สวัสดีครับ
เนื่องด้วยวันหยุดยาวต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาผมได้หนีความร้อนระอุของเมืองกรุงไปขึ้นดอยหาความเงียบสงบที่เชียงใหม่ ทริปนี้ไม่มีอะไรมากเพราะเน้นเข้าป่าอย่างเดียว ตลอด 3 วัน 2 คืน ผมเช่ารถขับไปเที่ยวดอยม่อนแจ่ม ดอยสุเทพ ดอยปุย และไปนอนโฮมสเตย์บนดอยที่แม่กำปอง ดูดซับธรรมชาติเข้าร่างกายจนเต็มอิ่ม ไว้มีโอกาสจะมารีวิวให้ชมแน่นอนครับ
ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีงามที่ผมรอคอยมานานที่จะได้ใช้บริการ
สายการบินกานต์แอร์ (Kan Air) สายการบินที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างในโลกออนไลน์ถึงความโดดเด่นในเรื่องการให้การบริการและความเป็นกันเองของลูกเรือ แน่นอนครับว่าสายการบินนี้ไม่ธรรมดาเพราะมีฮับอยู่ที่เชียงใหม่บินไปยังจุดหมายปลายทางในภาคเหนือและบินข้ามภูมิภาคไปยังหัวเมืองใหญ่ๆ หมายความว่าถ้าอยากจะใช้บริการจะต้องขึ้นเครื่อง/นั่งเครื่องมาลงที่เชียงใหม่เท่านั้น เพราะตอนนี้ไม่มีรูทที่บินออกจากกรุงเทพฯนั่นเอง (แต่ในอดีตเคยมีรูทออกจากกรุงเทพฯเส้นทาง ดอนเมือง-แม่สอด และดอนเมือง-พัทยา)

เจ้าเงือกน้อย ATR72-50 ทะเบียน HS-KAD (เครดิตรูปภาพจาก www.planespotters.net)
เกริ่นอีกสักเล็กน้อยสำหรับ
กานต์แอร์ เป็นสายการบินสัญชาติไทยขนาดเล็กที่ให้บริการเส้นทางบินในประเทศเป็นหลักโดยมีฮับอยู่ที่สนามบินเชียงใหม่ เริ่มให้บริการด้วยเครื่องบินแบบ Cessna Grand Caravan ขนาด 12 ที่นั่ง ตั้งแต่ปี 2554 จากเชียงใหม่สู่แม่ฮ่องสอน ปาย น่าน เชียงราย พิษณุโลก และจากเชียงใหม่ข้ามภูมิภาคไปยังขอนแก่น อุบลราชธานี หัวหิน และพัทยา (อู่ตะเภา) โดยใช้เครื่องบินแบบ ATR72-500 ขนาด 66 ที่นั่งให้บริการ โดยเส้นทางบินข้ามภูมิภาคจะใช้เวลาบินประมาณ 2 ชม.
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของกานต์แอร์ คือ เป็นสายการบิน Full Service Airline ที่ให้บริการเต็มรูปแบบ โดยสามารถโหลดกระเป๋าได้ฟรี เลือกที่นั่งฟรี มีอาหารร้อนและเครื่องดื่มเสริฟแบบจัดเต็มบนเที่ยวบิน และนอกจากนี้ยังมีบริการขนส่งนมแม่และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ฟรีอีกด้วย เรียกได้ว่าถึงแม้จะเป็นสายการบินเล็กๆแต่การบริการจัดหนักจัดเต็มไม่แพ้สายการบินใหญ่ๆเลยทีเดียว
สำหรับเที่ยวบินขากลับในวันนี้ผมเลยตัดสินใจบินอ้อมโลกจากเชียงใหม่ไปลงที่อู่ตะเภา นั่งรถมาลงที่พัทยาแล้วค่อยหารถกลับกรุงเทพฯอีกที (ชีวิตแลดูวุ่นวายมาก) เพราะอยากลองใช้บริการสายการบินนี้บวกกับผมเองไม่เคยนั่งเครื่องบินใบพัดมาก่อนเลย ยิ่งทำให้มีความอยากทวีเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ปล. ครั้งออกค่าโดยสารเองนะฮะ ไม่มีหน้าม้าแต่อย่างใด
สำหรับรูท เชียงใหม่-อู่ตะเภา-เชียงใหม่ กานต์แอร์กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา ในราคาโปรโมชั่นเปิดตัว 990 บาท บินตรงทุกวันจันทร์ พฤหัสบดี และเสาร์ โดยมีตารางบินดังนี้
เชียงใหม่ - พัทยา(อู่ตะเภา) K8 8527
17.00-19.00 น.
