[CR] คนเดียว เที่ยวมาเล ครั้งแรกในต่างแดน ปีนัง-มะละกา-กัวลาลัมเปอร์

Train To World Heritage, Malaysia
Penang-Melaka-Kuala Lumpur
1 - 7 May 16


สรุปค่าใช้จ่ายในตอนท้าย





นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เดินทางคนเดียว
แต่ครั้งนี้มันไม่ง่ายเลย ยากที่สุดคือการตัดสินใจ
ไม่รู้เลยว่าจะเจออะไรบ้าง กลัวหลายๆ สิ่ง
"ถ้าไม่เริ่ม ก็ไม่มีวันสำเร็จ"


ปีที่แล้วได้มีโอกาสไปลาวกับเพื่อนๆ http://pantip.com/topic/34235231 เผื่ออยากอ่านน่ะ
และเดินทางต่อคนเดียวไปหลวงพระบาง ตอนนั้นแอบเหงา เพราะไม่ได้คุยกับใครเลย
คือคุยกับฝรั่งบ้างเวลาเค้าถาม แต่คุยจริงจังอ่ะไม่มี แถมไปอยู่โฮสเทลฝรั่งทั้งนั้น เที่ยวกับฝรั่ง
มันก็เลยแอบกลัวว่าถ้าเราไปคนเดียวจะเหงาอีกไหม หลายวันเลยน่ะ ไม่มีเพื่อนไปด้วยเลย

ใช้เวลาคิดอยู่นานมาก ว่าจะไปที่ไหนดี ไม่รู้ว่าทำไมต้องไป แต่รู้ว่าต้อง "ออกเดินทาง"
ตั้งใจว่าจะไปปีละประเทศ ก็ดูหลายที่ล้วนเป็นประเทศเพื่อนบ้านทั้งนั้น

2 อาทิตย์ก่อนเดินทาง ผ่านเจอทริปรถไฟ "กรุงเทพ-บัตเตอร์เวิร์ธ" เคยได้ยินมาก่อน
รถไฟมีอิทธิพลในการตัดสินใจของผมเสมอ มันทำให้การเดินทางมีรสชาติและสีสันขึ้นมาก
ค่อยๆๆ ไปไม่เร็วเกินไป ระหว่างทางต้องลุ้นอะไรหลายๆ อย่าง เข้าไปอ่านและหาข้อมูลเพิ่มเติม
บังเอิญก่อนหน้านั้นก็ได้หนังสือมาเลเซีย-สิงคโปร์จากงานหนังสือมา ตัดสินใจเอามาเลเซียนี่ล่ะหว้า

แผนในครั้งนี้คือ ปีนัง มะละกา กัวลาลัมเปอร์
การเดินทางโดยรถไฟ กรุงเทพ-บัตเตอร์เวิร์ธ แล้วบินกลับในวันสุดท้าย จะได้ไม่เหนื่อยมาก



1 อาทิตย์ก่อนเดินทาง เริ่มจองที่พักผ่าน booking.com เลือกโฮสเทลทุกคืน เพื่อความประหยัด
วันพฤหัสที่ 28 เม.ย. ก็โทรจองรถไฟปรากฏเค้าบอกว่าจองทางโทรศัพท์ต้องล้วงหน้า 5 วัน
ตอนนี้ไม่ถึง 5 วันแล้ว ต้องไปซื้อที่หัวลำโพง (กรุละงง ตรรกะไหนเนี่ย) แต่ทำไงได้ก็เค้าไม่ให้จอง
เลยสอบถามแค่ว่าเหลือกี่ที่ เค้าบอก 13 ที่ วันศุกร์ที่ 29 เม.ย. ผมจึงรีบไปซื้อตัวที่หัวลำโพงกลัวจะเต็ม



และมันก็เต็มจริงๆ ไม่อยากจะเชื่อหู ใครมันจะไปบัตเตอร์เวิร์ธ มาเลเยอะขนาดนั้น ผมนี่มืดแปดด้าน
เดินวนรอบหัวลำโพง 1 รอบเพื่อตั้งสติและคิด เดินไปจบประชาสัมพันธ์ ขอตารางรถไฟสายใต้ มาดูอีกทีว่ามี
ขบวนไหนบ้างที่ไปได้ ไปต่อก็ยังดี เจ้าหน้าที่ในตู้ประชาสัมพันธ์ให้คำปรึกษาดีมาก (ดีกว่าที่ช่องซื้อตั๋วอีก)
เค้าเปิดให้ดูว่าขบวนที่ผมจะไปมันเต็ม แต่ผมเห็นมีเลขเหลือ 6 ที่เลยถามเค้าว่าเลขนี้คืออ่ะไร
เป็นที่นั้งชั้น 2 ตู้แอร์ เบาะปรับเอนได้ แต่ไปแค่หาดใหญ่ ต้องไปซื้อตั๋วจากหาดใหญ่-ไปปาดังเบซา-ไปบัตเตอร์เวิร์ธ ซื้อ 3 ทอด จริงๆ มันคือขบวนเดิม ขบวนที่ 35 แต่อีกรุงเทพ-บัตเตอร์เวิร์ธ มันมีแค่ 2 ตู้ ตู้ที่เหลือไปแค่หาดใหญ่ มันจะตัดตู้ออก ผมก็ลงและซื้อตั๋วกลับขึ้นขบวนเดิมไปต่อเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงบัตเตอร์เวิร์ธ เอาว่ะมีหนทางเอาอันนี้แหละ เหลือแต่ 6 ที่เอง รีบเลยกลัวเต็มอีก



