือกทั้งแบบเดี่ยว คู่ ครอบครัว หรือห้องพักรวม สภาพใหม่และสะอาดมากๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(common room ของ Star Hostel Taipei Main Station)
13) ด้วยความที่ประเทศเป็นเกาะที่ไม่ใหญ่มากนัก ทำให้เขตเมืองที่มีความเจริญสูงอยู่ไม่ไกลจากโซนธรรมชาติอย่างภูเขาหรือทะเล เดินช้อปอยู่ซีเหมินติ่ง แป๊บเดียวก็สามารถไปชิมชาบนดอยได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(จากเขา Maokong เห็นวิวตัวเมืองไทเปได้ในวันฟ้าเปิด)
14) ความเป็นชุมชนโบราณไม่โดดเด่น เนื่องจากเป็นประเทศที่เพิ่งก่อตั้งไม่นานหลังจากการอพยพมาของชาวจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อหนีภัยคอมมิวนิสต์ มีเพียงวัฒนธรรมชนเผ่าแถวๆ ไถจงที่แต่งตัวคล้ายๆ อินเดียแดงให้เห็นอยู่
15) ถ้าลืมของในรถไฟ โอกาสได้คืนมีสูง และใช้เวลาตามคืนไม่นาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(ได้กระเป๋าอุปกรณ์กล้องคืนภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากแจ้งเจ้าหน้าที่)
16) ยากมากที่จะใช้บัตรเหมารถไฟรายวันให้คุ้ม แนะนำให้ใช้บัตรเติมเงิน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(หน้าตาบัตร 1 Day Pass)
17) อาหารสำเร็จรูปตามร้านสะดวกซื้อไม่อร่อย
18) ถ้าไม่รู้จะซื้อของฝากที่ไหน แนะนำ Taipei Main Station โซน Y (Taipei City Mall) มีของหลากหลายมาก รวมถึงของเล่นจากญี่ปุ่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(แม่ค้าใน Taipei City Mall)
19) ร้านค้า ร้านอาหารไม่ตุกติก บอกราคาตามจริงพร้อมภาษีมูลค่าเพิ่มกับนักท่องเที่ยวก่อนใช้บริการ
20) ของปลอมไม่ใช่สิ่งที่พบได้เหมือนในบางประเทศ
21) ระดับการใช้ภาษาอังกฤษของคนไต้หวันคล้ายคลึงกับคนไทย คือคนที่ได้รับการศึกษาอย่างดีเป็นพิเศษถึงจะพูดภาษาอังกฤษได้ นอกนั้นแทบจะไม่พูดเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(ภาษาอังกฤษที่ใช้กันบ่อยๆ ในไต้หวันคือพวกชื่อเฉพาะต่างๆ)
22) อาหารโดยทั่วไปก็คืออาหารจีนนั่นเอง รสชาติโดยรวมจะจืดๆ มันๆ ไม่จัดจ้านเหมือนอาหารไทย แต่จุดเด่นคือ อาหารที่นี่จะเน้นกลิ่นหอมเตะจมูกไว้ก่อน อาหารขึ้นชื่อคือ หม้อไฟซุปหมาล่า (อันนี้เผ็ดหน่อย แต่ออกไปในทางแสบมากกว่า), บะหมี่เนื้อวัว, เสี่ยวหลงเปา, ไส้กรอกไต้หวัน, เต้าหู้เหม็น, ไข่ใบชา, ไก่ทอด Hot Star เป็นต้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(หม้อไฟ ฝั่งซ้ายซุปไก่ ฝั่งขวาซุปหมาล่า แปลว่า เผ็ดๆ ชาๆ)
23) ไต้หวันเป็นหนึ่งในแหล่งปลูกชาอูหลงที่ดีที่สุดในโลก มีรสและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชาภูเขาสูงหรือ “เกาซานอูหลง” เป็นที่สุดของชาไต้หวัน โลละเป็นหมื่นบาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(ชาจากเขาหลีซาน เป็น The Best ของไต้หวัน)