พัทยา(อู่ตะเภา) - เชียงใหม่ K8 8528
19.30-21.30
ช่องทางการจองตั๋วกานต์แอร์ในตอนนี้ มี 4 ช่องทางหลักๆ ได้แก่
1. จองผ่านเคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสารที่สนามบิน
2. จองผ่าน Call Center ที่เบอร์ 02-551-6111 (เวลา 08.00-20.00 น.)
3. จองผ่าน Kan Air Application บนสมาร์ทโฟน โดยสามารถจองเที่ยวบินพร้อมชำระค่าโดยสารผ่านบัตรเครดิตได้เลยครับ
4. จองผ่านเว็บไซต์
http://www.kanairlines.com
ค่าโดยสารของกานต์แอร์จะมีอยู่ 3 ระดับ คือ
Kan Promo, Kan Saver สามารถโหลดกระเป๋าได้ฟรี 15 kg เลือกที่นั่งฟรี และมีค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนเที่ยวบิน
Kan Flexi สามารถโหลดกระเป๋าได้ฟรีถึง 20 kg เลือกที่นั่งฟรี เปลี่ยนเที่ยวบินฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ตอนนี้กำลังมีโปรโมชั่นอยู่ด้วยครับ ราคารวมทุกอย่างแล้วเริ่มต้นเพียง 390 บาทเท่านั้น!! สำหรับรูทเชียงใหม่-พัทยา(อู่ตะเภา) เจอครั้งแรกถึงกับช็อคเพราะราคาถูกเวอร์มาก ถูกกว่ารถทัวร์ด้วยซ้ำ ส่วนเส้นทางอื่นๆก็ยังอยู่ในหลักร้อย ราคาโปรแบบนี้ใครที่มีแพลนจะบินข้ามภูมิภาคอยู่แล้วกรุณาโปรดกดจองรัวๆ
ช่วงที่ผมจะทำการจองตั๋วเกิดปัญหาในการจองผ่านทั้งบนเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นเพราะไม่สามารถเข้าไปสู่ขั้นตอนการชำระเงินได้ เมื่อโทรหา Call Center เพื่อจะทำการจองผ่านโทรศัพท์ก็โทรไม่สักทีเลยตัดสินใจส่ง Inbox Message ไปบอกคุณสมพงษ์ สุขสงวน ซึ่งเป็น CEO ของสายการบินว่าผมมีปัญหาในการจองตั๋ว ทางคุณสมพงษ์เลยขอเบอร์โทรติดต่อกลับและหลังจากนั้นไม่นานก็มีสายโทรเข้ามาจาก Call Center ของสายการบินเพื่อช่วยเหลือในการจอง นับว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผมรู้สึกประทับใจมากๆกับการใส่ใจในการให้บริการถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ผู้โดยสารธรรมดาๆคนหนึ่งก็ตาม ขอขอบคุณ คุณสมพงษ์มา ณ ที่นี่อีกครั้งด้วยครับ
เริ่มต้นการเดินทางที่อาคารผู้โดยสารในประเทศ สนามบินเชียงใหม่ บรรยากาศตอนบ่ายๆค่อนข้างคึกคักเลยทีเดียว โดยก่อนเข้ามาด้านในอาคารจะต้องผ่านการสแกนสัมภาระก่อนเหมือนหลายๆสนามบินในบ้านเรา
ปัจจุบันเคาน์เตอร์ Check-in ของสายการบินการแอร์เปิดให้บริการ 2 เคาน์เตอร์นะครับ สามารถมาเช็คอินได้ 2 ชม. ก่อนเวลาเดินทาง และปิด 45 นาที ก่อนเวลาเดินทางสำหรับเส้นทางบินในประเทศ และอย่างที่ทราบกันว่ากานต์แอร์ คือ สายการบิน Full Service จึงไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักสัมภาระ เพราะสามารถโหลดสัมภาระได้ฟรี 15 kg (สำหรับตั๋วประเภท Kan Promo, Kan Saver ส่วนตั๋วประเภท Kan Flexi โหลดได้ 20 kg พร้อมเปลี่ยนเที่ยวบินฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) และถือ Carry on ขึ้นเครื่องได้อีก 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 7 kg