วันอาทิตย์ที่ 1 พ.ค. 14.45 หัวลำโพง ขบวน 35 กรุงเทพ - บัตเตอเวิร์ธ (หาดใหญ่) 735 บาท
ตู้แอร์ไม่มีคนมาขายของเท่าไหร่นัก แต่ก็มีบ้าง ต้องรีบซื้อไว้ ยิ่งก๋วยเตี๋ยวปลาราชบุรีนี่ห้ามพลาด
กล่องละ 10 บาท กล่องเดียวไม่พอน่ะ ซื้อไปเลย 2 กล่อง แต่ถ้าไม่อยากกินอาหารที่เค้าแบกขึ้นมาขาย
รถไฟมีเมนูมากมายให้คุณเลือกเจ้าหน้าที่เค้าก็จะเอาเมนูมาเดินถามตลอดเวลา เรียกได้เลย
แต่ผมว่าราคาค่อนข้างสูง ก็เลยกินของแม่ค้า พ่อค้าแทน อิ่มแล้วก็หลับสบาย



ประมาณ 8 โมง ผมก็มาถึงสถานีหาดใหญ่ รีบลงไปซื้อตั๋วไปปาดังเบซา 270 บาท เอากระเป๋าไปด้วย ต้องรีบน่ะ เพราะถ้าเค้าตัดขบวนเสร็จ เค้าก็จะออกเดินทางเลย พอมีเวลาระหว่างไปขึ้นเล็กน้อย แวะซื้อไก่ทอดหาดใหญ่พร้อมข้าวเหนียว
ก่อนรีบกลับไปขึ้นรถไฟต่อ ไม่นานเราก็จะมาถึงสถานีปาดังเบซา อ่ะๆๆ อย่าเพิ่งลง ปาดังเบซาแรกเป็นฝั่งไทย ต้องไปอีกสถานีที่เป็นฝั่งมาเลเซีย ผมก็อาศัยถามคนบนขบวนเอา จะมีคนในขบวนเอาใบขาออกมาให้เขียนด้วยน่ะ เขียนไว้เลยพอถึงด่านก็จะได้เร็วขึ้น อ่อมีคนเอาเงินมาเลเซียมาให้แลกด้วย เผื่อว่าใครไม่ได้แลกไปก็แลกที่เค้าได้เลย เรื่องเลทราคานี่ไม่แน่ใจว่าจะถูกกว่าหรือแพงกว่าน่ะ ผมแลกไป 1 บาท = 9 ริงกิต



วันจันทร์ที่ 2 พ.ค. บัตเตอร์เวิร์ธ-ปีนัง สลามัดดาตัง มาเลเซีย
ที่ด่านทำงานเร็วมาก แป็ปเดียวก็ออกมาจากด่าน ขึ้นไปซื้อตั๋วที่ชั้นสอง 11.10 ริงกิต กลับลงมาขึ้นรถไฟ แต่รถไฟจะเปลี่ยนไป เป็นรถไฟของมาเลเซียแล้ว ถ้าใครนั่งกรุงเทพ-บัตเตอร์เวิร์ธ ก็ไม่ต้องซื้อตั๋วใหม่แบบผม สามารถขึ้นรถไฟได้เลย




11.00 น. รถไฟออกจากปาดังเบซา มาเลเซียเวลาเร็วกว่าไทย 1 ชม. อย่าลืมปรับนาฬิกากันน่ะ
14.00 น. ถึงสถานีบัตเตอร์เวิร์ธ สถานีจะอยู่ใกล้กับท่าเรือเฟอร์รี่ เดินไปแป๊ปเดียวถึง ค่าข้ามเรือ 1.20 ริงกิต เรือจะมีทั้งคน และรถโดยสารไปด้วยกัน
15.00 น. ถึงท่าเรือปีนัง




