เรายืมไอดีเพื่อนมาลงนะคะ
สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวผู้เขียนชื่อแป้ง เป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นี่ก็จบปีสามแล้ว
หลังสอบเสร็จผู้เขียนกับเพื่อนชื่อฟองน้ำ(เพื่อนเก่าแก่ตั้งแต่ ป.1 จวบจนปัจจุบัน) วางแผนหอบหัวใจที่ห่อเหี่ยวจากการโดนข้อสอบทำร้าย
ไปเที่ยวแม่สาย จ.เชียงราย นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนและเพื่อนแบกเป้ไปเที่ยวกันสองคนโดยไม่มีผู้ปกครองไปด้วย--บร๊ะเจ้านี่ผู้เขียนอายุเท่าไรแล้วนี่
เรามีการวางแผนนานหนึ่งสัปดาห์เรื่องที่พัก เส้นทาง ค่าใช้จ่าย ในวินาทีนั้นมั่นใจแบบสุดว่า ข้อมูลบึ๊กมากถึงมากที่สุด
โอ้วโหวมาเลยทั้งไทยทั้งเทศ เจ๊พร้อมไฟต์

อ่านกระทู้รีวิวเรื่องข้อควรระวังเกี่ยวกับการซื้อของและต่อรองราคามาอย่างดี --ฮึฮึ(ยิ้มอ่อน)
วันแรกของการเดินทางผู้เขียน(ซ้อน)กับเพื่อนขับมอเตอร์ไซค์ ไปฝากไว้ที่ร้านรับฝากรถนางรอง ในราคาวันละ 10 บาท
เมื่อรับฝากเสร็จพนักงงานจะให้ตั๋วลูกค้าเวลารับรถคืนส่วนค่าบริการ เก็บเงินวันมาเอารถกลับ
ในส่วนของร้านรับฝากรถมีบริการอยู่ใกล้ๆสถานีขนส่งอาเขต ราคาเท่ากันทุกร้านคือ 10บาท/24ชั่วโมง เกินมานิดหน่อยก็ลดหย่อนกันไป
ตั๋วที่ผู้เขียนได้มาจากเคาน์เตอร์ขายตั๋วหน้าวัดพระสิงห์ ในราคา 149 บาท เป็นตั๋วจากเชียงใหม่ - เชียงราย(ถ้าซื้อจากอาเขตจะแค่ 129 บาท ที่นี่เก็บค่าบริการ 20 บาทค่ะ)
คือฟองน้ำเพื่อนผู้เขียนนางไปซื้อและให้พนักงงานขายตั๋วแนะนำ แต่นางพนักงานไม่มีตั๋วตรงถึงแม่สายขายค่ะ
ที่แย่คือนางไม่ยอมบอกเพื่อนผู้เขียนว่ามันมีรถโดยจากเชียงใหม่ถึงแม่สาย
แต่ไม่เป็นไรรถค่อนข้างบริการดี แอร์เย็นมากถ้าขี้หนาวนี่เอาผ้าห่มไปเลยค่ะ
ถ้าใครมีแผนจะเที่ยวเราแนะนำให้ตรวจสอบตาางเดินรถและราคาตั๋วได้ที่
http://www.greenbusthailand.com/website/services/bus/time-table
เดินทางสี่ชั่วโมงถึง บขส.เชียงราย (เก่า) (**ที่ในเวียงเชียงรายมี บขส. สองที่นะคะคือเก่าและใหม่**)
พนักงานบนรถบอกให้ผู้เขียนลงที่ บขส.เก่า แล้วต่อรถไป แม่สาย 39 บาท รถค่อนข้างเก่าและวิ่งช้า

แต่ในการวิ่งช้าๆทำให้เห็นบรรยากาศและทัศนียภาพของอำเภอเมือง อำเภอแม่จัน และอำเภอแม่สายไปในตัว จิบอกว่าภูเขาสวยมาก อากาศดีเลยในวันที่ผู้เขียนเดินทาง

ถึง บขส.อ.แม่สายก็ปาเข้าไป บ่ายสองกว่าๆ แผนที่ผู้เขียนวางไว้ตามตารางเวลาล้มระเนระนาด
นั่งรถรอบเมืองบอกลุงคนขับจะไปลงโรงแรมที่ซอยเทศบาล 6 คนขับบอกให้เราลง ซอย 18 บอกมันเชื่อมถึงกัน เราจ่ายเงินคนละ 15 บาท

เดินเข้าไปในซอย เจอคุณป้าใจดีบอกทางให้เราเดิน แต่ยิ่งเดินไปเดินไปก็เหมือนจะหลงเพราะซอยแถวนี้เป็นซอยร่างแห