ในส่วนของที่นั่งก็เลือกได้ฟรีเช่นกันสำหรับตั๋วทุกประเภท โดยสามารถแจ้งกับพนักงานที่เคาน์เตอร์เช็คอินได้เลยว่าต้องการนั่งตรงไหน (ที่นั่งแถวที่ 1 หน้าสุดจะกว้างกว่าแถวอื่นๆเล็กน้อย)
ผมมาเช็คอินประมาณบ่ายสองโมงกว่าๆ มาถึงสนามบินค่อนข้างเร็วเนื่องจากต้องคืนรถเช่า มาถึงที่เคาน์เตอร์ก็มีคนมาต่อแถวรออยู่แล้วค่อนข้างเยอะทีเดียว ยืนรอประมาณ 20 นาที กว่าจะได้เช็คอินเนื่องจากมีปัญหาอะไรสักอย่างกับผู้โดยสารกลุ่มที่อยู่ข้างหน้า ระหว่างยืนรอก็ได้พูดคุยกับผู้โดยสารคนอื่นเลยทราบว่าส่วนใหญ่กำลังจะบินไฟล์ทไปแม่ฮ่องสอนที่ออกเวลาใกล้ๆกัน และไปอู่ตะเภาเช่นเดียวกันกับผมด้วย
ในส่วนของพนักงานภาคพื้นที่เคาน์เตอร์เช็คอินน่ารักและสุภาพมากครับ ผมรีเควสที่นั่งริมหน้าต่างฝั่งซ้าย ได้ที่นั่ง 9A พร้อมกับ Boarding Pass หน้าตาเรียบง่าย วันนี้ได้เช็คอินเป็นลำดับที่ 11 (นี่ขนาดมาถึงสนามบินเร็วแล้วนะ ยังมีคนที่มาเร็วกว่าผมอีก)
เช็คอินเสร็จเรียบร้อยก็ขอแวะไปส่องอาคารระหว่างประเทศสักหน่อย ดูเงียบเหงาพอสมควรเพราะมีแค่ไฟล์ทของ China Eastern บินไปคุนหมิงตอนบ่ายสี่โมงครึ่ง ส่วนมากไฟล์ทอินเตอร์ของสนามบินเชียงใหม่จะบินช่วงเย็นๆไปจนถึงดึก
[CR] รีวิวบินข้ามภูมิภาค เชียงใหม่-พัทยา(อู่ตะเภา) กับสายการบินกานต์แอร์
สวัสดีครับ
เนื่องด้วยวันหยุดยาวต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาผมได้หนีความร้อนระอุของเมืองกรุงไปขึ้นดอยหาความเงียบสงบที่เชียงใหม่ ทริปนี้ไม่มีอะไรมากเพราะเน้นเข้าป่าอย่างเดียว ตลอด 3 วัน 2 คืน ผมเช่ารถขับไปเที่ยวดอยม่อนแจ่ม ดอยสุเทพ ดอยปุย และไปนอนโฮมสเตย์บนดอยที่แม่กำปอง ดูดซับธรรมชาติเข้าร่างกายจนเต็มอิ่ม ไว้มีโอกาสจะมารีวิวให้ชมแน่นอนครับ
ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันดีงามที่ผมรอคอยมานานที่จะได้ใช้บริการ สายการบินกานต์แอร์ (Kan Air) สายการบินที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างในโลกออนไลน์ถึงความโดดเด่นในเรื่องการให้การบริการและความเป็นกันเองของลูกเรือ แน่นอนครับว่าสายการบินนี้ไม่ธรรมดาเพราะมีฮับอยู่ที่เชียงใหม่บินไปยังจุดหมายปลายทางในภาคเหนือและบินข้ามภูมิภาคไปยังหัวเมืองใหญ่ๆ หมายความว่าถ้าอยากจะใช้บริการจะต้องขึ้นเครื่อง/นั่งเครื่องมาลงที่เชียงใหม่เท่านั้น เพราะตอนนี้ไม่มีรูทที่บินออกจากกรุงเทพฯนั่นเอง (แต่ในอดีตเคยมีรูทออกจากกรุงเทพฯเส้นทาง ดอนเมือง-แม่สอด และดอนเมือง-พัทยา)
เจ้าเงือกน้อย ATR72-50 ทะเบียน HS-KAD (เครดิตรูปภาพจาก www.planespotters.net)
เกริ่นอีกสักเล็กน้อยสำหรับ กานต์แอร์ เป็นสายการบินสัญชาติไทยขนาดเล็กที่ให้บริการเส้นทางบินในประเทศเป็นหลักโดยมีฮับอยู่ที่สนามบินเชียงใหม่ เริ่มให้บริการด้วยเครื่องบินแบบ Cessna Grand Caravan ขนาด 12 ที่นั่ง ตั้งแต่ปี 2554 จากเชียงใหม่สู่แม่ฮ่องสอน ปาย น่าน เชียงราย พิษณุโลก และจากเชียงใหม่ข้ามภูมิภาคไปยังขอนแก่น อุบลราชธานี หัวหิน และพัทยา (อู่ตะเภา) โดยใช้เครื่องบินแบบ ATR72-500 ขนาด 66 ที่นั่งให้บริการ โดยเส้นทางบินข้ามภูมิภาคจะใช้เวลาบินประมาณ 2 ชม.