จากแผนที่ที่ผมมี เดินตรงไปเลยจนถึงถนน Jalan Masjid Kapitan Keling ถ้าเลี้ยวขวาเราก็จะเจอ.......ไม่เจอหว่ะ ที่พักอยู่ไหนเนี่ย เดินไปจนสุดถนน ไม่มี หรือมันอยู่ในซอย ก็ยังไม่เจอ ของหนักมาก ร้อนมาก มันอยู่ไหนเนี่ย เดินกลับมายังจุดเดิมก่อนจะเลี้ยวขวา แต่เลี้ยวซ้ายแทน เจอซะที Red Inn Court (หมายเลข 1) 220 บาท ผมเลือกห้อง 4 เตียง มีแอร์ ไวไฟ ห้องน้ำรวม (หมายเลข 2 คือ Street Art)



16.00 น. Penang Hill ไม่ได้จะไปเลย เก็บของเสร็จก็ออกไปหาไรกิน เดินเล่น สำรวจพื้นที่ เดินไปเรื่อยๆ ว่าจะไปซื้อตั๋วรถนอนไปมะละกาที่ Komtar ตึกที่สูงที่สุดในปีนัง และเป็นศูนย์กลางรถเมล์ของปีนัง ยืนงงอยู่สักพัก เหลือบไปเห็นป้าย แจ้งสายรถเมล์และสถานที่ สาย 204 (2 RMx2) ไปสุดสายที่ Penang Hill สุดสายยังไงก็ไม่หลง ค่าเข้า+ค่ารถรางขึ้นปีนังฮีล 30RM แพงอ่า แต่มาถึงแล้วก็ต้องขึ้น (แอบงก) สรุปยังไม่ได้ตั๋วรถนอนไปมะละกาเลย ไปปีนังฮีลซ่ะแล้ว ลืมสนิทเลย

ตึก Komtar



และแล้วมันก็เริ่มต้น จะอะไรละ คุยกับฝรั่งอ่ะสิ นั่งรถเมล์ข้างๆ กัน ตอนแรกก็ไม่คุยอ่า (ก็ไม่หล่อเลย) พอเอ่ยคำแรกไป บทสนทนาก็มาหลั่งไหล พรั่งพรู เรื่อยๆ ไม่ขาดสาย ฟังรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ก็ว่ากันไป คุยกันตลอดทางจนถึงปีนังฮีล และก็ขึ้นไปเที่ยวด้วยกัน เพื่อนคนแรกในการเดินทาง อิมพอร์ตมาจากรัสเซีย แต่ก็อยู่เมืองไทยมา 13 ปี พูดไทยไม่ได้น่ะ เสร็จจากมาเลเซีย เค้าก็จะกลับไปอยู่ที่เกาะพงันบ้านเราเอง ก่อนหน้านี้อยู่เชียงใหม่มาก่อน



18.00น. บน Penang Hill ก็เหมือนสวนขนาดใหญ่บนเขา ต้องนั่งรถชมถึงจะทั่ว แต่เสียตังน่ะ เลยไม่นั่ง เดินทั่วๆ ก็พอ มีจุดชมวิว มองเห็นเมืองปีนังทั้งเมือง มีจุดถ่ายรูปเยอะแยะ มีวัดฮินดู และมัสยิด มีที่พักด้วยน่ะ แต่จุดประสงค์หลักๆ ของผมคือ รอถ่ายภาพเมืองปีนังยามราตรี (แอบเห็นมาจากรีวิว) แยกกับเพื่อนรัซเสียตรงนี้ เพราะเราจะอยู่ถ่ายรูป ให้ฟ้ามืดอีกสักนิด เพื่อนรัสเซียเลยลงไปก่อน ไม่ได้ติดต่อกันต่อน่ะ แบบว่าเพื่อนคนนี้ค่อนข้างลึกลับ



20.00น. เย็นค่ำ คนก็ยังไม่ขึ้นเขามาไม่หยุด ตอนขึ้นก็ค่อยๆ ทยอยขึ้นมา ขาลงนี่สิ ลงพร้อมกัน ต่อแถวกันยาวมากกกกกกกกกก 2 ทุ่มผมถึงได้ลงจากเขา ที่ปีนังส่วนใหญ่เป็นคนอินเดีย และอีกครึ่งเป็นคนจีน คนจีนที่นี่เรียบร้อยมาก ไม่เสียงดัง ไม่ซกมก แต่คนอินเดียที่นี่ซิ น่าจะเหมือนอินเดียบ้านเกิด แซงแถวผมเฉยเลยตอนจะขึ้นรถรางขาลง ผมกับคนจีนนี่ยืดไหล่เบียดกันเลย ทำไมอ่ะเหรอ เค้าเรียกญาติ เรียกเพื่อนอินเดียให้มาแซงด้วยอ่ะดิ ลงจากเขามาก็ขึ้นรถเมล์ที่เดิมกลับเข้าถึง Komtar ตอน 3 ทุ่ม