สุดท้ายไปหยุดกินกาแฟที่ร้าน Coffee ทำให้รู้ว่ากว่าจะถึงซอย 6 ไกลมาก อารมณ์ตอนนี้อึ้งมาก ทำไมลุงรถรอบเมืองต้องหลอกเราด้วย
ก่อนขึ้นรถลุงบอกว่ามันอยู่ในซอยต้องเพิ่มเงินถึงจะไปส่ง ผู้เขียนเลยบอกลุงว่าลุงส่งหน้าปากซอยก็ได้ค่ะจะได้ไม่ต้องกลับรถให้ลำบาก
แล้วสุดท้ายชั้นก็โดนคนไทยด้วยกันหลอกแบบเจ็บใจมาก อารมณ์เสียมากกกกกยอมรับเลย
ตอนนั้นฟองน้ำนางติดต่อไปที่โรงแรมแล้วที่จองไว้แล้วนางให้ข้อมูลการเดินทางไม่ได้เลยจ้า เจ้าของร้านและพนักงานเห็นเด็กสองคนเหนื่อย ร้อน อารมณ์เสีย
ก็เอาน้ำเย็นๆมาเสิร์ฟ น่ารักมาก ผู้เขียนสั่งเอสเปรสโซเย็นมาดื่มชะโลมใจ เฮ้ยยยยอร่อย ร้านนี้เขาไม่ใส่นมข้นหวานนะคะ เป็นเอสเปรสโซนมสด สาวๆหลายคนน่าจะชอบ เพื่อนเราสั่งโกโก้เย็นค่ะ นางบอกว่าจางไปหน่อย
ราคาเท่ากัน(เกือบ)หมดทุกเมนูเลยคือ ร้อน 40 เย็น 50 อาหารจานเดียวที่โต๊ะข้างๆสั่งน่ากินมากเลย แต่ตอนนั้นเป้าหมายของผู้เขียนคือเช็คอินห้องพักให้เร็วที่สุด เลยไม่ได้ลอง TT3
ทางร้านติดต่อรถมอไซค์รับจ้างให้ รับประกันว่าเราไปถึงที่พักแน่นอน 5555 ค่ารถคนละ 40 บาท นั่งรถมาถึงโรงแรมประมาณ 500 เมตร คือเห็นแล้วว่า 40 บาทแพงเชี่ยะๆ
แต่อยากลองใจว่าป้าคนขับจะลดราคาให้ไหม นางเงียบบบบบบบบ เลยจ่ายไป 80 บาท แพงขนาดนี้รวยตายห่าตายโหง อิชั้นจะบ้าตายเจ้าค่ะ เอาวะยังไงก็ถึงที่พักแล้ว
นี่เป็น FB ของทางร้านนะคะ ถ้าไปเที่ยวนี่แนะนำเลย
https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%9Fcoffee-Time/321020851317718
วินาทีที่เดินไปถึงหน้าโรงแรม ย้ำว่าแค่ตรงหน้าโรงแรมนะคะ อึ้งกว่าโดนลุงรถรอบเมืองหลอก เล็ก เก่า คนน้อย น่ากลัว (ขอสงวนชื่อที่พักแต่ใบ้ให้ว่าหมีน้อย)
พอดีหันไปเจอป้ายโฆษณาโรงแรมไททอง ดูใหญ่โต และอยู่ติดถนน
ตรงข้ามสถานีตำรวจ เอื้ออออออ เอาที่นี่เถอะ ราคาก็เท่าๆกัน ที่โรงแรมไททองอยู่ติดถนนใหญ่นะคะ ห้องพักมีหลายราคา 400-800
ผู้เขียนเลือกราคาคืนละ 400 บาท หารกันก็คนละ 200 มีน้ำอุ่น ทีวี Wifi แอร์(หนาวอย่างไม่น่าเชื่อ) --เฮร้ยยแอร์เก่ามากรุ่นเก่าแต่หนาวหิมะแทบแกะเหงือก
บรรยากาศออกจะพีเรียดนิดนึงค่ะ แต่ข้างในไม่น่ากลัวเท่าไร บริการค่อนข้างดี พนักงานเคาร์เตอร์แนะนำการเดินทางดีมากอาจจะเพราะเขามีบริการนำเที่ยวเป็นรายได้หลัก
กว่าจะเก็บของเข้าห้องก็ปาเข้าไป บ่ายสี่โมงเย็น จบกันแผนสองวันหนึ่งคืนที่วางมา ตกลงกันว่าอยู่สามวันสองคืนเหอะ
เนื่องจากพรุ่งนี้ผู้เขียนจะข้ามฝั่งไปเที่ยวท่าขี้เหล็กประเทศพม่ากัน จึงต้องเตรียมเอกสารผ่านแดนชั่วคราว สามารถทำได้ที่ที่ว่าการอำเภอแม่สายเท่านั้น ใช้แค่บัตรประชาชน 1 ใบ ค่าบริการ 30 บาท
เปิดบริการ 6:00-18:30 เดินจากโรงแรมออกไปราว 1.5 กิโลเมตร ใช้เวลาสัก 10 นาทีกว่าๆ ที่ทำการอยู่ในโซนเดียวกับศาลหลักเมือง ผู้เขียนแวะไปกราบสักการะและขอให้ไม่โดนใครหลอกอีก TT3