24) ชาไข่มุกเจ้าแรกของไต้หวันและของโลกคือร้าน "ชุนสุ่ยถัง" (Chun Shui Tang สาขาแรกอยู่ในไถจง) จริงๆ ก็คือชาฝรั่งใส่นมนั่นเอง (ชาอูหลงไม่เหมาะจะดื่มกับนม) โดยร้านชุนสุ่ยถังได้ไอเดียในการใส่ขนมสาคูลงในชานมโดยบังเอิญ และขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จนกลายเป็นเมนูโด่งดังข้ามประเทศ ปัจจุบัน ชาไข่มุกเจ้าที่คนไต้หวันโหวตว่าอร่อยที่สุดคือร้าน “เฉินซานติ่ง” (Chen San Ding) ในตลาดกงกวน (Gongguan) ส่วนเจ้าอร่อยที่มีสาขาในไทยก็เช่น ก้งฉา (Gong Cha) และโคโค่ (Coco)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(ร้าน Chun Shui Tang สาขา Shin Kong Mitsukoshi)
25) ชาบรรจุขวดหาได้ง่ายมากตามร้านสะดวกซื้อ เรียกว่ากว่าครึ่งหนึ่งของเครื่องดื่มบรรจุขวดที่วางขายคือผลิตภัณฑ์ชา รสชาติดีกว่าในไทยอย่างกับคนละโลก (แต่คนที่ชอบน้ำหวานอาจจะไม่ชอบ) ราคาอาจแพงกว่าเมืองไทยนิดหน่อยแต่ปริมาณก็มากกว่าด้วย ส่วนชานมบรรจุขวดของที่นี่ ยี่ห้อที่ดังที่สุดคือ “ฉุนชุ่ยเฮอ” รูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์โดดเด่นต่างจากยี่ห้ออื่น เป็นทรงกระบอกคล้ายกระบอกชาแห้ง ราคาเทียบเป็นเงินไทย 30 บาท หอมอร่อยขนาดว่าคนที่ไม่ชอบชานมยังติดใจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(package ของ “ฉุนชุ่ยเฮอ”)
[CR] ส่งการบ้าน ทริป Taiwan พร้อมปลากรอบ
(ตึก Taipei 101 สูงจนมองจากฐานตึกไม่เห็นยอด)
Short note จากทริปไต้หวัน 4-5 วัน หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ
1) ไปเที่ยวไต้หวันต้องขอ visa ก่อน (นอกจากจะมี visa ของประเทศโลกที่ 1 อย่าง อเมริกา อังกฤษ หรือญี่ปุ่นอยู่) ค่าธรรมเนียมปกติ 1,700 บาท ใช้เวลา 2 วันทำการ ถ้าอยากได้วันถัดไปเลยต้องจ่ายเพิ่ม 850 บาท เอกสารตามที่ประกาศไว้ใช้ประมาณ 8 รายการรวมหลักฐานการเงิน (ธนาคารคิด 200 บาท เฉพาะค่าใช้จ่ายในการขอ visa ก็ปาเข้าเกือบไป 2,000 เป็นอย่างน้อยแล้ว) กระนั้น วันที่บอกให้มารับ visa อาจไม่ได้รับนะครับ คนที่เป็นเจ้าของกิจการอาจโดนเรียกเอกสารเพิ่มเติมอีก เช่น หลักฐานการเสียภาษีของบริษัท บางคน (เห็นกับตาได้ยินกับหู) โดนขอหลักฐานการศึกษาด้วย!!! ส่วนพวกลูกจ้างอาจโดนเรียกดูบัตรประกันสังคม หรือหลักฐานการเสียภาษีเพิ่มเติม แต่โดยทั่วไปก็จะได้ visa กันทุกคนในที่สุด
2) สถานที่ที่ไปขอ visa ไม่ใช่สถานทูตไต้หวัน เรียกอย่างเป็นทางการว่า “สํานักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจําประเทศไทย” ซึ่งทำหน้าที่เสมือนสถานทูตของประเทศไต้หวัน นั่นเพราะรัฐบาลไทยถือนโยบายจีนเดียว คือมีแต่ประเทศจีนที่บริหารโดยรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์เท่านั้น ซึ่งเขาถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ไม่ใช่ประเทศเอกราชอย่างที่ไต้หวันอ้าง
3) เวลาไต้หวันเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง ฟ้าอาจสว่างตั้งแต่ตี 5 และมืดค่อนข้างเร็ว
4) ปลั๊กในไต้หวันเป็นแบบขาแบน ใช้ไฟ 110 โวลต์ นอกจากอุปกรณ์ไฮเทคอย่าง มือถือ กล้อง และโน้ตบุ๊คแล้ว ของอื่นๆ อย่างเช่น ที่เป่าผม ไม่ต้องเอาไปนะฮะ ใช้ไม่ได้