21.0น. เวลานี้ควรจะถึงที่พัก หาอะไรกินอิ่มท้อง นอนเล่นไลน์ เช็คเฟส แล้วทำอะไรอยู่เหรอ ก็หลงทางน่ะสิ หลงจริงจังด้วย ออกจากตึก Komtar เดินไปจะกลับทางเดิม แต่คิดว่าถ้าเลี้ยวแยกนี้ น่าจะไปบรรจบกันที่ถนนหน้าที่พักแต่เราคิดผิด เราเดินไปเรื่อยๆ เริ่มนานเกินไป มันควรจะถึงได้แล้ว เดินไปเรื่อยๆ มันคงถึง แต่ทุกอย่างเริ่มมืด เปลี่ยว บ้าน ร้านค้าปิดหมดเลย คนก็ไม่ค่อยมี เอาแผนที่ออกมาดูก็ไม่มีประโยชน์ เพราะไม่รู้เลยว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน โชคดีเดินไปเจอร้านอาหารเปิดอยู่ เข้าไปถามเค้าว่า Little India อยู่ไหนเพราะเราอยู่แถวนั้น เค้าบอกไกลมากจากตรงนี้ ให้เดินตรงไปทางนี้ ไกลมากอ่ะผมไม่ห่วงเดินไปถ้ามันเป็นทางที่ใช่ แต่นี่เดินถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ พยายามหาแท็กซี่ก็ไม่มีผ่านมา ขอให้คนช่วยพาไปส่งเค้าก็ไม่ช่วย มันเริ่มดึก หิว เหนื่อย คนก็ไม่มีให้ถ่าย ร้านก็ปิดหมด เมืองน่ากลัวมาก เกือบจะร้องไห้แหนะ คิดว่ามาลำบากทำไมเนี่ย

ผมมีแผนที่ 3 ฉบับ ในขณะที่เกือบจะยอมแพ้ พระเจ้าช่วย!! มีฉบับนึงบอกถึงเส้นทางไปที่โฮสเทลชื่อ Noob ผมเดินมาถึงที่นั่นพอดี แล้วผมก็รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ต้องไปทางไหน ผมเดินห่างจากที่เดิมมาครึ่งเมือง ผมอยู่ฝั่งทิศเหนือของจอร์จทาว แต่ผมเดินทางจนถึงทิศใต้ของเมือง ผมเดินกลับไปผ่านทางเดิมตอนที่นั่งเรือเฟอร์รี่มา กว่าจะถึงที่พักก็ 4 ทุ่ม ซื้อน้ำซื้อขนมนิดหน่อยก่อนเข้าที่พัก วันแรกก็เล่นกันหนักเลย

พอท้องอิ่มคิดถึงวันพรุ่งนี้ เพิ่งนึกได้ตอนนี้ว่ายังไม่มีตั๋วไปมะละกาเลย ซวยแล้วตรู รีบลงไปที่เคาน์เตอร์ด้านล่าง จะถามรายละเอียดรถ และเวลาในการเดินทาง ที่เคาน์เตอร์มีคนมาติดต่ออยู่ รอสักพักเลยไปคุยกับชาวสิงค์โปคนนึงนั่งอยู่ล๊อบบี้ (ตอนแรกคิดว่าเธอเป็นแฟนพนักงานที่เคาน์เตอร์เลยไปคุย) มาเที่ยวเหมือนกัน สอบถามการเดินทางไปมะละกา เธอก็บอกเหมือนที่เรารู้ ว่าต้องไปซื้อที่ Komtar หลังจากนั้นเราก็คุยเรื่องอื่นๆ การเที่ยวคนเดียว ที่เที่ยวในไทย สักประมาณ 5 ทุ่ม ผมชักอยากอาบน้ำนอนแล้ว เลยขอตัวแยกมาก กลับมาที่ห้อง พบเพื่อนอีก 3 คน อยู่ในห้อง (ตอนแรกผมอยู่คนเดียว นึกว่าคืนนี้จะได้เหมาห้องแล้ว สบายยยยยย) 3 คนในห้องคือคนที่มาติดต่อด้านล่างเมื่อสักครู่ ทักทายกันเล็กน้อย เราก็อาบน้ำ เตรียมของวันพรุ่งนี้ แล้วก็นอน

ชื่อสินค้า:   มาเลเซีย, ปีนัง, กัวลาลัมเปอร์, มะละกา
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่