เหมือนท่านรับรู้ ผู้เขียนแวะกินก๋วยเตี๋ยวน้ำตกหน้าอำเภอ ราคา 35 บาท มีน้ำเย็นให้ มีเครื่องเคียงเป็นถั่วงอกดิบและใบโหระพา ปริมาณถือว่าเยอะสมราคา อิ่มเลยทีเดียว อร่อยด้วยแหละแกร ขากลับจากแม่สายกะจะสั่งลาอีกชาม แต่ลุงแกขายตอนเย็น อดกินไปดิ ใครไปช่วยอุดหนุนคุณลุงด้วยนะคะ

ขากลับฟองน้ำนางเห็นร้านขนมครกค่ะ นางนี่ปรี่เข้าไปซื้อ
อร่อยใช้ได้เลยค่ะ 8 คู่ 20 บาท ถือว่าไม่แพง

กินไปแล้วคนละคู่ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าต้องถ่ายรูปค่ะ 555
ค่าครองชีพที่แม่สายค่อนข้างสูง ราคาอาหารจานเดียวจะอยู่ที่ 40-50 บาท แม้แต่ของในร้านสะดวกซื้อก็แพงกว่าที่เชียงใหม่ โจ๊กกระป๋องราคา 15 บาท ที่แม่สายขาย 18 บาท คอนเนตโต้โคนละ 30 ค่ะ เซเว่นที่อื่นขายกัน 25 แม่เจ้าา
ไม่ต้องพูดถึงร้านของชำข้างนอกแพงกว่านี้อีก ตกเย็นเราเชียร์วอลเลย์บอล ไทย - ญี่ปุ่น แพ้แบบที่ไม่ควรจะเป็นเลยลงไปย้อมใจกับร้านข้าวมันไก่มิดไนท์หน้าโรงแรมไททอง อร่อยและเยอะ 40 บาททุกเมนู
ข้าวมันไก่ต้ม ข้าวมันไก่ทอด ข้าวหน้าไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวขาหมู อร่อยทุกเมนูค่ะเจ๊รับรอง ถ้าไม่ดีจริงอมขี้มาพ่นใส่หน้าผู้เขียนได้ ใจใจกันไปเลย
พอกลับขึ้นห้องพัก ผู้เขียนและเพื่อนลองหาอ่านรีวิวของคนเคยข้ามฝากไปท่าขี้เหล็ก
อ่านแล้วหนาวกันมากค่ะ เจอยัดของ เจอรุมขายของ โดนปรับกันไปเหยียบหมื่น
เราสองจิตตกกันมาก ชั่งใจอยู่นานว่าจะไปดีหรือไม่ไปดี
สุดท้ายก็ตัดสินใจไปค่ะ เพราะไหนๆก็มาถึงที่กันแล้ว
จบการเดินทางวันแรก เดี๋ยวมาเขียนต่อนะครับ
สวัสดีค่า
เราเป็นเจ้าของไอดีนี้เอง เราชื่อฟองน้ำ
เนื่องจากตอนนี้สหายแป้งของเรานางติดภารกิจมาเขียนไม่ได้
หลังจากนี้ กระทู้นี้เราจะครองเอง วะฮะฮ่า ~
วันที่สองเราสองคนรีบตื่นมากเลยค่ะ เรานี่ตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพื่อมาอาบน้ำแต่งตัว
เรานัดกันไว้ว่าจะข้ามแดนไปพม่ากันตอนเจ็ดโมงค่ะ
ได้ฤกษ์ เราออกเดินทางจากโรงแรมไปที่ด่านพรมแดนแม่สายค่ะ
โชคดีที่เราทำบัตรข้ามแดนกันไว้ตั้งแต่เมื่อวานเย็น(ตอนเดินไปกินก๋วยเตี๋ยว) เลยไม่ต้องเดินย้อนกลับไปอีกเป็นกิโลๆ
บัตรข้ามแดนถ้าทำแล้วมีอายุ 7 วันค่ะ
พอถึงฝั่งพม่า จะมีป้ายตอนรับเป็นภาษาพม่าอยู่ค่ะ พร้อมประดับตกแต่งด้วยธงอาเซียนนานาประเทศ
นี่ แชะรูปไว้เป็นหลักฐานหน่อยค่ะ ว่าข้ามาเยือนพม่าแล้วนะ ฮี่ฮี่

จากนี้จะต้องผ่านด่านตรวจเอกสารเข้าไปและต้องจ่ายเงินก่อนที่ตม.พม่าก่อนเข้าท่าขี้เหล็กอีก 10 บาท

รูปเราสองคนเองค่ะ ถ่ายก่อนจะเข้าไปรบ(?)ในท่าขี้เหล็ก ที่ถืออยู่นั่นคือบัตร(กระดาษ)ผ่านข้ามแดนค่ะ
พอเข้าไปถึง เราก็เจอของเลยค่ะ มีลุงประมาณสองสามคนยืนดักกันทันทีที่เราออกจากตม.