5) ค่าเงินนิวไต้หวันดอลล่าร์ (NTD) ใกล้กับค่าเงินบาทมาก ค่าครองชีพสูงกว่าไทยเล็กน้อย แต่บางอย่างถูกกว่าเมื่อเทียบกับคุณภาพและปริมาณ เช่น ผลิตภัณฑ์ชา เนื่องจากเป็นผู้ผลิตหลักและมีการแข่งขันกันสูง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
6) ไต้หวันถือเป็นสังคมอารยะ มี infrastructure สะดวกสบาย สะอาดเป็นระเบียบ มีจักรยานหยอดเหรียญ เหมาะไปเรียนภาษา หรือหนีกรุงเทพฯ ไปอยู่อาศัยสักหลายวัน บางคนบอกว่าบ้านเมืองดีงามน้องๆ ญี่ปุ่น ก็คงมีแค่บางมุมในไทเปที่ฮิปๆ หน่อย แต่ไม่ใช่บรรยากาศโดยทั่วไปของไต้หวัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
7) คนไต้หวันมีวินัย มีจิตสำนึกสาธารณะสูงกว่าไทยมาก การใช้บริการสาธารณะต่างๆ มีการเข้าคิวเป็นระเบียบทั้งรถเมล์และรถไฟ บันไดเลื่อนคนจะยืนชิดขวาเผื่อคนรีบ ที่นั่งคนพิการ เด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ มักถูกเว้นไว้แม้ที่นั่งทั่วไปจะเต็ม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
8) บ้านเมืองสะอาด แม้แต่ตลาดกลางคืนที่คนพลุกพล่าน ถังขยะก็ยังสะอาดเรียบร้อยแทบไม่มีเศษขยะกลาดเกลื่อน ห้องน้ำตามที่สาธารณะ ร้านค้า ร้านอาหาร ถือว่าสะอาด มาตรฐานสูงกว่าของไทย
9) มีปัญหาคนเร่ร่อนอยู่บ้าง แต่ไม่พบสุนัขจรจัด ทำให้ถนนแม้จะชำรุดแต่ก็ไม่มีค่อยมีมูลสุนัข
10) แต่ถ้าคิดจะ "ไปเที่ยว" อาจไม่ฟินเท่าไหร่ เพราะธรรมชาติก็ไม่ได้สวยตื่นตาตื่นใจ (เทียบกับ จางเจี่ยเจี้ย หรือจะแค่ภูเขาโบรโม) สถานที่ท่องเที่ยวมนุษย์สร้างก็ไม่โดดเด่นมาก (เทียบกับของเก่าอย่างพม่า หรือของใหม่อย่างสิงคโปร์)
11) จิ่วเฟิ่นน่าจะเป็นไฮไลท์ของทริปไต้หวัน บ้านเรือน+ร้านรวงที่ตกแต่งอย่างคลาสสิค และทางเดินที่ลดหลั่นไปตามภูมิประเทศ โดยมีทะเลเป็นฉากหลังเป็นเอกลักษณ์ดูเก๋ แต่เสียดายที่เล็กไปหน่อย ทัวร์ญี่ปุ่นลงไม่ขาดสาย นัยว่ามาตามรอย Spirited Away ที่ร้านน้ำชา "อาเหม่ย" (Ah Mei) เหมือนที่ทัวร์จีนมาเชียงใหม่ตามหนัง Lost in Thailand
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(ร้านน้ำชาอาเหม่ย ต้นแบบของฉากหนึ่งในอนิเมะเรื่อง Spirited Away)
12) อันนี้ต้องชมว่าเจ๋งจริงคือ Star Hostel Taipei Main Station พัก hostel มาหลายที่ในหลายประเทศ ไม่มีที่ไหนจะมี common room สวยและใหญ่ขนาดนี้ มีครัวใหญ่ให้ทำอาหารทานเองได้ ห้องพักยังมีให้เลือกทั้งแบบเดี่ยว คู่ ครอบครัว หรือห้องพักรวม สภาพใหม่และสะอาดมากๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
13) ด้วยความที่ประเทศเป็นเกาะที่ไม่ใหญ่มากนัก ทำให้เขตเมืองที่มีความเจริญสูงอยู่ไม่ไกลจากโซนธรรมชาติอย่างภูเขาหรือทะเล เดินช้อปอยู่ซีเหมินติ่ง แป๊บเดียวก็สามารถไปชิมชาบนดอยได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
14) ความเป็นชุมชนโบราณไม่โดดเด่น เนื่องจากเป็นประเทศที่เพิ่งก่อตั้งไม่นานหลังจากการอพยพมาของชาวจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อหนีภัยคอมมิวนิสต์ มีเพียงวัฒนธรรมชนเผ่าแถวๆ ไถจงที่แต่งตัวคล้ายๆ อินเดียแดงให้เห็นอยู่