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของกานต์แอร์ คือ เป็นสายการบิน Full Service Airline ที่ให้บริการเต็มรูปแบบ โดยสามารถโหลดกระเป๋าได้ฟรี เลือกที่นั่งฟรี มีอาหารร้อนและเครื่องดื่มเสริฟแบบจัดเต็มบนเที่ยวบิน และนอกจากนี้ยังมีบริการขนส่งนมแม่และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ฟรีอีกด้วย เรียกได้ว่าถึงแม้จะเป็นสายการบินเล็กๆแต่การบริการจัดหนักจัดเต็มไม่แพ้สายการบินใหญ่ๆเลยทีเดียว
สำหรับเที่ยวบินขากลับในวันนี้ผมเลยตัดสินใจบินอ้อมโลกจากเชียงใหม่ไปลงที่อู่ตะเภา นั่งรถมาลงที่พัทยาแล้วค่อยหารถกลับกรุงเทพฯอีกที (ชีวิตแลดูวุ่นวายมาก) เพราะอยากลองใช้บริการสายการบินนี้บวกกับผมเองไม่เคยนั่งเครื่องบินใบพัดมาก่อนเลย ยิ่งทำให้มีความอยากทวีเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ปล. ครั้งออกค่าโดยสารเองนะฮะ ไม่มีหน้าม้าแต่อย่างใด
สำหรับรูท เชียงใหม่-อู่ตะเภา-เชียงใหม่ กานต์แอร์กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา ในราคาโปรโมชั่นเปิดตัว 990 บาท บินตรงทุกวันจันทร์ พฤหัสบดี และเสาร์ โดยมีตารางบินดังนี้
เชียงใหม่ - พัทยา(อู่ตะเภา) K8 8527
17.00-19.00 น.
พัทยา(อู่ตะเภา) - เชียงใหม่ K8 8528
19.30-21.30
ช่องทางการจองตั๋วกานต์แอร์ในตอนนี้ มี 4 ช่องทางหลักๆ ได้แก่
1. จองผ่านเคาน์เตอร์จำหน่ายบัตรโดยสารที่สนามบิน
2. จองผ่าน Call Center ที่เบอร์ 02-551-6111 (เวลา 08.00-20.00 น.)
3. จองผ่าน Kan Air Application บนสมาร์ทโฟน โดยสามารถจองเที่ยวบินพร้อมชำระค่าโดยสารผ่านบัตรเครดิตได้เลยครับ
4. จองผ่านเว็บไซต์ http://www.kanairlines.com
ค่าโดยสารของกานต์แอร์จะมีอยู่ 3 ระดับ คือ
Kan Promo, Kan Saver สามารถโหลดกระเป๋าได้ฟรี 15 kg เลือกที่นั่งฟรี และมีค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนเที่ยวบิน
Kan Flexi สามารถโหลดกระเป๋าได้ฟรีถึง 20 kg เลือกที่นั่งฟรี เปลี่ยนเที่ยวบินฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ตอนนี้กำลังมีโปรโมชั่นอยู่ด้วยครับ ราคารวมทุกอย่างแล้วเริ่มต้นเพียง 390 บาทเท่านั้น!! สำหรับรูทเชียงใหม่-พัทยา(อู่ตะเภา) เจอครั้งแรกถึงกับช็อคเพราะราคาถูกเวอร์มาก ถูกกว่ารถทัวร์ด้วยซ้ำ ส่วนเส้นทางอื่นๆก็ยังอยู่ในหลักร้อย ราคาโปรแบบนี้ใครที่มีแพลนจะบินข้ามภูมิภาคอยู่แล้วกรุณาโปรดกดจองรัวๆ