"ทัวร์มั้ยคร้าบ" "มอไซค์มั้ยคร้าบ" "สามล้อมั้ยคร้าบ" ประสานเสียงกันมากค่ะ
เราสองคนปฏิเสธกันรัวๆเลยค่ะ ไม่เอา ไม่ไป
แป้งงี้นางวิ่งเลยค่ะ ส่วนเราก็เดินเร็วๆพร้อมตอบไปว่า "อยากเดินค่ะ"
มีการตอบกลับมาด้วยนะคะ "ไม่มีไรเดินหรอก" และก็เดินตามพวกเรามาค่ะ! สยองมาก ระทึกแบบสุด
สุดท้ายเพื่อนเราจับแขนเราวิ่งค่ะ โกยหนีกันแบบไม่ยั้ง
หลังจากผ่านด่านลุงจอมตื๊อนั่นมาได้ เราก็มาเจอสภาพเมืองที่ว่างเปล่าค่ะ
ร้านค้าแทบจะยังไม่เปิดกันเลยค่ะ เรามากันเช้าเกิน

เรานี่อึ้งไปตามๆกัน อ้าว แล้วตูจะมาดูอะไรรรร
เราสองคนเดินกันแบบระมัดระวังมากค่ะ ไม่ไว้ใจใครซักคน
เราเองไม่กล้าสบตาใครเลยค่ะ แม้แต่ชายตามองของขายยังไม่กล้า กลัวว่าถ้าสบตาแล้วจะโดนวิ่งตาม ฮืออออ
ดังนั้น รูปในตลาดท่าขี้เหล็กเลยไม่มีค่ะ ไม่กล้าหยิบมือถือออกมาถ่าย
อ้อ เราจะเตือนว่า รถราในพม่าขับกันแบบฟหกด่าสวมาก ฉวัดเฉวียนแบบสุด บีบแตรกันไม่ยั้ง
เราต้องรักษาตัวเองให้รอดปลอดภัยค่ะ เค้าขับกันแบบไม่เกรงใจเราเจงๆ
พอเดินวนตลาดไปได้สามรอบ เราก็ออกมากันค่ะ ตัดสินใจว่าจะกลับกันแล้ว
ก็มันไม่มีอะไรให้ดูกันจริงๆอ่ะค่ะ จากที่สังเกตคือคนแถบนี้เริ่มทำมาหากินกันสายมากค่ะ สายชนิดที่ว่าเก้าโมงครึ่งแล้วบางร้านก็ยังเพิ่งเริ่มเปิดกัน
พอเดินออกมาจนจะถึงทางออก เราเจอสถานที่แห่งนี้กันค่ะ

เรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ค่ะ ไม่มีป้ายบอก(ถึงมีก็อ่านไม่ออกไหมละ=..= )
พอจะออกจากตรงนี้เท่านั้นแหละค่ะ เจอป้ายหลบอยู่หลังรั้วทางเข้าเลยค่ะ "ค่าเข้าชมคนละ 5 บาท"
ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าถูกมากหากเทียบกับอาหารตาที่ได้รับ
พอจะออกจากท่าขี้เหล็ก เราเจอร้านอาหารอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ
เราสองคนเลยเเข้าไปข้างใน เพราะส่วนตัวเรานั้นอยากกินก๋วยเตี๋ยวพม่าม๊ากกก ที่มันเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้งสีชมพูๆอ่ะค่ะ มีใครรู้บ้างไหมคะว่ามันเรียกว่าอะไร?