15) ถ้าลืมของในรถไฟ โอกาสได้คืนมีสูง และใช้เวลาตามคืนไม่นาน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
16) ยากมากที่จะใช้บัตรเหมารถไฟรายวันให้คุ้ม แนะนำให้ใช้บัตรเติมเงิน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
17) อาหารสำเร็จรูปตามร้านสะดวกซื้อไม่อร่อย
18) ถ้าไม่รู้จะซื้อของฝากที่ไหน แนะนำ Taipei Main Station โซน Y (Taipei City Mall) มีของหลากหลายมาก รวมถึงของเล่นจากญี่ปุ่น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
19) ร้านค้า ร้านอาหารไม่ตุกติก บอกราคาตามจริงพร้อมภาษีมูลค่าเพิ่มกับนักท่องเที่ยวก่อนใช้บริการ
20) ของปลอมไม่ใช่สิ่งที่พบได้เหมือนในบางประเทศ
21) ระดับการใช้ภาษาอังกฤษของคนไต้หวันคล้ายคลึงกับคนไทย คือคนที่ได้รับการศึกษาอย่างดีเป็นพิเศษถึงจะพูดภาษาอังกฤษได้ นอกนั้นแทบจะไม่พูดเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
22) อาหารโดยทั่วไปก็คืออาหารจีนนั่นเอง รสชาติโดยรวมจะจืดๆ มันๆ ไม่จัดจ้านเหมือนอาหารไทย แต่จุดเด่นคือ อาหารที่นี่จะเน้นกลิ่นหอมเตะจมูกไว้ก่อน อาหารขึ้นชื่อคือ หม้อไฟซุปหมาล่า (อันนี้เผ็ดหน่อย แต่ออกไปในทางแสบมากกว่า), บะหมี่เนื้อวัว, เสี่ยวหลงเปา, ไส้กรอกไต้หวัน, เต้าหู้เหม็น, ไข่ใบชา, ไก่ทอด Hot Star เป็นต้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
23) ไต้หวันเป็นหนึ่งในแหล่งปลูกชาอูหลงที่ดีที่สุดในโลก มีรสและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ชาภูเขาสูงหรือ “เกาซานอูหลง” เป็นที่สุดของชาไต้หวัน โลละเป็นหมื่นบาท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
24) ชาไข่มุกเจ้าแรกของไต้หวันและของโลกคือร้าน "ชุนสุ่ยถัง" (Chun Shui Tang สาขาแรกอยู่ในไถจง) จริงๆ ก็คือชาฝรั่งใส่นมนั่นเอง (ชาอูหลงไม่เหมาะจะดื่มกับนม) โดยร้านชุนสุ่ยถังได้ไอเดียในการใส่ขนมสาคูลงในชานมโดยบังเอิญ และขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จนกลายเป็นเมนูโด่งดังข้ามประเทศ ปัจจุบัน ชาไข่มุกเจ้าที่คนไต้หวันโหวตว่าอร่อยที่สุดคือร้าน “เฉินซานติ่ง” (Chen San Ding) ในตลาดกงกวน (Gongguan) ส่วนเจ้าอร่อยที่มีสาขาในไทยก็เช่น ก้งฉา (Gong Cha) และโคโค่ (Coco)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
25) ชาบรรจุขวดหาได้ง่ายมากตามร้านสะดวกซื้อ เรียกว่ากว่าครึ่งหนึ่งของเครื่องดื่มบรรจุขวดที่วางขายคือผลิตภัณฑ์ชา รสชาติดีกว่าในไทยอย่างกับคนละโลก (แต่คนที่ชอบน้ำหวานอาจจะไม่ชอบ) ราคาอาจแพงกว่าเมืองไทยนิดหน่อยแต่ปริมาณก็มากกว่าด้วย ส่วนชานมบรรจุขวดของที่นี่ ยี่ห้อที่ดังที่สุดคือ “ฉุนชุ่ยเฮอ” รูปลักษณ์บรรจุภัณฑ์โดดเด่นต่างจากยี่ห้ออื่น เป็นทรงกระบอกคล้ายกระบอกชาแห้ง ราคาเทียบเป็นเงินไทย 30 บาท หอมอร่อยขนาดว่าคนที่ไม่ชอบชานมยังติดใจ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้