ช่วงที่ผมจะทำการจองตั๋วเกิดปัญหาในการจองผ่านทั้งบนเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นเพราะไม่สามารถเข้าไปสู่ขั้นตอนการชำระเงินได้ เมื่อโทรหา Call Center เพื่อจะทำการจองผ่านโทรศัพท์ก็โทรไม่สักทีเลยตัดสินใจส่ง Inbox Message ไปบอกคุณสมพงษ์ สุขสงวน ซึ่งเป็น CEO ของสายการบินว่าผมมีปัญหาในการจองตั๋ว ทางคุณสมพงษ์เลยขอเบอร์โทรติดต่อกลับและหลังจากนั้นไม่นานก็มีสายโทรเข้ามาจาก Call Center ของสายการบินเพื่อช่วยเหลือในการจอง นับว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผมรู้สึกประทับใจมากๆกับการใส่ใจในการให้บริการถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ผู้โดยสารธรรมดาๆคนหนึ่งก็ตาม ขอขอบคุณ คุณสมพงษ์มา ณ ที่นี่อีกครั้งด้วยครับ
เริ่มต้นการเดินทางที่อาคารผู้โดยสารในประเทศ สนามบินเชียงใหม่ บรรยากาศตอนบ่ายๆค่อนข้างคึกคักเลยทีเดียว โดยก่อนเข้ามาด้านในอาคารจะต้องผ่านการสแกนสัมภาระก่อนเหมือนหลายๆสนามบินในบ้านเรา
ปัจจุบันเคาน์เตอร์ Check-in ของสายการบินการแอร์เปิดให้บริการ 2 เคาน์เตอร์นะครับ สามารถมาเช็คอินได้ 2 ชม. ก่อนเวลาเดินทาง และปิด 45 นาที ก่อนเวลาเดินทางสำหรับเส้นทางบินในประเทศ และอย่างที่ทราบกันว่ากานต์แอร์ คือ สายการบิน Full Service จึงไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักสัมภาระ เพราะสามารถโหลดสัมภาระได้ฟรี 15 kg (สำหรับตั๋วประเภท Kan Promo, Kan Saver ส่วนตั๋วประเภท Kan Flexi โหลดได้ 20 kg พร้อมเปลี่ยนเที่ยวบินฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) และถือ Carry on ขึ้นเครื่องได้อีก 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 7 kg
ในส่วนของที่นั่งก็เลือกได้ฟรีเช่นกันสำหรับตั๋วทุกประเภท โดยสามารถแจ้งกับพนักงานที่เคาน์เตอร์เช็คอินได้เลยว่าต้องการนั่งตรงไหน (ที่นั่งแถวที่ 1 หน้าสุดจะกว้างกว่าแถวอื่นๆเล็กน้อย)
ผมมาเช็คอินประมาณบ่ายสองโมงกว่าๆ มาถึงสนามบินค่อนข้างเร็วเนื่องจากต้องคืนรถเช่า มาถึงที่เคาน์เตอร์ก็มีคนมาต่อแถวรออยู่แล้วค่อนข้างเยอะทีเดียว ยืนรอประมาณ 20 นาที กว่าจะได้เช็คอินเนื่องจากมีปัญหาอะไรสักอย่างกับผู้โดยสารกลุ่มที่อยู่ข้างหน้า ระหว่างยืนรอก็ได้พูดคุยกับผู้โดยสารคนอื่นเลยทราบว่าส่วนใหญ่กำลังจะบินไฟล์ทไปแม่ฮ่องสอนที่ออกเวลาใกล้ๆกัน และไปอู่ตะเภาเช่นเดียวกันกับผมด้วย
ในส่วนของพนักงานภาคพื้นที่เคาน์เตอร์เช็คอินน่ารักและสุภาพมากครับ ผมรีเควสที่นั่งริมหน้าต่างฝั่งซ้าย ได้ที่นั่ง 9A พร้อมกับ Boarding Pass หน้าตาเรียบง่าย วันนี้ได้เช็คอินเป็นลำดับที่ 11 (นี่ขนาดมาถึงสนามบินเร็วแล้วนะ ยังมีคนที่มาเร็วกว่าผมอีก)
เช็คอินเสร็จเรียบร้อยก็ขอแวะไปส่องอาคารระหว่างประเทศสักหน่อย ดูเงียบเหงาพอสมควรเพราะมีแค่ไฟล์ทของ China Eastern บินไปคุนหมิงตอนบ่ายสี่โมงครึ่ง ส่วนมากไฟล์ทอินเตอร์ของสนามบินเชียงใหม่จะบินช่วงเย็นๆไปจนถึงดึก
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น