ปาท่องโก๋กับซาโมซ่าค่ะ จานละ 10 บาทเอง ถูกม๊าก
และแล้ว พระเอกของเราก็มาค่ะ แท่นแท๊นนนน

ถึงจะไม่ใช่เมนูที่ตามหา แต่หน้าตาดูดีมากค่ะ (ปรบมือ)
อร่อยมาก เมนูนี้ชื่อว่า "ยำก๋วยเตี๋ยวพม่า" ค่ะ
นี่เขียนไปยังน้ำลายสอไปเลยค่ะ อยากกินอีก
[CR] สะพายเป้เที่ยวจากเชียงใหม่ถึงแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ด้วยงบเดินทาง+ที่พัก 1000 บาท สไตล์นักธรณีวิทยา
สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวผู้เขียนชื่อแป้ง เป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นี่ก็จบปีสามแล้ว
หลังสอบเสร็จผู้เขียนกับเพื่อนชื่อฟองน้ำ(เพื่อนเก่าแก่ตั้งแต่ ป.1 จวบจนปัจจุบัน) วางแผนหอบหัวใจที่ห่อเหี่ยวจากการโดนข้อสอบทำร้าย
ไปเที่ยวแม่สาย จ.เชียงราย นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนและเพื่อนแบกเป้ไปเที่ยวกันสองคนโดยไม่มีผู้ปกครองไปด้วย--บร๊ะเจ้านี่ผู้เขียนอายุเท่าไรแล้วนี่
เรามีการวางแผนนานหนึ่งสัปดาห์เรื่องที่พัก เส้นทาง ค่าใช้จ่าย ในวินาทีนั้นมั่นใจแบบสุดว่า ข้อมูลบึ๊กมากถึงมากที่สุด
โอ้วโหวมาเลยทั้งไทยทั้งเทศ เจ๊พร้อมไฟต์
วันแรกของการเดินทางผู้เขียน(ซ้อน)กับเพื่อนขับมอเตอร์ไซค์ ไปฝากไว้ที่ร้านรับฝากรถนางรอง ในราคาวันละ 10 บาท
เมื่อรับฝากเสร็จพนักงงานจะให้ตั๋วลูกค้าเวลารับรถคืนส่วนค่าบริการ เก็บเงินวันมาเอารถกลับ
ในส่วนของร้านรับฝากรถมีบริการอยู่ใกล้ๆสถานีขนส่งอาเขต ราคาเท่ากันทุกร้านคือ 10บาท/24ชั่วโมง เกินมานิดหน่อยก็ลดหย่อนกันไป
ตั๋วที่ผู้เขียนได้มาจากเคาน์เตอร์ขายตั๋วหน้าวัดพระสิงห์ ในราคา 149 บาท เป็นตั๋วจากเชียงใหม่ - เชียงราย(ถ้าซื้อจากอาเขตจะแค่ 129 บาท ที่นี่เก็บค่าบริการ 20 บาทค่ะ)
คือฟองน้ำเพื่อนผู้เขียนนางไปซื้อและให้พนักงงานขายตั๋วแนะนำ แต่นางพนักงานไม่มีตั๋วตรงถึงแม่สายขายค่ะ
ที่แย่คือนางไม่ยอมบอกเพื่อนผู้เขียนว่ามันมีรถโดยจากเชียงใหม่ถึงแม่สาย
แต่ไม่เป็นไรรถค่อนข้างบริการดี แอร์เย็นมากถ้าขี้หนาวนี่เอาผ้าห่มไปเลยค่ะ
ถ้าใครมีแผนจะเที่ยวเราแนะนำให้ตรวจสอบตาางเดินรถและราคาตั๋วได้ที่
http://www.greenbusthailand.com/website/services/bus/time-table
เดินทางสี่ชั่วโมงถึง บขส.เชียงราย (เก่า) (**ที่ในเวียงเชียงรายมี บขส. สองที่นะคะคือเก่าและใหม่**)
พนักงานบนรถบอกให้ผู้เขียนลงที่ บขส.เก่า แล้วต่อรถไป แม่สาย 39 บาท รถค่อนข้างเก่าและวิ่งช้า
แต่ในการวิ่งช้าๆทำให้เห็นบรรยากาศและทัศนียภาพของอำเภอเมือง อำเภอแม่จัน และอำเภอแม่สายไปในตัว จิบอกว่าภูเขาสวยมาก อากาศดีเลยในวันที่ผู้เขียนเดินทาง
ถึง บขส.อ.แม่สายก็ปาเข้าไป บ่ายสองกว่าๆ แผนที่ผู้เขียนวางไว้ตามตารางเวลาล้มระเนระนาด
นั่งรถรอบเมืองบอกลุงคนขับจะไปลงโรงแรมที่ซอยเทศบาล 6 คนขับบอกให้เราลง ซอย 18 บอกมันเชื่อมถึงกัน เราจ่ายเงินคนละ 15 บาท
เดินเข้าไปในซอย เจอคุณป้าใจดีบอกทางให้เราเดิน แต่ยิ่งเดินไปเดินไปก็เหมือนจะหลงเพราะซอยแถวนี้เป็นซอยร่างแห
สุดท้ายไปหยุดกินกาแฟที่ร้าน Coffee ทำให้รู้ว่ากว่าจะถึงซอย 6 ไกลมาก อารมณ์ตอนนี้อึ้งมาก ทำไมลุงรถรอบเมืองต้องหลอกเราด้วย
ก่อนขึ้นรถลุงบอกว่ามันอยู่ในซอยต้องเพิ่มเงินถึงจะไปส่ง ผู้เขียนเลยบอกลุงว่าลุงส่งหน้าปากซอยก็ได้ค่ะจะได้ไม่ต้องกลับรถให้ลำบาก
แล้วสุดท้ายชั้นก็โดนคนไทยด้วยกันหลอกแบบเจ็บใจมาก อารมณ์เสียมากกกกกยอมรับเลย
ตอนนั้นฟองน้ำนางติดต่อไปที่โรงแรมแล้วที่จองไว้แล้วนางให้ข้อมูลการเดินทางไม่ได้เลยจ้า เจ้าของร้านและพนักงานเห็นเด็กสองคนเหนื่อย ร้อน อารมณ์เสีย
ก็เอาน้ำเย็นๆมาเสิร์ฟ น่ารักมาก ผู้เขียนสั่งเอสเปรสโซเย็นมาดื่มชะโลมใจ เฮ้ยยยยอร่อย ร้านนี้เขาไม่ใส่นมข้นหวานนะคะ เป็นเอสเปรสโซนมสด สาวๆหลายคนน่าจะชอบ เพื่อนเราสั่งโกโก้เย็นค่ะ นางบอกว่าจางไปหน่อย
ราคาเท่ากัน(เกือบ)หมดทุกเมนูเลยคือ ร้อน 40 เย็น 50 อาหารจานเดียวที่โต๊ะข้างๆสั่งน่ากินมากเลย แต่ตอนนั้นเป้าหมายของผู้เขียนคือเช็คอินห้องพักให้เร็วที่สุด เลยไม่ได้ลอง TT3
ทางร้านติดต่อรถมอไซค์รับจ้างให้ รับประกันว่าเราไปถึงที่พักแน่นอน 5555 ค่ารถคนละ 40 บาท นั่งรถมาถึงโรงแรมประมาณ 500 เมตร คือเห็นแล้วว่า 40 บาทแพงเชี่ยะๆ
แต่อยากลองใจว่าป้าคนขับจะลดราคาให้ไหม นางเงียบบบบบบบบ เลยจ่ายไป 80 บาท แพงขนาดนี้รวยตายห่าตายโหง อิชั้นจะบ้าตายเจ้าค่ะ เอาวะยังไงก็ถึงที่พักแล้ว
นี่เป็น FB ของทางร้านนะคะ ถ้าไปเที่ยวนี่แนะนำเลย
https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%9Fcoffee-Time/321020851317718
วินาทีที่เดินไปถึงหน้าโรงแรม ย้ำว่าแค่ตรงหน้าโรงแรมนะคะ อึ้งกว่าโดนลุงรถรอบเมืองหลอก เล็ก เก่า คนน้อย น่ากลัว (ขอสงวนชื่อที่พักแต่ใบ้ให้ว่าหมีน้อย)
พอดีหันไปเจอป้ายโฆษณาโรงแรมไททอง ดูใหญ่โต และอยู่ติดถนน
ตรงข้ามสถานีตำรวจ เอื้ออออออ เอาที่นี่เถอะ ราคาก็เท่าๆกัน ที่โรงแรมไททองอยู่ติดถนนใหญ่นะคะ ห้องพักมีหลายราคา 400-800
ผู้เขียนเลือกราคาคืนละ 400 บาท หารกันก็คนละ 200 มีน้ำอุ่น ทีวี Wifi แอร์(หนาวอย่างไม่น่าเชื่อ) --เฮร้ยยแอร์เก่ามากรุ่นเก่าแต่หนาวหิมะแทบแกะเหงือก
บรรยากาศออกจะพีเรียดนิดนึงค่ะ แต่ข้างในไม่น่ากลัวเท่าไร บริการค่อนข้างดี พนักงานเคาร์เตอร์แนะนำการเดินทางดีมากอาจจะเพราะเขามีบริการนำเที่ยวเป็นรายได้หลัก
กว่าจะเก็บของเข้าห้องก็ปาเข้าไป บ่ายสี่โมงเย็น จบกันแผนสองวันหนึ่งคืนที่วางมา ตกลงกันว่าอยู่สามวันสองคืนเหอะ
เนื่องจากพรุ่งนี้ผู้เขียนจะข้ามฝั่งไปเที่ยวท่าขี้เหล็กประเทศพม่ากัน จึงต้องเตรียมเอกสารผ่านแดนชั่วคราว สามารถทำได้ที่ที่ว่าการอำเภอแม่สายเท่านั้น ใช้แค่บัตรประชาชน 1 ใบ ค่าบริการ 30 บาท
เปิดบริการ 6:00-18:30 เดินจากโรงแรมออกไปราว 1.5 กิโลเมตร ใช้เวลาสัก 10 นาทีกว่าๆ ที่ทำการอยู่ในโซนเดียวกับศาลหลักเมือง ผู้เขียนแวะไปกราบสักการะและขอให้ไม่โดนใครหลอกอีก TT3
เหมือนท่านรับรู้ ผู้เขียนแวะกินก๋วยเตี๋ยวน้ำตกหน้าอำเภอ ราคา 35 บาท มีน้ำเย็นให้ มีเครื่องเคียงเป็นถั่วงอกดิบและใบโหระพา ปริมาณถือว่าเยอะสมราคา อิ่มเลยทีเดียว อร่อยด้วยแหละแกร ขากลับจากแม่สายกะจะสั่งลาอีกชาม แต่ลุงแกขายตอนเย็น อดกินไปดิ ใครไปช่วยอุดหนุนคุณลุงด้วยนะคะ
ขากลับฟองน้ำนางเห็นร้านขนมครกค่ะ นางนี่ปรี่เข้าไปซื้อ
อร่อยใช้ได้เลยค่ะ 8 คู่ 20 บาท ถือว่าไม่แพง
กินไปแล้วคนละคู่ เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าต้องถ่ายรูปค่ะ 555
ค่าครองชีพที่แม่สายค่อนข้างสูง ราคาอาหารจานเดียวจะอยู่ที่ 40-50 บาท แม้แต่ของในร้านสะดวกซื้อก็แพงกว่าที่เชียงใหม่ โจ๊กกระป๋องราคา 15 บาท ที่แม่สายขาย 18 บาท คอนเนตโต้โคนละ 30 ค่ะ เซเว่นที่อื่นขายกัน 25 แม่เจ้าา
ไม่ต้องพูดถึงร้านของชำข้างนอกแพงกว่านี้อีก ตกเย็นเราเชียร์วอลเลย์บอล ไทย - ญี่ปุ่น แพ้แบบที่ไม่ควรจะเป็นเลยลงไปย้อมใจกับร้านข้าวมันไก่มิดไนท์หน้าโรงแรมไททอง อร่อยและเยอะ 40 บาททุกเมนู
ข้าวมันไก่ต้ม ข้าวมันไก่ทอด ข้าวหน้าไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวขาหมู อร่อยทุกเมนูค่ะเจ๊รับรอง ถ้าไม่ดีจริงอมขี้มาพ่นใส่หน้าผู้เขียนได้ ใจใจกันไปเลย
พอกลับขึ้นห้องพัก ผู้เขียนและเพื่อนลองหาอ่านรีวิวของคนเคยข้ามฝากไปท่าขี้เหล็ก
อ่านแล้วหนาวกันมากค่ะ เจอยัดของ เจอรุมขายของ โดนปรับกันไปเหยียบหมื่น
เราสองจิตตกกันมาก ชั่งใจอยู่นานว่าจะไปดีหรือไม่ไปดี
สุดท้ายก็ตัดสินใจไปค่ะ เพราะไหนๆก็มาถึงที่กันแล้ว
จบการเดินทางวันแรก เดี๋ยวมาเขียนต่อนะครับ
สวัสดีค่า
เราเป็นเจ้าของไอดีนี้เอง เราชื่อฟองน้ำ
เนื่องจากตอนนี้สหายแป้งของเรานางติดภารกิจมาเขียนไม่ได้
หลังจากนี้ กระทู้นี้เราจะครองเอง วะฮะฮ่า ~
วันที่สองเราสองคนรีบตื่นมากเลยค่ะ เรานี่ตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งเพื่อมาอาบน้ำแต่งตัว
เรานัดกันไว้ว่าจะข้ามแดนไปพม่ากันตอนเจ็ดโมงค่ะ
ได้ฤกษ์ เราออกเดินทางจากโรงแรมไปที่ด่านพรมแดนแม่สายค่ะ
โชคดีที่เราทำบัตรข้ามแดนกันไว้ตั้งแต่เมื่อวานเย็น(ตอนเดินไปกินก๋วยเตี๋ยว) เลยไม่ต้องเดินย้อนกลับไปอีกเป็นกิโลๆ
บัตรข้ามแดนถ้าทำแล้วมีอายุ 7 วันค่ะ
พอถึงฝั่งพม่า จะมีป้ายตอนรับเป็นภาษาพม่าอยู่ค่ะ พร้อมประดับตกแต่งด้วยธงอาเซียนนานาประเทศ
นี่ แชะรูปไว้เป็นหลักฐานหน่อยค่ะ ว่าข้ามาเยือนพม่าแล้วนะ ฮี่ฮี่
จากนี้จะต้องผ่านด่านตรวจเอกสารเข้าไปและต้องจ่ายเงินก่อนที่ตม.พม่าก่อนเข้าท่าขี้เหล็กอีก 10 บาท
รูปเราสองคนเองค่ะ ถ่ายก่อนจะเข้าไปรบ(?)ในท่าขี้เหล็ก ที่ถืออยู่นั่นคือบัตร(กระดาษ)ผ่านข้ามแดนค่ะ
พอเข้าไปถึง เราก็เจอของเลยค่ะ มีลุงประมาณสองสามคนยืนดักกันทันทีที่เราออกจากตม.
"ทัวร์มั้ยคร้าบ" "มอไซค์มั้ยคร้าบ" "สามล้อมั้ยคร้าบ" ประสานเสียงกันมากค่ะ
เราสองคนปฏิเสธกันรัวๆเลยค่ะ ไม่เอา ไม่ไป
แป้งงี้นางวิ่งเลยค่ะ ส่วนเราก็เดินเร็วๆพร้อมตอบไปว่า "อยากเดินค่ะ"
มีการตอบกลับมาด้วยนะคะ "ไม่มีไรเดินหรอก" และก็เดินตามพวกเรามาค่ะ! สยองมาก ระทึกแบบสุด
สุดท้ายเพื่อนเราจับแขนเราวิ่งค่ะ โกยหนีกันแบบไม่ยั้ง
หลังจากผ่านด่านลุงจอมตื๊อนั่นมาได้ เราก็มาเจอสภาพเมืองที่ว่างเปล่าค่ะ
ร้านค้าแทบจะยังไม่เปิดกันเลยค่ะ เรามากันเช้าเกิน
เรานี่อึ้งไปตามๆกัน อ้าว แล้วตูจะมาดูอะไรรรร
เราสองคนเดินกันแบบระมัดระวังมากค่ะ ไม่ไว้ใจใครซักคน
เราเองไม่กล้าสบตาใครเลยค่ะ แม้แต่ชายตามองของขายยังไม่กล้า กลัวว่าถ้าสบตาแล้วจะโดนวิ่งตาม ฮืออออ
ดังนั้น รูปในตลาดท่าขี้เหล็กเลยไม่มีค่ะ ไม่กล้าหยิบมือถือออกมาถ่าย
อ้อ เราจะเตือนว่า รถราในพม่าขับกันแบบฟหกด่าสวมาก ฉวัดเฉวียนแบบสุด บีบแตรกันไม่ยั้ง
เราต้องรักษาตัวเองให้รอดปลอดภัยค่ะ เค้าขับกันแบบไม่เกรงใจเราเจงๆ
พอเดินวนตลาดไปได้สามรอบ เราก็ออกมากันค่ะ ตัดสินใจว่าจะกลับกันแล้ว
ก็มันไม่มีอะไรให้ดูกันจริงๆอ่ะค่ะ จากที่สังเกตคือคนแถบนี้เริ่มทำมาหากินกันสายมากค่ะ สายชนิดที่ว่าเก้าโมงครึ่งแล้วบางร้านก็ยังเพิ่งเริ่มเปิดกัน
พอเดินออกมาจนจะถึงทางออก เราเจอสถานที่แห่งนี้กันค่ะ
เรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ค่ะ ไม่มีป้ายบอก(ถึงมีก็อ่านไม่ออกไหมละ=..= )
พอจะออกจากตรงนี้เท่านั้นแหละค่ะ เจอป้ายหลบอยู่หลังรั้วทางเข้าเลยค่ะ "ค่าเข้าชมคนละ 5 บาท"
ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าถูกมากหากเทียบกับอาหารตาที่ได้รับ
พอจะออกจากท่าขี้เหล็ก เราเจอร้านอาหารอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ
เราสองคนเลยเเข้าไปข้างใน เพราะส่วนตัวเรานั้นอยากกินก๋วยเตี๋ยวพม่าม๊ากกก ที่มันเป็นก๋วยเตี๋ยวแห้งสีชมพูๆอ่ะค่ะ มีใครรู้บ้างไหมคะว่ามันเรียกว่าอะไร?
ปาท่องโก๋กับซาโมซ่าค่ะ จานละ 10 บาทเอง ถูกม๊าก
และแล้ว พระเอกของเราก็มาค่ะ แท่นแท๊นนนน
ถึงจะไม่ใช่เมนูที่ตามหา แต่หน้าตาดูดีมากค่ะ (ปรบมือ)
อร่อยมาก เมนูนี้ชื่อว่า "ยำก๋วยเตี๋ยวพม่า" ค่ะ
นี่เขียนไปยังน้ำลายสอไปเลยค่ะ อยากกินอีก